ผมเขียนนิยายเเปลกไปมั้ย
ตั้งกระทู้ใหม่
นายไก่"ไงเพื่อนไม่เจอกันนาน เป็นยังไงบ้าง"
นายประหยัด"ก็ยังไม่หายนะ ยังตัวร้อนอยู่บ้าง"
นายไก่"กวนทีน"
"กวนทีนอะไรวะ มะม่วงกวนหรอ"
"ตีนตูนี้หละ"
บทสนทนาผมจะเขียนประมานนี้อะครับมันน่าเเปลกมั้ยครับ ต้องมีชื่อตัวระครขึ้นหน้าตลอด
"คือเมื่อวานอะครับ! "นายประหยัดทักนายไก่
"ทำไมครับ?" นายไก่สงสัย
"ผมเจอพี่คนนึงเค้านัง่กินลูกชิ้นอยู่"
"เเล้วยังไงต่อครับ"
"คือนํ้าจิ้มมันจะหกใส่เท้าของเค้า "
"อือหึ"
"ผมก็หวังดีกลัวตีนพี่เค้าจะเลาะะ ก็เลยเดินเค้าไปบอกพี่เค้า "
"ว่าอะไร"
"ผมก็บอกพี่เค้าไปว่า พี่ระวังโดน ตีนน!"
"หะ อ่าวเเล้วเป็นไงต่อหละทีนี้ !มีเรื่องนะสิ"
"เเล้วพี่เค้าก็ยังเป็นห่วงผมอีกนะครับ"
"เป็นห่วง เป็นห่วงอะไรครับ"
"พี่เค้าเดินบอกผมว่า ระตัวไว้นะมิง!"
"เออมิงสำควรระวังนะ"
"ระวังอะไรวะ"
"ตีนตูกับตีนพี่เเก"
ก็ช่วยเเนะนำหน่อยครับ ว่าอันใหนถึงจะถูก หรือว่าเเล้วเเต่คนเเต่ง
8 ความคิดเห็น
เราว่านิยายจริงๆไม่ควรเอาป้ายชื่อไปแขวนใว้ด้านหน้านะคะ เพราะไม่ใช่บทละคร
ควรเขียนเป็นแบบที่สองมากกว่า
ครับเข้าใจเเล้วครับ
ตาม คคห.1 เลยครับ เพราะนิยายจะเน้นบรรยาย ไม่เหมือนบทละครที่มีชื่อกำกับ
บทละคร กับนืยาย คนละแบบกันครับ
ผมเขียนนิยายเเปลกไปมั้ย
.....
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
อ่านจบต้องปล่อยฮาเลยด้วยค่ะ
เทคนิควิธีคิด...คำพูด...ของตัวละคร...
การใช้คำ...มีลูกล่อ ลูกชน...
...ทั้งที่ตัวละครจะให้ความรู้สึกว่ามีบุคคลิกทีเอ่อๆด้วยนะคะ( คือ นายประหยัด 555)
แต่อ่านออกมาแล้วทำให้หัวเราะได้ เป็นความบันเทิงที่ใช้ได้...ค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกว่าผู้ที่ใช้วิธีเขียน...มีทักษะการใช้การวางแผนเหตุการณ์...การเล่าเรื่อง ดูมีเทคนิคที่ดีมากค่ะ
สวัสดีค่ะ
อยากบอกคุณว่า...คุณมีศิลป์...ในการสร้าง...ศิลปะ...แขนงนี้...อย่างเห็นได้ชัดเจนค่ะ
เจ้าของเม้นต์รู้สึกว่าคุณมีพรสวรรค์ค่ะ
"ผมเขียนนิยายเเปลกไปมั้ย"...คำว่าศิลป์ หรือศิลปะ คืองานสร้างที่ถูกสร้างขึ้นด้วยจินตนาการอันไร้ซึ่งกรอบ และไร้ขอบเขต...นั้นเป็นความจริงนะคะ
เพราะฉนั้น...วิธี หรือเคนิคที่คุณใช้...นี้...อาจจะแตกต่างจากนักเขียนคนอื่นๆ...แต่ทั้งหมดนั้น...อ่านแล้วให้ความเป็นศิลป์...แบบลงตัว...อ่านแล้วให้ความสนุกได้ ทำให้เกิดอารมณ์หัวเราะได้ด้วย...
...ทำให้ผู้ที่อ่านระลึกไปถึงตัวตนของคนเขียน...ได้ด้วยว่า...คุณเขียนได้แปลก แต่ดี ค่ะ
แม้จะเป็นบทสนทนาที่ดูจะสั้นๆระหว่างตัวละครก็ตามที แต่อ่านแล้วให้ความรู้สึกสนุกสนาน...เพลิดเพลิน และคุณยังสามารถทำให้เห็นความเป็นศิลป์...ได้เด่นชัด ในศิลปะแขนง...นี้(ในเสี่ยววินาทีสั้นๆที่ได้อ่าน...นั้น)ค่ะ
เป็นกำลังใจให้...กับงานเขียนของคุณต่อๆไปด้วยค่ะ
ขอบคุณครับ คื่อมันก็จริงอย่างที ครับมันเป็นเอกลักษณ์ของนักเขียน เเล้วเเต่จะเขียนไม่เหมือน
เเต่ผมเขียนไม่เหมือนชาบ้านเค้าน่ะสิ
คคห.1 บอกมันก็จริงครับ เเต่ถึงมันจะเป็นเหมือนบทระครเเเต่มันก็ทำให้ผู้อ่านอ่านง่ายขึ้น
เเละคือไม่ทันเเล้วครับ ตอนนี้ผมกำลังเเก้ไขอยู่ครับ มี 7 ตอน ได้เเก้กันมือหยิกเเน่
ปล. ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจ เเต่ก็ขอบคุณครับ
"ปล. ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจ เเต่ก็ขอบคุณครับ"...ฮ่า ฮ่า ฮ่า ที่ว่าไม่เข้าใจนี้...คือคุณไม่เข้าใจอะไร ตรงไหน หรือในเม้นต์ไหนเอ่ย...
หรือว่าเพียง...อยากลองของ...คะคุณนักเขียนเอกลักษณ์ มีกลยุทธมากมายไม่ว่าสิ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า (ล้อเล่นน๊าาา แท้จริงเจ้าของเม้นต์เป็นเพียงนักเรียนฝึกหัดเขียนนะคะ)
สวัสดีค่ะเจ้าของกระทู้
คุณลองอธิบายเข้ามานะคะ...ตรงที่ว่าไม่เข้าใจ คือจุดไหน..คะ
คุณลองอธิบายมานะคะ
เราได้มาลองหาเหตุ-ผล...ตรงนั้นให้เจอเพื่อความเข้าใจ...ร่วมกันต่อไปค่ะ
เจ้าของเม้นต์ได้มีโอกาสฝึก คิด ฝึกเขียนไปด้วย...กับคุณค่ะ
ศิลปะแขนง ผมพรึ่งซาปนะครับว่างานเขียนเป็นศิลปะผมรู้นะครับ
เเละก็ เเอดเพื่อนดีกว่า คุยกันหลังไมค์ผมว่าจะดูโอเคกว่า เพราะผมมีเรื่องที่้ตองถามอีกเยอะเลย
ลองเขียนบรรยายลักษณะหน้าตา ท่าทาง หรือความรู้สึกเวลาพูดออกมาด้วยสิคะ น่าจะช่วยได้เยอะ
เช่น
"ไงเพื่อนไม่เจอกันนาน เป็นยังไงบ้าง" ไก่เอ่ยทักเพื่อนทันทีที่เห็น หลังจากไม่เจอกันนานเพราะได้ข่าวว่าป่วย ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย
"ก็ยังไม่หายนะ ยังตัวร้อนอยู่บ้าง" ประหยัดตอบกลับด้วยท่าทางกวนๆ ตามนิสัย สวนทางกับคำว่าไม่สบายจนคนทักถึงกับหมั่นไส้
"กวนทีนละเอ็ง"
ขอบคุณครับ
ผมขอสวนอะไรนิดหน่อยครับ
ที่จริงเเล้วผมเขียนเเบบว่าให้
นายไก่กับนายประหยัดไม่เจอกันกันนานเเล้ว เเละนายไก่ก็ไม่รู้ว่านายประหยัดป่วย
เค้าถามประหยัดว่าเป็นไงบ้าง
จริงๆเเล้วคนเราไม่ได้เจอกันกันเจอหน้ากันต้องทักกันเเบบนี้ เเละก็ควรจะตอบไปตามมารยาทว่า
สบายดีเเล้วนายล่ะสบายนี้มั้ย
เเต่นายประหยัดมันกวนตีนเเทนที่จะบอกว่า สบายดี เเต่กลับบอกว่า ไม่สบาย เเละนายประหยัดเค้าก็สบายดีอยู่เเล้ว
ผมตั้งใจที่ไม่เจาะจง เเล้วกะไว้เเล้วว่าจะมีคนเข้าใจผิดมาอีกเเบบนี้
คำเเต่คำที่จะต้องเขียนลงไปมันสำคัญ เพราะถ้าผู้เขียนไม่เจาะจงเข้าไปให้ลึก
ความหมายของผู้เเต่งมันก็ออกมาอีกเเบบ เเเละ ผู้อ่านเข้าใจอีกเเบบ
ขอบคุณมากครับ
เราแค่ยกตัวอย่างค่ะ เพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวละครมีที่มายังไง
ไม่ควรเขียนแบบบทละครค่ะ ตามที่ คคห.1 เลยยยย
แล้วแต่คนแต่ง ปัญหาจริงๆ ไม่ใช่สำนวนนะ แต่เป็น "ทำยังไงที่ทำให้คนอ่านแล้วเข้าใจ และสนุกไปกับเรื่อง"
แต่ผมว่าบทสนทนาอันแรก ควรใส่กิริยาท่าทางของตัวละครลงไปหน่อยก็ดีนะ มันจะได้ดูเป็นธรรมชาติ อย่างเช่น
นายไก่เดินท่าทางเหมือนนักเลงกวนโอ๊ย เมื่อเข้าใกล้เพื่อนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ ตะโกนทักออกมาราวกับตั้งใจให้อีกฝ่ายตกใจเล่น "ไงเพื่อน ไม่เจอกันนาน แกเป็นยังไงบ้าง"
อย่างนี้เป็นต้นครับ ผมคิดว่ามันอ่านแล้วพอทำให้ไหลลื่นบ้าง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?