Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ไร้สาระแล้วไง เราชอบแล้วกัน!!!

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
"ไร้สาระแล้วไง เราชอบแล้วกัน!!!"

             
                       สวัสดีค่ะ ลีดเดอร์ นี่ไรท์เองนะคะ  เหอะๆห่างหายไปนานเลยทีเดียว เหตุผลนั้นก็ไม่มีอะไรมากมายค่ะ แค่...ไรท์ขี้เกียจเฉยๆ 555+ (อย่าลุกจากหน้าคอม หน้าโทรศัพท์มากระทืบไรท์นะคะ แบบนั้นไม่ดีๆ) เอาล่ะๆมาเข้าเรื่องเลยดีกว่าเนอะ คือเรื่องราวมันเป็นแบบนี้ค่ะท่านผู้อ่านค่ะ เมื่อเช้านี้ค่ะเมื่อเช้านี้ (พูดแล้วมันก็ฉุน) ไรท์โดนดุมาค่ะว่า “การอ่านนิยาย เล่นเกม” ของไรท์เนี้ยมันคือการไร้สาระ บอกว่าหาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มันมีสาระดีกว่ามั้ย? อาทิ การบ้าน อ่านหนังสือเรียน ทำงานบ้าน บลาๆ คือคุณผู้ปกครองที่เคารพเจ้าค่ะ ตอนที่คุณเข้ามาเห็นนั่นน่ะไรท์เพิ่งจะจดงานเสร็จมั้ย? เลยมาเล่นเพื่อพักสมองซะหน่อย เออ! นี่ก็เหมือนกันตอนทำงาน ทำการบ้านยุงี้ ทำไมไม่เปิดเข้ามา ประตูห้องน่ะ เปิดมาทำม้ายยย!! ตอนทำมันเสร็จแล้วครับ? WTF แล้วพอเข้ามาเห็นเราเล่นเกมส์นะก็บ่นๆๆๆ ด่าๆๆๆ สอนๆๆๆ เผลอๆนะก็ยึดโน๊ตบุ๊ค ยึดนิยายไปแม่งหมด เหอะๆ อยากถามกลับหน่อยนะคะ คำว่ามีสาระ คือ อะ-ไร-เหรอ? ตอบมาสิค่ะ?ตอบ! นั่นเเน่ๆ ตอบไม่ได้ล่ะสิ หึหึ ถึงจะตอบได้แต่ก็ไม่มั่นใจใช่มั้ยล้าาา เอาล่ะๆ วันนี้เราจะมานิยามคำว่า “มีสาระ” กับ “ไร้สาระ” กันนะคะ ไรท์เชื่อค่ะว่าเด็กๆอย่างเราๆเนี้ยต้องเคยโดยท่านผู้ใหญ่บังเกิดเกล้าทั้งหลายว่าอยู่บ่อยๆหรือเคยดุมาบ้างกับประโยชน์ที่ว่า “หัดทำอะไรที่มันมีสาระมากกว่าเล่นเกมส์หน่อยได้มั้ย? ทำอะไรไร้สาระอยู่ได้” อ่อ แล้วผู้ใหญ่บางคนนี่นะคะจะไม่หยุดแค่นี้นะ พวกท่านจะนำพาเราไปเปรียบเทียบกับลูกหลานชาวบ้านอีกต่างหาก คืออยากรู้ว่า เพื่อ!! (ไม่รู้เลยเหรอว่าเราโกรธ จนพาลเกียดคนๆนั้นไปด้วยเลยน่ะ) เอาล่ะๆน้ำมาเยอะล่ะมาเนื้อดีกว่า เหตุผลนั้นก็ง่ายๆเลยนะคะ



"ไรท์ชอบเป๊กกะทอมมากแต่กลับโดนที่บ้านดุบ่อยๆ
เศร้าเนอะ ToT"
______________________________________
  สิ่งที่เราไม่ชอบเราจะมองว่ามัน "ไร้สาระ" ทันทีแบบอัตโนมัติ
______________________________________
            จากหัวข้อเลยนะคะ "สิ่งที่เราไม่ชอบเราจะมองมันไร้สาระทันที" พอเดาความหมายออกกันมั้ยเอ่ย? อ่า พอเดาออกกันแล้วใช่มั้ยล่าา แต่...ใครที่ยังสงสัยอยู่ก็ไม่เป็นไรท์มาๆไรท์จะอธิบายให้ฟังนะคะ ไม่ต้องมองไกลนะเราลองย้อนกลับมามองตัวเราเองก่อนเลยเนอะ ลองมองว่าถ้าเราไม่ได้เป็นติ่งเกาหลี ไม่บ้าเกมส์ ไม่บ้ากันดั้ม ไม่บ้าอนิเมะ เราน่ะเป็นเด็กเรียนแบบตั้งใจเรียนแบบสุดๆ แต่แล้ววันหนึ่ง! เราได้ไปเป็นรูทเเมทกับเด็กที่ตรงกันข้ามกับเราทุกอย่างเพราะเขาหรือเธอคนนั้นทั้งบ้าเกมส์ ติดซีรี่ย์ ติ่งเกาหลีแบบสุดๆ เราจะมองเขาหรือเธอคนนั้นยังไงเมื่อเเรกเจอ? อ่ะไรท์ให้เวลาคิด 1 วินาที (...) เอ้าหมดเวลา 555+ ตอบว่าไงกันค่ะ? อ่า...ใช่ค่ะเราก็ต้องมองว่าเด็กคนนั้นไร้สาระอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ? เพราะเราไม่เห็นค่าความสำคัญต่อสิ่งเหล่านั้นที่เขาหรือเธอคนนั้นชอบ เราจึงตั้งแง่มาทันทีว่าสิ่งเหล่านั้นมัน "ไร้สาระจังเลย" "ไม่เห็นมีประโยชน์ต้องไปดู ไปฟังมันเลย เอาเวลาไปอ่านหนังสือยังดีกว่าเยอะ" ใช่มั้ยล่าา? เอาล่ะ เริ่มเข้าใจหัวข้อกันรึยังเอ่ย? เริ่มเข้าใจแล้วใช่มั้นล่ะ แล้วรู้มั้ย?ว่ามันทำไมเป็นแบบนั้น ทำไมเรามองว่ามันไร้สาระ ทั้งๆที่รูทแมทของเรานั้นมองว่ามันสำคัญมาก จากจิตวิทยานะคะ มันหมายความได้ตรงตัวเลยนั่นเองว่า เพราะเราไม่ชอบ แต่เขาหรือเธอคนนั้นชอบนั่นเอง เขาหรือเธอคนนั้นจึงมองว่ามันมีสาระ ในขณะที่เรานั้นมองว่าไม่มีสาระแบบสุดๆนั่นเอง แล้วคราวนี้โยงมานะคะโยงมาหาท่านบุพการีที่รัก ว่าทำไมท่านมองว่ามันไร้สาระ เหมือนกันค่ะ เพราะท่านไม่เห็นซึ่งความสำคัญของมันนั่นเอง ท่านเลยมีแต่บ่นๆ ด่าๆ เรา แล้วเราจะทำยังไง? ไรท์แนะนำง่ายค่ะ คือ
            1.ทำสิ่งที่คิดว่าจะไม่โดนด่าให้เสร็จก่อน แล้วค่อยมาเล่น มาดู
             2.อธิบายค่ะ อธิบายเท่านั้นที่ครองโลก เราต้องใจกล้าๆหน่อยนะคะ มีอะไรบอกให้ท่านเข้าใจ แต่ ข้อนี้เราต้องมีระเบียบในตัวเองอยู่พอตัวเลยนะคะ เพราะเราต้องยื้นเงื่อนไขสัญญาแน่นอน
             3.อย่าพยายามเถียงเด็ดขาดเลยนะคะ เรื่องจะยิ่งลามปาม ท่านว่าไรมาเรา ยิ้มอย่างเดียวเลยค่ะ ยิ้มจนเป็นแป๊ะยิ้มได้ยิ่งดี
             4.กระทำการบ้าบอที่มีสาระอื่นๆตามที่เพื่อน น้องๆ พี่ๆ เห็นสมควรได้เลยค่ะ ^^


           *** หมดแล้ว^^ ทีเเรกว่าจะมาบ่นเฉยๆ แต่ก็วนมาสาระจนได้เลย อ่อ สุดท้ายที่ไรท์จะฝากนะคะ อย่าเถียง อย่าพยายามทะเลาะนะคะ เพราะมันจะลามเป็นปัญหาใหญ่ด้วย (ไรท์ลองมาแล้วค่ะ มันไม่ดีเลย) ฉะนั้นมีอะไรก็คุยกันดีๆนะคะ ไม่ใช่แค่เรื่องนี้นะ เรื่องอื่นๆด้วย^^***

เป็นยังไงกันบ้างค่ะ แนวที่จะเขียนในนี้ก็จะเป็นประมาณนี่เนอะ เพราะไรท์เป็นคนที่ชอบให้คำปรึกษาคนอื่นๆ ทั้งเพื่อนๆ น้องๆ หรือคนที่รู้จักกัน มีเรื่องอะไรกลุ้มใจก็เม้นไว้ได้เลยน้าา เดี๋ยวไรท์จะตอบให้หมดเลย
หรือไม่ก็ทางนี้เลย
ID: beer.11842
facebook: beer porntawan camyee (Diarysuny style)
แล้วมาคุยกันน้าาา ^^

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

Issaran 20 ส.ค. 60 เวลา 10:29 น. 2

วิธีเคลียร์การบ้าน อ่านหนังสือให้เสร็จก่อนทำงานอดิเรกก็ดี

อีกอย่างนึงคือลองสะท้อนความรู้สึกของพ่อแม่กลับไป แต่จะสะท้อนได้ต้องจับความรู้สึกและความต้องการของพ่อแม่ให้ได้ก่อน

เช่น ดุแรงๆ หัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ แสดงว่ากำลังโกรธ ก็บอกไปว่าเราเสียใจที่พ่อแม่กำลังโกรธ

หรือตักเตือนเยอะๆ เราก็ตั้งใจฟังแล้วสะท้อนว่าขอบคุณที่พ่อแม่เป็นห่วง

และเสริมไปว่าเราไม่อยากให้พ่อแม่ไม่สบายใจแบบนี้

ที่เหลือก็อธิบายตามมุมมองของเราไป


ถ้าพ่อแม่สวนกลับว่าเข้าใจพ่อแม่แล้วทำไมยังทำ ก็พยายามอย่าปรี๊ด ค่อยๆ อธิบายอย่างที่จขกท.ทำ (แต่พ่อแม่บางคนอาจจะไม่ฟัง ถึงยังไงเราต้องใจเย็นที่สุด)

การสะท้อนความรู้สึก ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเราเข้าใจเขา อาจจะคุยกันง่ายขึ้น

การเถียง ใช้อารมณ์ ประชด ทำให้เรายิ่งดูเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ก็จะไม่อยากฟังเหตุผลของเรา

0
Houtoa 20 ส.ค. 60 เวลา 11:07 น. 3

ถ้าไม่อยากให้โดนดุด่าก็ง่ายนิดเดียว ครับเลิกขอเงินพ่อกับแม่ใช้แล้วตัังใจหันมาทำสิ่งที่ว่ามันไร้ประโยชน์ให้กลายเป็นสิ่งมีค่า ถ้าทำได้ทุกอย่่างจะไม่มีคำน้อยใจเสียใจไร้สาระหรืออะไรต่างๆอีกมากมาย ไม่มีใครต้องเจ็บใจกับคำพูดของอีกฝ่ายครับ

0
n I r I t Z. 20 ส.ค. 60 เวลา 19:33 น. 5

อ่า.. ถ้าบอกว่าอยากให้ปรับปรุงการเขียนเว้นวรรคกับการใช้ " คะ-ค่ะ " จะได้ไหมคะ รู้สึกตาลายมากค่ะ

0
ืnemu 20 ส.ค. 60 เวลา 19:37 น. 6

คำถามที่ว่า 'ถ้าเราไม่ได้เป็นติ่งเกาหลี ไม่บ้าเกมส์ ไม่บ้ากันดั้ม ไม่บ้าอนิเมะ เราน่ะเป็นเด็กเรียนแบบตั้งใจเรียนแบบสุดๆ แต่แล้ววันหนึ่ง! เราได้ไปเป็นรูทเเมทกับเด็กที่ตรงกันข้ามกับเราทุกอย่างเพราะเขาหรือเธอคนนั้นทั้งบ้าเกมส์ ติดซีรี่ย์ ติ่งเกาหลีแบบสุดๆ เราจะมองเขาหรือเธอคนนั้นยังไงเมื่อเเรกเจอ?'


เราไม่ตัดสินใครตั้งแต่แรกเจอค่ะ ต้องมองให้นานกว่านั้น เช่น ถ้าเธอหรือเขาคนนั้นทำเพื่อต่อยอดอนาคต ดูซีรีย์เยอะเพราะอยากเป็นนักแสดง/ผู้กำกับ อ่านนิยายทั้งวันเพราะฝันจะเป็นนักเขียน ใช้ความชอบของตัวเองสร้างประโยชน์ ได้ผลตอบแทนจากมัน เราจะนับถือคนๆ นี้มาก


แต่ถ้าเธอหรือเขาคนนั้นไม่ทำการบ้าน ไม่ยอมเรียน หนังสือสอบไม่อ่าน เกรดตกไปเรื่อยๆ เราจะเริ่มรู้สึกว่าเธอเป็นคน 'ขี้เกียจ' ใช่ค่ะ ไม่ใช่ว่าสิ่งที่ทำอยู่มีสาระหรือไม่มีสาระ แต่ขี้เกียจ


และสุดท้ายถ้ารู้จัก 'แบ่งเวลา' ได้ดีกับการเรียนก็ไม่มีตก สิ่งที่ชอบก็ยังสามารถทำได้ ก็ไม่มีปัญหา อย่างไรคนเราต้องการเวลาพักเพื่อเติมความสุขให้ตัวเองอยู่แล้วค่ะ



เราเห็นด้วยกับจขกท.นะคะว่าต้อง 'อธิบาย' ด้วยคำพูดที่ดี แต่ที่อยากเสริมก็คือถ้าอยากให้พ่อกับแม่เข้าใจ เราเองก็ต้องเข้าใจพวกท่านให้ได้เช่นกัน


เราคิดว่าพ่อแม่มองไป 'ไกล' กว่าเราค่ะ สำหรับเราอาจโฟกัสแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า ความสุขชั่วขณะในปัจจุบัน (ซึ่งเราเองก็คิดว่าสำคัญนะคะ) แต่พ่อแม่อาจจะคิดไปถึง มหาวิทยาลัยที่จะเรียนต่อ อาชีพในอนาคต ไม่แปลกเลยถ้าท่านจะอยากให้เราสั่งสมไว้ตั้งแต่ตอนนี้ และมองสิ่งที่ไม่จำเป็นกับการประสบความสำเร็จเป็นสิ่งไร้สาระทั้งหมด


เคยคิดไหมคะว่า 'ความชอบ' ที่พูดถึง ทำประโยชน์อะไรให้ชีวิตได้บ้าง แน่นอนว่าเราได้ความสุข ความสนุก บางทีก็อิน ฟินไปกับมัน แต่..แล้วไงต่อหรือคะ?


ความสุขที่ว่าเรานำมาเลี้ยงชีพได้ไหม แลกเป็นเงินเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้พ่อแม่ได้ไหม การเสพสิ่งนั้นทำให้เรามีความรู้เพิ่มขึ้น เพื่อต่อยอดนำไปใช้ประโยชน์ได้ไหม


หรือว่าเราจะแค่เสพเพื่อหาความสุขก็ไม่ผิด การมีเวลาผ่อนคลายบ้างก็เหมือนการนอนหลับ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพสมองของเราเพื่อให้พร้อมเรียน/ทำงานในวันต่อๆ ไป แต่ต้องให้แน่ใจว่าเราทำหน้าที่ที่ 'ต้องทำ' ครบถ้วนดีแล้วจริงๆ ไม่ใช่เป็นเพียงข้ออ้างนะคะ


ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้เข้าข้างพ่อแม่หรือลูกเป็นพิเศษนะคะ

แค่อยากลองคิดหลายๆ มุม พยายามจะเข้าใจให้ได้ทั้ง 2 ฝ่าย

0