Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ทำไมนิยายเกมออนไลน์ส่วนใหญ่ ถึงเหมือนไม่ใช่นิยายเกมออนไลน์ (หรือผมคิดไปเอง)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
[ท้าวความ] สวัสดีครับ ผม <ปากการุ่นสี่สิบสี่> ผู้ที่เขียนนิยายเรื่อง เกมออนไลน์กับชายวัย 61 ในหมวดนิยายเกมออนไลน์

จากหัวกระทู้ที่ได้ตั้งคำถามไว้ไม่ได้ต้องการจะให้เกิดเป็นกระแสดราม่าเสียแต่อย่างใด

เพียงแต่อยากฟังความเห็นของผู้ที่สนใจเรื่องของหัวข้อที่ผมสงสัย เพื่อมาทำความเข้าใจ และพัฒนาปรับปรุงการเขียนของผมให้ดีกว่าเดิม


ผมเริ่มต้นเขียนนิยายโดยไร้ซึ่งทักษะใดๆ เขียนมันด้วย อารมณ์ ความคิด และสิ่งต่างๆที่ปลูกฝังผมมาให้เติบโตล้วนๆ จนได้รับประสบการณ์เล็กๆน้อย ในการเขียนนิยายจนมีคนอ่านเกินกว่า 1 แสนคน หากลองย้อนกลับไปสมัยปี 2555 - 56 ตอนเรียนปวช. ผม 1 เดือนมีคนอ่านนิยายของผมเพียง 24 คนเท่านั้น 



แม้จะบอกว่ามีคนอ่านเกิน 1 แสนคน และทำได้ภายใน 4 เดือนที่เปิดเรื่อง (10 พ.ย. 59 - มี.ค. 60) แต่ก็ไม่ได้อวย ยกยอว่านิยายของผมนั้นดีเลิศ มันก็มีตำหนิ บ้าง และค่อนข้างเยอะ

เป็นธรรมดาของกลไกอาชีพ หรืออะไรก็แล้วแต่ หากอยากเก่ง อยากพัฒนาหรือ ก้าวนำให้ตัวเองนั้นมีความเก่ง ชำนาญ หรือนำหน้าคู่แข่ง (ขอเรียกว่า คนทางเดียวกัน) เราก็อาจจะต้องศึกษางานของ <คนทางเดียวกัน> และเรียนรู้เคล็ดวิธีต่างๆ ที่คิดว่านั้นแหละเป็นข้อดี มาปรับปรุงแก้ไข ชิ้นงาน ผลงานของเราให้ดีขึ้น
 [ท้าวความ]




[ประเด็น]

อย่างที่กล่าวมา ผมศึกษางานเขียนของนิยายรุ่นพี่ เรื่องต่างๆ เพื่อปรับปรุงและพัฒนานิยายของตัวเอง แต่ยิ่งอ่านไปมากเท่าไรก็จะพบว่านิยายของพวกเขานั้น

 
"เหมือนไม่ใช่นิยายเกมออนไลน์ เพียงแต่เป็นนิยายแฟนตาซี

หรือกำลังภายใน ที่ใส่ความเป็นเกมออนไลน์เข้าไป"


งงไหมครับ  


ผมไม่ได้ต้องการจะมาดีสเครติคใคร หรืออะไร ผมเคารพในงานเขียนของนักเขียนทุกๆคนที่สร้างสรรค์จินตนาการจากสมอง ลงมาสู่เป็นข้อความให้ทุกๆท่านได้อ่านกัน
เพียงแต่ว่าผมอาจจะคิดไปเองเพียงคนเดียวก็ได้



"SAO คือ แรงบัลดาลใจให้ผมเขียนนิยายครับ ..."

บอกได้เลยว่าคงไม่ได้มีแค่ผมเพียงคนเดียวที่ได้แรงบัลดาลใจจากนิยายเรื่องนี้
มันเป็นนิยายเรื่องแรกที่ผมยอมควักเงินซื้อมาอ่าน ในขณะที่เราอยู่ในยุคที่สามารถละเมิดลิขสิทธิ์กันได้ง่ายๆ
 
เนื้อหาของ SAO เป็นนิยายเกมออนไลน์อย่างสมบรูณ์ มีระบบ มีอะไรที่ชัดเจนในโลกของเกมออนไลน์ ไม่ยืดหยุ่นเอนเอียงระบบเพื่อเอื้ออำนวยต่อพระเอกในเรื่อง หรือ เพลย์เยอร์คนใดคนหนึ่งจนดูเหมือนไร้ระบบ (ยกเว้นคนสร้างมันถูกใจพระเอกล่ะนะ)





ต่างจากงานเขียนนิยายเกมออนไลน์ในเว็บบางเรื่อง ที่มีความเป็นแฟนตาซีมากกว่านิยายเกมออนไลน์ (ผมจะไม่กล่าวถึงความสนุกของนิยาย)

- มอนเตอร์กริยาสมจริงเอามากๆ ราวกับไม่ใช่ AI แต่มีนิสัยเหมือนสัตว์ในโลกของเรา 
แม้พระเอกจะมีเลเวลน้อยกว่ามาก ถึงขนาดห่างกันหลาย 10 เลเวล แต่ก็เอาชนะมันจนได้ ไม่ว่าจะด้วยเล่กลต่างๆ รวมถึงใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ โดยอันที่จริงแล้วโลกในเกมออนไลน์เป็นโลกเสมือน ที่ object ต่างถูกเขียนโปรแกรมขึ้นมา (ผมอาจจะโลกแคบเกินไปที่ไม่มีจินตนาการ และจำกัดความไปเองก็ได้)


- ระบบต่างๆที่กำหนดกฏเกณท์โดยขาดความเป็นเกมออนไลน์ เพียงเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตัวเอก... ทำให้ความบาลานซ์ของเกมลดลง เช่นไอเท็มพิเศษ ลิมิเต็ดๆ
จริงอยู่ที่ต้องขายตัวเอก แต่ลิมิเต็ดบ่อยไป (ผมอาจจะเข้าใจไปเอง)

และอื่นๆอีกที่ทำให้ผมคิดว่า "เกมออนไลน์มันแบบนี้เหรอวะ?"

แน่นอนว่านิยายเกมออนไลน์ทุกเรื่องต้องมีแรงบัลดาลใจมาจากเกมอออนไลน์ PC หรือเครื่องเล่นอื่นๆอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น RO YG Flyff CABAL SEAL ฯลฯ แต่นิยายที่ผมได้อ่านให้ความรู้สึกและอารมณ์กลิ่นอาย MMO น้อยมาก โดยได้รับความแฟนตาซีเข้ามาแทน
[ประเด็น]



ผมเลยอยากทราบความรู้สึก ความเห็น หรือข้อวิจารณ์ต่างๆ ที่อาจจะช่วยให้ผมได้ทำความเข้าใจกับข้อสงสัยของผมมากขึ้น

อย่างที่ย้ำบอก ผมไม่มีเจตนาแอบแฝง จิกกัด หรืออะไรใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าผมจะรู้สึกว่ามันเหมือนไม่ใช่นิยายเกมออนไลน์ แต่งานเขียนในแง้ของความบันเทิง รวมถึงสาระเนื้อหา ทุกงานเขียนล้วนต่างก็เป็นงานเขียนที่มีคุณภาพ มีคุณค่าในตัวงานเขียนของมัน

กระทู้นี้จึงตั้งมาเพื่อให้ผมได้ทำความเข้าใจ และปรับปรุงพัฒนาการเขียนเท่านั้น

ยินดีรับฟังทุกความเห็น 





 

แสดงความคิดเห็น

9 ความคิดเห็น

หมาป่าน้อยผู้น่ารัก 18 มิ.ย. 60 เวลา 20:17 น. 1

หากจะให้ว่าในตามจริง นิยายแนวเกม rpg มันจะมีกฎตายตัว นั่นคือ "ไม่มีใครเก่งเกินใคร" เพราะทุกตัวละครจะถูกสร้างมาให้มีความสมดุลระหว่างกัน

แต่ ! เมื่อมันขึ้นชื่อว่า "นิยายแฟนตาซี" อะไรก็เกิดได้ แม้กระทั่งความบังเอิญที่มันไม่ควรมีในเกมก็ตาม หากไม่เช่นนั้นนิยายมันจะกลายเป็นสิ่งที่จืดชืด แล้วถ้าสังเกตดีๆ เราจะเห็นได้ว่า ตัวละครพวกนี้จะมาในแนว "พระเอกเก่งเทพ" หรือ "โชคดีราวกับซื้อหวยกี่ใบก็ถูก" หรือ "เป็นแบบตัวละครแมรี่ซู"

ฉะนั้นก็ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ถ้าพระเอกหรือนางเอกไม่มีอะไรที่เหนือกว่าผู้อื่น มันจะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า "จืดชืด" ถ้าจะให้ยกตัวอย่าง ก็คงเหมือนเรานั่งมองดูคนอื่นเล่นเกม โดยที่ความสนุกนั้นเราไม่ได้ร่วมเล่นด้วย ฉะนั้นนิยายประเภทนี้จึงต้องยัดอะไรหลายๆ อย่าง ใส่ลงไปเพื่อให้มันมีสีสัน ไม่งั้นก็จะไม่มีใครอ่านครับ

และด้วยเหตุนี้ นิยายแฟนตาซีเกมออนไลน์ จึงต้องใส่สิ่งที่เรียกว่า "ชีวิตที่เหมือนในโลกแห่งความเป็นจริงลงไป"

0
อัจฉราโสภิต 18 มิ.ย. 60 เวลา 20:33 น. 2

คนไทยชอบอะไรเว่อร์ๆครับ โกงด้วยยิ่งดี เขียนนิยายในตลาดไทยนี่ฉีกกฎการกระจายบทหรือเฉลี่ยความสามารถตัวละครของหลักการเขียนที่ยอมรับกันทั่งโลกไปได้เลย ไม่ใช่แค่แฟนตาซี นิยายรักก็เป็น ตัวเอกหน้าตาดีเว่อร์ รวยเว่อร์ แบบนี้ถึงจะถูกใจคนไทย (การ "มีสีสัน" นี่ ไม่ใช่ทำได้แค่ใส่ความเว่อร์หรือความเหนือกว่าให้ตัวละครครับ การใส่เอกลักษณ์ ความแตกต่าง แม้จะไม่ได้เก่งหรือเว่อร์กว่าตัวอื่นก็เป็นสีสันได้ แต่ไม่ต้องสนใจหรอก คนอ่านไทยชอบความเว่อร์)


เอาจริงๆ เกมออนไลน์ถ้าจะให้มันสมจริง หลายๆเรื่องอย่างบั๊ก เทพทรู หรือหลุดเข้าไปในเกมออกไม่ได้นี่ ไม่มีทางเกิดขึ้นครับ สองอย่างแรกคุณโดนสังคมผู้เล่นถล่มเละแน่นอน ดูอย่างเอเoยซอฟต์ หรือวิoเนอร์ที่โดนด่าเละเวลาบริหารเกมล้มเหลวก็ได้ ส่วนอย่างหลังสุด หน่วยงานราชการอะไรไม่มีเลยหรือไง ปล่อยให้เกิดเรื่องที่เสี่ยงต่อชีวิตหรือความมั่นคงได้ง่ายๆ


แต่ก็อย่างที่ว่าครับ คนอ่านไทยส่วนใหญ่ไม่สนใจเหตุและผลอะไรนักหรอก ตราบใดที่มันถูกจริตเขา ตัวละครเทพได้ใจ บวกความโกงเข้าไปได้ยิ่งดี และเมื่อบวกกับกระแสเกมออนไลน์จากต่างประเทศ (กระแสแฟนตาซีของไทยต้องมีเทรนด์จากต่างประเทศมานำตลอด ตั้งแต่โรงเรียน เกม จนถึงต่างโลก) และเนื้อหาที่มีสเตตัสมีอะไรให้คนที่เล่นเกมเปรียบเทียบได้ง่ายๆ ต่อให้ไม่สมเหตุสมผลและไม่สมเป็นเกมออนไลน์จริงๆแค่ไหนคนก็ชอบครับ


บางทีผมก็ไม่แปลกใจนะว่าทำไมคน (นอกวงการ) ถึงมองว่านิยายเป็นเรื่องไร้สาระ

0
Anime master 18 มิ.ย. 60 เวลา 22:20 น. 3

อืม... ในความคิดของเราสมมุติว่า ในเกมๆหนึ่งมีผู้เล่นอยู่ 100 ล้านคนจากทั่วโลก จะมีคนที่ติดบั๊กส์เก่งโคตรขึ้นมาสักคนก็ไม่แปลก ซึ่งเราจะใช้คนๆนั้นนั่นแหละเป็นตัวเอก เพราะรอบๆตัวเขาจะต้องมีเรื่องตื่นเต้นต่างจากคนอื่นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน


ส่วนเรื่อง AI ที่เหมือนมีชีวิตนี่ก็นะ พระเอกเรารับบทเป็น AI ...เราก็ว่ามันไม่สมจริง แต่เราหาวิธีทำให้มันสมจริงได้แล้วนะ อย่างในเรื่อง SAO เขาค่อนข้างโฟกัสไปที่เพลเยอร์มากกว่ามอนสเตอร์ ในส่วนนี้ AI จะมีความคิดยังไงเลยไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่สำหรับบางเรื่องคือมันดันสำคัญขึ้นมา แล้วจะแต่งให้ AI ทื่อๆมันก็ดูไม่มีสีสันอีก อารมณ์ประมาณกลืนไม่เข้าคายไม่ออก


แนวเกมออนไลน์เรื่องอื่นๆที่แฝงไปด้วยกำลังภายใน โดยเรียนจาก NPC เราก็ถือว่าพวกจอมยุทธ์เขามาเปิดสำนักในเกมละกัน55555+ จะเอามาใช้ได้จริงในเกมก็โอเวอร์ไป น่าจะเรียนได้ แต่เอาไปใช้ได้แค่ข้างนอกดีกว่า


ไอเทมพิเศษก็น่าจะเป็นอะไรที่หามาได้ยากอยู่แล้ว ถ้ามันจะพิเศษก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน


ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เอาจริงๆคนที่คิดหยุมหยิมแบบนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นนักเขียนทั้งนั้น ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นแล้ว คนที่เขาไม่ใส่ใจ ขอเเค่อ่านแล้วสนุกก็คงมีเยอะกว่านะคะ ขอให้คุณได้แต่งนิยายที่สนุกๆต่อไปก็พอแล้วค่ะ เนี่ยแหละสิ่งที่นักอ่านหวังไว้


ปล.เราก็ชอบดู SAO เหมือนกันค่ะ

13
อัจฉราโสภิต 19 มิ.ย. 60 เวลา 05:03 น. 3-1

เรื่องบั๊กนี่ ว่ากันจริงๆ แปลกครับ


ถ้ามันเก่งโคตรจนเห็นได้ชัด จนเป็นเจ้าเซิร์ฟเวอร์ (หลายเรื่องเป็นแบบนั้น) คนอื่นก็ย่อมสงสัย พอสงสัย ในบอร์ดในสังคมออนไลน์ของเกมนั้นก็จะเริ่มมีกระทู้ถาม หรือถ้ามันชัดเจนมากก็จะเริ่มมีการเรียกร้องให้ตรวจสอบหรือแก้ไข และถ้าทางผู้ให้บริการนิ่งเฉย หรือผู้เล่นจับได้ว่ามีเรื่องอภิสิทธิ์มาเกี่ยวข้องเข้าไปอีก คราวนี้ล่ะครับเลิกเล่นกันเป็นแถบแน่ๆ กระทู้ด่ากระทู้ประณามตามเว็บบอร์ดหรือเพจก็จะเพียบ มันจะเสียไม่ใช่แค่เกมเกมนั้น แต่เสียไปถึงค่ายเลยครับ เอาจริงๆ แค่อาชีพหนึ่งอ่อนกว่าอาชีพหนึ่งสักหน่อยก็มีคนเรียกร้องแล้ว


(ขึ้นอยู่กับประเภทเกมด้วย ถ้าเป็นเกมที่เน้นแข่งกับตัวเองหรือร่วมมือกันทำภารกิจก็อาจจะมีข้อเรียกร้องน้อยหน่อย แต่ถ้าแข่งกันเองได้ อย่างมีระบบ PVP หรือสงครามกิลด์ หรือมีของรางวัลสำหรับคนเก่งที่สุดในเซิร์ฟเวอร์ อันนี้ไม่ต้องพูดถึงครับ โดนแน่)


หรืออีกแบบ คำว่า "บั๊ก" คือช่องโหว่ในโค้ด โค้ดนั้นไม่ได้เขียนแยกสำหรับแต่ละตัวละครแน่นอน ดังนั้นโอกาสที่มันจะมีผลกับตัวละครแค่ตัวเดียวนั้นยากมากพอๆกับถูกล็อตเตอรี่ ส่วนใหญ่ถ้ามีผล ก็มักจะมาจากการที่ผู้เล่นทำอะไรที่เข้าเงื่อนไขในการไปติดบั๊ก เมื่อมีผู้เล่นคนหนึ่งรู้ เขาจะบอกต่อกับเพื่อนกับคนคุ้นเคยแน่นอน และมันจะเก่งเทพกันเป็นแถบ สุดท้ายวิธีการใช้ประโยชน์จากบั๊กนี่ก็จะรั่วไปยังสังคมออนไลน์ของเกมนั้น แล้วมันก็จะเก่งเว่อร์จนไม่สมดุลกันทั้งเกม ทีนี้ก็มีทางเลือกสองทาง ผู้ให้บริการแก้บั๊ก หรือมันเก่งเว่อร์จนเกมไม่ท้าทาย แล้วคนก็เลิกเล่นอยู่ดี (ไม่นับพวกที่ไม่ยอมใช้ประโยชน์จากบั๊ก ซึ่งถึงจุดนี้น่าจะก่นด่าผู้ให้บริการจนเลิกเล่นไปนานแล้ว)


และอย่าลืมว่าเกมอื่นมีให้เล่นเยอะแยะ ถ้าเกมนี้มันไม่สมดุล มีคนโกงหรือมีบั๊กจนเทพเว่อร์ คนก็เลิกไปเล่นเกมอื่นครับ ต่อให้บอกว่าเกมนั้นใหม่ล่าสุด มีเทคโนโลยีเหนือกว่าเกมอื่น แต่ในความเป็นจริง เกมอื่นๆ จะตามเทคโนโลยีทันอาจจะตั้งแต่ก่อนเปิดเบต้าเทสต์ด้วยซ้ำครับ เรื่องพวกที่ว่ามีเกมเดียวครองตลาดคนทั้งโลกนี่ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้


สถานการณ์จริงมีให้เห็นครับ อย่างเกม Ragnarok ที่นำมาเปิดใหม่ คนรอเล่นกันเพียบ แต่พอเห็นว่าระบบเกมไม่สมดุล ผู้ให้บริการไม่แก้ไข แถมมีเรื่องอภิสิทธิ์มีผู้เล่นบางคนที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการได้รับผลประโยชน์ คนลดฮวบทันที แค่สองสามอาทิตย์ถ้าจำไม่ผิดลดลงมากกว่าครึ่งครับ สุดท้ายแค่ไม่กี่เดือนก็เงียบหาย คนไปเล่นเกมอื่นกันหมด เหลือแต่บอทกับพวกฮาร์ดคอร์แฟน หรือไม่ก็พวกได้รับผลประโยชน์ที่ว่าไปแล้ว


ดังนั้น จะเห็นได้ว่าเกมออนไลน์จริงๆ การมี "บั๊ก" หรือมีคนโกงจนเทพ อาจเป็นไปได้ แต่ไม่มีทางอยู่ได้นานครับ ถ้าผู้เล่นไม่โดนปรับหรือโดนแบนไป สังคมเกมก็จะล่ม ถ้าเป็นคนที่มีประสบการณ์เล่นเกมออนไลน์มาจริงๆ จะรู้เรื่องนี้ดีครับ

0
Anime master 19 มิ.ย. 60 เวลา 17:29 น. 3-2

ในกรณีที่พระเอกเป็นผู้เล่นใหม่ แต่ตัวร้ายเล่นมานานแล้วและเทพมากจะทำยังไงคะ ต้องให้ตัวร้ายเลิกเล่นรอไหม หรือให้พระเอกแพ้ตลอดไปดี จะให้พระเอกชวนเพื่อนมารุมตัวร้ายแบบหมาหมู่ก็คงชนะได้นะคะดีมั้ย


ถ้าจะเอาให้เหมือนในเกมจริงๆทุกกระเบียดนิ้วขนาดนั้น ก็คงไม่ต้องมานั่งแต่งแล้วล่ะ นิยายเกมออนไลน์เนี่ย เอาเวลาไปเล่นเกมจริงๆยังดีซะกว่า เคยเล่นเกมออนไลน์อยู่ค่ะ เป็นตั้งแต่ลูกกะจ๊อกยันหัวกิลด์ใหญ่ รับปรึกษาปัญหาเกมยันปัญหาชีวิตของลูกกิลด์ พอผ่านไปนานเข้า มันก็เริ่มเบื่อนะคะเพราะมันก็มีแต่ด่านเดิมๆที่เล่นมาหมดแล้ว ไอเทมก็เดิมๆ ไม่เติมก็ใช้ของกากไป แต่ก็ต้องเล่นต่อเพราะไม่อยากทิ้งพวกลูกกิลด์ที่น่ารัก


แต่ละเกมสังคมก็ไม่เหมือนกันนะคะ เจอเกมนึง...(ไม่เอ่ยนาม) เป็นเกมที่ให้เควสมหาโหดกับเพลเยอร์เลเวลต่ำ พวกเขาจึงมีหนทางเดียวที่จะผ่านเควสนั้นได้คือ เกาะคนที่เทพๆให้พาไปลงดันเจี้ยนค่ะ บางทีก็ใช้จ้างบ้างไรบ้าง พวกเทพๆส่วนใหญ่ก็อยากจะเล่นแต่กับคนที่เทพเหมือนกันนั่นแหละค่ะ พอพวกเลเวลต่ำโผล่เข้ามาก็จะโดนเตะออกทันที แม้ว่าคนเลเวลต่ำจะอ้อนวอนแค่ไหนก็ตาม "พี่ช่วยผมด้วยเถอะ!" "อย่าเตะผมออกเลยนะขอร้อง" เป็นประโยคที่ได้ยินบ่อยมากค่ะ แต่ถ้าช่วยก็คงจะเป็นคนรู้จักกัน เราจึงตั้งกิลด์ที่รับทุกเลเวลเพื่อช่วยเพลเยอร์ใหม่โดยเฉพาะขึ้นมา และเมื่อเขาปีกกล้าขาแข็งพอ เขาก็จะบินไปสู่กิลด์ที่ให้ผลกำไรดีกว่า ซึ่งเราก็ไม่แคร์นะ คนเก่าออก คนใหม่ก็มาเรื่อยๆกิลด์เต็มแล้วเต็มอีก มันเหมือนเป็นสังคมที่แข่งขันกันตลอดเวลาว่าฉันจะต้องได้ไอเทมดีๆ ฉันต้องเหนือกว่าใคร เพื่อที่จะไม่โดนดูถูก เพื่อจะได้ไม่ต้องแพ้ เพราะการที่พลังน้อยกว่าก็เท่ากับเป็นเป้านิ่งให้เขายิงทิ้งเล่นๆมันเจ็บใจ อันนี้เราเข้าใจว่ามันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่ตัวเราก็ดันเป็นคนที่จมปลักอยู่ที่เดิมซะเองและมองพวกเขาที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ


กลับกันบางเกมคนในสังคมนั้นกลับไม่สนใจเลยว่าคนๆนั้นจะเลเวลอะไร ไม่มีใครดูถูกใคร เพราะทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับฝีมือ เช่น MOBA หรือ เกมเต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มาจากระบบของเกมที่ไม่ให้ความสำคัญกับพลังที่สะสมไว้ตั้งแต่เริ่มเล่น เรามองว่า MMORPG เป็นอะไรที่โหดร้ายนะ มันทำให้เล่นแล้วติด โดยมีความหวังว่าตัวเองจะเลเวลสูงๆ


มาถึงจุดนี้แล้ว เราอยากแต่งนิยายเกมออนไลน์ค่ะ ไม่ใช่นิยายดราม่า ในเมื่อเราเป็นพระเจ้าในโลกของเราแล้ว เราก็ทำให้พวกเขาปรองดองกันซะสิ!

0
อัจฉราโสภิต 19 มิ.ย. 60 เวลา 17:44 น. 3-3

ก็ไม่ต้องเขียนเป็นเกมออนไลน์สิครับ ? เขียนเป็นแฟนตาซีแล้วได้พลังเทพนี่ยังจะดูสมเหตุสมผลกว่า ในเมื่อจะเขียนแนวหนึ่งๆ ก็ต้องยอมรับข้อจำกัดหรือลักษณะเฉพาะของแนวนั้นๆด้วย เพื่อให้มันสมกับเป็นแนวนั้นๆครับ


และเอาจริงๆ การใช้วิธี "ตัวร้ายเก่ง ตัวเอกกาก เลยให้พลังโกงๆกับตัวเอกอย่างไม่มีเหตุผลเพื่อให้ชนะตัวร้ายได้" นี่ เป็นแนวอื่น แม้แต่แฟนตาซีธรรมดานี่ยังจะโดนด่าเละเลยนะครับ เพราะมันมีวิธีอื่นที่สามารถทำได้อย่างน่าสนใจกว่านั้น และไม่ขอไปทีแบบนั้น (อาจไม่ใช่กับตลาดนักอ่านไทย อย่างที่ว่าไป)


ที่คุณพูดมานั้นถูกต้องครับ MMORPG ทำให้คนติดเพราะอยากเลเวลสูง แต่ถ้าสามารถโกงได้ หรือ "ติดบั๊ก" ขึ้นมาจริงๆ มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเล่นต่อถูกไหมครับ ก็อย่างที่คุณพูดมาอีกนั่นแหละว่าเมื่อไปถึงช่วยท้ายเกมมันก็เล่นมาหมดแล้ว การ "ติดบั๊ก" (ในความหมายที่นิยายเกมออนไลน์ชอบใช้) เก่งเทพกว่าคนอื่น มันก็คือการไปถึงจุดนั้นเร็วกว่าปกติเข้าไปอีก เพราะเนื้อหาของเกมทำมาเพื่อให้คนปกติที่ไม่ติดบั๊กเล่น มันแทบไม่มีโอกาสที่จะ "ได้เจอเรื่องสนุกตื่นเต้นกว่าคนปกติเพราะติดบั๊ก" เลยครับ ยกเว้นเกมนั้นจะทำเนื้อหาที่ท้าทายกว่าปกติ ยากกว่าปกติให้คนที่ติดบั๊กเท่านั้นเล่น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เพราะคนติดบั๊กไม่ควรจะมีเยอะ ทำเนื้อหามาให้คนนิดเดียวเล่นเท่านั้นหรือ แล้วคนที่ไม่ติดบั๊ก ไม่ใช้บั๊กล่ะ ถ้าเขารู้เรื่องเนื้อหานั้น เขาจะรู้สึกยังไงที่เขาไม่อาจเข้าไปเล่นได้ คือการมี "บั๊ก" นี่ไม่สมกับการเป็นเกมด้วยประการทั้งปวงครับ


ไม่ว่าจะแนวไหน การมีบั๊กก็ทำให้สังคมในเกมแย่ลงทั้งนั้นครับ ถ้าแนวที่เน้นเลเวลไม่ได้เน้นฝีมืออย่าง MMORPG ดั้งเดิม คิดว่าคนโกงจะมาช่วยเหลือผู้เล่นใหม่ หรือร่วมมือกับผู้เล่นอื่นเพื่อเอาชนะอะไรสักอย่างหรือครับ ดีไม่ดีจะกลายเป็นเกรียนมาก่อกวนผู้เล่นอื่นด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่มีอะไรจะทำ และไม่มีอะไรจะเสีย


ส่วนพวกเกมที่ต้องใช้ฝีมือส่วนตัวของผู้เล่น การมีบั๊กเทพ การโกงจนเทพ ก็ทำให้ฝีมือไม่พัฒนา ก็มีไม่กี่ทาง จะโกงไปตลอดแล้วเลิกเล่นเพราะมันไม่ท้าทาย โกงไปแล้วไปเกรียนผู้เล่นอื่นจนสังคมเสียเหมือนประเภทที่แล้ว หรือไม่ถ้าทางผู้ให้บริการแก้บั๊กโรคแบ็กตัวละคร เขาก็จะกาก สุดท้ายก็ไม่ได้ทำให้สังคมเกมดีขึ้นอยู่ดี

0
Anime master 19 มิ.ย. 60 เวลา 18:49 น. 3-4

ยังไม่จบเรื่องบั๊กอีกหรือนี่? เข้าใจไหมคะว่าเราเปรียบเปรย สมมุติ น่ะค่ะ สมมุติ ซึ่งเราแค่อยากให้ลองมองในมุมนั้น มันไม่จำเป็นต้องติดบั๊กก็ได้ค่ะ ตัวเอกอาจจะเทพได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากบังเอิญไปเจอไอเทมลับและกระหน่ำตีมอนสเตอร์ จะอะไรก็ว่ากันไป และในผู้เล่นมากมายมันก็น่าจะมีเพลเยอร์แบบนี้อยู่สักคน


นิยายดังๆที่ตัวเอกเทพเว่อร์อย่างนี้ก็มีให้เห็นกันดาษดื่น เขาแต่งให้คนที่อ่านงานของเขาได้อ่านอย่างสนุก ไม่ใช่แต่งให้คุณพอใจคนเดียวนะคะ ถึงคุณจะไม่ชอบ แต่ก็ยังมีคนที่ชอบอีกมาก คุณไม่มีสิทธ์ไปตัดสินจินตนาการของใครให้แคบลง เรื่องแบบนี้ให้นักอ่านเขาพิจารณาเอาเองดีกว่าค่ะว่า นิยายตัวเอกเทพเว่อร์เหมาะสมจะอ่านหรือไม่


เราเคารพในความคิดเห็นของทุกๆท่านเลยค่ะ รวมทั้งความคิดเห็นของคุณอัจฉราโสภิตด้วย กระทู้แบบนี้ ไม่มีความคิดเห็นไหนถูก ความคิดเห็นไหนผิด เพราะมันก็เป็นเพียงความคิดจากคนๆหนึ่งที่มาร่วมกันแบ่งปันเท่านั้น ขอบคุณมากค่ะ เราก็ไม่ได้ยึดติดว่าคนอื่นๆต้องเข้าใจเหมือนเรา ถึงความคิดเห็นไหนจะไม่ถูกจริต เราก็รับไว้ศึกษาอยู่ดี ถ้าไม่มีใครมาตอบความคิดเห็นเพื่อแย้งเรา เราก็ไม่แย้งกลับหรอกค่ะ


สุดท้ายนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้ จขกท. สร้างสรรค์ผลงานดีๆต่อไปนะคะ


0
อัจฉราโสภิต 19 มิ.ย. 60 เวลา 18:55 น. 3-5

จะบั๊กหรือจะไอเทมลับก็ตามครับ มันคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในเกมออนไลน์ในความเป็นจริงครับ เพราะเกมก็คือเกม เกมมีตรรกะ เกมสร้างมาเพื่อให้ผู้เล่นทุกคนเล่นได้อย่างเท่าเทียม หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกัน ไม่มีทางที่ผู้เล่นคนหนึ่งจะเจออะไรที่ทำให้เก่งเทพสุดๆ ขึ้นมาทันทีโดยคนอื่นตามไม่ทัน และถ้าเกิดแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ ก็มีกลไกป้องกันและแก้ไขอยู่แล้ว หรือไม่ผู้เล่นคนอื่นๆก็จะเลิกเล่นเกมนั้น


แล้วก็อย่างที่ว่า ไม่ว่าจะแนวไหน ตามหลักการเขียน ถ้าโยนความโกงใส่ตัวละครที่กากๆไม่มีอะไรเลยเพื่อจะเอาชนะให้ได้นี่โดนนักวิจารณ์ด่าเละแน่นอน (มีข้อยกเว้น แต่ไม่มาก)


แต่ก็อย่างที่ผมว่าไป คลาดนักอ่านไทยไม่ได้สนใจความสมจริงครับ เขาสนใจความเทพ ความโกง หน้าตา และอะไรทำนองนั้น นั่นทำให้มี "นิยายดังๆที่ตัวเอกเทพเว่อร์" ออกมากันดาษดื่นอย่างที่ว่า


อาจจะมองว่าเป็นการตัดสินจินตนาการ แต่นี่คือสิ่งที่ผมเห็นครับ เห็นมาหลายปีแล้วด้วย และเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดนิยายหรือสื่อบันเทิงของประเทศอื่น (ที่ผมเห็นมาจริงๆก็ญี่ปุ่น) มันทำให้ตลาดนิยายไทยไม่ค่อยไปไหนครับ จะโทษคนเขียนก็ไม่ได้เต็มปากเพราะคนอ่านเราชอบแบบนี้ คนเขียนหลายคนเขาเขียนเพื่อค่าต้นฉบับ ก็ต้องเขียนในสิ่งที่ขายได้นั่นแหละ

0
ปากการุ่นสี่สิบสี่ 19 มิ.ย. 60 เวลา 22:16 น. 3-6

ผมว่ามุมมองทั้งสองคนก็มีความเป็นไปได้

และสมเหตสมผลกันทั้งคู่


ในเกมออนไลน์ บั๊ก ย่อมถูกแก้ด้วยแพทซ์

แต่เท่าที่อ่านหลายๆเรื่อง เหมือนเกมจะเปิดและยิงยาวเลย ไม่มีอัพแพทซ์หรืออะไร


ในความเป็นจริง ความสมเหตสมผล ผู้พัฒนาน่าจะมีความเชี่ยวชาญมากกว่าผู้เล่นในเรื่องระบบ แต่กลับเป็นตัวเอกเองที่เก่งไปทุกอย่าง


ยิ่งอ่านหลายๆความเห็นก็ท่าว่าจะจริง ที่ว่าความเวอร์นั้นขายได้



แต่ดูๆแล้วมันก็คงไม่ใช่แนวๆที่ผมอยากเขียนอยู่ดี ถ้าจะเน้นศึกษาการบรรยายระบบเกม เห็นที่จะต้องเป็น นิยายจากโซนยี่ปุ่นหลายๆเรื่องที่บูมอยู่จริงๆ



0
Oregon Trail 20 มิ.ย. 60 เวลา 16:44 น. 3-7

คนนึงเถียงเรื่องนิยาย อีกคนเถียงเรื่องเทคนิค น่าจะมีคนกลางช่วยกันคุย

0
อัจฉราโสภิต 20 มิ.ย. 60 เวลา 16:51 น. 3-8

สำหรับผม นิยายต้องมีความสมจริง สมเหตุสมผลในตัวมันในระดับหนึ่งครับ


พูดว่าเกมออนไลน์ ก็ต้องทำให้มันเป็นเกมออนไลน์ ไม่ใช่อะไรก็ไม่รู้ที่บอกว่ามันเป็นเกมออนไลน์ครับ


เกมออนไลน์ไม่ได้มีแค่มอนสเตอร์ กิลด์ อัพสกิล เลเวล NPC หรือตัวเลขทั้งหลายเท่านั้น แต่มันมีลักษณะทางเทคนิคของสิ่งที่เรียกว่าเกมออนไลน์ด้วยครับ การแก้ไขบั๊ก การจัดการคนโกงหรือใช้ประโยชน์จากบั๊ก การปรับปรุงแก้ไขระบบของเกม เป็นธรรมชาติของเกมออนไลน์ (เอาจริงๆ เกมทุกประเภทนั่นแหละ แต่เกมออนไลน์เล่นกันได้หลายคน การโกงจึงเห็นชัดและไม่พึงปรารถนามากที่สุด) แม้แต่ธรรมชาติของ "บั๊ก" ก็ยังมีคนเข้าใจผิดๆกันเยอะแยะมากมายด้วยซ้ำ


แต่ก็อย่างว่า จะสนใจทำไมเนอะ คนอ่านเขาก็ไม่สนอยู่แล้ว ถูกจริตเขาเป็นใช้ได้

0
Oregon Trail 20 มิ.ย. 60 เวลา 17:18 น. 3-9

ถ้าจะเขียนนิยายสนุกกว่าตอนนี้ต้องเปลี่ยนลุคใหม่เลย นิยายเกมออนไลน์เรื่องเก่ายุคแรกๆกับตอนนี้แทบไม่ต่างกันเลย ถึงขายได้ในประเทศไทยก็ไม่น่าจะขายดีนอกประเทศ เพราะพล็อต ตัวละคร การเซตติ้ง มุกขำๆ และธีมที่คนไทยเขียนก็ไปยืมหรือลอกแนวคิดจากนิยายของต่างประเทศที่ดังกว่า ผมเห็นด้วยว่าควรสมจริงบ้าง แต่ถ้ามัวแต่ลอกแนวคิดของนิยายที่เขียนดีกว่า ก็ไม่ได้สนุกไปกว่าเรื่องอื่นหรอก


ส่วนบั๊ก ไม่ต้องดูเกมเก่าไกลๆหรอก ล่าสุด Friday the 13th The Game ว่างๆลองหาใน twitch ดูคนไลฟ์บ้าง พวกบั๊กที่ไม่ได้ทำให้ตัวเองเทพจะเป็นยังไง คุ้มค่าจ่าย 729 บาทรึเปล่า (ไม่ได้จะโฆษณา)

0
Oregon Trail 20 มิ.ย. 60 เวลา 17:37 น. 3-11

เปล่า ไม่ได้แปลว่าลอกเรื่องอื่นแล้วสนุกขึ้น ผมแค่อยากออกความเห็นเอง

0
Oregon Trail 20 มิ.ย. 60 เวลา 18:23 น. 3-12

แต่ถ้าอยากจะให้นิยายเกมออนไลน์กลับมาสนุกคึกคักเหมือนยุคทองที่ MSO ยังไม่ตีพิมพ์ ต้องปฏิวัติตัวเองใหม่เลย เป็นตัวของตัวเองเพื่อแสดงจุดยืนชัดเจน


ตัวอย่างเช่น ผมได้แรงบันดาลใจ The King's Avatar เขียนโดย Butterfly Blue จึงอยากเขียนแนวเกมออนไลน์ แต่ต้องแน่ใจว่าผมไม่ได้เขียนเรื่อง The King's Avatar เขียนโดยผมเองไม่ใช่ Butterfly Blue พร้อมย้อมแมวเป็นชื่อเรื่องอื่น ถ้าเชื่อว่าจินตนาการไร้พรมแดน ไม่งั้น ถามคนอ่านหน่อยว่า The King's Avatar ของ Butterfly กับ The King's Avatar (ย้อมแมวเป็นชื่ออะไรไม่รู้) ของผม ใครเป็นที่น่าจดจำมากกว่ากัน พอจะนึกออก


ส่วนระบบเกมก็เขียนตามสมควรผ่านเนื้อเรื่องพอ ไม่ต้องยัดเยียด เพราะคนอ่านไม่ได้จะมาสอบเก็บคะแนนปลายภาคจากนิยาย (ใจจริงอยากจะเขียนแนว e-sport แต่ไม่มีอารมณ์เขียนแล้ว)

0
Anime master 20 มิ.ย. 60 เวลา 18:23 น. 3-13

นิยายเกมออนไลน์มีเยอะมาก และหลายๆเรื่องก็คล้ายกันอย่างช่วยไม่ได้เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามระบบ เริ่มที่เมืองเริ่มต้น ตีมอนสเตอร์ หาแรร์ไอเทม อัพสกิล อัพเลเวล แข่งขันกับตัวร้าย และถ้าให้ทุกเรื่องเหมือนเกมจริงๆกันหมด มันก็คงจะออกมาซ้ำๆซากๆ ไม่แปลกที่ผู้แต่งจะหาอะไรมาเสริมให้นิยายของตัวเองแตกต่างจากผู้อื่น เห็นด้วยกับคุณ Oregon Trail ว่าต้องฉีกกฎจากนิยายเกมออนไลน์เรื่องอื่นๆมันถึงจะโดดเด่นได้


เราไปลงดันเจี้ยนกับเพื่อน ตอนจับการ์ดไอเทมก็จับด้วยกัน เราได้แค่หินตีบวกเกรดต่ำ แต่เพื่อนได้ อาวุธแรร์ไป ถามว่าเราจำเป็นต้องรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้มันโกงไหมคะ คำตอบคือไม่ เราก็แค่มองว่าเพื่อนมันโชคดีก็เท่านั้น ยกเว้นพวกขี้อิจฉาน่ะนะ ที่คิดว่าตัวเองไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน


เรื่องที่เราแต่งก็แทบจะเล่นกับการแฮกระบบเลยด้วยซ้ำ การที่ทางบริษัทเกมจะรีบออกมาป้องกันมันแน่นอนอยู่แล้ว แต่ในกรณีที่เจ้าของเกมดันเป็นคนแปลกๆที่ชอบเล่นสนุกกับเหตุการณ์ใหม่ๆล่ะ เห็นไหมคะ เราสามารถหาข้ออ้างมาได้หมดแหละ เพราะนี่มันคือนิยาย ถ้าไม่สมจริงก็หาเหตุผลมารองรับให้มันสมเหตุสมผลซะก็สิ้นเรื่อง


นิยายที่จมปลักอยู่กับสังคมแบบเดิมๆ คนที่อ่านนิยายแบบนั้นก็ไม่ได้ข้อคิดที่จะเอามาพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นหรอกค่ะ คิดวนๆได้แค่นั้น มีแต่จะซ้ำเติมกับสิ่งที่เป็นอยู่ "มนุษย์ก็แบบนี้แหละ"


ยังมีความคิดดีๆอีกหลายแง่มุมที่จะทำให้คนอ่านมองว่า "คนที่คิดได้แบบนี้ก็มีด้วย แล้วถ้าเราเป็นคนแบบนั้นล่ะ สังคมจะดีขนาดไหน" โดยเฉพาะพวกเด็กๆ(รวมเราด้วยนะฮ่าๆ) ที่ปลูกฝังสิ่งต่างๆได้ง่าย ถ้าเราเลือกที่จะเผยด้านดีให้เขาเห็น โตมาเขาก็จะเป็นคนดีค่ะ


ถ้าคุณคิดได้แต่ความเป็นจริง คุณก็จะได้อยู่กับความจริงนั้นตลอดไป แต่ถ้าคุณคิดนอกกรอบ ก็จะได้เจอกับอะไรอีกหลายๆอย่างที่ตัวคุณก็นึกไม่ถึงว่า "มันมีวิธีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย"

0
Oregon Trail 19 มิ.ย. 60 เวลา 00:04 น. 4

สำหรับนิยายเกมออนไลน์ สมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้วครับ นิยายบางเรื่องเขียนมาเหมือนไม่เคยเล่นเกมออนไลน์อะไรจริงอะไรจังแล้วทึกทักว่าเล่นเยอะ บางเรื่องเขียนมายังกะมีประสบการณ์เล่นเกมออนไลน์ต่ำกว่า 3 ปี ขณะแนวเกมออนไลน์สัญชาติญี่ปุ่นมันไปถึงไหนแล้ว


อย่างไรก็ตาม นิยายเกมออนไลน์ไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักเขียนฝั่งยุโรปและอเมริกา (พูดในส่วนที่ตีพิมพ์แล้ว) ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการของผู้บริโภคทางนั้นเอง ระหว่างเกมออนไลน์ที่ "เล่นเกมได้" กับเกมออนไลน์ที่ "อ่านอย่างเดียว" ส่วนมากเลือกอันที่เล่นได้จริง เพราะต้องการเกมเพลย์ที่จับต้องได้ต่างหาก อ่านนิยายเกมออนไลน์กี่รอบตัวคนอ่านก็เล่นไม่ได้อยู่ดี ที่หน้าคำโปรยที่อัดข้อมูลระบบเกมเท่าไร สิบปากว่าไม่เท่าเล่นเกมรอบเดียวจบ เอาตรงๆเลย ตอนดูคนอื่นเล่นจะเสพเกมเพลย์กับเนื้อเรื่องด้วยไม่อินหรอก ตอนเล่นเองสิรู้เรื่องกว่า


ถ้าอยากคาดหวังกับนิยายเกมออนไลน์ดีกว่านี้ แนะนำไปหาอ่านของต่างประเทศดีกว่า เคยเจอเรื่องหนึ่งตีความเด็กติดเกมต่างจาก SAO หน้ามือเป็นหลังมือเลย แบบว่าคอนเซ็ปของเรื่องคือ "ในชีวิตประจำวัน วันๆพวกพระเอกเด็กติดเกมทำอะไรนอกจากเล่นเกม" อันนี้น่าสนใจกว่า SAO กับ log horizon เยอะเลย แถมใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนไทยนับล้านคน

0
ต่ายนิ่มขี้เซา 19 มิ.ย. 60 เวลา 12:04 น. 5

ถ้า จขกท. อยากหาตัวอย่างนิยายแนวเกมส์ออนไลน์ ดีๆ ซักเรื่อง

เราแนะนำ No Game No Life ค่ะ

ลองดูเป็นอนิเมะก่อน ถ้าชอบสอย Light Novel มาเลยค่ะ

ใน Light Novel จะได้รายละเอียดเยอะกว่า

ถึงจะดูเหมือนพวกพระเอกโกง แต่ตอนหลังการแข่งขันเกมส์นั้นๆ

จะมีเฉลยหมดค่ะ ว่าพวกพระเอกคิดยังไง มีเหตุ มีผล ยังไงในการคิด

แล้วทุกอย่างมันจะเกี่ยวโยงกันหมด

ซึ่งเราทึ่งมากที่คนเขียนคิดได้ขนาดนั้น
ส่วนใหญ่วิธีชนะของตัวเอกในเรื่องนี้
จะเป็นการอาศัยช่องโหว่ของกติกาในเกมส์
ความไม่รู้ ไม่เข้าใจในเกมของฝ่ายตรงข้าม
โดยแผนที่จะชนะเกมนั้นๆ มักจะถูกวางไว้ตั้งแต่ตอนจะท้าแข่งแล้ว

4
sunshadow 19 มิ.ย. 60 เวลา 21:22 น. 5-1

เราชอบเรื่อง The King’s Avatar นะ นักเล่นเกม e-sport ที่โดนทีมตัวเองกดดันให้เลิกเล่น แต่ออกมาตั้งทีมของตัวเองกลับไปสู้อีกครั้ง นิยายจีนที่มีคนเคยแปลแล้วติดลิขสิทธิ์เลยไม่ได้แปลต่อ นิยายฉบับที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ (http://gravitytales.com/novel/the-kings-avatar) ก็เพิ่งแปลไปได้ประมาณครึ่งเรื่องจาก 1700 กว่าตอน แต่ตอนนี้ทางจีนทำออกมาเป็นอนิเมชั่นแล้วล่ะ ><"

http://www.zone-anime.net/quan-zhi-gao-shou-the-kings-avatar/



0
sunshadow 19 มิ.ย. 60 เวลา 22:34 น. 5-3

เอ๋!? มีเป็นเล่มขายด้วยเหรองับ ภาษาอะไรน่ะ

0
MTHPH 20 มิ.ย. 60 เวลา 13:11 น. 6

ผมไงเขียนแนบเกสออนไลน์ ตั้งโจทย์และคำโปรยไว้แล้วว่า ไม่บังเอิญ ไม่โชคดี ตัวละครมีประสบการณ์แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ดำเนินเรื่องแบบอิงถึงหลายจุดในเกม แต่มันน่าเบื่อสำหรับผมอ่าน คุณเขียนได้ดีคนถึงได้ชอบ

1
ปากการุ่นสี่สิบสี่ 20 มิ.ย. 60 เวลา 13:53 น. 6-1

เพราะเพิ่งเขียนหรือเปล่า ตอนเขียนแรกๆ เนื้อเรื่องของผมก็ออกทะเลจนต้องมารีไรต์ให้น่าอ่าน เปลี่ยนจากตัวที่สร้างมาเพื่อจะเป็นนางเอก ให้กลายเป็นตัวร้าย ฯลฯ

0
onetwoonechan 20 มิ.ย. 60 เวลา 14:49 น. 7

เรื่องนิยายเกมออนไลน์ เมื่อก่อนสมัยบูมๆ ผมก็ชอบนะ ชอบมากด้วยเพราะมีอะไรหลายๆอย่างที่ถูกจริตกับคนเล่นเกม แต่เอาจริงๆส่วนใหญ่แล้วก็เป็นอย่างที่ จขกท พูดนั่นแหละครับ มันคือนิยายแฟนตาซีที่เพิ่มกฎเกณและข้อมูลต่างๆ เข้าไปเพื่อให้ง่ายต่อการเขียนมากขึ้น เพราะกฎเกณต่างๆ ถูกฟิกส์เอาไว้หมดแล้ว และการแหกกฎเกณเหล่านั้นคือความน่าสนใจของนิยายเกมออนไลน์สมัยก่อน (ผมไม่แน่ใจว่าสมัยนี้เปลี่ยนไปยังไงบ้าง เพราะเลิกอ่านไปนานแล้ว เลิกอ่านก่อนที่ SAO จะมีลิขสิทธ์ในไทยซะอีก)

แต่สำหรับสมัยนี้ ถ้าจะเขียนนิยายเกมออนไลน์ ให้เป็นนิยายเกมออนไลน์จริงๆ ต้องเลิกทัศนคติว่ามันเป็นแฟนตาซีทิ้งไปได้แล้ว เกมออนไลน์ที่เป็น MMORPG แฟนตาซีมันไม่บูมเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ เสนห์หลายๆ อย่างในเกมมันกลายเป็นความน่าเบื่อ ความยุ่งยาก น่ารำคาญไปแล้ว นั่นแหละคือเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เกมที่ออกมาใหม่ๆ สมัยนี้หันไปจับรูปแบบอื่นนอกเหนือจากการเก็บเลเวลตีมอนไปวันๆ เปลี่ยนไปใช้รูปแบบความท้าทายในการแข่งขันแทน

0
RED DAGGER 25 มิ.ย. 60 เวลา 15:04 น. 8

ขอแสดงความคิดเห็นในฐานะผมเพิ่งเริ่มเขียนนิยายเกมออนไลน์เหมือนกันครับ 

หลังจากเก็บพล็อตและข้อมูลต่างๆอยู่ในหัวมาหลายปี ที่ท่านกล่าวมาเบื้องต้น ผมเห็นด้วยแทบทั้งหมดครับ 

หากเพียงมีข้อแตกต่างนิดหน่อยตรงที่ท่านติตรงการใส่ความแฟนตาซีเข้าไปในนิยายเกมออนไลน์มากเกินไป

ในความเห็นหรือหลักเกณฑ์ที่ผมคิดไว้ก่อนลงมือพิมพ์นิยายนั้น ผมก็กลับคิดว่า การใส่ความแฟนตาซีลงไปในเนื้อหาให้เยอะเนี่ย 

กลับเป็นเรื่องที่ดีเสียมากกว่า เพราะผมเชื่อว่า 100ละ80 ของผู้อ่านน่าจะมีความหลงไหลในเกมออนไลน์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งนี้เกมออนไลน์ในชีวิตจริงก็ไม่อาจพลักดันมุมมองของโลกแห่งเกมได้มากเท่าที่ควร การที่เราใส่ความแฟนตาซีลงไปให้เยอะขึ้นก็เปรียบเหมือนดั่งการที่เราใช้ศิลปะทางภาษาทุบกรอบแห่งเทคโนโลยีที่ไม่สามารถรองรับความเหนือจินตนาการของเกมอย่างที่มันควรจะเป็นครับ 

และหากคิดว่างั้นไปอ่านนิยายแฟนตาซีไม่ดีกว่าหรอ? ผมก็คิดว่ายังไงผู้อ่านก็ต้องชอบให้ความแฟนตาซีนั้นๆอยู่ภายใต้ขอบเขตของความเป็นเกมอยู่ดีครับ :)

1
สามวัน 26 มิ.ย. 60 เวลา 20:32 น. 8-1

แต่ตอนนี้หมวดเกมออนไลน์ถูกแยกออกหมวดแฟนตาซีไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ไม่ใส่ความเป็นแฟนตาซีก็ยังเป็นเกมออนไลน์เหนือจินตนาการอยู่ดี

0
ลำตึง 18 ก.ค. 60 เวลา 09:09 น. 9

คนเคยเล่นจะรู้ว่าเกมออนไลน์เป็นยังไงจริงๆ แต่นักเขียนบางคนไม่เคยเล่นมาก่อนก็ดันเขียนนิยาย ก็เลยเป็นนิยายเกมออนไลน์ที่ไม่มีความเป็นเกมออนไลน์

0