ก่อนแต่งนิยายเคยเตรียมตัวอะไรกันบ้างมั๊ยคะ?

เราเตรียมแค่ตอนจบกับเหตุการณ์สำคัญไว้ ส่วนรายละเอียดจะเปลี่ยนไปตามอารมณ์ขณะนั้น และที่สำคัญที่สุด

..ค้อน...สำหรับทุบไหดอง ที่ทุบแล้วค้อนต้องไม่พังแต่ไหดองพัง

คิดพล็อตประมาณ 1 เดือน เพื่อผูกปมเรื่อง ร่าง Storyboard ประมาณ 1 วัน หลังจากนั้นก็ลงมือเขียนตาม Storyboard โดยอาจจะมีการปรับแก้นิดๆ หน่อยๆ ไปตามสถานการณ์

ส่วนใหญ่ก็วางเอาไว้คร่าวๆ ว่า 1 ภาคจะมีกี่ตอน แต่ก็มักจะได้จำนวนเพิ่มทุกครั้งเพราะอาจจะมีการเพิ่มเนื้อหาเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปด้วย

การทำแบบนี้สามารถทำให้เราสามารถเดินเรื่องได้โดยไม่ออกนอกลู่นอกทางครับ อย่างของผมนี่เรื่องใหม่เริ่มเขียนตอนปลายเดือน 11 ตอนนี้ก็เขียนไปเรื่อยได้ประมาณ 70% ของเรื่องละ

อนาคตถ้าเชี่ยวกว่านี้อาจจะปิดเรื่องได้ภายในเดือนเดียวซะด้วยซ้ำ

          ผมมีวางพล็อตหลวมๆ ครับ

ก็มีฉากเริ่ม จุดพีค ตอนจบ
ปมใหญ่สำคัญๆ
กับอิมเมจตัวละครหลัก

นอกนั้นไปด้นเอาดาบหน้าครับ

มีโครงเรื่อง
มีพล็อตหลัก
มีพล็อตรอง
มีรายละเอียดส่วนที่จำเป็น เช่น ข้อมูลตัวละคร ที่ต้องใช้บรรยาย หรือผูกกับปมหรือปริศนาเรื่อง

มีเวลาที่จะนำทั้งหมดข้างต้นมาเขย่ารวมกัน
จากนั้นก็คิดวนลูปหลายๆรอบให้รู้สึกว่าเป็นเนื้อเดียวกัน

ใช้เวลาพอตัว แต่ปกติก็ไม่ได้คิดเต็มรูปแบบหรอก อาศัยเดินตลาดคิดไปบ้าง นั่งรถติดไปบ้าง ฟังเพลงคิดไปบ้าง สักนิดก่อนนอนก็คิดไปบ้าง พอเวลาผ่านไปมันก็เข้าที่เอง

แล้วก็เริ่มเขียนครับ

แม้ว่าจะไม่ได้เขียนรายละเอียดลงสมุดเป็นเล่มๆ แต่ก็สามารถเดินเรื่องได้ต่อเนื่องโดยไม่ออกทะเล หรือตันกลางทางครับ

คิดพล็อต ไม่ละเอียดจนจบ แต่ก็เยอะมากจนสามารถนำไปสู่ตอนจบได้

สร้างตัวละคร ตั้งชื่อตัวละครไว้ให้พร้อม

คิดมุขฮา หรือช็อดเด็ดๆ เตรียมไว้เยอะๆ ยิ่งเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เพราะตอนเขียนคิดไม่ค่อยออก

เมื่อมั่นใจว่าสามารถแต่งได้แบบไม่ตันรวดเดียว 100 ตอน ก็จะเริ่มแต่งทันที

บอกตรงเลยครับตอนนี้แต่งเรื่องแรกอยู่ ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย นอกจากดินสอกด สมุดเปล่าสองเล่ม กับจินตนาการวันต่อวัน ( แต่งลงวันละตอน ) เหนื่อยมากขอบอกวันหนึ่งกว่าจะได้แต่ละตอน ( พอมานั่งแต่งให้คนอ่านมั้ง หลังจากเป็นนักอ่านมานาน ได้รู้แล้วคนที่เป็นนักเขียนเขาคงเหนื่อยกว่าเราเป็นสิบเท่าร้อยเท่า ) จะทิ้งช่วงลงก็สงสารคนอ่าน ตอนนี้ก็กำลังพยายามกระชับเนื้อเรื่องให้จบให้เร็วที่สุด เพราะว่าจะขอพักสักเดือนเพื่อจะเตรียมตัวในการแต่งเรื่องที่สอง แน่นอนว่าจะต้องไม่ทำเหมือนเรื่องแรกอีก ได้มีการคิดแนวไว้แล้วบ้าง โครงเรื่องบ้าง โลเคชั่นก็คิดแล้ว ( ฉากในเรื่องปะใช้คำนี้ได้ไหม ครับฮ่าๆๆๆ ) ก็สรุปคือจะหาข้อมลูก่อนที่จะแต่ง และแน่นอนจะแต่งจนจบก่อนแล้วค่อยลง หรืออาจจะใกล้จะจบค่อยจะลงที่ละตอน แบบวันต่อวันไม่เอาแล้วครับ บ่นแค่นี้ละครับขอบคุณครับ

เตรียมครับ ผมเขียนแฟนตาซีผจญภัย พล็อตละเอียดและกว้างจึงต้องวางดีๆ

-พล็อตใหญ่ เส้นเรื่อง ต้น>กลาง>จบ และเหตุการณ์สำคัญที่ต้องเกิดขึ้น ใครสมหวัง ใครตาย ตายยังไง ภูมิหลังตัวละคร ปมตัวละครที่โยงกัน สเกลพลังของตัวละคร

-วางเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในตอนนั้นๆ ต้น>จบ ตอน วางไว้เป็นกรอบบางๆ ไม่ถึงกับละเอียด แค่กันไม่ให้เราไหลออกก็พอ สามารถปรับแต่งได้ตามสมควร

ปัจจุบันก็เขียนลื่นดีครับ วางพล็อตเรื่อง พล็อตตอนดีๆ มันจะไม่มีอะไรติดขัด ถ้าจะตันก็คือตันเพราะเขียนถี่เกินไปจนสมองรวน จินตนาการไม่ทัน หรือความขี้เกียจส่วนตัว ฮ่าๆ
เมื่อก่อนผมก็เขียนแบบไม่มี5อะไรเลยเหมือนกัน คิดว่ามันดูเท่ดูเซียนดูอิสระดี แต่มันก็พัง เละเทะ ไปต่อไม่ถูก พอสำเนียกความเป็นมือใหม่ของตัวเองได้แล้วก็ลองทำตามพื้นฐานดู  เท่านั้นแหละ  รู้สึกว่าเสียดายเวลาก่อนหน้านี้ขึ้นมาเลยครับ... ยังไงก็ลองดูนะครับ

สำหรับเรา ใช้แบบนี้มาจนกระทั่งแต่งจบค่ะ

-วางพล็อตใหญ่ ต้น>กลาง>จบ 

-พอรู้เส้นเรื่องแล้ว ก็แต่งตามเส้นเรื่องไปคร่าวๆ ถ้าช่วงนั้นเนื้อหาไม่ซับซ้อนอะไร แค่มีสิ่งที่อยู่ในหัวก็เขียนออกมาได้เลย ไม่ต้องวางสตอรี่บอร์ดอีก

-แต่ถ้าถึงจุดที่รู้ว่าต่อจากนี้ เนื้อหาจะซับซ้อน เราจะต้องวางสตอรี่บอร์ดล่วงหน้าก่อน (อาจจะเรียกว่าพล็อตละเอียดก็ได้) ตอนต่อตอน วางเลยว่า บทที่ 1 ฉากหนึ่ง ฉากสอง ฉากสาม คืออะไรในบทนั้นคร่าวๆ บทที่ 2 ฉากหนึ่ง ฉากสอง ฉากสาม คร่าวๆ สามารถปรับแต่งได้อีกทีตอนแต่งจริง 

การวางสตอรี่บอร์ดล่วงหน้า ก็จะเหมือนหลายท่านที่คอมเมนต์ไปด้านบน คือมันจะไม่มีทางตัน ยกเว้น จะตันเพราะหมดอารมณ์ 55555555 

เราสามารถอัพนิยายได้ทุกวัน เป็นเดือนสองเดือนจนกระทั่งนิยายจบ เพราะมีสตอรี่บอร์ดนี่แหละ ^^ 

คิดพล็อตละเอียดถึงระดับตอนครับ โดยเฉพาะตอนต้นๆ ให้ได้สักราวๆครึ่งเรื่อง ส่วนตอนหลังๆ ปล่อยคร่าวๆไว้ก่อน เพราะเขียนไปมักจะมีเปลี่ยนรายละเอียดอยู่แล้ว

ตัวละครส่วนใหญ่จะวางค่อนข้างหยาบ แค่พอเห็นหน้าเห็นลักษณะเลาๆในหัวก็เริ่มเขียนแล้วครับ จะมาคิดหนักอีกทีถ้าจะวาดรูปนั่นแหละ

  คิดพล็อตโดยรวมแล้วเจาะทีละบทค่ะ แจกแจงรายละเอียดไว้คร่าวๆ ตัวละครจะวางละเอียดไว้แค่ตัวหลัก ตัวประกอบทั้งหลาย จดเป็นชื่อแยกไว้แล้วใส่รายละเอียดคร่าวให้พอรู้ว่าคนนี้มีหน้าที่อะไรบ้าง บทหนักเบาขนาดไหน

  

เป็นวางไว้แบบหลวมๆ ค่ะ แล้วค่อยมาลงรายละเอียดตอนแต่ง

ซึ่งบางทีก็ลืมที่ตัวเองเขียนเหมือนกันค่ะ 55555

เตรียมใจครับ

1.เตรียมพล๊อต เริ่ม>กลาง>จบ เอาให้เป๊ะ เนื้อเรื่องช่างมัน
2.ตัวละครมีกี่ตัว ชื่ออะไรบ้าง ( ตัวหลักอย่างเดียว ตัวสำรองช่างมัน )
3.นิยายเริ่มเรื่องยังไง ตอนกลางจะต้องเป็นยังไง เตรียมฉากเด็ดๆที่คิดว่ามันคือนิยายเรื่องนี้ไว้ และฉากจบ
ปล.ปกติก็เขียนตามอารมณ์ซะส่วนมาก ด้นสดก็เยอะ แต่ตอนจบต้องเป๊ะตามพล๊อต

สุดท้ายก็เหนื่อยตายแต่ไม่ดอง (ใครคิดจะดองนิยายเตรียมค้อนไว้ทุบไหดองด้วย)

ตอนเด็กๆ ผมก็เขียนท่องไปตามจินตนาการของตัวเอง และการฟังเพลงก็จุดแรงบันดาลใจได้มากครับ 
พอโตขึ้น ก็เริ่มรู้วิธีการเขียนมากขึ้น แต่ชีวิตล้มลุกคุกคลาน เขียนได้แค่ plot ยังจับจุดและจัดระเบียบไม่ค่อยได้
แต่เดี๋ยวนี้ รู้หลักการเขียนที่ดีขึ้น และพร้อมที่จะเขียนให้จบและออกหนังสือให้ได้ครับ

เดี๋ยวนี้ ผมรักตัวละครเอกเหมือนลูกคนหนึ่ง ผมจะเขียนไปตามเขาคนนั้น และไป Research หาข้อมูลเพื่อให้เขียนถูกต้องครับ

คิดพล็อตไว้คร่าวๆค่ะ แบบว่ามีปมอะไรไหม ปัญหาต่างๆ แต่ตอนจบไม่คิดค่ะ555

ผมจะคิดตอนจบของเรื่องก่อน แล้วค่อยไปหาจุดเริ่มต้น แล้วใข้วธีทำยังไงก็ได้ให้ตัวละครไปถึงจุดจบนั้นให้ได้ โดยแต่งสด และแต่ละตอนจะ กำหนดว่า ตอนนี้ต้องการให้คนอ่าน สนุก หัวเราะ ร้องไห้ เคร้า หรือตื่นเต้น ดังนั้นทุกตอนมันจะมีเสน่ในตัวของมันเอง
ที่สำคัญคือ เลือกมุมมองของกล้อง เฟม ในการล่าเรื่องให้เหมาะสม กับฉากนั้นๆ ..

ไม่เตรียมค่ะ ด้นสดเลย พอจะมาตอนจบค่อยคิดหนักๆเอาทีหลัง

เตรียมความคิด พล็อตค่ะ แต่เอาจริงๆ...เราไม่มีพล็อต 555 ตั้งแต่ประวัติตัวละครเอก เป้าหมายของตัวเอก จบ 555 เนื้อเรื่องระหว่างนั้นไปคิดเอา

ชอบคิดระหว่างเดินห้างค่ะ ไม่รู้เป็นไร555 คิดว่าบทถัดไปเนื้อเรื่องต้องงี้ๆ และจะพยายามจำไว้ไปแต่งที่บ้าน ภาพในหัวก็แบบ มาเป็นอนิเมะเลยจ้า ตอนมาแต่งก็บรรยายการกระทำไป555 นี่เซ็ง บางทีคิดๆไว้ที่ห้างละลืม สงสัยต้องพกสมุดปากกาติดตัว