Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

พอดีผมลองเขียนเรื่องสั้นครับ ช่วยวิจาณ์หน่อยนะครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือว่าแต่งมาได้ครึ่งเรื่อง แต่ไม่มั่นใจจึงมาขอคำแนะนำครับ ขอบคุณมากครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
            ผมกำลังอยู่  ณ ที่แห่งหนึ่ง สถานที่ซึ่งเมื่อมองออกไปข้างหน้าแล้วจะเห็นแต่ความว่างเปล่า เมื่อลองเงี่ยหูฟังดีๆก็จะได้ยินเสียงคลื่นซัดสาดเข้ากระทบชายฝั่ง สลับกับเสียงลมที่กำลังพัดหิมะสีขาวโพลนเป็นระยะๆ ผมมองออกไปในทะเลก็จะเห็นก้อนน้ำแข็งน้อยใหญ่ ลอยไปลอยมาอย่างเชื่องช้า นี่คงเป็นที่ที่วิเศษสุดสำหรับคนที่ต้องการหลบหนีความวุ่นวายจากในเมือง แล้วมาพักผ่อนหย่อนใจให้สบายอารมณ์ หรือครอบครัวที่หวังมาท่องเที่ยวในวันหยุดยาว แต่ในตอนนี้ไม่ว่าสิ่งไหนก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เพราะนี่จะเป็นวาระสุดท้ายของผม

ย้อนความไปเมื่อ 18 ชั่วโมงก่อนหน้านี้

            ชายหนุ่มคนหนึ่ง รูปร่างผอมสูง ใส่เสื้อยืดสีขาวสวมทับด้วยแจ็คเก็ตสีน้ำเงินตัวใหญ่ กำลังนั่งเขียนทำงานอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับเอกสารกองโตๆอีกกอง เขาลุกขึ้นมาและบิดตัวอย่างเกียจคร้าน และเดินออกไปดูวิวทิวทัศน์ที่หน้าต่าง ก่อนที่จะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากเพื่อนร่วมงานอีกคนว่า

พี่เมธาๆชายร่างเล็กผอมสูงคนหนึ่งกำลังตะโกนเรียกผม

เขาเป็นผู้ชายตัวเล็ก ผอมแห้ง ไหล่งุ้มไปข้างหน้า ใส่แว่นตากรอบหนาสีดำอันใหญ่ สวมเสื้อเชิ้ตคอปก มีลายสีดำพาดตามขวางเป็นแนวยาว เขาสวมกางเกงแสล็ค ทำให้ดูรวมๆแล้วคล้ายกับพนักงานออฟฟิศ

อะไรวะป็อด เรียกซะดังเชียว ผมถามไปด้วยความตกใจ เมื่อเห็นป็อดเพื่อนร่วมงานของผมวิ่งมาด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนกราวกับเห็นผี

พี่ๆขอร้องล่ะ เรื่องนี้พี่ต้องช่วยผมนะ เขาพูดออกมาอย่างละล่ำละลัก 

ใจเย็นๆ มีอะไรค่อยๆพูดมา ผมพยายามถามเขา

พี่ครับ...เขาหยุดพูดไปกลางคัน ผม...ขอยืมคอมพ์ของพี่หน่อยได้ไหมของผมแบตจะหมดแล้ว เขาพูด

แค่นี้เนี่ยนะ ที่เอ็งทำหน้าอย่างกับโลกจะแตก ผมถามด้วยความงงงวยและพูดตอบกลับไปว่า ไม่ได้เว้ย นั่นมันสำหรับเก็บข้อมูลการวิจัยธารน้ำแข็ง ผมชี้แจงให้ฟัง แต่ก็ดูจะไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย

พี่ผมขอจริงๆเหอะ เขาก็ยังคงคะยั้นคะยอผมต่อไป

หยุดพูดมากได้แล้ว ถ้าว่างนักก็ไปนอนเลยไปผมตอบกลับไปด้วยอารมณ์โมโห

กางวันแสกๆเนี่ยนะจะให้ไปนอน เครียดมากจนบ้าป่ะเขาพูดออกแนวต่อว่าผม แล้วรีบเดินออกไปจากห้องก่อนที่ผมจะหันกลับไปด่าเขาอีกชุด

เฮ้ย!!! เอ็งจะไปไหนวะ พูดแบบนี้หาเรื่องกันเหรอ ผมตะโกนไล่หลังตามเขาไป

ทางด้านของป็อดที่เดินออกไปจากห้องทำงานของเมธาอย่างรวดเร็ว เขาเดินมายังห้องโถงขนาดใหญ่ ห้องโถงถูกทาด้วยสีเหลืองสดตัดกับพื้นที่มีสีฟ้าอ่อนดูแล้วสบายตา ตรงกลางห้องมีโต๊ะกระจกใสๆขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลาง พร้อมกับเก้าอี้ที่อยู่คู่กันเป็นชุดอีก 2-3 ตัว เมื่อเขามาถึง เขาก็หย่อนตัวนั่งลงด้วยความโมโห พร้อมกับพูดว่า

อะไรวะ แค่นี้ทำเป็นขี้งกไปได้เขาคิดอยู่ในใจ โอย! เบื่อ!!! ไม่มีอะไรจะทำไว้โว้ย!!”

ในขณะนั้นหางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นสีดำวัตถุบางอย่าง เรียวยาว คล้ายกับปากกาหมึกซึมด้ามใหญ่ บนแท่งมีสัญลักษณ์ของคณะวิจัยธารน้ำแข็ง ใช่แล้วมันคือคอมพิวเตอร์ที่เก็บข้อมูลการวิจัย

ไม่รอช้าเขารีบเปิดแง้มฝาของตลับสีดำขึ้น ทันใดนั้นก็มีลำแสงพุ่งออกมาจากตลับ พอแสงจางหายไปก็ปรากฎหน้าจอลอยอยู่ในอากาศ พร้อมกับเสียงพูดว่า

            กรุณากรอก Usename ของคุณค่ะคอมพิวเตอร์พูด

            เอ่อ Usename ถ้าเป็นของพี่เมธา ก็น่าจะเป็น Mathar Jansiripirot” เขาพิมพ์ลงไปและกดตกลง

            กรุณากรอก Password ของคุณลงในช่องสีฟ้าค่ะ คอมพิวเตอร์พูดต่อ

            งั้นลอง Mathar Jansiripirot ละกัน เขาคิด ซึ่งก็คิดผิดจริงๆเมื่อคอมพิวเตอร์บอกว่ารหัสผ่านไม่ตรงกับผู้ใช้งาน

            งั้น Mathar,ABC,1234,Aa1234” เขาลองทุกรหัสที่เขาคิดได้แล้ว แต่ก็ไม่มีรหัสไหนถูกต้อง

แต่ในขณะนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นหนังสือเกี่ยวกับขั้วโลกใต้เขาจึงลองใส่คำว่า Southpole ลงไป

ราวกับโชคช่วยรหัสผ่านและ Usename เข้ากันได้พอดี

            ไชโย ได้แล้วโว้ย เขาเผลอร้องออกมา

            ได้อะไรวะ-ป็อด นี่ยังไม่เลิกเล่นเกมอีกเหรอ ผมหยุดมือจากการทำงานและชะโงกหน้าดู

            เปล่าครับพี่ ไม่มีอะไรครับเขารีบแก้ตัวอย่างรวดเร็ว

            เออ งั้นก็เล่นเกมเบาเสียงด้วยนะผมบอก และเดินกลับไปทำงานที่ค้างอยู่

            ฟู่! เกือบไปแล้ว เขาคิดเล่นเกมต่อดีกว่า

เขาหยิบแว่นตาอันใหญ่ สีขาว คล้ายกับแว่นสายตามาสวม พร้อมกับดึงสายไฟออกจากขาแว่นตาและเอาไปเสียบไว้ในช่องบนด้ามปากกา เมื่อเขาสวมแว่นฉากรอบๆตัวเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปในทันทีทันใด

เขาเล่นเกมอยู่อย่างนี้จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไป 2 ชั่วโมง

            ครืนนน

เกิดเสียงบางอย่างดังกึกก้อง ราวกับฟ้าจะถล่ม ดูเหมือนจะเป็นเสียงสิ่งของขนาดใหญ่บางอย่างกำลังแยกออกจากกัน

เฮ้ย ป๊อด เบาเสียงเกมหน่อย หนวกหูจะตาย ผมตะโกนต่อว่าเขาด้วยความรำคาญ

เปล่านี่ครับ ผมเลิกเล่นเกมนานแล้ว เขาบอกกลับมา

งั้นก็ดี หยิบคอมพ์บนโต๊ะมาให้หน่อย เดี๋ยวต้องรายงานผลการวิจัยกับศูนย์บัญชาการแล้วผมบอก

            นี่ครับพี่ ผมเอามาให้แล้วครับ เขาพูดขณะ เดินเข้ามาในห้องทำงาน

            อ้าว ทำไมครั้งนี้คอมพ์มันloginไว้แล้วล่ะ ผมพูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ ในขณะที่กำลังเปิดคอมพิวเตอร์

            “เอ่อ พี่ครับ เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ รีบติดต่อศูนย์เลยดีกว่าเขารีบเปลี่ยนเรื่องในทันที

            ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เขาพยายามพูดเปลี่ยนเรื่อง แต่ผมก็ไม่สนใจอะไรมาก จึงรีบโทรติดต่อกับศูนย์บัญชาการ

            “สวัสดีครับ ขอสายผู้อำนวยการด้วยครับ ผมบอก

            ได้ค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ พนักงานต้อนรับตอบกลับผม

            “ตรู้ด...ตรู้ด...ตรู้ด...ผมกำลังถือสายรอสัญญาณ

สักพักผมก็ได้ยินเสียงของผู้ชายวัยกลางคนๆหนึ่ง ไม่ต้องมีใครบอกผมก็คงพอเดาได้ว่าเขาน่าจะคือผ.อ.ของสถาบันวิจัย ผมจึงรับชิงผู้ก่อนว่า

สวัสดีครับ ท่าน ผ.อ.ผมพูดทักทาย

สวัสดีเมธา ท่านพูด

ฉันขอคุยกับเธอแบบเห็นหน้ากันหน่อยจะได้ไหม ท่านถาม

ได้ครับรอสักครู่นะครับ ผมกล่าว และหยิบคอมพิวเตอร์ใส่กล่องสีขาวขนาดใหญ่กว่าคอมพิวเตอร์เล็กน้อย

ทันใดนั้นร่างของท่าน ผ.อ.ก็ได้ปรากฏขึ้นมาอยู่กลางห้องโถง

เอาล่ะเธออยากฟังข่าวดีหรือข่าวร้ายก่อนล่ะผ.อ.ถามอย่างมีเลศนัย

งั้นผมขอฟังข่าวดีก่อนแล้วกันครับ ผมตอบไป

ข่าวดีคืองานวิจัยของเธอครั้งล่าสุดทำออกมาได้ดีมาก ผ.อ.กล่าวชมเชย มันทำให้เรารู้ถึงความคืบหน้าของภาวะโลกร้อนที่มีผลกระทบต่อโลกของเรา ตอนนี้เรากำลังคิดค้นวิธีรับมืออยู่น่ะ

แล้วข่าวร้ายล่ะครับ ผมถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"ข่าวร้ายที่ว่าคือ..."ท่านผ.อ.หยุดนิ่งไปสักพัก

"นายจะต้องทิ้งงานวิจัยทุกอย่างและรีบออกมาจากศูนย์วิจัยภายใน 24 ชั่วโมง" ผ.อ.บอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

"ทำไมครับ ทำไมผมต้องไปด้วยครับ" ผมถามด้วยน้ำเสียงตื่นตกใจ

"เอาอย่างนี้นะ นายรู้ใช่ไหมว่าภาวะเรือนกระจกทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว" ท่านค่อยๆพูดด้วยความใจเย็น

"นั่นแหละ ในช่วง10ปีหลังนี้ ปริมาณแก๊สเรือนกระจกมากขึ้นอย่างมาก"ท่านบอก

"ทางเราคาดว่าอีกไม่นานจะไม่เหลือพื้นน้ำแข็งให้นายยืนอยู่แล้วล่ะ" ผ.อ.พูดอย่างสบายอารมณ์

"งั้นแล้วผมจะทำยังไงดีครับ" ผมถามขึ้นมาด้วยความร้อนใจ"คงไม่ปล่อยให้ ตายอย่างนี้ใช่ไหมครับ"

"ใจเย็นๆ ไม่เป็นไร"ท่านบอก"เราได้เตรียมเครื่องบินไว้ให้แล้ว แค่นายต้องล่องเรือเลียบชายฝั่งขึ้นไปทางเหนือ"

"งั้นเหรอครับ ค่อยโล่งอกหน่อย"ผมพูดด้วยความโล่งใจ

"งั้นเจอกันที่ศูนย์วิจัยหมายเลข..." จู่ๆท่านก็หยุดพูดไป

            ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดัง พรึ่บ ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะหายไปต่อหน้าต่อตา ผมยืนตาค้างด้วยความตกใจ ส่วนป็อดกำลังยืนหน้าซีดเผือด

            แทบจะในทนทีที่ผมเห็นหน้าป็อดผมพูดออกไปว่า

            “ป็อด!! เอ็งทำอะไรกับเครื่องคอมพ์พี่ บอกมาเดี๋ยวนี้ ผมถามออกไปด้วยความโมโหสุดขีด

            คือ...เครื่องของผมแบตหมด ผมเลยยืมเครื่องนั้นมาใช้ก่อน เขาพูดออกด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

            พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ใช้ พี่พูดแล้วเอ็งฟังมั้ยเนี่ย ผมตอบกลับไป ทั้งที่ยังโมโหไม่หาย

            พี่ๆ ใจเย็นๆก่อน แค่ชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มแล้วค่อยโทรกลับไปก็ได้ เขาตอบกลับมาด้วยความใจเย็น

            แต่ก็เหมือนพระเจ้ากลั่นแกล้ง ทันใดนั้นไฟทั้งศูนย์ประชุมก็ดับลง พื้นที่รอบข้างแลดูมืดสนิทเหมือนอยู่คนเดียว ในวินาทีนั้นทุกๆอย่างเงียบสงบ ผมได้ยินเพียงแต่เสียงหายใจของคน 2 คนเท่านั้น

ผมรู้สึกได้ว่าเวลาค่อยๆเดินไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า จนเวลาผ่านไปได้ราวๆ 10-15 นาที ผมเริ่มได้สติและพูดออกมาว่า

ป็อด เอ็งอยู่ที่ไหน ผมถามพร้อมกับเดินไปรอบๆ จนกระทั่งผมรู้สึกว่าผมเหยียบโดนอะไรบางอย่าง

โอ๊ย!!! พี่นี่เท้าผม เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

อ้อ อยู่ตรงนี้เองเหรอ ผมพูด

พี่ครับ ผมว่าเราน่าจะหาอะไรมาส่องสว่างหน่อยนะครับเขาบอก ผมจำได้ว่า มีไฟฉายอยู่ในตู้เก็บของนะครับ

เมื่อได้ยินดังนั้น ผมจึงค่อยเดินคลำทางไปเรื่อยๆในความมืดมิด ผมคิดว่าผมเดินวนรอบโต๊ะไปมาสัก 2-3 รอบก่อนจะคลำมาเจอตู้เก็บของ พอผมเปิดตู้เก็บของแล้วผมก็คลำหาไฟฉายจนเจอ

ป็อด นี่ๆพี่อยู่นี่ผมร้องบอกเขา

พี่ครับ ผมขอไฟฉายหน่อยเขาร้องขอ

ไม่รู้ว่า ไฟดับนานแบบนี้ จะมีอะไรเสียหายหรือเปล่านะ ผมถามเขาพร้อมกับส่งไฟฉายให้

เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ ว่ามันดับเพราะไฟฟ้าที่ศูนย์ขัดข้อง หรือเป็นที่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลีย เขาบอก

เอาอย่างนี้นะ นายไปดูที่เครื่องปฏิกรณ์ ส่วนพี่จะอยู่ดูวามเสียหายที่นี่เองผมบอกเขา

ได้ครับพี่ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ เขาบอก พร้อมกับหมุนตัวกำลังจะเดินออกไปจากห้อง

แล้วอย่าลืมเอาชุดกันกัมมันตภาพรังสีไปด้วยล่ะ ผมตะโกนสั่งไล่หลัง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ช่วยวิจารณ์หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

 

           

 

 

แสดงความคิดเห็น