ขอคำปรึกษาครับ ว่าด้วยเนื้อหานิยายและประเด็นในเนื้อเรื่อง
ตั้งกระทู้ใหม่
1.ฉากในสถานีวิทยุ ควรจะให้คนพูดนำเสนอประเด็นมีกี่คน คือตอนนี้คนพูดในฉากนี้ที่อยู่ในตัวผมมีหลายคนมาก ที่นอกจาก ฮอต ซึ่งเป็นนายเอกของเรื่อง
ก็จะมี...
1.1
1.2
1.4
1.5
1.6
แล้วพอคิดๆดู ผมว่าคนที่จะมาออกอากาศดูเยอะไปพอสมควร ดังนั้น หากใครเคยอ่านมาแล้ว ขอคำแนะนำด้วยนะครับ ว่าถ้าจะขึ้นพูดหมดนี้เลยไม่ได้ อยากให้ใครไปดีครับ เพราะตอนนี้ผมเกิดอาการเลือกคนพูดไม่ถูกอย่างมาก
2.ในกรณีของคูน(พระเอก)และหมอก(หนึ่งในกลุ่มตัวเอก) ที่เคยเป็นเหยื่อข่มขืนมาก่อน การที่จะได้ยินการนำเสนอที่สถานีวิทยุอาจทำให้เกิดความสะเทือนใจได้ เลยจะให้ไปเที่ยวสถานที่ธรรมชาติเป็นการเลี่ยงความกระทบด้านจิตใจ โดยมี ดร.จันทร์ฉาย ดร.ภาวสุทธิ์ เทิดและมิกซ์เป็นผู้ปกครอง ถ้าผมทำแบบนี้ จะถูกต้องมากน้อยแค่ไหนครับ
3.สืบเนื่องจากประเด็นที่ผมเคยลงไปตอนที่7 ประมาณว่า นำเสนอว่าอาชญากรรมทางเพศที่เกิดกับผู้ชายไม่ใช่เรื่องตลก แต่กลับถูกตั้งแง่ว่าเป็นพวกโรคจิตเรียกร้องความสนใจ ซึ่งผมนำมาจากชีวิตจริงของตัผมเอง ที่เคยวาดรูปสะท้อนสังคมเกี่ยวกับการมองเหยื่อข่มขืนที่เป็นผู้ชายแบบตลกโปกฮาลง Facebook ในชื่อผม แต่กลับมีผู้หวังดีประสงค์ร้ายบางคนนำข่าวไปบอกพ่อแม่ ผลคือโดนพ่อต่อว่าว่าหมกมุ่นโรคจิต ทั้งยังโยงว่าทำแบบนี้แม่จะเสียใจขนาดไหน
ผมเลยจรลีหนีมาลงเนื้อหาแนวนี้ที่เวปตรงนี้แทน ซึ่งผมก็ลงโดยอิงจากชีวิตจริง แต่เปลี่ยนสถานะผู้กระทำแทน ประมาณว่า เทิด ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครของผมก็โดนแบบนี้ คือพูดหน้าเสาธงที่โรงเรียนในประเด็นเดียวกับที่จะเอาออกอากาศ แต่ผลคือโดนเพื่อนรุมประนาม ทั้งยังโดน วุฒิ พี่ชายตัวเองด่าซ้ำจนมีปมกับพี่ชายตั้งแต่ตอนนั้น(แม้ปัจจุบันวุฒิจะเริ่มตระหนักและสำนึกผิดก็ตาม)
เลยอยากทราบครับ ว่าปัจจุบัน กรณีการมองว่าคนนำเสนอเรื่องอาชญากรรมทางเพศที่เกิดกับผู้ชายเป็นเรื่องตลกแล้วโดนมองว่าโรคจิตยังมีอยู่รึเปล่าครับ แล้วรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
5 ความคิดเห็น
1.1 1.3 1.5 เราว่าสามคนนี้เหมาะ ^ ^
ปัจจุบัน อย่าว่าแต่ข่มขืนผู้ชายเลย ขนาดผู้หญิงโรฮิงญาโดนทหารข่มขืน ยังมีคนคิดว่าตลกอยู่เลย และมีคำพูดกล่าวดูถูกเหยียดหยามผู้หญิงต่างๆนานาเจ้าค่ะ อ่านแล้วเราสะอึกเลยอะ สงสารคนโดนกระทำมากๆ
ล่าสุดเจอข่าวทนายอียิปต์ออกมาบอกว่า สตรีที่สวมกางเกงยีนส์ขาดสมควรโดนข่มขืนซึ่งบุรุษทุกคนควรจะทำเช่นนั้น เรานี่แบบว่า มันไม่ใช่ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแต่งกาย และคุณควรระงับความต้องการตัวเองไหม
http://www.catdumb.com/raping-women-who-wear-ripped-jeans-777/
เห็นข่าวมาเหมือนกันครับ พวกลูกเพจข่าวนี้แบบ...สงสัยลืมไปว่าเคยรณรงค์ ข่มขืน = ประหาร
1-1
ทนายคนนั้นสมควรโดนปลดมาก สงสัยเคยมีประวัติว่าข่มขืนคนอื่นแหงๆ เลยพูดแบบนี้ได้ไม่อายปาก
เราว่า 1.1 1.2 1.4 เหมาะค่ะ
เพราะ 1.2 น่าจะรู้ความเป็นอยู่ของชาวบ้านได้ดี รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาภายในหมู่บ้านด้วย ด้วยความใกล้ชิดกับลูกบ้านค่อนข้างมาก หากมาถ่ายทอดประสบการณ์ น่าจะรู้จักขอบเขตการพูด
1.4 เนื่องจากเป็นเพจดัง ดังนั้นน่าจะมีข้อมูลหรือเนื้อหาในเรื่องต่างๆ มากพอควรค่ะ
อันนี้เราแค่ลองแนะนำนะคะ เพื่อเป็นการเพิ่มสีสันในนิยาย ลองเปลี่ยนจากรายการวิทยุธรรมดา เป็นการดีเบตทางสถานีวิทยุ ในหัวข้ออาชญากรรมทางเพศที่เกิดกับผู้ชายดีมั้ยคะ โดยฝั่งหนึ่งอาจมองว่าการเกิดกับผู้ชายมันเป็นเรื่อง sensitive นะ ส่วนอีกฝั่งก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา
แต่การออกอากาศทางวิทยุ ถ้าจะดีตัวละครก็อย่าเกิน 3 เลยค่ะ จะได้ไม่สับสนจนเกินไป
กรณีดีเบท จะกลายเป็นว่าอีกคนเป็นตัวร้ายไปเลยนะครับ เพราะเรื่องนี้ ผมวางให้ตัวละครหลักทุกคนออกมารณรงค์เรื่องนี้กันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งถึงฝั่งที่มองว่าเป็นเรื่องปกติจริง ผมว่าข้อมูลไม่แน่นครับ เพราะอย่างมากจะเป็นเหตุผลแบบ...
เป็นผู้ชายโดนไม่เสียหาย
ผู้ชายโดนแล้วไม่ท้อง
คือถ้านอกจากเหตุผลตรงนี้ จะเป็นส่วนที่ออกอากาศไม่ได้เลยนะครับ เพราะเหตุผลจะเบาบางมากจนกลายเป็นการเถียงข้างๆคูๆมากกว่า ขออภัยที่ส่วนนี้ผมทำไม่ได้จริงๆครับ แต่ในส่วนการเสนอคนพูด ผมอาจจะมีการลงส่วนที่คุณเสนอครับ^^
แต่ยังไง...ก็ขอขอบคุณสำหรับความเห็นนะครับ
โอเคค่ะ เราเข้าใจว่ามีตัวร้ายด้วย55555
พยายามเข้านะคะ
ขอบคุณครับ
เรื่องบทวิทยุ เห็นด้วยค่ะว่าคนเยอะไป อย่าลืมนะคะว่าคนฟังวิทยุจะได้ยินแค่ "เสียง" เท่านั้น เพราะฉะนั้นตัวละครควรมีไม่เยอะค่ะ แนะนำว่าซัก 3 คนกำลังดี
เช่น 1 ผู้โดนกระทำหรือคนรู้จักโดน (ฮอต) 2 คนที่มีความรู้ และกำลังรันกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ (เช่น พิงค์ หรือมาดาม) 3 พิธีกร หรือคนถาม ที่ออกแนวคนทั่วไป ไม่รู้จักความร้ายแรงของเรื่องนี้ (เปรียบเสมือนคนอ่านที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องราว) ค่ะ
ตัวละครคนอื่นเราว่าเยอะไป เช่นเจ้าของเพจในเน็ตไม่ต้องมาก็ได้ แค่พูด ว่าจะแชร์รายการให้เป็นที่แพร่หลายกว่าเดิมก็ได้ ไม่จำเป็นต้องโผล่มาในบทวิทยุ
ส่วนประเด็นเรื่องเหยื่อที่เคยโดน ถ้าแผลนั้นยัง "สดใหม่" หรือยัง "ไม่ได้รับการเยียวยา" ล่ะก็ ให้หนีไปอยู่ที่อื่นดีแล้วค่ะ จะนอนอยู่บ้าน หรือไปเที่ยวหรือทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องมารับรู้รายละเอียดของรายการ ไม่งั้นจะจิตตกกว่าเดิม
ส่วนประเด็นสุดท้าย ยอมรับค่ะว่ายังมีหลายคนมองว่าเรื่องนี้ตลก ถึงในเด็กดีจะน้อย แต่ในเว็บสาธารณะอื่นๆ มีเพียบค่ะ 555555 (กดเลขห้าทั้งน้ามตา)
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ แต่ยังคาใจอยู่อย่างนึงครับ ในส่วนของพิธีกร คิดว่าใครเหมาะสมที่สุดครับ คือจะเป็นเจ้าของวิทยุในเรื่อง(พอดีลืมลงในนี้)เลยรึเปล่าครับ หรือจะเป็นคนที่เหลือในข้อ1
สองบรรทัดสุดท้าย อันนี้มีหลักฐานจังๆในตอนที่2 กับตอนที่6 ครับ แคปจากเฟซส่วนตัวมาแปะเลย สนามบินเยอะมาก ผมเองก็แอบๆเป็นห่วงว่านิยายจะโดนบินหน่อยนึง^^
เราว่าแล้วแต่ประเด็นที่อยากพูดในรายการค่ะ เจาะจงประเด็นเดียวพอ
ไม่ควรให้ทุกคนยกประเด็นของตัวเองแล้วคนอื่นผลัดกันเสริม เพราะคนฟัง (คนอ่าน) จะจับจุดยาก และไม่อินเท่าการนำเสนอประเด็นเดียวแบบแน่นๆ เน้นๆ (ประเด็นอื่นทยอยใส่ในเนื้อเรื่องทีหลังก็ได้)
จากนั้นค่อยเลือกคนพูดที่เข้าใจประเด็นนั้นจริงๆ มาช่วยกันเสริมความเห็น
สมมติ อยากพูดถึงผลกระทบต่อเหยื่อ ก็เลือกคนที่ใกล้ชิดหมอกกับคูน
มาดามจันทร์สมก็น่าเลือกเพราะเป็นเจ้าของโครงการ
ระวังตัวละครพูดใส่อารมณ์มากเกิน เดี๋ยวกลายเป็นระบายความอัดอั้นออกอากาศแทนที่จะแสดงทรรศนะอย่างเหมาะสม
เพิ่มเติมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในรายการวิทยุ นอกจากจะสื่อสารประเด็นกับผู้อ่านโดยตรงแล้ว ก็ควรมีผลต่อการดำเนินเรื่องข้างหน้าค่ะ
ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นตัวละครมาพูดออกอากาศ (บอกข้อคิดของเรื่องกับผู้อ่าน) เฉยๆ พอจบรายการก็หาวิธีรณรงค์ต่อไป
ส่วนความเห็นเกี่ยวกับนิยาย เราจะโพสต์ในหน้านิยายอีกทีนะคะ
ข้อ 2. รอบนี้ให้หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นก็ดีค่ะ โดยเฉพาะคูนที่เพิ่งเจอเหตุการณ์มาใหม่ๆ
แต่พอคูนอาการคงที่ระดับหนึ่ง น่าจะใส่ฉากระบายความรู้สึกกับคนอื่นเป็นพักๆ แต่ไม่ต้องให้คูนเล่นเทปเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ซ้ำเพราะจะยิ่งแย่ลง เลือกคนรับฟังหลักๆ สักคน ฮอตก็ดี
จะเขียนให้คูนใช้วิธีนี้แล้วดีขึ้นเรื่อยๆ เองก็ไม่ผิด
PTSD (มีอาการเกิน 1 เดือน ไม่แน่ใจของคูนถึงยัง) โอกาสหายเองโดยไม่รักษา 30% (การรักษาหลักคือทำจิตบำบัด)
ข้อ 3
การมองว่าคนที่นำเสนอประเด็นนี้ "โรคจิต" ในความหมายที่ว่า "ป่วยทางจิต" คิดว่ามีไม่เยอะ หรือแทบไม่มี
จริงๆ คงตั้งใจสื่อว่า "หมกมุ่น" มากกว่า เพราะเขามองว่าจริงจัง "มากไป" ในสิ่งที่สังคมไม่ให้ความสำคัญ ถ้าเปิดเผยต่อสาธารณะก็มีแนวโน้มถูกมองข้าม เห็นความจริงจังเป็นเรื่องตลก หรือเห็นคนจริงจังคนนั้น "แปลกแยก" ไปเลย
ทั้งหมดนี่คือเดานะคะ เราเคยบ่นเรื่องสื่อบันเทิงเป็นประจำจนมีคนบอกว่าคิดมาก (ใช้คำแรงกว่านี้) เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ คนอื่นเขาไม่มาสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กันหรอก
สุดท้ายเขามองว่าเราแปลกจากชาวบ้าน อารมณ์คงคล้ายๆ กัน
ข้อ2 เกินแล้วนะครับ ประมาณ 1 ปี
ข้อ3 มีตัวอย่างกรณีครับ เคยแถรายนั้นไป ผลคืออย่างที่เห็นครับ(ขอเปิดชื่อพวกมันแล้วปิดชื่อตัวเองครับ เพื่อความปลอดภัย)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?