Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

กว่าจะผ่านการพิจารณาจากสนพ.ต้องส่งกันกี่รอบคะ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
เพิ่งส่งไปค่ะ รอเดือนกว่าๆผลก็ออกมาว่าไม่ผ่านค่ะ เฟลนิดหน่อยแต่ไม่ยอมแพ้แน่นอน! ยังไงต้องปรับปรุงส่งใหม่ตื้นจนผ่านให้ได้ค่ะ55555 ก่อนถึงตอนนั้นเลยอยากรู้ว่านักเขียนทั้งหลายตื้อกันกี่รอบคะ?

แสดงความคิดเห็น

>

10 ความคิดเห็น

เวย์ ผู้เมากาวกลิ่นไวท์ช็อกโกแลต 20 ธ.ค. 60 เวลา 19:13 น. 1

เราส่งไปสามเรื่อง ไม่ผ่านทั้งสามเรื่อง แต่ยังไม่ยอมแพ้ค่ะ คาดว่าจะส่งไปอีกสักสองเรื่องแล้วค่อยมาว่ากันใหม่ เลือกทางนี้แล้วได้แต่สู้เท่านั้นค่ะ 5555555555555

1
lilin4646 20 ธ.ค. 60 เวลา 19:54 น. 2

ส่งไป 2 ที่ไม่ผ่านทั้งสองที่ สุดท้ายมี สนพ. อีกที่มาติดต่อขอซื้อไปตีพิมพ์เองครับ แต่นั่นเมื่อก่อนนะ ตอนนี้น่าจะยากกว่านั้นแล้ว

1
peiNing Zheng 20 ธ.ค. 60 เวลา 20:19 น. 3

ในช่วงที่ตลาดหนังสือกำลังบูมมาก ส่งมากสุดก็สามสนพ (ไม่รวมแก้ต้นฉบับแล้วส่งกลับไปมา) แต่นี่คงไม่สามารถใช้อ้างอิงได้เท่าไรเพราะตลาดนี้กำลังอยู่ในขาลงอย่างเห็นได้ชัดน่ะค่ะ

7
เกียรติ์ 20 ธ.ค. 60 เวลา 21:20 น. 3-2

ตอนนี้หนังสืออยู่ในช่วงขาลงข้ามปีเลยค่ะ สังเกตจากนิตยสารหลายหัวที่อยู่คู่กับคนไทยมานานอย่างขวัญเรือน คู่สร้างคู่สมจะปิดตัวในเดือนนี้ สำนักพิมพ์ก็ปิดตัวกันเยอะค่ะ แต่เชื่อว่าต้องมีวันที่หนังสือกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ตอนนี้คนในวงการหนังสือก็ไม่ได้นิ่งเฉย หลายฝ่ายเริ่มขยับกันแล้ว มันก็น่าเศร้าค่ะที่เห็นนิตยสารที่ตัวเองเคยตีพิมพ์งานด้วยปิดตัวลง แต่เวลาเปลี่ยนโลกก็เปลี่ยนค่ะ ต้องทำใจ 555 เรื่องนิยายจะผ่านไม่ผ่าน การตลาดก็เกี่ยวข้องมาก ๆ เหมือนกัน ถ้านิยานเราโดนใจบก. แต่ไม่โดนใจทีมการตลาด ยังไงก็จบค่ะ

0
ณที่รักกกกกก 20 ธ.ค. 60 เวลา 23:08 น. 3-3

โหหหหหห ล้ำลึกมากเลยนะคะ อยากนี้ก็คงต้องรอไปก่อน หรือไม่ก็ทำของตัวเองให้ดีที่สุด ขอบคุณมากนะคะ ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ

0
peiNing Zheng 22 ธ.ค. 60 เวลา 16:01 น. 3-4

มีคนช่วยตอบเรียบร้อย ขอบคุณนะคะ


ขอเสริมต่อแล้วกันนะคะ ที่บอกว่าตลาดหนังสืออยู่ในขาลง หมายถึงในแง่ที่เป็นรูปเล่มนะคะ แต่หากมองภาพกว้างจริงๆ ความต้องการยังอยู่เหมือนเดิม (หรืออาจจะน้อยลงบ้างตามจำนวนประชากรเกิดใหม่) แต่รูปแบบการเสพเปลี่ยนไป จากเป็นเล่มๆ กลายเป็น Content ในสื่อดิจิตอลแทน


รูปแบบมีตั้งแต่สร้าง Content ในเพจแล้วได้เงินจากการโฆษณาแทน (คล้ายๆ กับหนังสือพิมพ์แจกฟรีที่รายได้อยู่ที่โฆษณา ไม่ได้อยู่ที่คนเสพ Content) หรือสร้างเป็น Content ในเวบไซต์แล้วให้คนซื้ออ่านเอง อย่างเวบไซต์ Dek-D ที่ใช้ Coin ในการซื้ออ่านนิยายในเวบ หรือสร้างเป็น E-book กับผู้ให้บริการวางขาย อย่างอุ๊คบี Meb ฯลฯ


ตอบคำถามว่าทำไมถึงขาลง


ตอบสั้นๆ เพราะผู้ซื้อสามารถพบผู้ขายได้โดยตรง พ่อค้าคนกลางก็เลยไร้ความหมายค่ะ (พ่อค้าคนกลางคือ สำนักพิมพ์ สายส่ง ร้านหนังสือ มาเป็นสายโซ่เลยแหละ) ส่วนรายละเอียด ขี้เกียจพิมพ์


สรุปก็คือ สำนักพิมพ์มีทางเลือกอยู่ไม่กี่ทาง ถ้ายังคงต้องการทำหน้าที่เป็นผู้คัดสรรต้นฉบับ หรือรวบรวม Content มาลงในแหล่งเดียวเหมือนธุรกิจรูปแบบเดิม ก็ต้องปรับตัวในเรื่องบริหารสต็อคและกระแสเงินสดอย่างยิ่ง หรือไม่อย่างนั้น ต้องหาค้นหาพื้นที่ให้ตัวเองใหม่ว่าจะทำยังไงให้พ่อค้าคนกลางอยู่ได้ เป็นแค่ผู้คัดสรรต้นฉบับอย่างเดียวไม่ได้แล้ว อาจต้องมีฟังก์ชั่นอื่นด้วย หรือไม่อย่างนั้นก็ปิดตัวไปแล้วไปทำอย่างอื่นดีกว่า


ตัวอย่างการปรับตัวของสำนักพิมพ์ เท่าที่เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของสำนักพิมพ์หนึ่งที่ยังคงมีกำไรอยู่ได้ (เป็นสำนักพิมพ์ขนาดเล็กที่เจาะตลาดค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม) หลักๆ เขาใช้วิธีขายเองประมาณ 80% - 90% โดยที่ประมาณ 50% ขายได้จากงานหนังสือและที่เหลือคือขายในเวบตัวเอง (ดังนั้นเจ้า 80% - 90% นี้ได้เป็นเงินสด) ส่วนอีก 10% ส่งขายตามร้าน (เป็นเครดิต คือ ขายของไปก่อน แต่กว่าจะได้เงินมาก็อีกสัก 6 เดือน แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ผลิตงานถัดๆ ไป)


ช่วงไหนจะขึ้นอีก?


เกริ่นไว้ตอนแรกแล้วว่า หนังสือเล่มอาจจะหายไปจากตลาด แต่ Content ยังคงเป็นที่ต้องการของนักอ่านอยู่ ดังนั้น นักเขียนยังมีโอกาสค่ะ เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบของสื่อรูปเล่มอีกแล้วเท่านั้นเอง และโอกาสที่จะได้ฉายแสงอาจจะหนักหนาสาหัสกว่ารูปแบบเก่าหรือเปล่าไม่แน่ใจนะ


สมมุติแบบหยาบๆ ว่ามีนักเขียนประมาณ 100 คนส่งไปแล้วสำนักพิมพ์ A เขาแฮปปี้ก็จะตีพิมพ์ให้ หนังสือก็ออกมา สำนักพิมพ์ A มีคนเขียนที่ผ่านพิจารณาทั้งหมด 10 คน ดังนั้นสำนักพิมพ์ A ส่งเรื่องเข้าสู่ตลาด 10 เล่ม


ในตลาดมีสำนักพิมพ์ทั้งหมด 20 สำนักพิมพ์ มีนักเขียนที่ละ 10 คน ดังนั้นมีนักเขียนออกสู่ตลาดให้ผู้บริโภคเลือกสรร 200 คน มีสัก 20 คนที่ฉายแสงคิดเป็นโอกาส 10%


แต่เมื่อเข้าสู่รูปแบบในตอนนี้ที่นักเขียนต่อตรงกับนักอ่านเลย สมมุติว่าเดิม 100 คนส่งเรื่องให้ 1 สำนักพิมพ์และแต่ละคนส่งแค่ที่เดียวเท่านั้น ทั้งหมดมี 20 สำนักพิมพ์ ดังนั้นในตลาดมีนักเขียนทั้งหมด 2,000 คน

นักเขียนทั้ง 2,000 คนสร้าง Content ของตัวเองสู่ผู้อ่าน และมีคนได้ฉายแสง 20 คน คิดเป็นโอกาส 1%


ที่จริงวิธีนี้เปรียบเทียบได้แย่มาก (เพราะจำนวนผู้อ่านที่เข้าถึงได้ย่อมมากขึ้นกว่ารูปแบบเก่า มันไม่ควรคิดแค่ 20 คน แต่เอาแบบนี้ไปก่อนนะคะ) แต่มันช่วยทำให้เห็นภาพว่านักเขียนปัจจุบันมีการแข่งขันสูงแค่ไหน ถ้าปัจจัยทุกอย่างเหมือนเดิมค่ะ


เป็นไปได้มากว่าสูงสุดคืนสู่สามัญในกาลถัดไป เมื่อไรที่ดิจิตอลเข้ามามากจนเกินไป คนจะเริ่มขวนขวายหาระบบอนาล็อก และเมื่อไรที่กลับคืนสู่สามัญ น่าจะปรากฏตลาดเฉพาะกลุ่มที่เรียกราคากับสิ่งนี้ได้ เพียงแต่ต้องคอยดูว่าจะใช้เวลาอีกกี่ปีกว่าจะถึงตอนนั้น


กว่าจะรอจนกระทั่งมันกลับมาใหม่ นักเขียนปัจจุบันคงต้องไหลตามกระแสในตอนนี้ไปก่อนแหละค่ะ

และเท่าที่ดูในตอนนี้ สำนักพิมพ์ต่างๆ กำลังกระโดดเข้าแย่งก้อนเค้กของหนังสือแปลจีนอย่างเอาเป็นเอาตาย สำนักพิมพ์น้อยแล้ว แถมยังหันไปมองเรื่องต่างประเทศกันใหญ่ ยิ่งเหลือพื้นที่ให้กับนักเขียนไทยน้อยลงไปอีก อาจจะหวังพึ่งโอกาสที่ตีพิมพ์ในสำนักพิมพ์ยากอยู่ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนน่าจะดีกว่าน่ะค่ะ


สู้เขานะคะทาเคชิ สมรภูมินี้ช่างดุเดือดยิ่งนัก TvT


ปล. ทั้งหมดเป็นแค่ความคิดส่วนตัวค่ะ เราไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ (ไม่เกี่ยวกันเลยเหอะ) จึงเป็นเพียงมุมมองของคนไม่เกี่ยวข้องที่มองเข้าไปในอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ไม่ทราบในปัจจัยและรายละเอียดลึกๆ ที่อาจทำให้ความคิดทั้งหมดเปลี่ยนไป (ถ้าตรงไหนที่เรามองแล้วไม่เข้าเค้า ท้วงติงได้นะคะ)

0
เกียรติ์ 22 ธ.ค. 60 เวลา 18:34 น. 3-5

ขอขอบคุณคุณเป่ยหนิงสำหรับการขยายความค่ะ

ถ้าหากจะถามว่าหนังสือรูปเล่มยังมีคนอ่านไหม คำตอบคือมีค่ะ แต่ต้องยอมรับว่าหนังสือรูปเล่มกำลังแผ่วจริง ๆ มีไม่กี่สนพ.เท่านั้นที่ยังยืนหยัดได้ ชนิดว่าก็ยังตีพิมพ์หนังสือต่อไป ไม่ปิดตัวลงเหมือนที่อื่น แต่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างการพิมพ์ใหม่เยอะอยู่เหมือนกันอย่างที่บอกค่ะ ไม่ผ่านการตลาดก็จบ สนพ.คือนักธุรกิจ ทำแล้วขาดทุนแน่นอนเขาก็ไม่ทำ นักเขียนที่ลงอีบุ๊กก็ได้ส่วนแบ่งมากกว่าส่งสนพ. แต่เชื่อว่าคงจะมีสักวันที่หนังสือเล่มจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง แต่ก็คงจะอีกนานละค่ะ

0
ณที่รักกกกกก 22 ธ.ค. 60 เวลา 22:44 น. 3-7

จขกทจะรอวันที่หนังสือกลับมารุ่งเรืองนะคะ เพราะชอบแบบหนังสือมากกว่าค่ะ อ่านแล้วสบายตา

0
Moony Knight 20 ธ.ค. 60 เวลา 21:12 น. 4

ส่่งไปหลายรอบจนขี้เกียจนับแล้วค่ะ ไม่เคยผ่านเลย ต้อแต้ 555555

ยังไงก็สู้ต่อไปนะคะ วันหนึ่งอาจเป็นของเรา~

1
i am nilin 20 ธ.ค. 60 เวลา 22:03 น. 5

สู้ๆน้าาา เราเป็นกำลังใจให้ นึกซะว่าเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้แก้ไขผลงานให้ดีกว่าเดิมค่ะ^^

1
chinchang22 21 ธ.ค. 60 เวลา 07:05 น. 6

3 เรื่องแรก เรื่องละ 3-4 ที่ มีส่งไป สนพ ที่เขาหยุดพิมพ์แล้วด้วยค่ะ

พีคไปอี้ก ตอนส่งเมลล์ไปถามผลการพิจารณา

นับครั้งที่ลองรีไรท์แล้วส่งซ้ำที่เดิมด้วยค่ะ

เรื่องที่ 4 ประมาณ 2-3 ที่ รวมๆ แล้ว 10+ ครั้งค่ะ

1
มุมฉาก. 21 ธ.ค. 60 เวลา 09:26 น. 7

สมัยก่อนเคยส่งแล้วผ่าน แต่กว่าจะผ่านก็ 6-7 แห่งเห็นจะได้ ทางนั้นส่งสัญญามาให้เซ็น ต่อมาไม่นานสำนักพิมพ์ปิดตัวไป ผลงานก็เลยไม่ได้ลง เศร้ากันไป


สมัยนี้ไม่ค่อยจะว่างเสียแล้ว คิดการใหญ่เหมือนเดิมไม่ได้ เข้าใจว่าคงยากกว่าเดิม แต่ถ้าไม่คิดฝันวันของเราคงไม่มาใช่ไหมครับ

1
ณที่รักกกกกก 21 ธ.ค. 60 เวลา 15:54 น. 8-1

โอ้โหหหหหห งั้นถ้าได้ตีพิมพ์หนังสือก็ต้องดังเป็นพลุแตกเหมือนเจเคแน่เลยค่ะ สู้ต่อไปนะคะ

0
ณที่รักกกกกก 21 ธ.ค. 60 เวลา 15:55 น. 9-1

ต้องกล้าเท่านั้นค่ะ มั่นใจเข้าไว้ค่ะ ถ้าได้ตีพิมพ์ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ก็ถือว่าได้พัฒนางานค่ะ

0
Wordslinger 21 ธ.ค. 60 เวลา 15:34 น. 10

เราส่งไปสองรอบค่ะ สำนักพิมพ์แรกก็สองเดือน แต่ไม่ผ่าน ทางสำนักพิมพ์อธิบายเหตุผลอย่างสุภาพนะคะว่าทำไมจึงไม่ผ่าน คือไม่ตรงกับแนวทางสำนักพิมพ์ จึงเลือกส่งไปอีกที่ คราวนี้ประมาณห้าวันค่ะ เขาก็บอกว่าสนใจพิมพ์ จริงๆ มองว่าถ้าเราเลือกส่งให้ตรงกับแนวของสำนักพิมพ์ก็จะมีโอกาสผ่านสูงนะคะ


แต่ก่อนจะส่งไปนี่ ก็ต้องรีไรต์และตรวจแก้คำผิดจนตาบวมเลย ฮ่าๆ


ยังไงก็เอาใจช่วย และมาพยายามไปด้วยกันค่า

1