Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ไม่ชอบอ่านนิยาย จะเขียนนิยายได้ไหมครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมเป็นคนหนึ่งที่อ่านนิยายได้ไม่ถึง 2 ตอน ก็กดปิดไปก่อนตลอด แม้แต่นิยายของตัวเอง ผมอยากจะอ่านให้มากกว่านี้ และพยายามสนุกกับการอ่านนิยาย แต่ไม่ว่าเรื่องไหน ๆ ก็ตาม จะเรื่องที่ติด top หรือเรื่องไหน ๆ ผมก็ไม่เคยอาจเกิน 1 ตอนเลย
     คนที่ไม่ชอบอ่านนิยาย จะสามารถแต่งนิยายได้ดีไหมครับ ? /แล้วมีใครบ้างที่เหมือนผมไหม ที่ไม่ชอบอ่านแต่ชอบแต่ง

แสดงความคิดเห็น

18 ความคิดเห็น

K.W.E. 18 มิ.ย. 60 เวลา 14:12 น. 1

ผมไง ไม่ชอบอ่านนิยาย ชอบอ่านการ์ตูนมากกว่า แต่ก็แต่งนิยายอยู่จนทุกวันนี้


เพียงแต่ก็ต้องยอมรับอยา่งนะว่า ถ้าไม่อ่านนิยายอาจทำให้เราเสียต้นทุนด้านภาษาและวิธีการนำเสนอแบบฉบับนิยายไปพอตัว ซึ่งก็ฝึกฝนเรียนรู้ได้ เพียงแต่ว่าถ้าอ่านนิยายประกอบด้วย จะทำให้มีจุดอ้างอิงเพิ่มขึ้นครับ

0
grattheone1 18 มิ.ย. 60 เวลา 14:24 น. 2

คุณสามารถแต่งนิยายได้แต่อาจจะไม่ดีพอเท่ากับคนที่อ่านนิยายเพราะอะไร? คุณแต่งนิยายตอนแรกคุณจะเจอทางตันเพราะนึกคำไม่ออก. เขียนไม่ถูกสถานะการณ์ นึกคำกล่าวตัวละครไม่ออก คนอ่านนิยายจะจำหลักการของการไช้คำและไช้ภาษาได้ถูกต้องและสร้างสถานะการณ์ที่อยากจะไห้เป็นได้ง่ายกว่าคนที่ไม่เคยอ่านครับ

0
21943' 18 มิ.ย. 60 เวลา 20:06 น. 3-1

ผมอยากเขียนการ์ตูน สร้างหนัง บลา ๆ ครับ และการเขียนนิยายมันเหมือนเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่ผมพอทำได้ในตอนนั้น ด้วยตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว เพราะเคยดูหนังที่มาจากนิยาย แรก ๆ ก็คิดจะเขียนนิยายเล่น ๆ งู ๆ ปลา ๆ แต่หลัง ๆ เริ่มจะหลงรักมัน พอเริ่มมีคนติดตามนิยาย มันทำให้ผมพยายามมากขึ้น และอยากเขียนต่อครับ

0
เดียร์รี่ [COS] 18 มิ.ย. 60 เวลา 14:30 น. 4

คิดว่าเขียนได้ค่ะ แค่เสียเปรียบคนที่ชอบ เพราะเขาจะได้เรียนรู้จากการอ่านของเขาและได้ประสบการณ์มากกว่าคุณค่ะ

0
SilverPlus 18 มิ.ย. 60 เวลา 15:29 น. 5

แต่งได้ครับ


แต่จะให้ออกมามีคุณภาพ มันคงยากเสียหน่อย


เพราะนิยายมีความซับซ้อนสูง คุณอาจเห็นว่า มันก็แค่ง่าย ๆ เขียนจากจุดที่หนึ่ง ไปจนถึงจุดสุดท้าย แต่นิยายที่มีคุณภาพนั้น มันซับซ้อนกว่า และเขียนยากกว่าเป็นไหน ๆ เพราะมันไม่ได้แค่ เขียน ๆ อะไรออกมาก็ได้ให้อ่านรู้เรื่อง มันต้องมีการวางแผน ตระเตรียมเหตุการณ์ รู้รอบความรู้สึกของตัวละคร และที่สำคัญก็คือ ภาษา ที่จำเป็นอย่างยิ่งในการทำให้นิยายมีสีสัน หากคุณไม่อ่านมาก ๆ เข้าไว้ ภาษาคุณจะอ่อนมาก ๆ ครับ การใช้คำสำหรับนิยาย มันไม่เหมือนการใช้คำในโปรแกรมแชทออนไลน์หรอกนะครับ


แนะนำให้ไปวาดภาพจะดีกว่าครับ เพราะทางนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์การอ่านมากเท่าไหร่



0
B 13 s.t 18 มิ.ย. 60 เวลา 15:45 น. 6

ผมเป็นพวกก่ำกึ่งครับ ถามว่าเป็นคอนิยายไหม ตอบเลยว่าไม่ ผมไปทางสายหนัง การ์ตูน ซี่รี่ย์เป็นหลักมากกว่า แต่ถามว่าไม่ชอบอ่านนิยายรึเปล่า ขอตอบว่าไม่เช่นกันครับ อ่านอยู่ครับ อย่างน้อยๆ ก็เคยอ่านแฮรี่ พ็อตเตอร์มาแหละครับ และตอนเด็กๆ ก็ชอบอ่านเรื่องแนวสยองขวัญที่เป็นเรื่องเล่า หรือที่เป็นแบบเล่มบางๆ รวมเรื่องประสบการณ์ผีญ๊่ปุ่น ซื้ออ่านประจำ และผ่านนิยายมาหลายเรื่องอยู่ ทั้งในเว็บและนอกเว็บ แต่นิยายไม่ใช่สื่อแรกที่ผมจะเลือกเสพเท่านั้นเอง


การซื้อนิยายอ่านของผม หรือการตามนิยายสักเรื่อง ผมค่อนข้างเรื่องเยอะ ไม่ใช่แบบคอนิยายที่เดินเข้างานหนังสือและขนนิยายกลับเป็นร้อยเล่ม หรือพกเงินเป็นหมื่นเพื่อไปซื้อมัน อาจเพราะผมแทบไม่อ่านนิยายรักเลย ซึ่งเป็นนิยายที่ครองตลาดนิยายไทยมากที่สุด ทั้งรักผู้ใหญ่ รักวัยรุ่น รักจีน และอาจเพราะผมเป็นคนสายหนัง การ์ตูน ซีรี่ย์ ดังนั้นนิยายไทยที่ออกแนวละครไทย ผมเลยไม่อ่าน ผมชอบนิยายแนวต่างๆ ที่ผสมรัก มากกว่าเอารักมานำเรื่อง ดังนั้นอัตรานิยายที่ผมสามารถซื้ออ่านได้จึงค่อนข้างต่ำ เพราะถ้าตัดแนวรักไป นิยายที่ผมจะอ่านได้ก็เหลือเป็นติ่งๆ เลย ดังนั้นเลยกลายเป็นคนอ่านนิยายน้อยไปด้วย เพราะแนวที่หยิบอ่านมันมีให้เลือกน้อย แต่ไม่ใช่ไม่อ่านครับ ยังไงผมว่าไม่อ่านนิยายเลย ก็คงเขียนออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะศัพท์ในหัวจะน้อย และเมื่อบรรยายออกมาแล้วจะไม่ได้ดั่งใจ หรือฝืดๆ ภาพในหัวไว แต่ไม่มีคำศัพท์มากพอมาบรรรยาย มันน่าอึดอัดนะ แล้วภาษาอาจไม่น่าอ่านด้วย ยังไงก็ควรลองฝืน หานิยายสักเรื่องที่น่าจะอ่านไหวมาอ่านครับ ไม่ก็เริ่มจากเรื่องสั้น หรืออะไรก็ได้ที่มันมีเนื้อเรื่อง สำนวนให้อ่าน ให้มีทุนรองก้นตัวเองหน่อย


ปล.ความจริงผมไม่ได้ชอบเขียนนิยายครับ เพราะผมก็ไม่ใช่คอนิยาย แต่ผมชอบเขียนการ์ตูน และกับการ์ตูนนี่ผมถึงไหนถึงกันนะ หยิบได้เป็นร้อยเล่มและยอมจ่ายง่ายๆ เพื่อมันด้วย แต่สาเหตุที่ผมมาแต่งนิยาย เพราะว่าผมกำลังเรียนอยู่ เรียกว่าเป็นช่วงยุ่งมากของชีวิต ผมเลยเลือกจะเอาการ์ตูนเรื่องยาวที่คิดไว้มาระบายเป็นนิยายแทน และก็เขียนมาถึงปัจจุบัน ควบคู่กับการ์ตูนเลย(ผมเขียนการ์ตูนลงเว็บอยู่) และคงเขียนนิยายต่อไป เพราะมันทำให้ผมระบายสิ่งที่คิดได้ไวมาก และช่วยได้มากเรื่องการลำดับเนื้อหรือการสร้างโครงเรื่องให้ซับซ้อน ดังนั้นผมเลยแอบแปลกใจเหมือนกันว่าถ้าท่านไม่ชอบอ่านนิยาย และทำไมอยากเขียนนิยาย อย่างผมนี่มันเหตุผลนะ และบางคนเขาก็อยากทำหนังแต่ยังไม่สามารถทำได้ จึงใช้นิยายระบายสิ่งที่ตัวเองคิดแทน แต่อย่างท่านคืออะไรล่ะ อะไรดลใจให้มาเขียนทั้งที่ไม่ได้ชอบนิยาย

1
21943' 18 มิ.ย. 60 เวลา 20:11 น. 6-1

บ้านผมก็มีนิยายอยู่ 4-5 เล่ม แต่มันไม่ใช่แนวของผมเลย จริงอย่างที่บอกเลยครับ ส่วนมากที่เจอคือนิยายรัก หรือแนวชีวิตประจำมากกว่า ผมก็คอซีรีส์ คอการ์ตูนเหมือนกันครับ และสำหรับผม จุดเริ่มต้นที่มาเขียนคือ ผมอยากสร้างผลงานที่อัดอั้นในใจตัวเอง ก็ง่าย ๆ คืออยากระบายจินตนาการที่อยู่ในหัวออกมาให้เป็นรูปธรรม เหตุผลของผมคือ "อยากทำหนัง" แต่ในตอนนี้ยังไม่สามารถทำมันได้ เหตุผลของผม เหมือนคุณแทบจะทุกอย่างเลยครับผม

0
หมาป่าน้อยผู้น่ารัก 18 มิ.ย. 60 เวลา 15:47 น. 7

ผมขอสารภาพบาปตามตรงเลยนะ ผมไม่ชอบอ่านหนังสือ ผมไม่ชอบอ่าน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม แถมวิชาภาษาไทยก็ได้แค่เกด 1 (ขาดอีกคะแนนเดียวก็ตกแล้ว) ผมจะชอบวาดรูปมากกว่า


แต่ในตอนนี้... โชคชะตาเล่นตลก มันบีบบังคับให้ผมมาอ่านหนังสือ มันบีบบังคับให้มาเขียน จนมาเป็นนักเขียนโนเนมทุกวันนี้


ซึ่งทำให้ผมตรัสรู้ได้ว่า "เกลียดสิ่งใด มักได้สิ่งนั้น" มันก็ไม่เกินเลยจริงๆ


ในความหมายที่ผมจะสื่อ คือ ไม่มีสิ่งใดที่เราทำไม่ได้ หากเราตั้งใจจริงๆ แม้จะเกลียดเหมือนอย่างผมก็ตาม ฉะนั้นเริ่มหัดอ่าน เริ่มหัดเขียน ได้เลยครับ ขอเป็นกำลังใจให้

1
21943' 18 มิ.ย. 60 เวลา 20:13 น. 7-1

ขอบคุณครับ ผมก็ไม่ชอบอ่าน แต่หลัง ๆ มานี้ ตั้งแต่มาแต่งนิยาย ก็เริ่มรักการอ่านมากขึ้นมานิดหนึ่ง ผมเคยติด 0 ภาษาไทยด้วย 5555

0
Louis Forest 18 มิ.ย. 60 เวลา 15:59 น. 8

ได้ครับ แต่ยังไงก็ต้องศึกษาวิธีการแต่งเรื่อง เล่าเรื่องอยู่ดี แล้วก็ต้องเขียนเยอะๆ หาตัวเองให้เจอ


แถมอีกอย่าง การอ่านมีหลายแบบครับ อ่านนิยายไม่ไดหมายถึงต้องเพิ่อการบันเทิงเสมอไป อ่านเอาสำนวน อ่านเอาศัพท์ เอาสูตรก็ได้ครับ

1
21943' 18 มิ.ย. 60 เวลา 20:13 น. 8-1

ขอบคุณครับ ผมก็อ่านเอาศัพท์ แต่เผลอง่วงหลับตลอด555

0
Anime master 18 มิ.ย. 60 เวลา 16:37 น. 9

ตอนประถมเราไม่เคยอ่านนิยายเลยสักบรรทัดเดียว แต่ที่ลองเขียนนิยายก็เพราะมาเจอเว็บเด็กดีนี่แหละ เห็นเขามีให้แต่งได้ก็เลยแต่ง สิ่งที่ได้คือ...

A:เธอทำอะไรอยู่

ฺB:กินข้าว

ไม่มีการบรรยายใดๆ


หลังจากที่เขียนแบบนั้นไปเรื่อยๆแล้วมันไม่มีคนกด Fav. เลยสักคน เราจึงเลิกแต่ง แล้วเริ่มไปติดเกมบ้าง เสพอนิเมะ อ่านมังงะ อ่านนิยาย ดูซีรี่ห์เกาหลี


จนมาถึงทุกวันนี้เราสามารถอ่านนิยายได้เป็นวันๆ และอยู่กับมันได้เป็นเดือนๆโดยไม่ออกจากบ้านเลย(ปิดเทอม)//แอบฮิคิโคโมรินิดๆ


เวลาที่อ่านหรือดูจะรู้สึกเหมือนได้ยืนอยู่ข้างๆตัวเอกของเรื่องในทุกๆเหตุการณ์ ฉากเศร้าหรือซึ้งก็ร้องไห้ ฉากตลกก็ขำ ไม่ก็ยิ้มอยู่คนเดียวอย่างกับคนบ้าจนคนในบ้านชินกันหมดแล้ว


ผลคือ นอกจากความอินจัดในทุกฉากแล้วดูเหมือนจะไม่ค่อยได้อะไรเลย แป่ว...ตอนนี้พออ่านก็ต้องเริ่มศึกษามันบ้าง เพราะเรากลับมาแต่งนิยายอีกครั้ง


0
Whiteflower Ri 18 มิ.ย. 60 เวลา 16:49 น. 10

เขียนได้ แต่ภาษาจะดีสู้คนที่อ่านมาก ๆ ไม่ได้จ้า แต่บางทีก็ต้องอ่านนะ เพราะภาพที่เรานึกไม่รู้จะเขียนเป็นภาษาออกมายังไง มันเป็นปัญหา หรือไม่เราก็จะมีแต่ภาษาเดิม ๆ ที่ตัวเราเองก็เบื่อ เพราะเราเป็นอยู่ ฮา...เป็นคนอ่านนิยายน้อยมากกกกกกกกก >< ภาษาเลยไม่ดีเท่าไหร่

0
pompenkai 18 มิ.ย. 60 เวลา 17:42 น. 11

เหมือนอยากเป็นช่างเชื่อม


คือไปมองเค้าว่าเค้าเชื่อมแบบนั้น วางแขนแบบนี้

แต่พอไปเชื่อมเอง คุณจะรู้ว่า โคตรยาก เพราะไม่มีพื้นฐาน


นักเขียนต้องมีพื้นฐานคือการอ่าน

การอ่านคือต้นทุนของนักเขียน ยิ่งอ่านมาก การใช้ภาษา การเขียนก็จะพัฒนา


แค่นี้แหละ

0
dnarg11 18 มิ.ย. 60 เวลา 21:20 น. 12

ผมเป็นคนนึงที่ไม่ชอบอ่านนิยายครับ อาการใกล้เคียงกับจขกท.เลยคือเปิดมาไม่กี่หน้าก็ปิดไปแล้ว แต่อยากแต่งนิยาย อยากสร้างเรื่องราวในแบบของเราบ้าง

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าเสียเปรียบคนชอบอ่านนิยาย (เหมือนคนชอบวาดรูปก็วาดๆอย่างเดียวไม่เปิดตาดูงานวาดคนอื่น ก็ไปเรื่อยๆแต่อาจจะช้านอกจากมีพรสวรรค์born to be) ปกติแล้วผมจะเสพย์วิธีการเล่าเรื่องจากการ์ตูนหรือหนังซะมากกว่า เรียกว่าดูวิธีการเชื่อมต่อเรื่องราวความสมเหตุสมผลให้จบในเรื่อง อาจจะต่างจากการอ่านนิยายแต่ก็เป็นหนึ่งในแนวทางที่เราจะเรียนรู้ได้

0
เจ้า(แมว)ขาว 18 มิ.ย. 60 เวลา 21:57 น. 13

ตอนผมแต่งนิยายเรื่องแรกก็ไม่ได้อ่านนะ ปัญหามันเยอะไม่รู้อะไรเลย มีคนติอย่างนั้นอย่างนี้

แต่พออ่านนิยายตามที่มีคนแนะนำมันก็ง่ายขึ้นเยอะ รู้ไหมอ่านนิยายเรื่องเดียวตอบคำถามในการเขียน

ได้มากมาย ถ้าคุณอ่านมากพออาจจะไม่ต้องถามใครอีกเลยก็ได้ ไม่อ่านแล้วจะเขียนน่ะผมผ่านมาแล้ว

อย่าเสียเวลาขี่ช้างจับตั๊กแตนอยู่เลย มันไม่ได้ยากเย็นอะไรขนาดนั้นหรอก

0
moopeepink 18 มิ.ย. 60 เวลา 23:34 น. 14

นักเขียนที่มีชื่อเสียงทุกคน ย้ำค่ะ ว่าทุกคน มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ เป็นนักอ่านมาก่อน

ดังนั้นชอบอ่านมันเป็นขั้นแรกในการพิสูจน์เลย

เพราะถ้าคุณแต่งนิยาย ยังไงคุณก็ต้องอ่านของตัวเอง

ถ้าไม่อ่านเลย มันก็เหมือนจู่ๆ คุณต้องมาเรียนอะไรสักอย่างด้วยตัวเองอ่ะ แบบ เรียนคณิตแบบไม่มีครูสอน สุ่มลองผิดลองถูกเอง เรียนศิลปะ มีให้แต่พู่กันอย่างเดียวแต่ไม่รู้เทคนิคอะไรเลย...สุ่มมันได้แหละ งั้นศิลปินสมัยก่อนที่เรียนเองเค้าคงดังไม่ได้หรอก

ภาษาไม่ได้ความสละสลวยแน่ๆ

สำนวนคิดไม่ออก...บอกตรงๆ ขนาดอ่านมาเยอะยังสำนวนตันอยู่เลยค่ะ


ดังนั้น อยากเป็นนักเขียน ลองเป็นนักอ่านก่อนค่ะ เพราะงานเขียนเป็นงานที่ใช้จิตนาการสูงมากกว่าดูอนิเมะ ดูซีรี่แน่ๆ

ส่วนเรื่องสำนวน อันนี้จริงๆนะ เราเขียนยังไง ลองไปอ่านดู เพราะสำนวนภาษานี่ มักจะได้มาจากเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เราอ่านแน่นอนค่ะ


แต่ลองแต่งดูก็ได้ค่ะ แล้วเราจะได้เห็นจุดแข็งจุดอ่อน ตรงไหนควรปรับปรุงยังไงบ้าง


0
Felinonajang 19 มิ.ย. 60 เวลา 02:04 น. 15

ไม่ชอบอ่านก็สามารถเป็นนักเขียนได้ค่ะ

แต่มันแปลกตรงที่แม้แต่นิยายตัวเองก็ไม่อ่าน

อันนี้อาจจะยากหน่อยถ้าจะให้งานออกมาดีโดยไม่ทวนซ้ำ บางทีการอ่านทวนอาจะทำให้เราพบคำผิด หรือประโยคแปลกๆที่เขียนไปตอนกำลังคิด การอ่านทวนอาจทำให้เราปรับภาษาให้ดีขึ้นได้

เลยเกิดความสงสัยค่ะ แล้วปกติมีคำผิดเยอะไหมคะ

0
❦ Travelers of the Mist 19 มิ.ย. 60 เวลา 07:10 น. 16

เขียนได้ เขียนไปเถอะค่ะ เราเชื่อในปัจเจกบุคคล คนอื่นทำแบบนี้แล้วดี ใช่ว่าเราทำแล้วจะดีเหมือนคนอื่นเสมอไป คนอื่นทำไม่ได้ ใช่ว่าเราจะทำไม่ได้เหมือนคนอื่น ต้องลองผิดลองถูกค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

1
ชนุ่น 19 มิ.ย. 60 เวลา 17:37 น. 17

ตอนสมัยผมอยู่มัธยมต้นผมเพิ่งเริ่มเขียนก็ออกมาเลวร้ายเป็นปกติแหละครับ

เพราะตอนนั้นผมไม่อ่านหนังสืออะไรเลย เขียนตามเพื่อนล้วนๆ ที่อ่านก็มีแต่หนังสือการ์ตูน แบบเดียวกับคุณเจ้าของกระทู้เลยครับ


ถ้าทักษะการอ่านเป็นทักษะสำคัญในการเขียน สิ่งที่คุณควรแก้คือฝึกอ่านหนังสือแบบนี้ให้ได้ดีกว่าครับ --- ไม่ใช่จะว่าอะไรหรอกครับ เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นคนที่อ่านเฉพาะหนังสือเรียนจนไม่สามารถอินกับนิยายได้เพราะไม่เข้าใจ จินตนาการไม่ถูก ก็ต้องแก้ไปตามที่ว่าถ้าอ่านไม่ได้ก็ลองอ่านดู ถ้าไม่ไหวก็ขอหยวนๆ ไปก่อนได้


จากที่ดูมาเจ้าของกระทู้บอกว่าชอบอ่านพวกการ์ตูน ผมอาจแนะนำให้ลองอ่านหนังสือที่ง่ายๆ เช่นวรรณกรรมเยาวชนที่มีภาพประกอบไปก่อนดีกว่าครับ หรือถ้าเป็นพวกมังงะก็ลงอ่านแบบไลท์โนเวลไปเลยครับ คิดเสียว่าเราอ่านการ์ตูนอยู่ แต่เป็นการ์ตูนที่มีเนื้อความมากกว่าภาพแทน อันนี้น่าจะช่วยได้เยอะครับ


ยังไงก็ขอให้คุณเจ้าของกระทู้สู้และมีความพยายาม และขอให้สร้างสรรค์งานเขียนที่ดีได้ไวๆ นะครับ

0