เส้นทาง 9 ปี ที่แสนยาวนานอยากให้กระทู้นี้เป็นกำลังใจสำหรับนักเขียนทุกคนที่มีความฝันและความเพียรพยายามค่ะ
ตั้งกระทู้ใหม่
ขอเอาบทความที่เขียนลงในพันทิปห้องถนนนักเขียนมาลงที่เว็บเด็กดีด้วยนะคะ เพราะนิยาย เรื่องที่ได้รับการตีพิมพ์ เคยลงไว้ทั้งสองที่เลย
วันนี้ขอเข้ามาตั้งเพื่อแชร์ประสบการณ์กับหนทางที่แสนจะยาวนานในการเขียนนิยายซักเรื่อง เราเป็นคนหนึ่ง ที่ใช้เวลาในการแต่งนิยายร่วมกับน้องกับอีกสองคนใช้ระยะเวลาไปทั้งสิ้น 9 ปี ซึ่งก่อนที่จะลงมือแต่งนิยายเรื่องนี้เราก็ไม่เคยคิดว่าจะใช้เวลาแต่งร่วมสิบปีขนาดนี้ ตลอดระยะเวลาเก้าปีที่ผ่านมาถือเป็นบททดสอบที่แสนยาวนนานมากกว่าจะแต่งจบ และวันที่รอคอยก็ได้มาถึงที่นิยายที่ใช้เวลาแต่งถึงเก้าปีก็ได้ตีพิมพ์เป็นความฝันที่เราได้ทำสำเร็จไปอีกขั้น เป็นความฝันที่เฝ้ารอคอยมาตลอด เส้นทางนี้บอกได้เลยว่าทรหดสุดๆ ท้อไม่รู้กี่ครั้ง จนแทบอยากจะเลิกแต่ง ได้รับฟังคำดูหมิ่นดูแคลนหลายครั้งว่ามันไม่มีทางที่จะได้ตีพิมพ์หรอกบางคนก็บอกว่าเรื่องของเรามันยาวเกินไป แถมไม่ใช่แนวตลาดอีก เสียใจนะ ร้องไห้ก็หลายครั้ง ว่าชาตินี้เรื่องมันคงไม่ได้ตีพิมพ์ใช่มั้ย แต่ก็เปลี่ยนเป็นพลังฮึดสู้ว่าจะยอมแพ้ไม่ได้ เพราะเหตุผลเดียวคือเราไม่สามารถทิ้งความฝันทิ้งมิตรภาพที่เราร่วมเดินทางมากว่าค่อนทางแล้ว
วันนี้ขอเข้ามาตั้งเพื่อแชร์ประสบการณ์กับหนทางที่แสนจะยาวนานในการเขียนนิยายซักเรื่อง เราเป็นคนหนึ่ง ที่ใช้เวลาในการแต่งนิยายร่วมกับน้องกับอีกสองคนใช้ระยะเวลาไปทั้งสิ้น 9 ปี ซึ่งก่อนที่จะลงมือแต่งนิยายเรื่องนี้เราก็ไม่เคยคิดว่าจะใช้เวลาแต่งร่วมสิบปีขนาดนี้ ตลอดระยะเวลาเก้าปีที่ผ่านมาถือเป็นบททดสอบที่แสนยาวนนานมากกว่าจะแต่งจบ และวันที่รอคอยก็ได้มาถึงที่นิยายที่ใช้เวลาแต่งถึงเก้าปีก็ได้ตีพิมพ์เป็นความฝันที่เราได้ทำสำเร็จไปอีกขั้น เป็นความฝันที่เฝ้ารอคอยมาตลอด เส้นทางนี้บอกได้เลยว่าทรหดสุดๆ ท้อไม่รู้กี่ครั้ง จนแทบอยากจะเลิกแต่ง ได้รับฟังคำดูหมิ่นดูแคลนหลายครั้งว่ามันไม่มีทางที่จะได้ตีพิมพ์หรอกบางคนก็บอกว่าเรื่องของเรามันยาวเกินไป แถมไม่ใช่แนวตลาดอีก เสียใจนะ ร้องไห้ก็หลายครั้ง ว่าชาตินี้เรื่องมันคงไม่ได้ตีพิมพ์ใช่มั้ย แต่ก็เปลี่ยนเป็นพลังฮึดสู้ว่าจะยอมแพ้ไม่ได้ เพราะเหตุผลเดียวคือเราไม่สามารถทิ้งความฝันทิ้งมิตรภาพที่เราร่วมเดินทางมากว่าค่อนทางแล้ว
เวลาที่แต่งเหมือนกับตัวเองกำลังปีนหน้าผาอันสูงชัน และไถลลื่นลงมาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ต้องใช้มืออีกข้างยึดเกาะแง่งหินไว้ แล้วปีนป่ายปีต่อไป ดีกว่าปล่อยให้ตัวเองร่วงลงไปจนความฝันแหลกเหลว ภาพของคนขุดเพชรมันเป็นเหมือนแรงผลักดันให้กับเราเสมอว่า อีกนิดเดียวถ้าเราหันหลังกลับตอนนี้ทุกอย่างก็จะจบ
เราทิ้งมันไม่ได้และน้องที่แต่งร่วมกันก็ทิ้งมันไม่ได้เช่นเดียวกัน ระยะเวลาเก้าปีเราได้มิตรภาพและได้เรียนรู้อะไรต่างๆ มากมาย แต่สิ่งที่เราเสียใจเพียงเรื่องเดียวคือพ่อของเราเสียชีวิตก่อนที่มันจะได้เห็นมัน ว่าเรื่องที่ลูกสาวเขียนได้ตีพิมพ์แล้วนะ
เราจึงอยากตั้งกระทู้นี้เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ และอยากฟังประสบการณ์จากทุกคนว่ากว่าจะเป็นนักเขียนได้ใช้ความพยายามกันแค่ไหนคะ
หนังสือทุกเล่มนิยายทุกเล่ม ทุกเรื่องในสายตามีค่าทุกเรื่อง เพราะทุกตัวอักษรนั้นเป็นการกลั่นกรองถ่ายทอดจินตนาการผ่านตัวอักษรและสร้างตัวละครขึ้นมาให้คนอ่านได้อินไปกับเรื่องราว ในมุมมองของเรานิยายเรื่องไหนที่ทำให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมโลดแล่นไปกับมัน เราว่าเรื่องนั้นประสบความสำเร็จแล้วล่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้นักเขียน และนักอยากเขียนทุกคนค่ะ ตอนนี้เราได้ทำตามความฝันของเราแล้ว
ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ถนนนักเขียนทุกคนที่เคยผ่านเข้ามาอ่านเรื่องที่เราเคยลงนะคะ
..................................................
ถึงแสนไกล สุดหล้า ขอบฟ้ากั้น
ถึงคืนวัน ผ่านไป ยังใฝ่หา
ถึงอุปสรรค มากมาย หลั่งไหลมา
จะร่วมกัน ฟันผ่า พาฝันไป
แม้ไม่เป็น ดังคิด จิตประสงค์
จะดำรง สานฝัน ไม่หวั่นไหว
ก้าวเดินหน้า แม้ฝัน ยังแสนไกล
ด้วยหัวใจ มุ่งมั่น ไม่ผันแปร...
.............................
ถึงแสนไกล สุดหล้า ขอบฟ้าโพ้น
แสงดาวฝัน อันอ่อนโยน จะแจ่มจ้า
ขอเพียงเธอ ยังคงมั่น ในศรัทธา
วันหนึ่งฟ้า จะเมตตา ฝันที่มี
#-ขอขอบคุณกำลังใจดีๆ จากพี่ศิริวิมล เจ้าของบทประพันธ์เภตรานฤมิต แต่งให้เราสามคนตอนงานทมยันตี อะวอร์ดครั้งที่ 3
เส้นทาง 9 ปี ที่แสนยาวนานอยากให้กระทู้นี้เป็นกำลังใจสำหรับนักเขียนทุกคนที่มีความฝันและความเพียรพยายาม
7 ความคิดเห็น
ยินดีด้วยอีกครั้งนะคะ ^ ^
ขอบคุณค่ะ ^^
ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ
อยากรู้ว่าเขียนกันสามคน แบ่งเขียนกันยังไง แล้วเก้าปีนี่เคยทะเลาะกันมั่งมั้ย
แล้ว
แล้ว
แล้วอยากบอกว่าปกนิยายแจ่มมากค่ะ
แต่
นอกจากมองหน้าแล้ว ทุกท่านมองตรงไหนอีก มองที่เดียวกับเรามั้ย โปรดตอบ
ปกนิยายเรื่องนี้ ศิลปิน Partida ที่วาดเจ้าหญิงดิสนีย์แต่งชุดไทย เป็นคนวาดค่ะ หน้าปกเลยจะดูแตกต่างจาก ธีมเดิมของสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
https://www.facebook.com/partidaBBS/?fref=ts
เวลาแต่ง จะประชุมพล็อตกันก่อนค่ะทางโทรศัพท์ สมัครโปรประชุมสาย เพราะคนนึงอยู่กรุงเทพ คนนึงอยู่ราชบุรี คนนึงอยู่เชียงใหม่ แล้วก็แบ่งบทกันแต่ง แล้วมารีไรท์อีกที ส่วนทะเลาะมีค่ะ เพราะตกลงพล็อตกันไม่ลงตัว แต่ก็มีพี่ที่คอยให้คำปรึกษาและเป็นกรรมการห้ามมวยด้วย 555 เก้าปี กับ 2,000 กว่า word ทั้งๆ ที่จุดเริ่มต้น มันก็แสนง่าย คืออยากแต่งนิยายแฟนตาซีผจญภัยจักรๆวงศ์ๆ มันมาจากความรักในละครพื้นบ้านที่ตรงกัน และก็สร้างมิตรภาพกันมาจนถึงวันนี้ค่ะ
สุดยอดมากค่ะ...นิยายแนวนี้แต่งยากมากกกกก และตลาดคนอ่านก็มีจำนวนจำกัดจริงๆ
แต่แฟนๆส่วนใหญ่รักเหนียวแน่นนะคะ...รักน้อยๆแต่รักนานๆ
ขอบคุณค่ะ
ยินดีด้วยครับ
เป็นแรงบันดาลใจให้อีก ๆ หลาย ๆ คน ได้อย่างดีเยี่ยมครับ
ถ้าไม่มีความอดทน ความเพียร และความศรัทธาในเรื่องที่แต่ง อาจจะไม่มีวันนี้ก็ได้ค่ะ ท้อได้ แต่ถอยและหันหลังกลับไม่ได้ เพราะมีเพื่อนอีกสองคนที่ร่วมเดินไปกับเรา
ดีใจด้วยนะคะ
และอยากบอกว่าอ่านกรนะทู้นี้แล้วเลิกเศร้าเรื่องนิยายถูกสำนักพิมพ์ปฏิเสธไปเลย
เพราะที่ส่งไปเป็นเรื่องแรกที่แต่งจบ เพิ่งแต่งเสร็จเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ยังไม่ถึงปีเลย การไม่ได้ตีพิมพ์คงไม่แปลก คงต้องใช้เวลาอีกหลายปี
กว่าจะมีโมเมนท์นี้บ้าง
ขอบคุณนะคะที่มาแชร์เรื่องดีๆ
ขอให้นิยายขายดีค่ะ
ไม่ต้องท้อนะคะ นักเขียนรุ่นเก่าๆ หลายคน บางคนใช้เวลาตั้งเป็นสิบกว่าจะได้ตีพิมพ์ เหมือนกัน อย่างเจเคโรวลิงค์ ที่เขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ เค้าเสนอสำนักพิมพ์ไป หกที่ โดนปฏิเสธหมด จนมาสำนักพิมพ์ที่ เจ็ด นี่แหละ ถึงได้ตีพิมพ์ เพราะฉะนั้นเราต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในเรื่องที่เราแต่งค่ะ ฝึกฝนหาจุดอ่อน ขอคอมเม้น ยิ่งถ้ามีที่ติ ยิ่งดีค่ะ ทำให้เราพัฒนาและปรับปรุงอยู่เรื่อยๆ อย่างเรื่องของเรา ใช้เวลาแต่งจริงไม่นาน แต่ใช้เวลาแก้จุดอ่อนนานมากถึงเก้าปี ค่ะ เพราะฉะนั้น สู้ๆ ค่ะ
ปัญหาคือ เขาไม่ติอะไรเลยนี่สิคะ เพียงแต่บอกปฏิเสธ
เกิดอาการมึนเพราะไม่รู้ว่ามันแย่จนไม่รู้จะติตรงไหนเลยหรือยังไง
ได้รับแต่คำปฏิเสธมา แต่ไม่มีคำแนะนำ เลยไม่รู้จะแก้งานยังไง
ลองให้เพื่อน หรือ คนรู้จัก อ่านก็ได้ค่ะ แล้วขอ comment แบบ ที่บอกเค้าว่า ติมาได้เลย แต่เราเองก็ต้องเข้มแข็งที่จะยอมรับข้อบกพร่องตัวเองให้ได้นะคะ อย่างนิยายของเรา ที่ส่งไป บก. ไม่ได้ ติอะไรเลย แต่บอกชอบและสนใจเรื่องนี้มาก แต่ก่อนที่จะส่งให้สำนักพิมพ์นี้พิจารณา ให้เพื่อนอ่าน ก่อนค่ะ บอกเลยว่า ที่เคยลงในบอร์ดไป รื้อแต่งใหม่เกือบหมดค่ะ เพราะ จุดอ่อนเยอะมาก ดังนั้น กระจกสะท้อนที่ดีที่สุด คือ คนที่ยอมอ่านงานให้เราไม่จำเป็นต้องเป็น บก. ก็ได้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับแรงใจครับ ^^
ขอบคุณกระทู้ดีๆ ค่ะ ได้แรงบันดาลใจเลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?