Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เราเขียนนิยายไม่ได้อีกแล้ว นักเขียนทั้งหลายพอจะมีวิธีทำให้เรากลับมาเขียนนิยายได้อีกครั้งมั้ยคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
    
   เราชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก อ่านได้หลายแนว จนมาเริ่มเขียนนิยายเองเพราะไม่ชอบตอนจบของนิยายบางเรื่อง สมัยเรียน ม.ปลายเราเขียนนิยายทุกวัน แต่เขียนไม่จบซักเรื่องนะ 555 ที่เขียนไม่จบเพราะคิดพล็อตใหม่ได้ตลอด พอได้พล็อตใหม่ก็เปลี่ยนไปเขียนเรื่องใหม่วนลูปไปอย่างนี้ แต่ก็ไม่เคยหยุดพักเรื่องการเขียน ตอนนั้นมีความฝันว่าอยากเป็นนักเขียนนิยายด้วยซ้ำ พูดให้แม่ให้น้องฟังตลอดถึงจะไม่มีใครเชื่อว่าเราจะทำได้ก็ตาม
     ช่วงที่เขียนนิยายเรายอมรับว่าสำนวนไม่ได้ดีมาก แต่ตอนนั้นเรามีความสุขและสนุกมากที่ได้เขียน บางวันความคิดไหลลื่นก็หมกตัวอยู่กับนิยายของตัวเองทั้งวัน แม่ใช้ไปไหนก็ไม่ไป มีการบ้านก็ไม่ยอมทำ เอาง่าย ๆ คือไม่รู้จักแบ่งเวลาอะ ตอนนั้นก็แอบคิดว่าเมื่อไหร่จะเรียนจบนะจะได้มีเวลาว่างมาแต่งนิยาย 
     จุดเปลี่ยนมันอยู่ที่หลังจากเราเรียนจบ เราเริ่มทำงานและไม่ค่อยมีเวลาว่างแล้ว จากนั้นเราก็ค่อย ๆ ห่างจากการเขียนนิยายไป มารู้ตัวอีกทีเราไม่ได้เขียนนิยายมาสองปีแล้ว ช่วงนี้เราชอบอ่านนิยายจีนเลยคิดอยากลองเขียนแนวนี้ดู แต่ก็ไม่ได้เริ่มซักที  จนเมื่อหลายวันก่อนเราไปค้นเจอสมุดเก่า ๆ สมัย ม.ปลาย ในนั้นมีนิยายที่เราเคยแต่งไว้แต่ยังเขียนไม่จบ เรารู้สึกเหมือนตัวเองลืมความฝันตั้งแต่วัยเด็กไป เราคิดอยากแต่งนิยายอีกครั้งแต่เราก็พบว่าตัวเองไม่สามารถเขียนนิยายได้อีกแล้ว
     การเขียนนิยายถ้าเราไม่มีพรสวรรค์เรายิ่งต้องฝึกฝนใช่มั้ยคะ เหมือนมีดที่ต้องลับคมอยู่เสมอไม่งั้นมันก็จะไม่คม ตอนนี้เราเป็นเหมือนมีดทื่อ ๆ เล่มหนึ่งที่ทำอะไรไม่ได้ จากที่เมื่อก่อนแค่คิดพล็อตได้เราก็เริ่มเปิดเรื่องใหม่ได้แล้ว จะว่าไปตอนนั้นเราเหมือนเป็นโรคจิตอย่างนึงที่ชอบเขียนบทนำมากเลยต้องเปิดเรื่องใหม่ตลอด 555 แต่ตอนนี้แค่บทนำบทเดียวเรายังเขียนไม่ได้ เราไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง การเขียนบรรยายก็ไม่ไหลลื่นเหมือนเมื่อก่อน แค่จะเขียนอธิบายอะไรซักอย่างก็รู้สึกว่ามันยากเหลือเกิน เราก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เราเป็นตอนนี้คืออะไร เป็นเพราะเราหมดไฟที่จะเขียน หรือเพราะไม่ได้เขียนนิยายมานานเลยต่อไม่ติด มันอธิบายไม่ถูก
     ใครพอจะมีวิธีแนะนำให้เรากลับมาเขียนนิยายเหมือนเดิมได้บ้างคะ ยืนยันว่ายังชอบที่จะเขียนนิยาย แค่ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนตัวเองลืมวิธีเขียนนิยายไปแล้ว ตอนนี้เศร้ามาก ท่านผู้รักการเขียนทั้งหลายได้โปรดชี้แนะด้วยค่ะ ถือว่าช่วยคนอยากเขียนตาดำ ๆ ด้วยเถอะ T^T 

 

แสดงความคิดเห็น

12 ความคิดเห็น

อัจฉราโสภิต 6 พ.ย. 60 เวลา 19:13 น. 1

1. อย่าใจร้อนครับ ทุกอย่างต้องอาศัยการฝึกฝน ถ้าเคยฝึกฝนมาแล้วแต่ร้างไปนานก็ต้องอาศัยการทบทวน อย่าคิดว่าเคยทำได้ กลับมาอีกครั้งก็ต้องทำได้เหมือนเก่า คิดแบบนั้นจะหงุดหงิดท้อแท้แล้วสรุปก็จะไม่ได้ทำเลย ค่อยๆฝึกไปทีละนิด เดี๋ยวมันจะค่อยๆกลับมา


2. ถ้าเขียนไม่ออกจริงๆ ก็อย่าเพิ่งเขียน อย่าฝืน คุณไม่ได้เลี้ยงชีพด้วยการเขียนนิยาย เขียนช้าๆ หยุดบ้างเขียนบ้างก็ไม่ได้เดือดร้อนครับ เขียนช้าแต่ดี ดีกว่าเขียนเร็วแต่ได้อะไรก็ไม่รู้ออกมา (แต่ถ้าหวังคนอ่านบนเว็บนี้ต้องเร็ว)

1
gee-r 7 พ.ย. 60 เวลา 13:14 น. 1-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ จะลองเอาไปปรับใช้ค่ะ เพราะอยู่ในภาวะนี้มาหลายวันแล้ว รู้สึกเหมือนโลกกลายเป็นสีเทาไปเลยค่ะ ทนไม่ไหวเลยต้องมาตั้งกระทู้ถาม

ถ้ากระทู้อ่านยากต้องขอโทษด้วยนะคะ พิมพ์ในมือถือเลยปรับขนาดอักษรไม่ได้

0
Pee-Kao 6 พ.ย. 60 เวลา 19:32 น. 2

เราเคยมีความรู้สึกนี้นะคะ ความรู้สึกที่อยากเขียนแต่เขียนไม่ได้

ก่อนหน้านี้คือไม่สามารถเขียนอะไรได้เลย คิดไม่ออก ยังไงก็เขียนไม่ได้สักที

เราก็เลยคิดว่าช่างมันเถอะ ตอนนี้เขียนยังไม่ได้ก็อ่านงานของคนอื่นไปก่อนแล้วกัน

เราก็เลยอ่านอย่างเดียว ทั้งอ่านหนังสือเล่มและอ่านในเว็บ

จนปีที่แล้วเรารู้สึกอยากเขียนเรื่องสั้นลงเว็บบ้าง

ก็ค่อย ๆ เขียน ซึ่งไม่ได้ดีอะไรหรอกค่ะ แต่ก็พยายามเขียนจนจบ

แล้วก็มีปัญหาจนมาถึงตอนนี้คือเราไม่สามารถเขียนตามพล็อตเหมือนคนอื่น ๆ ได้

แบบว่าไม่สามารถเขียนให้ตัวละครฝ่าฝันหลาย ๆ อย่างกระทั่งถึงบทสรุปได้

เราก็เลยพยายามเขียนในแบบของเรา ค่อยเป็นค่อยไป

เป็นกำลังใจให้คุณจขกท. นะคะ

อยากให้ใจเย็น ๆ อย่าฝืนความรู้สึก

ถ้าเขียนยังไม่ได้ก็อ่านรอไปก่อน เก็บไอเดียดี ๆ ที่ได้จากการอ่าน

แล้ววันหนึ่ง คุณอาจจะพร้อมที่จะเขียนในแบบของคุณ


1
gee-r 7 พ.ย. 60 เวลา 13:20 น. 2-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ เคยคิดอยากเขียนเรื่องสั้นอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไปไม่รอด ตอนนี้จะลองเขียนเรื่องสั้นดูเหมือนที่แนะนำมาค่ะ พอมีคำแนะนำในการวางพล็อตเรื่องสั้นให้จบภายในแปดหน้ากระดาษเอสี่มั้ยคะ เมื่อก่อนเคยลองเขียนแล้วกลายเป็นเรื่องยาวทุกทีเลย


ถ้ากระทู้อ่านยากต้องขอโทษด้วยนะคะ พิมพ์ในมือถือเลยปรับขนาดอักษรไม่ได้

0
เด็กหญิงจากโลกอดีต 6 พ.ย. 60 เวลา 19:40 น. 3

อ่านแล้วนึกว่าตัวเองตั้งกระทู้เองเลยค่ะ


เราเคยเป็นแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน แต่ต่างตรงที่ว่าเมื่อก่อนเราเคยเขียนเยอะมากๆ

และเขียนจบไปหลายเรื่อง แต่พอเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ตอนนันก็เขียนอะไรไม่ออกเลย

อาจจะเป็นเพราะว่าสมัยเด็กเราเขียนเป็นแฟนฟิก พอเริ่มโต แล้วเริ่มไม่ได้บ้าศิลปินแบบเดิม

มันก็ไม่รู้จะเขียนอะไรก็ได้มั้ง เหมือนมันขาดแรงผลักดัน


เราเพิ่งได้กลับมาเขียนนิยายจริงๆ จังๆ ก็เมื่อต้นปีนี้เองค่ะ หลังจากหยุดเขียนไปเกือบ 10 ปี

เพิ่งเขียนจบหนึ่งเล่มไปเมื่อปลายเดือนที่แล้วนี้เองค่ะ (จบภาคแรก)


เราคิดว่ามันอยู่ที่แรงผลักดันค่ะ มันต้องเป็นอะไรที่เราชอบและอินกับมันมากจริงๆ ค่ะ ถึงจะเขียนรอด

ก่อนหน้านี้เราก็ลองเขียนมาหลายทีเหมือนกัน แต่ก็ตัน เขียนได้ไม่กี่หน้า

จนกระทั่งมาปีนี้แหละที่เอาจริงแล้ว ที่สำคัญอีกอย่างเราคิดว่าน่าจะเป็นการวางพล็อตเรื่องน่ะค่ะ

ควรจะวางให้ละเอียดประมาณหนึ่งเลย แล้วถึงเริ่มเขียน เพื่อที่จะได้ไม่ตันกลางทาง


ที่อยากแนะนำก็คือ หาเรื่องที่ชอบจริงๆ วางพล็อตให้ละเอียด อินไปกับมันค่ะ แล้วจะเขียนได้

เรื่องการเขียน ถ้าหากเขียนไม่ดี ก็ต้องอ่านมากๆ โดยเฉพาะแนวที่เราเขียน

และฝึกเขียนมากๆ ด้วยค่ะ พอเขียนไปนานๆ ก็จะดีขึ้นค่ะ


เอาใจช่วยนะคะ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png

1
gee-r 7 พ.ย. 60 เวลา 13:30 น. 3-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ คิดว่าพล็อตเรื่องมีส่วนจริงๆค่ะ เมื่อก่อนพอจะเขียนนิยายก็ไม่เคยวางพล็อตเลย ใช้วิธีด้นสด คิดอะไรออกก็เขียน ระหว่างที่กำลังรื้อฟื้นความจำจะลองหัดวางพล็อตดูค่ะ พอจะมีคำแนะนำเรื่องนี้บ้างมั้ยคะ



ถ้ากระทู้อ่านยากต้องขอโทษด้วยนะคะ พิมพ์ในมือถือเลยปรับขนาดอักษรไม่ได้

0
slimebox 6 พ.ย. 60 เวลา 20:36 น. 4

ทำใจให้เข้มแข็งไว้ เราเคยทำได้ในวันหนึ่ง เราก็ต้องทำให้ได้อีกครัั้ง

เมื่อก่อนเราก็เป็น เวลาทำแล้วมันไม่ได้ทำอะไรไปนานๆ เพราะเหตุต่าง ๆ นา ๆ มันก็จะเฟล ๆ ว่าทำไม่ได้อีกแล้ว แต่มาเปลี่ยนความคิดดู ใส่ความกล้าเข้าไป ถ้าทำได้ มันก็ต้องทำได้ต่อ ถึงแม้ว่าจะไม่เหมือนเดิม อาจจะแย่กว่า หรือดีกว่า


เมื่อก่อนเราเขียนในคอม เขียนไว้หลายเรื่อง แล้วคอมพัง ฮาร์ดดิสเสีย ค้างเลย ไม่มีอะไรจะพูด หายไปทั้งหมด แต่เราก็เริ่มต้นใหม่นะ คิดไว้ว่ามันต้องได้ ต้องดีกว่า หรือยังไม่ดีกว่า ก็จะทำให้ดีกว่า แล้วก็เมื่อก่อน เวลาวาดรูป (วาดก็ห่วยเถอะ) วาดด้วยดินสอ สัดส่วนผิดบางอย่าง ถูกบางอย่าง ก็ไม่กล้าลบ เพราะกลัวว่าที่ถูกมันจะวาดไม่ได้อีก แต่เดี๋ยวนี้ตัดใจได้ล่ะ ไม่พอใจก็จะลบทั้งหมดไปเลย แล้วบอกตัวเองว่า วาดได้แล้วที มันก็ต้องวาดให้ได้อีก


แต่ยังไงแล้วทุกอย่างมันต้องใช้เวลา

เวลายังทำให้มันหายจากเราไปได้ เวลาก็ต้องทำให้มันกลับมาได้เหมือนกัน นะ ><


ยึดมั่น มุ่งมั่น ตั้งใจ สู้ต่อไป ไชโย/ฮะ!?


1
gee-r 7 พ.ย. 60 เวลา 13:30 น. 4-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ จะลองเอาไปปรับใช้ค่ะ เพราะอยู่ในภาวะนี้มาหลายวันแล้ว รู้สึกเหมือนโลกกลายเป็นสีเทาไปเลยค่ะ ทนไม่ไหวเลยต้องมาตั้งกระทู้ถาม

ถ้ากระทู้อ่านยากต้องขอโทษด้วยนะคะ พิมพ์ในมือถือเลยปรับขนาดอักษรไม่ได้

0
Miran/Licht 6 พ.ย. 60 เวลา 21:12 น. 5

เวบมันรวนหรืออย่างไรคือ ตัวอักษรมันเล็กมากเลยต้องขยายขึ้นอ่าน (เปิดในคอม)


เราเคยผ่านช่วงเวลาที่อยากเขียนแต่เขียนไม่ออกราวๆ เกือบ 10 ปีได้ค่ะ เมื่อเขียนไม่ออก เราก็อ่านหนังสือสั่งสมข้อมูล ประสบการณ์ วาดรูปหรือเรียนรู้แทน บางอย่างทำไม่ได้อย่าไปฝืนค่ะ แล้วก็ค่อยๆ กลับมาเขียนบันทึกสั้นๆ เขียนเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนเขียนนิยายออกมาไดค่ะ เพียงแต่อาจจะใช้เวลายาวนานสักหน่อยซึ่งแต่ละคนไม่เท่ากัน

1
gee-r 7 พ.ย. 60 เวลา 13:31 น. 5-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ จะลองเอาไปปรับใช้ค่ะ เพราะอยู่ในภาวะนี้มาหลายวันแล้ว รู้สึกเหมือนโลกกลายเป็นสีเทาไปเลยค่ะ ทนไม่ไหวเลยต้องมาตั้งกระทู้ถาม

ถ้ากระทู้อ่านยากต้องขอโทษด้วยนะคะ พิมพ์ในมือถือเลยปรับขนาดอักษรไม่ได้

0
กลิ่นเอื้องของแท้ต้องมีงงูแสนตัว 6 พ.ย. 60 เวลา 21:44 น. 6

เราเคยเจอปัญหานี้นะ... แม้จะแค่ปีกว่าๆ ก็ตาม


มาแชร์วิธีของตัวเองกว่าจะกลับมาเขียนได้อีกครั้งเนอะ


ถ้ายังเป็นนักอ่านอยู่ ก็อ่านเข้าไปอีกเยอะๆ ค่ะ การอ่านจะช่วยให้เรามีคลังคำเพิ่มขึ้น แรกๆ สำนวนและการผูกประโยคอาจจะเขียนได้ไม่ดีเท่าเก่าเพราะนึกคำไม่ออก ไม่รู้จะใช้ยังไง เขียนยังไง ซึ่งการอ่านเนี่ยแหละที่ช่วยได้เยอะ


ขั้นสองลองเขียนอะไรกุ๊กๆกิ๊กๆเล่นดู


เหมือนเป็นการเรียกความทรงจำน่ะค่ะ เริ่มจากสิ่งที่เราเขียนได้ง่ายๆไม่ต้องใช้ความพยายามมากหรือคิดให้ปวดสมอง เช่นไดอารี่ หรือบทความ แบบ "สวัสดี วันนี้ฉันตื่นตอนหกโมงเช้า ง่วงมากเลยแต่ต้องไปทำงาน งัวเงียลุกขึ้นจากเตียงมาอาบน้ำแปรงฟัน..." หรือแบบ "เขาคือแมลงสาบผู้ยิ่งใหญ่ เขาอาศัยอยู่ใต้อ่างล้างหน้า ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวและถลาร่อน จะมีคนกรี๊ดแตก นับว่าเป็นความภาคภูมิใจยิ่งของวงศ์ตระกูล..."


ทำซ้ำไปเรื่อยๆค่ะ พอถึงจุดนึงแล้วถ้ายังอยากเขียนนิยายอยู่ มันจะค่อยๆมาเอง ของแบบนี้ต้องใช้ทั้งแรงใจและความเพียร...



ปล. นักเขียนที่มีพรสวรรค์มีอยู่จริง แต่พรสวรรค์เป็นเพียงเส้นทางสู่โอกาสที่เร็วกว่าคนอื่น ถ้ามีพรสวรรค์ แต่ไม่ขวนขวายฝึกฝนหาทางพัฒนา พอถึงจุดนึงพรสวรรค์ก็ช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ เพราะงานเขียนคือการเรียนรู้ตลอดชีวิต คนที่จะอยู่รอดคือคนที่มีความพยายามต่างหาก

1
gee-r 7 พ.ย. 60 เวลา 13:43 น. 6-1

ขอบคุณมากนะคะ วิธีที่แนะนำมาน่าสนใจมากเลย มาลองคิดดูแล้วเมื่อก่อนเราก็เขียนไดอารี่อยู่ด้วย แต่ก็เลิกเขียนไปพร้อมๆกับการเลิกเขียนนิยายนี่แหละ สงสัยต้องรื้อฟื้นความจำใหม่หมด รู้สึกเหมือนเด็กพึ่งหัดเดินเลยค่ะ


ถ้ากระทู้อ่านยากต้องขอโทษด้วยนะคะ พิมพ์ในมือถือเลยปรับขนาดอักษรไม่ได้

0
CEO.Hwang 6 พ.ย. 60 เวลา 22:35 น. 7

คำแนะนำของท่านอื่นๆมีประโยชน์มาก


เราก็เคยเป็นคล้ายกันค่ะ ไม่ใช่เขียนไม่ได้แต่เบื่อสำนวนตัวเองค่ะ 555555

ทางแก้ก็คืออ่านเยอะๆแล้วก็ฝึกฝนไปเรื่อยๆ สู้ๆไปด้วยกันน้า

1
gee-r 7 พ.ย. 60 เวลา 13:45 น. 7-1

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ระหว่างที่รอรื้อฟื้นความจำ พอจะมีนิยายเรื่องไหนแนะนำบ้างมั้ยคะ


ถ้ากระทู้อ่านยากต้องขอโทษด้วยนะคะ พิมพ์ในมือถือเลยปรับขนาดอักษรไม่ได้

0
JNic 7 พ.ย. 60 เวลา 00:27 น. 8
มันเป็นเรื่องของเหตุปัจจัยครับ เหตุเปลี่ยน ผลเปลี่ยน


ตอนคุณยังเป็นเด็ก ย่อมมีหน้าที่ความรับผิดชอบน้อยและจินตนาการเยอะ


แต่พอคุณโตเป็นผู้ใหญ่ คุณมีหน้าที่การงานต้องรับผิดชอบเยอะ แต่จินตนาการดูเหมือนจะน้อยลง แต่ไม่ใช่


ความเครียด ความรับผิดชอบต่อสิ่งอื่น มันมากจนบดบังจินตนาการที่คุณมี ดูนักเขียนหลาย ๆ ท่าน แก่ ๆ ทั้งนั้น เจเคย์ก็ยากจนมากและมีลูกแล้วยังเขียนนิยายออกมาได้ ฉะนั้น จินตนาการคุณไม่ได้หาย แต่มันถูกบดบังโดยความเครียดและวิถีชีวิต สังคมประสบการ์ที่เปลี่ยนไป


ซึ่ง ขั้นแรก คุณต้องจัดการกับปัญหานี้ก่อน ทำอย่างไรให้สิ่งที่รับผิดชอบอยู่ทุกวันมากระทบต่อการเขียนนิยาย


เช่นว่า เคยไหมที่เครียดจนไม่มีอารมณ์เขียน หัวตัน ถามว่าชอบเขียนไหม รักการเขียนไหม มันก็รักมาก ๆ นะ แต่สถาพจิตใจไม่เอื้อ นี่คือปัญหาหลัก ๆ ของคนวัยทำงานที่อยากเป็นนักเขียน แต่ไม่ใช่นักเขียนอาชีพ


สิ่งที่ทำได้ก็คือ พยายามจัดสรรค์ความเครียดและมีวินัยกับการเขียน ให้ลงตัว


พูดง่าย ๆ ว่า งานส่วนงาน เขียนส่วนเขียน ฉะนั้น ถึงเวลาเขียน คุณต้องเขียน ไม่ใช่ไร้วินัยขี้เกลียด


ถึงเวลาเขียน คุณจ้องแต่จอคอม ได้แค่สองสามบรรทัดคุณก็ต้องทำ ทำให้เป็นกิจวัตร ให้ชิน เพราะถ้าคุณไม่ทำมันไปเรื่อย ๆ คุณจะเลิกไปโดยปริยาย


ถามว่า ระว่างวัน เช่นตอนพักจากทำงานหรือหยุดเสาร์ อาทิตย์ สิ่งที่คุณควรจะทำก็คือ เตรียมตัวเป็นนักเขียนที่ดี


เช่น อ่านหนังสือเยอะ ๆ ไม่ว่าจะอะไร ถ้าเราชอบหรือมีประโยชน์ต่อนิยายที่เราแต่ง อ่านมันให้หมด ว่าง ๆ ก็ฟันกลางวันโดยการคิดพล็อตในหัวไปเรื่อย ๆ เสริมสร้างจินตนาการ


และถ้ามีเวลาจริง ๆ ใช้เฟสให้เป็นประโยชน์โดยการ เขียนบทความขึ้นมา อย่าคิดว่าจะแต่งนิยายแล้วต้องแต่งนิยายอย่างเดียว การเขียนบทความสั้น ๆ ก็เป็นการช่วยในการฝึกฝีมือในการแต่งเช่นกัน


พยายามศึกษาวิธีการแต่ง หาบทความเกี่ยวกับการแต่งนิยายมาศึกษาบ่อย ๆ พอ ๆ กับหานิยายแนวที่ชอบมาอ่าน และเวลาอ่านนิยายหรืองานเขียนคนอื่น สิ่งที่ต้องเตื่อนตัวเองก็คือ จดจำคำที่น่าเอาไปใช้ หรือจำเป็นต้องใช้มาเยอะ ๆ


คำในโลกนี้มีมหาศาล ยิ่งเรารู้เยอะ เรายิ่งเอามาใช้ในนิยายเราได้มาก และจะทำให้การบรรยายไม่ติดขัด ไหลลื่น


ฉะนั้น ทำตัวเป็นคลังคำเข้าไว้ คำบางคำ มันซ้ำซากก็ต้องหาคำไวพจน์มาใช้บ้าง เช่น เดิน ก้าว ย่าง เคลื่อน คล้อย มุ่ง ตรง ดิ่ง ย้าย ไป เป็นต้น


และที่สำคัญเหนื่อยสิ่งอื่นใด ความรักและความมุมานะอดทน เป็นปัจจัยสำคัญควบคู่ไปกับคุึณสมบัติอื่น ๆ


คุณต้องมี


ความรักในการแต่งนิยาย


ความอดทนต่ออุปสรรค์


และความมุมานะที่จะทำให้สำเร็จ


ถ้าคุณมีมันมากพอ คุณจะแต่งนิยายได้จนเสร็จ


และที่ขาดไม่ได้อีกอย่างก็คือ หาแรงบรรดาลใจเยอะ ๆ ไม่ว่าจะจากนักเขียนด้วยกันที่เขาประสบความสำเร็จ เพลง หนัง นิยาย สื่อบันเทิงต่าง ๆ ที่มีอิธิพลต่อการแต่งนิยาย ควรหามาเสพเพื่อเติ่มเชื้อไฟในการแต่งนิยายครับ อย่าให้ขาด สู้ ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้

2
gee-r 7 พ.ย. 60 เวลา 13:52 น. 8-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ จะลองเอาไปปรับใช้ค่ะ เพราะอยู่ในภาวะนี้มาหลายวันแล้ว รู้สึกเหมือนโลกกลายเป็นสีเทาไปเลยค่ะ ทนไม่ไหวเลยต้องมาตั้งกระทู้ถาม

พอโตขึ้นมีเรื่องให้ต้องคิดเยอะขึ้นมันเหมือนจินตนาการของเราหายไปจริงๆค่ะ นี่ก็กำลังหานิยายดีๆซักเรื่องอ่านเพื่อให้เรามองโลกได้สวยงามมากขึ้น เหมือนที่เคยเป็นตอนยังเด็ก ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำค่ะ


กระทู้อ่านยากนิดนึงต้องขออภัยนะคะ เพราะพิมพ์ในมือถือ

0
JNic 8 พ.ย. 60 เวลา 18:11 น. 8-2

สู้ ๆ ครับ ผมเข้าใจ เพราะผมก็ประสบปัญหานี้อยู่เหมือนกันครับ มันยากลำบากจริง ๆ ครับ แต่ขอให้อดทนสู้ต่อไปครับ


แต่ผมขอเสริมนิดนึงนะครับ เรื่องความสม่ำเสมอในการแต่ง จริงอยู่ว่าควรจะสม่ำเสมอ แต่ถ้าตอนไหนเราเครียดมากจริง ๆ ก็ต้องวางเรื่องนิยายไปก่อนครับ แต่ขอให้ระลึกในใจว่า ยังไงเมื่อจิตใจดีขึ้นเราจะกลับมาเขียนใหม่


เป็นกำลังใจให้เลยครับ ตอนผมมรสุมชีวิตเยอะ ๆ แทบจะร้องไห้เลยครับ นิยายก็รัก ชีวิตก็หนักเหลือเกิน เขียนไปก็ไม่รุ้จะสำเร็จไหม แต่ก็คิดว่า เราแต่งเพราะเรารัก ฉะนั้น ต่อให้มันไม่สำเร็จในแง่ชื่อเสียง ผมก็ถือว่าสำเร็จ ที่เราสามารถแต่งและมีนิยายเป็นของตนเองครับ

0
peiNing Zheng 7 พ.ย. 60 เวลา 09:54 น. 9

ข้างบนแนะนำกันไปแล้ว เสริมนิดเดียวว่าลองเริ่มจากเขียนสั้นๆ ก่อนไหมคะ เขียนเรื่องยาวมันจะท้อเอาได้ อย่างน้อยถ้าเห็นความสำเร็จอันใกล้จะมัแรงใจขึ้น :)

1
gee-r 7 พ.ย. 60 เวลา 13:56 น. 9-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ วิธีนี้มีหลายท่านแนะนำมาคงต้องลองบ้างแล้ว


กระทู้อ่านยากไปมั้ยคะ พิมพ์ในมือถือเลยปรับขนาดไม่ได้ต้องขอโทษด้วยค่ะ


0
Pemy Meaw 8 พ.ย. 60 เวลา 01:52 น. 10

เริ่มนับหนึ่งใหม่ค่ะ มองย้อนกลับไปในช่วงวัยนั้น แล้วลองฝึกใช้จินตนาการให้เหมือนกับตอนนั้น แล้วเขียนคำแรกออกมา เดี๋ยวมันก็ไปต่อของมันได้เอง

4
gee-r 23 พ.ย. 60 เวลา 16:30 น. 10-1

กำลังทบทวนค่ะ แต่รู้สึกว่าค่อนข้างยากอยู่เหมือนกัน เฮ้อออ

0
Pemy Meaw 23 พ.ย. 60 เวลา 16:33 น. 10-2

ถ้าอยากเริ่มฝึกเขียน ลองเขียนเล่าเรื่องสิ่งที่ตัวเองเห็นในแต่ละวันก่อน สร้างเป็นโครงเรื่องมา แบบว่า ใคร ทำอะไรที่ไหน อย่างไร พอเล่าเรื่องตัวเองเสร้จก็ลองเล่าผ่านในมุมมองของบุคคลที่สอง บุคคลที่สาม ตามลำดับ แล้วค่อยวกกลับมารื้อฟื้นนิยายที่อยากเขียนค่ะ

0
gee-r 23 พ.ย. 60 เวลา 16:40 น. 10-3

เป็นวิธีที่ดีค่ะ ฮือออ ขอบคุณที่มาให้คำแนะนำนะคะ

นี่มีปัญหาอย่างนึงคือชอบติดสำนวนมาจากเล่มที่เราอ่าน จะเป็นอยู่พักนึงเลยค่ะจนกว่าจะไปอ่านเล่มใหม่ แล้วก็ดั๊นไปติดสำนวนจากเล่มใหม่มาอีก

0
Pemy Meaw 23 พ.ย. 60 เวลา 16:45 น. 10-4

ถึงจะติดสำนวน แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ไม่เหมือนกันทั้ง 100% หรอกค่ะ พยายามต่อไปนะคะ สู้ๆ เขียนไปเขียนมา ขัดเกลาไปเรื่อยๆ ทีละนิดทีละหน่อย เดี๋ยวมันก็ออกมาเป็นสไตล์ของเราเองค่ะ

0
lapang 8 พ.ย. 60 เวลา 03:34 น. 11

ไม่รู้ช่วงได้มั้ย แต่เราคล้ายจขกท.เลยค่ะ เขียนตอนม.2 พอขึ้นม.3 ก็ไม่ได้เขียนจริงจังอีกเลยจนเรียนจบ


ตอนแรกกลับมาเขียน เขียนไม่ได้ค่ะ หายไปเจ็ดแปดปี มันงงมันไปไม่ถูก จากเขียนลงสมุด กลายเป็นต้องลงคอมแทน เพราะไม่ถนัดเขียนแล้ว (มันช้ากว่าพิมพ์)


แต่อาศัยว่าอยากเขียนก็จะเขียน ภาษามันก็จะแปลกๆหน่อย 5555

(ตอนเด็กภาษาสวยมาก แต่เนื้อเรื่องไม่มีเหตุผล พอโตมาเรื่องเริ่มมีเหตุผลแต่ภาษากากลงไปเยอะเลยค่ะ 5555)


เราใช้วิธีเขียนค่ะ เขียนมันให้หมด เจอเรื่องอะไรมาก็เขียน บางทีคนคุยขำๆก็เขียนเป็นบทสนทนาสั้นๆ ลงเฟซไรงี้

ถ้าไม่อยาลงเฟซ อารมณ์เสียมาแต่งตอนตัวละครทะเลาะกัน

เศร้ามาแต่งตอนดราม่า

อารมณ์ดีตัวละครก็จะฟิลกู้ดไปเลย เขียนๆไป มันจะกลายเป็นพล็อต แล้วอีกสักพัก ค่อยเอา-ที่เขียนมาจับยำรวมกันมันจะได้เป็นนิยายค่ะ 5555


ที่สำคัญอย่าท้อไปก่อนนะคะ ถ้าตอนเขียนภาษาไม่ดีก็เขียนไปเถอะค่ะ เดี๋ยวพอเอามารีไรท์ใหม่ภาษาจะดีขึ้นเอง


สู้ๆนะคะ ><

1
gee-r 23 พ.ย. 60 เวลา 16:32 น. 11-1

ใช่เลยค่ะ เมื่อก่อนนี่ภาษาโอเคมาก แต่เรื่องเหตุผลนี่ก็ไม่มีเหมือนกัน ตอนนี้แค่เขียนเปิดซักประโยคอ่านแล้วยังรู้สึกว่าห่วยเลยค่ะ

0
Kei K. 8 พ.ย. 60 เวลา 06:47 น. 12

เวลาที่ผมจะเขียนนิยายเรื่องหนึ่ง 'ผมจะชอบคิดจุดจบนิยายที่แต่งเอาไว้ก่อนเสมอ'

แต่ผมก็มีปัญหาเรื่องพล็อตเรื่องใหม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าไม่มี?


ยกตัวอย่างเช่น ตอนแรกๆ ผมก็เขียนนิยายความรักแบบ ญ-ช ธรรมดานั่นแหละ แต่พอผ่านไปสักพัก ผมก็เรื่มหักเลี้ยวมาทาง Y (Yuri) เล็กน้อย แต่พอผ่านไปอีกสักพักหนึ่งก็ดันอยากเขียน Y (Yaoi)


ซึ่งขอบอกนะว่า นิยาย Y(Yaoi) ผมแต่งพล็อตเรื่องทุกอย่างในใจจนจบแล้ว....

แต่ยังไม่ได้เขียน เพราะยังไม่มีเวลาว่างพอ (+นิยายเก่าที่เขียนก็ยังเขียนไม่จบ อีกสองเรื่อง)


ปล. สิ่งที่ทำได้ก็คงมีแค่เขียนไปเรื่อยๆนั่นแหละครับ เพราะถ้ารีบเขียนมากมันจะเป็นการกดดันตัวเอง แถมผลงานมันจะออกมาแย่ด้วย เนื่องจากเราแค่อยากรีบเขียนให้เสร็จ "ไม่ได้อยากให้มันออกดีที่สุด"

1
gee-r 23 พ.ย. 60 เวลา 16:35 น. 12-1

จขกท นิสัยเสียอย่างนึงคือไม่คิดพล็อตเรื่องไว้แต่เเรกค่ะ สุดท้ายก็ไปไม่รอด

0