Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เมื่อคนที่ดีที่สุดในเมื่อวาน..ต้องกลายเป็นคนใจร้ายที่สุดในวันนี้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
"ไม่ว่าความรักจะจบลงด้วยน้ำตามากเพียงใด อย่างน้อย...การที่ใครบางคนเลือกเดินจากเราไป นั่นต้องถือเป็นการแสดงออกอย่างจริงใจที่สุดแล้ว"
บนโลกใบนี้มีอะไรที่ยากเกินความเข้าใจอยู่มากมาย  ใครคนหนึ่งผู้ซึ่ง...ครั้งหนึ่ง..เคยรักเรา เคยยินดีและพร้อมยอมทุกอย่างเพียงเพื่อหวังความรักที่เรามอบให้  แต่เมื่อวันผ่านฤดูกาลเปลี่ยน  จากคนที่ดีที่สุดก็กลายเป็นคนใจร้ายที่ต่อให้เราร้องไห้ออกมาจนน้ำตาเป็นสายเลือด เขาก็ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะหันหลังเดินกลับมาเพื่อซับน้ำตาและปลอบโยน
"การที่ความรักเริ่มต้นขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล..แต่กลับจบลงได้อย่างไร้ค่าขนาดนั้น นั่นเพราะแท้จริงแล้ว..เรารักผิดคนหรือเปล่า??..คนๆหนึ่งที่เราคิดว่าแสนดี จริงๆแล้วเขาเป็นคนใจร้ายที่ไม่เคยเห็นเรามีความหมายในสายตาเลยใช่มั้ย??"
หากนี่คือความสงสัยที่ต้องถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอยู่บ่อยๆ  หนทางคลี่คลายคือ การหาคำตอบให้กับตัวเองให้ได้ว่า "เรามองคนดีแสนดีหรือคนใจร้ายจากมุมของชีวิตใคร"
คงไม่แปลก หากเรามองจากมุมของตัวเราเองในฐานะคนที่ (ต้องกลาย) เป็น "คนถูกทิ้ง" ผู้น่าสงสาร ย่อมเท่ากับ...คนที่ทิ้งเราไปนั้น "ใจร้าย" แต่เราก็ต้องยอมรับความจริงอีกข้อหนึ่งว่า "หากย้อนเวลากลับไปในวันที่เราอยู่ในบานะ "คนถูกรัก" คนที่เราเห้นว่าเขาใจร้ายที่สุดในวันนี้เขาก็เคยดีแสนดีจนลืมไม่ได้..จริงไหม??  การพยายามหาเหตุและผลมาปลอบโยนตัวเองเพื่อให้เข้มแข็งมากพอจนสามารถก้าวข้ามซากปรักหักพังของความรักที่เหลือเพียงความทรงจำได้นั้น  จะไม่มีวันประสบความสำเร็จได้เลยหากเรามัวแต่ยึดติดกับปัญหาโตกแตกที่ว่า "ใครคนหนึ่งผู้ซึ่งเคยทำให้เราหัวเราะเสียงดังได้มากกว่าใครและเคยเป็นส่วนผสมสำคัญของความรักที่ทำให้ใจเรามีความสุข จริงๆแล้วเขาคือคนใจร้ายที่ทำให้เราได้รู้จักกับความสูญเสีย หากเป็นเช่นนี้ เราจะไม่มีวันเปลี่ยนสถานะที่เขาเคยมีและยังคงมีได้นั่นก็คือ "
คนที่เคยรักเรา...คนที่เราเคยรัก
บนเส้นทางระหว่างการทำใจ ฉันเชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักจะเจอกับเรื่องราวที่ทำให้สับสนได้อย่างนี้เสมอ เหมือนเช่นแง่คิดสองด้านที่มาจากมุมสองมุม เป็นประโยคคลาสสิคเอาไว้ปลอบใจคนอกหักที่ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ ถ้ามองในแง่ร้ายหน่อยก็ต้องบอกว่า
 "
ถ้าอยากทำใจลืมใครให้ได้ง่ายๆให้นึกภึงเรื่องร้ายๆที่เขาเคยทำกับเราไว้มากๆ"  
หรือบางประโยคที่พร่ำสอนเราให้ปล่อยวางอย่างนักบุญ  
"
เมื่ออดีตคือสิ่งที่ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้
 เราก็น่าจะเลือกจดจำเพียงช่วงเวลาดีๆ เอาไว้ดีกว่า เพราะไม่ว่าอย่างไรมันก้คงจะอยู่ในหัวใจไปชั่วชีวิต"
หากแต่ตรงกลางระหว่างสองความคิดที่เป็นเหมือนขั้วบวกและขั้วลบนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ตัวเราเอง" นั่นอหละที่จะอยู่กับการทำใจในปัจจุบันได้อย่างเข้มแข็งแค่ไหน อาจจะมีเหตุผลเพียงไม่กี่ข้อกับการที่คนสองคนเดินเข้ามาเพื่อบอกรักกัน แต่มีเหตุผลเป็นร้อยเป็นพันในวันที่คนสองคนนั้นเดินต่อไปด้วยกันไม่ได้  ขอเพียงแค่เราเข้าใจความหมายอันแท้จริงของการเลิกราที่ไม่ว่าความรักจะจบลงด้วยรอยน้ำตามากมายเพียงใด อย่างน้อย...การที่ใครบางคนเลือกเดินจากเราไป นั่นต้องถือเป็นการแสดงออกอย่างจริงใจที่สุดแล้ว
cr.ก็ยังดีที่ได้รัก By.มาบุชี่

แสดงความคิดเห็น