เคยมีปัญหากับการบรรยายฉาก,ลักษณะของตัวละครกันไหมค่ะ?
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
10 ความคิดเห็น
เป็นบ่อยเหมือนกันค่ะ
อาจจะเป็นเพราะคำศัพท์ในหัวเรายังไม่เยอะพอด้วยแหละ เวลาถามคนอื่นส่วนใหญ่เขาก็บอกให้อ่านเพิ่มเติม
อีกวิธีก็วาดเลยค่ะ วาดฉากออกมาคร่าวๆ ให้ตัวเองเข้าใจ แล้วลองหาคำศัพท์ดูว่าแบบนี้เรียกว่าอะไร ใช้คำอะไรได้บ้าง
อย่างเช่นจะเขียนฉากที่สวนสาธารณะตอนเย็น ก็หาดูว่าพระอาทิตย์กำลังตก หรือพลบค่ำมีคำไหนใช้ได้บ้าง
เราเข้าใจที่จขกท.บอกถูกมั้ยคะ 5555
เราจะลองนำไปใช้ค่ะ ขอบคุณสำหรับคำเเนะนำนะคะ//เข้าใจถูกเเล้วจ้า
ศัพท์ไม่พอจ้า ต้นเหตุหนึ่งที่สำคัญของปัญหา วิธีแก้ก็ มีเยอะแยะ ลองไปเลือกเอานะ -x-
จะลองดูนะคะ ขอบคุณสำหรับคำเเนะนำจ้า
เราใช้วิธีคิดทีละส่วนค่ะ ภาพอาจจะแว่บเข้าหัว แต่เราต้องมาคิดถึงรายละเอียดอีกที ค่อยๆ คิด ค่อยๆ จินตนาการ
ว่าภาพนั้นมีอะไรเป็นองค์ประกอบบ้าง
ยกตัวอย่าง บรรยายฉากป่าที่มีแม่น้ำ (อาจบรรยายได้ไม่ดีเท่าไหร่ มือใหม่หัดเขียนเช่นกัน)
เมื่อผ่านป่าทึบที่ทั้งมืดและชื้น ภาพแม่น้ำสายหนึ่งก็ปรากฎ แสงสว่างส่องกระทบสายน้ำระยิบระยับน่ามอง รอบข้างมีสัตว์น้อยใหญ่ต่างลงมาดื่มด่ำกับสายน้ำสะอาดดับกระหาย
อะไรประมาณนั้นแหละค่ะ
อีกส่วนก็อ่านมากๆ อ่านแบบนักเขียน อ่านว่าเขาเขียนบรรยายฉาก บรรยายคนยังไง ก็ลองเอามาปรับเขียนกับนิยายตัวเอง
เขียนเยอะๆ ค่ะ ผิดก็ช่างมัน แก้ไขได้ ปรับปรุงได้ สู้ๆ นะคะ
เขียนบรรยายเก่งมากค่ะ//ปรบมือ
เขียนเก่งกว่าเราอีกค่ะ555 จะลองนำไปใช้ดูนะ ขอบคุณมากจ้า
ไม่ค่อยมีนะ อาจจะเป็นเพราะเราวาดรูปด้วยมั้ง เลยใช้เทคนิคการบรรยายเป็นลำดับเหมือนกับตอนที่เราวาดรูป แต่จากวาดรูปบนกระดาษก็เป็นวาดรูปเข้าไปในหัวคนอ่านแทน คือปกติวาดรูปมันก็ต้องร่างโครงหลัก ๆ มารค์ตำแหน่งสำคัญก่อนใช่ไหม เวลาบรรยายก็คล้าย ๆ กันนั่นแหละ แบบว่าบรรยายโครงลักษณะหลัก ๆ ก่อน ว่าอะไร แบบไหน เล็กใหญ่ขนาดไหน ตำแหน่งหลัก ๆ ตรงไหน แล้วค่อยลงบรรยายรายละเอียดน่ะ
อีกอย่างที่เราใช้ประกอบกันคือคิดมุมกล้องเหมือนตอนถ่ายวีดีโอหรือทำอนิเมชั่น แบบคิดก่อนว่าในฉากนั้นมุมกล้องการบรรยายของเราจะเป็นยังไงถึงจะเข้ากับเนื้อหาที่เราอยากจะนำเสนอ ซึ่งมันก็มี 2 แบบคือ
1. จากภาพรวม ไป จุดเล็ก ๆ อย่างเช่นถ้ามีคนสองคนนั่งอยู่ริมทะเลสาบ แล้วช่วงต่อไปจะไปที่บทสนทนาของสองคนนั้น เราก็จะบรรยายภาพบรรยากาศรอบตัวจากไกล ๆ ก่อน แล้วขยับใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนมาจบที่การบรรยายตำแหน่งและท่าทางของสองคนนั้น มันก็จะออกมาประมาณ
"แสงอาทิตย์ยามโพล้เพล้ค่อย ๆ เลือนราง เกิดเป็นเฉดสีงดงามข้ามขอบฟ้า ไล่จากสีเหลืองส้มเรืองรองของฟากฟ้าด้านหนึ่งไปยังสีน้ำเงินมัวหม่นของฟ้าอีกด้าน ด้านสว่างนั้นแต่งแต้มไปด้วยริ้วเมฆบางสีชมพูอมส้มอ่อนหวาน ดั่งเสียงกระซิบรักจากดวงอาทิตย์ที่ฝากทิ้งไว้ให้เหล่าดวงดาราผู้กำลังจะตื่นจากนิทราในฟากฟ้าอีกฝั่ง
ใต้ฟ้างามนั้น ทะเลสาบกว้างใหญ่เปล่งประกายสีเขียวมรกตลึกล้ำจากแสงเลือนรางสุดท้ายของวัน พื้นน้ำนิ่งเรียบดั่งกระจกสะท้อนแสงดวงดาราที่เริ่มทอประกายระยิบระยับ
ณ ริมฝั่งทะเลสาบด้านหนึ่ง ชายหนุ่มสองคนนั่งเคียงกันข้างกองไฟขนาดเล็กหันหน้าเข้าหาพื้นน้ำกว้างใหญ่ ห่างออกไปไม่ไกล เสือสีขาวตัวน้อยกึ่งนั่งกึ่งนอนแทะเนื้อย่างชิ้นโตอย่างเอร็ดอร่อย"
2. จากจุดเล็ก ๆ ไป ภาพรวม อย่างเช่น ถ้าฉากนั้นเริ่มจากคำพูดลอย ๆ ขึ้นมา เราก็จะโฟกัสไปที่ตัวบุคคลก่อน แล้วค่อยบรรยายไล่ห่างออกไปไกลเรื่อย ๆ จนถึงฉากหลัง อย่างเช่น
"น้ำเสียงนุ่มทุ้มอันคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านข้าง ให้หนุ่มร่างเล็กในชุดคลุมสีเทาที่กำลังสับสนกับบทสนทนาที่ตนได้ยินผินหน้าเงยขึ้นมอง ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มร่างสูงในชุดผ้ายาวกรอมเท้าสีขาวกำลังยืนส่งยิ้มอันอบอุ่นมาให้ในระยะประชิด ใบหูเรียวแหลมชี้ออกด้านข้างกับผิวเรืองแสงสว่างสีเหลือบฟ้าอมเขียวดั่งสิ่งมีชีวิตจากเทพนิยาย เส้นผมยาวสีทองสะท้อนประกายแสงอาทิตย์ยามบ่ายแก่ ๆ ที่โคจรคล้อยลงต่ำ และกำลังส่องทำมุมกับเหลี่ยมแนวหินยอดป้อมศิลาโบราณหลังใหญ่ จนเห็นเป็นประกายแสงเรืองรองส่องจากทางด้านหลังชายหนุ่ม ยิ่งขับให้บุรุษในชุดขาวดูเหมือนดั่งพระโพธิสัตว์ผู้เมตตาที่ลงมาโปรดสัตว์โลกผู้กำลังเผชิญมรสุม "
ว้าวสุดยอดไปเลยค่ะ ฉากเพียงฉากเดียวสามารถบรรยายได้เเบบนั้น เราอยากทำได้บ้างจังค่ะ! เราจะลองนำไปใช้ดูนะคะ ขอบคุณสำหรับคำเเนะนำจ้า
เป็นเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยบรรยายเยอะ อิอิ ลักษณะตัวละครบรรยายน้อยมาก ส่วนฉากจะบรรยายเหมือนเราดูละครค่ะ จับภาพที่อะไรก่อน ประมาณนั้นค่ะ
เหมือนกันค่ะ ฉากบรรยายตัวละครบรรยายน้อยมากกกกกจนมีรีดมาบอกว่านึกภาพตามไม่ถูก ส่วนพอบรรยายฉากต่างๆก็บรรยายเเบบผ่านๆนึกอะไรออกก็เอาไปใส่เเล้วค่อยปรับเเต่งเอาค่ะ
บรรยายน้อยมากจริง ๆ ถ้าเทียบกับของคนอื่น ><
บางทีคิดไม่ออกว่า จะบรรยายหน้าตายังไงดี ก็หารูปดารามาดู บรรยายตามภาพเลย อิอิ
คิดเข้าข้างตัวว่า คนอ่านไม่ชอบอ่านอะไรที่บรรยายมากเกินไปหรอก ฮา...
มี ในหัวเราภาพโคตรสวย พอบรรยายมันติดขัดไปหมดไม่รู้ทำไม เลยซื้อคลังคำมา หนักกว่าเดิมอีก ติดจัดเพราะมัวแต่กังวลมาเปิดดูอยู่นั่นแหละ
เคยเป็นค่ะ คิดคำไม่ออกเลยหาพจนานุกรมมาเปิดดู ไปต่อไม่ถูกมากกว่าเดิมอีก5555
อศร้าสร้อยเล็กน้อย เราค้างตอนที่แปดในนิยายมาครึ่งเดือนละเนี่ย
ของเราตอนที่สิบสามยังไม่เริ่มเลยค่ะ5555
เป็นบ่อยค่ะ
จนกระทั่งเคยหยุดเขียนนิยายเพราะปัญหานี้
แต่เรามีวิธีแก้คือ
กลับไปอ่านงานของคนอื่น
เลือกหนังสือดีๆ ที่เขาบรรยายเด็ดๆ มาสักสองสามเล่ม
มาอ่านเป็นแนวทาง
หรือจะอ่านคลายเครียดก็ได้
แล้วสักพักสกิลการบรรยายจะมาเองค่ะ
เราจะนำไปปรับใช้ค่ะ ขอบคุณสำหรับคำเเนะนำนะคะ
หาเพื่อนที่เป็นสายวาดรูปและตั้งโปรเจคกันครับ!!
วิธีดีมากเลยค่ะ เเต่มันมีปัญหาอยู่ที่ว่า......เราไม่มีเพื่อนนักวาดเลยน่ะสิ! เเงงงง//กอดเข่า
เป็นบ่อยครับ ทุกวันนี้ก็ยังเป็น เขียนมาลื่น ๆ พอต้องบรรยายลักษณะตัวละครใหม่ / ฉากสถานที่ใหม่
เท่านั้นแหละ นั่งมองคีบอร์ด เปิดหาแหล่งอ้างอิง(นิยายคนอื่น) 4-5 เรื่อง งมหาบทที่คุ้น ๆ ว่าเขาบรรยายสวยเอามาปรับ
สรุปบางทีเกือบชั่วโมงก็มีครับ TT แต่หนักกว่าก็คิดชื่อท่าเนี่ยแหละ หัวคิดไม่มีต้องให้เพื่อนช่วยคิด แล้วก็นั่งถก นั่งอธิบายรูปแบบท่าให้มันช่วยคิด กว่าจะได้แต่ละชื่อเกินชั่วโมง (ฮา) จะเขียนชื่อส่ง ๆ แล้วข้ามไปเขียนส่วนอื่นก็ไม่ได้ด้วยนะ โรคจิตแปลก ๆ เพิ่มเติมบ่อยครั้งในหัวผู้เขียนเองยังขาวโล่งเลยจ้า แต่ก็ต้องบรรยายออกมา อย่าว่างั้นว่างี้ เรามันจินตนาการต่ำในด้านนี้รึไงไม่รู้ แต่ทุกวันนี้ตัวละครในเรื่อง ยังไม่มีภาพตัวละครชัด ๆ ในหัวเลย มันลาง ๆ ไปหมด (แต่นักอ่านคงไม่รู้หรอก 555)
เป็นเหมือนกันค่ะ ทุกวันนี้เรายังมโนหน้าตาของตัวละครไม่ออกเลยค่ะ เจ็บใจ...
เป็นบ่อยครับ คล้ายๆกันจนน่าเบื่อตอนเปลื่ยนคำหรือเขียนอ้อมมากกว่าเดิม
ใช่ค่ะ ตอนคิดคำไม่ออกมันน่าเบื่อมากเลยล่ะค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?