กว่าจะหาสไตล์ของตัวเองเจอนี่นานไหม?
ตั้งกระทู้ใหม่
นานไหม? อยากรู้
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
29 ความคิดเห็น
ของเราไม่นานค่ะ พอนึกจะเขียนก็ลองเขียนดู ครั้งแรกเขียนแนวรักวัยรุ่นแบบนิยายแจ่มใฝ(?) แต่เขียนแล้วก็ลบ ไม่สำเร็จสักที เลยลองแนวแฟนตาซี ก็ลบเหมือนกัน อ่าว 5555555
ก็เขียนๆ ลบๆ มาสักพัก เริ่มคิดว่าถนัดแนวแฟนตาซีมากกว่า เลยเบนมาทางนี้ ประมาณปีสองปีก็เขียนได้เป็นรูปเป็นร่างและรู้ว่าเราถนัดแนวแฟนตาซีที่สุด
ส่วนเรื่องสไตล์การเขียน/สำนวนนั้น เราอาศัยการที่เราอ่านจากนักอ่านหลายท่าน หลายแนว คลุกไปคลุกมา ติดสำนวนของนักเขียนบางท่านมาบ้าง เอามาเกลาๆ ปรับๆ ให้ตัวเองพอใจ ก็กลายเป็นสำนวนภาษาของตัวเองในที่สุดค่ะ
ประมาณเรื่องที่ 3 ได้ล่ะมั้ง
เรื่องแรกลองแต่งเอาขำๆ ออกแนวไดอะล็อก
เรื่องที่สองลองวางระบบให้เป็นที่เป็นทางขึ้น
เรื่องที่สามเริ่มเน้นบรรยายเก็บรายละเอียด จุดนี้ที่น่าจะเรียกว่าเจอแนวการเขียนกับสไตล์ที่คุ้นมือล่ะ
แต่เอาจริงๆกว่าจะเข้ารูปเข่ารอยที่พอใจก็น่าจะเรื่องที่ห้าเลย
ถ้าถามว่านานแค่ไหน... สมัยแรกๆก็ไม่ได้แต่งต่อเนื่องอะไรน่ะนะ
ก็เจอแนวทางได้ก็ผ่านไป 3 ปีครับ
แต่ถ้าพอใจในเรื่องที่ 5 เลย ก็ 4 ปี
ไม่นานนะคะ ถึงเวลามันก็มาเอง 5555555
นิยายเนี่ยพอรับมามากๆสไตล์มันจะติดอยู่ในตัวเราเอง เราก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาตินะ เด็กๆก็เคยพยายามปั้นแต่งให้ดูเท่ดูดีมีสไตล์เหมือนกัน ซึ่งงานออกมาประดิษฐ์มาก กลายเป็นงานที่ดูอึดอัดเพราะพยายามเกินทั้งๆที่มันไม่ใช่
พอโตขึ้นมาหน่อยเราก็ปล่อยให้สำนวนใหลไปเอง ให้เป็นธรรมชาติเท่านั้นก็พอ
ไม่นานค่ะ เขียนมาร่วมสิบปีแล้วก็ยังมีความเหมือนเดิม
บางทีอยากลองเปลี่ยนสไตล์ดูบ้างนะ แต่ทำยังไงมันก็เหมือนเดิม...เป็นคนเดียวกันแต่งนี่นะ ฮ่าๆ
พอเริ่มต้นก็รู้แนวตัวเองเลยค่ะ แต่ก็อยากลองอะไรที่แตกต่างเหมือนกันเพราะอ่านนิยายทุกแนว
ตอนเริ่มเขียนแรกๆ ไม่รู้เลยครับว่าตัวเองแนวไหน มาสังเกตเอาเมื่อเขียนไปหลายเรื่อง ว่าเขียนออกมาแบบเดิมทุกที ^^"
รู้สึกว่าตัวเองเริ่มแกว่งน้อยลง เริ่มคงเส้นคงวาขึ้น ก็ประมาณปีที่สามครับ ช่วงแรกๆ ลักษณะการเขียนเหมือนเดิมนะ แต่เหมือนกับยังไม่คุ้น ยังใช้ภาษาไม่คล่อง ยังจับจังหวะการเล่าไม่เป็น ยังลองๆ อยู่ พอผ่านไปสองปี มันก็เริ่มชินๆ ไม่ถึงกับอยู่ตัว แต่ก็ถนัดมือมากขึ้น
ถ้าเอาแบบถือว่าค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว ก็ประมาณห้าปีเต็มครับ
แต่งไปราวๆ 2000 หน้า โน้นแหละครับ กว่าจะเจอสไตล์ของตัวเอง
แถมเป็นสไตล์ที่ตัวเองไม่ได้คิดฝันไว้ก่อนด้วย
เขียนไปเรื่อยๆ แล้วจู่ๆ มันก็มาเอง
สไตล์ของตัวเอง?
ขอเปรียบเป็นการทำกะเพราไก่ไข่ดาว
คนทำบางคนชอบรสเฉพาะของเขา แต่กินได้คนเดียว ก็ต้องกินคนเดียว
คนทำบางคน เอาสูตรเขามา หน้าด้าน บอกว่าคิดเองก็มี
คนทำบางคน ทำตามใจคนกิน เผ็ดมากไหมจ้ะ? ไข่สุกไม่สุก?
คนทำบางคนใส่ข้าวโพดอ่อนในผัดกะเพรา บางคนชอบ บางคนด่า
คนบางคนกินอย่างเดียว ทำไม่เป็น แต่บ่นจังก็เยอะแยะ
ผัดกระเพราที่เราทำแล้วถนัดคือสไตล์เรามั้งครับ ก็หัดไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็รู้ ...หรือจะไม่มีวันรู้ก็คงน่าเสียดายครับ แต่ผมนะ...
รู้ละ เที่ยงนี้กินอะไรดี แหม่!
แหม่ หิวเลยค่ะ![ว๊าว](//www0.dek-d.com/assets/board/images/sticker/big_stickers/jj-002.gif)
ได้ทั้งข้อคิดแล้วก็ยังได้เมนูอาหารกลางวันอีก
แล้วแต่คนรึเปล่าครับ แต่ส่วนใหญ่ก็มาจากความชอบนะผมว่า ถ้าเรื่องไหนที่จะทำให้เราแต่งได้ดีและนาน ก็ต้องเกิดจากความชอบ ถ้าเราแต่งได้ดีแต่ไม่ชอบเราคงทำได้ไม่นานหรอกครับ
มันขึ้นอยู่กับบุคคลมากกว่าครับ
ช่วงเวลาที่จะหาสไตล์การชอบที่ดีสุดคือ ช่วงวัยเด็กตอนปลาย เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นครับผม
เพระาถ้าเราชอบอะไรตอนเด็กๆถึงตอนวัยรุ่น มันจะกลายเป็นสไตล์ของตัวเองไปเลยครับ
เขียนเรื่อยๆ มาจะสองปีแล้วยังไม่เจอเลยแฮะ =w=
สำหรับเราไม่นานค่ะ แต่เราเป็นคนที่ชอบหลายแนวมากค่ะ แต่ชอบสุดคืองานเขียนเกี่ยวกับแฟนตาซี
ลองเขียนมาหลายแนวแล้วเหมือนกัน แต่ไม่ยักจะจบสักกะที555 แต่เราก็ไม่ได้เลิกเขียนไปนะคะ แค่เก็บเอาไว้ก่อน พอถึงเวลาอยากเขียนก็ปัดผฝุ่นแล้วเอามาเขียนต่อ หลายเรื่องอยู่เหมือนกันค่ะที่ยังดองไว้
ตอนนี้เราก็กำลังเขียนเรื่องหนึ่งอยู่ นึกออกตอนที่ดูซีรีย์เกาหลีนี่แหละค่ะ เป็นแนงรักหวานแหวว แนวนี้เราก็ชอบนะค่ะ เพราะเราอ่านแนวนี้ของนักเรียนที่ชอบมากเยอะเหมือนกัน
ลองเขียนไปเรื่อยๆค่ะ เดี๋ยวก็เจอสไตล์ที่ใช่เอง
ของเราเรื่องแรกๆเลย หาเจอหลังจากตันเลยลองเขียนแนวดราม่าพอเขียนๆไปก็ดีกว่าแบบก่อนเยอะเลย แล้วพอเขียนแนวนี้บ่อยๆก็ชินจนเปลี่ยนแบบไม่ได้เลย แต่เอาจริงๆคือไม่ชอบอ่านดราม่า แต่ถนัดเขียนดราม่าเฉยเลยไม่รู้ทำไมเหมือนกัน สำหรับคนที่ยังหาไม่เจอนะคะก็ลองจินตการว่าพล็อตเรื่องแบบไหนที่เราชอบที่สุดถ้ายังหาไม่ได้ก็ไม่ต้องไปรีบร้องค่อยๆหา อย่ารีบเลย![แบร่](//www0.dek-d.com/assets/board/images/sticker/big_stickers/dd-011.gif)
แล้วแต่คนค่ะ บางคนแต่งอยู่แนวนึงเป็นปีแล้วไม่ใช่ ไม่โดน เปลี่ยนแนวใหม่ แต่สำหรับเรา รวดเร็วทันใจยิ่งกว่าเงินติดล้อ(?) อยู่ยืนอยู่นานเป็นสีทนได้(?) เพราะว่าอ่านมาเยอะค่ะ หนังสือในบ้านส่วนใหญ่เป็นแฟนตาซี(ทั้งหมดเลยดีกว่า) ก็เลยแต่งแฟนตาซีแล้วรู้สึกว่า เออ สนุก อยากแต่งต่อ ค่ะ ประมาณนี้
5ปีครับ
จริง ๆ เพราะเพิ่งได้มีโอกาสอ่านงานที่ตรงแนวตนเอง เลยรู้ว่านี่แหละใช่
เรา 4 ปีได้ ความจริงเราแค่ลองแต่งมันเยอะ ลองคิดเนื้อเรื่อง พล็อต ที่เรามีไอเดียแล้วลองเขียน ของเราเขียนไปเขียนมาเข้าโหมดมาม่าไม่ก็ฉากอย่างว่าตลอด เลยรู้ทันทีว่าชอบแต่งสไตล์ไหนแต่มันก็แล้วแต่คน ถ้าชอบหรือถนัดเราก็จะทำมันดีเองค่ะ![เชียร์ลีดเดอร์](//www0.dek-d.com/assets/board/images/sticker/big_stickers/jj-013.gif)
ขึ้นอยู่กับตัวไรท์เตอร์แต่ละครับ อันที่จริงเราไม่ต้องหาสไตล์หรือวิธีการเขียนอะไรหรอก เขียนๆไปเหอะ ออกมาดีไม่ดีก็ไม่เกี่ยง การเขียนนิยายมันไม่มีขอบเขตอยู่แล้วครับ จินตนาการ จะช่วยคุณเองครับ ขนาดผมไม่ใช่คนไทยยังแต่งและอัพลงให้ทุกคนอ่านเลย เพราะงั้น สไตล์อะไรนั่นนะ คิดว่าตัวเราจะรู้ก็ต่อเมื่อลงมือเขียนไปเรื่อยๆแหละครับ
![สู้สู้](//www0.dek-d.com/assets/board/images/sticker/big_stickers/bb-009.gif)
555+ พูดซะเท่ห์แต่ตัวเองก็ยังอ่อน (หลบทีน จขกท. แปป -///-)
แล้วเริ่มอ่านแนวอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงด้วย
สไตล์ที่ผมเขียนก็เป็นแนวที่เริ่มอ่านคือเรื่อง harry potter , game of thrones
แต่พยายามปรับมาเป็นของตัวเองอะครับ
เราเริ่มเขียนเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เป็นนิยายแฟนตาซีตามความนิยมของเด็กยุคนั้น วัยนั้น
ต่อมาติดนิยายสยองขวัญ ก็เลยหัดเขียนสยองขวัญ และเขียนมาเรื่อยๆ
แต่เมื่อ 5 ปีก่อน ด้วยวัยที่โตขึ้น ก็เลยได้ลองอ่านนิยายรัก
จากนั้นก็เลยศึกษามาเรื่อยๆ ทั้งของนักเขียนชั้นครูและนักเขียนปัจจุบัน
บวกกับเป็นคนที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเป็นทุน
สรุปตอนนี้ จะเรียกว่าสไตล์ได้ไหมก็ไม่แน่ใจนะคะ
มารู้ตัวอีกทีพล็อตในกรุทั้งที่เขียนจบตีพิมพ์แล้ว กำลังเขียน และมีแพลนว่าจะเขียน
ก็เป็นนิยายรัก ที่มีความเกี่ยวข้องกับวิญญาณ ประวัติศาสตร์หรือสถาปัตยกรรมทั้งนั้นเลย
^^
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?