Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มโนเองล้วนๆ นัตสึเมะกับบันทึกพิศวง เล่ม19ตอนที่77

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
       สวัสดีค่ะ วันนี้ จขกท.จะพามาพูดคุยกันถึงนัตสึเมะเล่ม19ตอนที่77กันนะคะ บ้างคนเข้ามาอ่านคงจะมีบ้างที่คิดว่า 'ตอนนี้นัตสึออกถึงเล่ม22แล้ว ทำไมถึงพึงจะมาพูดถึงเล่ม19ล่ะ?' คำตอบคือตอนนั้นเรายังไม่สมัคพันทิปค่ะ555 แถมยังลืมเรื่องที่อยากจะพูดไปสนิทเลย! พอดีได้ไปค้นหนังสือในตู้เลยนึกขึ้นมาได้ก็เลยอยากจะเอาความรู้สึกอัดอั้นตันใจที่เก็บไว้มานานมาตีแผ่สู่กันฟัง เผื่อใครที่ลืมเนื้อเรื่องตอนที่77ไปแล้วเดี๋ยวจะขอเล่าย่อๆนะคะ คำเตือน : ในสิ่งที่จะพูดต่อจากนี้เป็นความมโนและคิดไปเองของเราล้วนๆ บ้างที่ผู้แต่งอาจจะไม่ได้สื่อความหมายในแบบที่เราคิดก็ได้ // แต่ในเมื่อเจ๊แกเปิดช่องทางมาให้หนูก็จะรับน้ำใจนั้นมาใช้หาความสุขให้เต็มที่ค่ะ อ่านเอาสนุกๆอย่าติกันนะคะ (>^ω^<) // ที่จริงเคยไปตั้งกระทู้ในพันทิปนะแต่ไม่มีใครมาเล่นกับเราอ่ะ T^T หวังว่าครั้งนี้จะมีคนมาเล่นกับเราบ้างนะ

       ในตอนนี้เป็นตอนที่นัตสึเมะได้มาที่คฤหาสน์ฮาโกซากิอีกครั้ง (มาครั้งแรกนัตสึเมะมากับนาโทริแล้วได้เล่าเรื่องของบันทึกแห่งเพื่อนให้เขาฟัง แล้วเฮียแกก็บอกว่าให้เผามันทิ้งนั้นแหละ) แล้วได้เจอกับท่านมาโตบะ(ที่รัก) ที่ยืนกางร่มในวันฟ้าใสอยู่เพียงลำพัง ท่านมาโตบะมาตามหาภูตผีที่ตระกูลมาโตบะสร้างขึ้นแล้วเกิดผิดพลาดจนควบคุมไม่อยู่ทำให้มันหนีไป พอเจอกับนัตจังเลยขอให้ช่วย(แกมบังคับตามสูตรของท่านเจ้าบ้านนั้นแหละ) ระหว่างที่หาก็ได้พบกับภูตผีอีกตนซึ่งเป็นภูตผีที่จ้องจะชิงตาขวาของมาโตบะ แต่สุดท้ายก็ไล่ไปได้สำเร็จ

       ส่วนเรื่องที่เราอยากจะพูดน่ะมันเริ่มจากตรงนี้
       ตรงนี้เหมือนจะเป็นการปูทางเล็กๆน้อยๆมาสู่จุดคลายแม็ชที่เราสนใจ สังเกตประโยคพูดของท่านเจ้าบ้านในช่องแรก "นั้นสินะเพราะมันเป็นตัวที่คาดเดาพฤติกรรมไม่ได้ บางทีก็ตกลงมาใส่ บางทีก็กระโจนลงมาจากด้านข้าง แล้วบางทีก็........" ท่านมาโตบะเงียบไปแล้วก็มองนัตจังนิ่งๆจนนัตจังของเราอารมณ์เสีย ในตรงนี้ทำให้คิดไปได้ว่าเจ้าภูตผีที่หมายในตาขวาของท่านมาโตบะอาจจะทำอะไรที่เคยเกี่ยวกับนัตจังก็ได้


       
จริงๆนะเฮ้ย! ดูยังไงภาพมันก็สื่อออกมาในความหมายแบบนี้ชัดๆอ่ะ เวลาเราอ่านนัตสึเมะเราจะอ่านตั้งแต่แผ่นแรกยันแผ่นสุดท้าย โดยเฉพาะตรงปัจฉิมลิขิต ทำให้รู้ว่าเวลาที่ผู้แต่งเขียนเรื่องออกมาเขารู้สึกยังไงและต้องการจะสื่ออะไร จะรู้ได้เลยว่าความคิดของผู้แต่งนั้นแสนจะใสซื่อบริสุทธิ์ไม่ต่างจากนัตจังของเราเลยสักนิด แต่เนื้อเรื่องที่ออกมามันก็ยังดูกำกวมชวนให้คิดจริงๆนะ

       และมาดูอันต่อมา ตรงนี้และจุดหลักที่ทำให้เรานอนคิดแล้วคิดอีก คิดยังไงก็ยังได้คำตอบแบบเดิมๆ
       สังเกตประโยคพูดในช่องที่สองของท่านมาโตบะ "มันจะแปลงเป็นคนที่เป็นที่รัก หรือคนรู้จักของฉันไม่ก็คนที่สำนักของฉัน"  ในประโยคนี้ท่านมาโตบะแบ่งบุคคลออกอย่างชัดเจน คนรู้จัก คนในสำนัก และที่สำคัญ... คนที่เป็นที่รักค่ะ! ไม่อยากจะพูดหรอกแต่คนอย่างท่านมาโตบะจะมีคนที่รักด้วยหรอ? เอาแค่พ่อกับแม่เรายังคิดภาพที่มาโตะบะรักพวกเขาอย่างที่ลูกรักพ่อแม่ทั่วๆไปไม่ออกเลย...  พอนัตสึเมะทำท่าทางตกใจท่านมาโตะบะก็หันมายิ้มให้และบอกว่า  "แต่แป๊บเดียวก็รู้แล้วล่ะ" ลองเอาตรงนี้ไปโยงกับภาพแรกดูสิ คำสุดท้ายที่มาโตะบะพูดแล้วก็หยุดไปน่ะ “แล้วบางทีก็......” ไม่ว่าจะเป็นภาพแรกหรือภาพที่สองตอนที่พูดมาโตะบะมักจะหันมามองที่นัตสึเมะเสมอ แบบนี้จะไม่ให้คิดได้ยังไงล่ะคะ เรานี่โยงไปใส่กับคำว่า ‘คนที่เป็นที่รัก’ ทันทีทันใดเลยล่ะคะ แค่นี้ก็กรี๊ดสลบไปหลายรอบแล้วคะ! 


       
และตรงสุดท้าย
       ครั้งนี้เรามาดูทางด้านนัตสึเมะของเรากันบ้าง ตรงนี้จะเป็นความรู้สึกของนัตสึเมะ "พอนึกถึงความสลับซับซ้อนของสำนักมาโตบะแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาก็จริง แต่ความสัมพันธ์ที่ใช้ประโยชน์จากภูตที่ตนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคืออะไรทั้งที่ชิงชังสุดหัวใจ ใจมันก็รู้สึกปั่นป่วนเหลือเกิน" ในตรงส่วนที่บอกว่า “ทั้งที่ชิงชังสุดหัวใจ” เราคิดแล้วคิดอีกก็ไม่มั่นใจว่าที่บอกว่า “ชิงชัง” นั้น หมายถึงมาโตบะชิงชังภูตผี หรือเป็นนัตสึเมะที่ชิงชังมาโตบะกันแน่  แต่แล้วไงใครแคร์.... ปูทางมาขนาดนี้ก็มโนมันให้สุดๆกันไปเลยสิคะ กลัวไรล่ะ จริงป่ะ! ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็มาดูกันสิคะ ทั้งสงสาร ทั้งชิงชัง แล้วไหนจะตรงที่บอกว่าหัวใจรู้สึกปั่นป่วนนั้นอีก ทั้งความสงสารและความปั่นป่วนเรามั่นใจเลยว่าตรงนี้มันคือความรู้สึกของนัตสึเมะแน่ๆ โฮะโฮะ แค่นี้ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วล่ะคะ55555

       จะทานุมะก็ดีหรือหรือนาโทริซังก็ดี มันก็ยังดูละมุนๆไม่อาจแต่งแต้มสีในหัวใจได้เท่ากับท่านมาโตบะอ่ะ ถึงนัตสึเมะกับมาโตบะจะเจอกันไม่เยอะ แต่มันก็เหมือนมีเส้นใยที่ผู้ทั้งสองไว้อย่างเหนียวแน่นชนิดที่ไม่มีวันตัดขาดอ่ะ หากนาโทริกับทานุมะคือสายใยบางๆ ท่านมาโตบะก็คือโซ่ล่ามเส้นใหญ่ ความรู้สึกที่นัตสึเมะมีให้กับมาโตบะมันค่อนข้างจะหลากหลายและซับซ้อนกว่าของคนอื่นๆมากเลย แถมเรายังไม่ค่อยได้รู้เรื่องราวของท่านเจ้าบ้านอีก ขนาดนาโตริยังพอจะรู้ไปแล้วไม่มากก็น้อย
       ปล. เล่นที่22 มีตอนพิเศษสั้นๆของท่านเจ้าบ้านกับนัตจังด้วยล่ะ สองต่อสอง(+1ตัว)กลางสถานีร้างในวันฝนตก เข้าผล็อตของไทยแบบกระท่อมร้างกับสายฝนเลยเนอะ อิอิ  ปล.2 เปิดมาเจอท่านเจ้าบ้านใส่ชุดสูทโคตรเท่อ่ะ! กรี๊ดลั้นบ้านเลยล่ะคะ
วันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้นะคะ ใครมีความคิดเห็นแบบไหนก็แชร์กันด้วยล่ะ เราหาเพื่อนคุยเรื่องนี้ยากเหลือเกิน  

 

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

Zahciztun 4 มิ.ย. 61 เวลา 21:26 น. 2

ตรงประโยค 'แปลงเป็นคนที่เป็นที่รัก' อันนี้ส่วนตัวให้ความรู้สึกที่หมายถึงคนในอดีตอันห่างไกลชวนน่าคิดถึงสำหรับมาโตบะ ในเชิงน่าเคารพนับถือ ส่วนนาโทริกับนัตซึเมะให้ความรู้สึกชวนฟินได้อยู่ - .. - แต่ที่น่าสนใจสุดๆ คือชายลึกลับหน้าตาเหมือนนัตซึเมะและท่านยายเรโกะ


...ตอนพิเศษที่นัตซึเมะเจอกับมาโตบะที่สถานีร้างตรงนี้มีแวบนึงที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกเหมือนไม่ใช่มาโตบะตอนคุยเรื่องเจ้าหนึ่งหัว อารมณ์เดียวกับนัตซึเมะที่คิดแบบเดียวกัน 555 มาโตบะคิดว่าที่จริงแล้วก็ห่วงลูกน้อง แต่พูดออกไปตรงๆ ต่อหน้านัตซึเมะมันก็ออกจะไม่คูล แต่การกระทำมันฟ้อง (อย่างสมัยวัยรุ่นที่เคยช่วยนาโทริ ที่จริงชอบช่วงสมัยเล่าเรื่องยังเป็นนักเรียนของทั้งสอง)

0