[มาแชร์กัน] เมื่อคุณตันคุณจะทำอย่างไร

ใช้ไอเท็มครับ

//เผ่น

ฟังเพลงอย่างเดียวเลยครับ ฟังไปเรื่อยๆ ฟังวนไป เดี๋ยวไอเดียไหลมาเองครับ แหะๆ

ถ้าตันเราจะหยุดพักก่อน เพราะไอเดียเราจะพุ่งมากตอนก่อนนอน ก่อนนอนนี่คือก่อนนอนจริงๆนะ คงเพราะเราอาบน้ำปิดไฟจะนอนมันทำให้สมองผ่อนคลายแล้วมั้ง เลยทำให้ได้แนวคิดดีๆมากกว่าตอนที่คิดช่วงอื่น

เราชอบคิดออกตอนนอน ตอนอาบน้ำ หรือไม่ก็ตอนออกกำลังกายค่ะ

คิดอะไรออกก็เขียน ๆ ไปก่อนค่ะ แล้วไปนอน ตื่นมาอีกวัน อ่านอีกรอบ แก้ยาวไป ๆ

**ถ้าตันแบบสุด ๆ อาจต้องพัก หลับเป็นตาย-หายไปสักสองสามวัน แล้วค่อยวนกลับมาที่เดิม**

**ถ้ามีคนอ่านคอมเม้นชมไว้ กลับมาอ่านคำชมนั้นบ่อย ๆ ก็พอช่วยให้มีกำลังใจแก้ไขไปยาว ๆ 55+

ผมแบ่งเวลาการทำงานเขียนเป็นสองงานครับ

งานแรกคืองานเขียน

งานที่สองคืองานคิดพล็อต

งานแรกจะไม่เกิด ถ้างานที่สอง (คิดพล็อต) ไม่คืบหน้า

จะลงมือคิดพล็อตจนได้พล็อตตุนไว้จำนวนหนึ่ง หรือยิ่งไกลเท่าไหร่ได้ก็ยิ่งดี

ก่อนจะกลับสู่งานแรก คืองานเขียน

เมื่อมีพล็อตเตรียมไว้จำนวนมาก การเขียนจะลื่นไหลสุด ๆ ไม่มีอาการตันใด ๆ เลย มีแต่อาการล้ากับมึนทางร่างกายเท่านั้น มีไฟ มีเวลามากเท่าไหร่ใส่ได้ไม่จำกัด

เมื่อพล็อตถูกเผาพลาญจนหมด ก็จะกลับสู่การคิดพล็อต

ซึ่งเวลาคิดพล็อต จะเป็นเวลาที่เผชิญหน้ากับอาการตันชนิดเข้มข้น การแก้อาการตัน คือการเฟ้นหาเส้นทางการดำเนินเรื่องจากการคิดอย่างเข้มข้น เปิดสมุดภาพCG เปิดเว็บ เปิดแคสเกม เดินไปเดินมา เดินเล่นในสวนสาธารณะ ทำกิจกรรมที่ไม่ดึงสมาธิของเราไปจดจ่อ กิจกรรมที่ว่าก็อย่างเช่น การเล่นเกม ดูทีวี ดูแคสเกมที่ต้องใช้ความตั้งใจดูมาก ๆ

หากแยกเวลาคิดพล็อตออกจากการเขียน คุณจะคิดพล็อตออกครับ เพราะคุณหันมาสนใจแค่พล็อตเพียงอย่างเดียว

หรือเฝ้ารอเวลาที่เขาเรียกอย่างเก๋ ๆ ว่า "อารมณ์ศิลปิน" ก็ได้ ช่วงนี้พล็อตจะหลั่งไหลมาราวกับน้ำตกเลย แต่ช่วงเวลาดั่งกล่าว หายากมาก แต่ก็หาง่ายกว่าถูกหวยก็แล้วกัน

ดูอนิเมะครับ เนื้อเรื่องโดยส่วนมากมาจากอนิเมะ พอดูแล้วหายตันเลยครับ ไมก็ดองแม่งเถอะ

รอช่วงสอบ

ไอเดียจะมาแบบกระสุนรัวๆ เลยเพื่อไม่ให้เราได้มีโอกาสอ่้านหนังสือเรียน

ต้องลองถามคนนี้ดู

ถ้าไม่เล่นเกมก็คงสลบค่ะ ส่วนใหญ่เราจะงานยุ่ง เรียกว่าหาเวลามาพิมพ์ได้ก็บุญแล้วมากกว่า

ดองงงงงงงงงง

ปรกตินิยายเราจะเขียนยามที่ว่างจากงานประจำ โดยปรกติจะแบ่งเป็นแบบนี้อ่ะค่ะ

1. วันไหนหากสมองแล่นดีก็เขียนไปยาวจนกว่าจะตันในส่วนของวันนั้น

2. หากวันไหนขี้เกียจไม่อยากใช้สมองมาก เราก็จะเปลี่ยนมาอ่านพล็อตนิยายที่เขียนเอาไว้ว่ายังมีอะไรติดขัดอีกบ้าง

3. คือวันที่ขี้เกียจสุด ๆ ก็เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง เป่าขลุ่ยจีน วาดรูป ฯ ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องใช้สมองเลย

4. คือสภาพที่เพิ่งหลุดจากขุมนรก (เสร็จงาน) อันนี้คือนอนเลย อะไรก็ไม่เอาแล้ว!!

-เหล้ากับอ่านนักสืบยู

ดองค่ะ

ดองจนเค็มเลย

ภาวะตันสำหรับเรา

จึงภาวะอันตราย

เพราะถ้าตันเมื่อไร

ก็จะเข้าสู่กระบวนการ 'ดอง' ทันที

ถ้าคิดไม่ออกจริงๆหรือตันมากๆจะพักค่ะ (แต่ไม่ได้ดองนะ) จะพักเพื่อรีแล็กซ์และ recover ตัวเองให้ผ่อนคลายค่ะ ไม่ก็ออกจากบ้านไปหาประสบการณ์และไอเดียใหม่ๆ ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องคิดอะไรเกี่ยวกับนิยายอะไรทั้งนั้นสักพักแล้วมันจะดีขึ้นเองค่ะ เหมือนพอสมองเราได้พักผ่อนมันก็รู้สึกมีแรงขึ้น คล้ายๆกับตัวเรานี่แหละค่ะที่เวลาเหนื่อยก็ต้องนอนเอาแรง สมองก็ต้องการเวลาพักผ่อนเช่นกัน ^^

ไม่ดองก็นอนค่ะ ถ้าโชคดีหน่อยก็จะฝันเรื่องต่อแล้วเอามาเขียนได้ค่ะ 555555

อันนี้ตามอายุเลยนะ

ถ้ายังอายุน้อยๆ ไฟกำลังแรง นอนหลับเป็นวิธีที่ดีที่สุด แล้วพวกตัวละครมันจะเข้าไปตีกันอยู่ในหัวแล้วคลี่คลายออกมาเอง เมื่อเราเหนื่อยล้าให้นอนพักผ่อน อันนี้สำคัญมากๆ

แต่ถ้าเริ่มแก่ตัว หรือเป็นผู้ใหญ่ขึ้น สิ่งที่ขับเคลื่อนทั้งหมดมันไปผูอยู่กับ "เรื่อง" ที่จะเล่า คือถ้าเราคิดไม่ออกว่าเรา "อยากเล่าอะไร" มันก็จะไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย แต่ถ้ามีทิศทางชัดเจนแล้ว ทุกอย่างจะตามมาเป็นแถวเลย

ปกติเวลาที่ตันจะใช้วิธีเอาหัวไปคิดเรื่องอื่น แล้วค่อยกลับมาอ่านทวน

มันจะเหมือนเวลาจะเข็นรถข้ามเนินแล้วต้องดึงถอยหลังก่อนแล้วค่อยออกแรงเข็นนั่นแหละ

นอน กิน นอน ฟังเพลง กิน วาดรูปกิน

กิน นอน แต่งนิยาย และมันจะวนลูปแบบนี้