Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สุดจะทนกับความเสื่อมของคำศีลธรรม

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมว่าเรื่องนีั้เกิดขึ้นมาซักพักแล้ว ออกมาพูดแล้วจะหาว่าเราโลกสวย ผมบอกเลยไม่แคร์

ผมเป็นนักอ่าน และชอบเขียนนิยายคนหนึ่งแม้ผลงานยังไม่เป็นรูปเป็นร่างอยู่ในระหว่างทดลอง
เขียน แต่ในฐานนะนักอ่านผมเชื่อว่าไม่น้อยหน้าใคร

นิยายหลายๆเรื่อง ให้แง่คิด การดำนินชีวิต ให้มุมมองการใช้ชีวิต ทุกหมวดดีงาม แต่ระยะหลังหลานคนเขียน และนำเสนอ นิยายออกมา เริ่มหลุด คำว่า ศิลธรรม ก็เข้าใจว่าบางเรื่องมันออกแนว ดาร์คๆ มุมมืด ผู้เขียนที่คิดจะเขียนแนวนี้ มีหลายคนนำเสนอได้ดี แม้จะดำมืดแต่แฝงไปด้วยแสงสว่าง ทำให้อ่านแล้วรู้สึกว่าโลกมันไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นตื่นเต้นดี

การฆ่ากันในแบบจอมยุทธ เราก็ต้องเข้าใจเรื่อง สังคมที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก พอรับได้ แต่ผู้เขียนหลายท่านควรแยกให้ออก ระหว่าง จอมยุทธ และ ฆาตกร เอาสะใจ เข้าว่าจนคำว่าศิลธรรม หรือความเป็น มนุษย์ ไม่มีเหลือ ท่านต้องอย่าลืมว่าท่านนำเสนอไป นั้นนิยายของท่านมันเข้าถึงจิตใจผู้อ่านที่รับการนำเสนอของท่านเข้าไป ท่านคงรู้สึกไม่ดีนักหลอกว่า ถ้ามีข่าวเกิดการ ฆาตกรรมขึ้น โดยคนร้ายเรียนแบบนิยายท่านไปทำตาม ผมยกตัวอย่างนะ เขียนได้แต่ควรแทรกความรู้สึกผิดชอบชัวดีลงไปด้วย ผมเห็นนักเขียนหลายท่านนำเสนอได้ดี ยิ่งฆ่าคนยิ่งเจ็บปวด ประมาณนั้น

แต่นั้นแค่เด็กๆ ณ ตอนนี้ ผมได้มีโอกาส อ่านนิยายจากนักเขียนรุ่น น้อง อายุ ที่อ่านๆมายังน้อย มาก 14 - 18 ปี ส่วนมากนิยายที่เขาถ่ายทอดออกมานั้น รุ่นแรง นำเสนอ แนวคิดทาง อาชญากรรม ปล้นธนาคาร เอาเงินไปใช้จ่าย กฎหมายมีแค่เป็นเครื่องประดับ มีอำนาจ มีพลัง สามารถทำได้ทุกอย่าง ผิดชอบชั่วดีของตัวละคร  ไม่ค่อยนำเสนอ หรือเหตุจุงใจที่กระทำไม่มี แค่ไม่มีเงินก็ไปเอาเงินเหมือนขอแม่กินขนม คำว่า ศีลธรรม อย่าไปถามถึง แถมนักอ่านยังสนับสนุน สะใจบ้างละ ดีงามบ้าง ละ มันใช้จริงๆหรือ กับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ ผมรู้สึกไปคนเดียวหรือเปล่า แต่เราควรทำอะไรซักอย่างหรือเปล่า ศีลธรรม มันยังจำเป็นหรือเปล่า?

 
----------------------------------------------------------------------------------

*เพิ่มเติมหลังจากที่ได้รับฟังความคิดเห็นเพื่อนๆ ไปส่วนหนึ่ง ก็ได้รู้ว่ามีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คิดเหมือนเราเหมือนกันไม่ได้คิดอยู่คนเดียว

จึงอยากเสนอ แนะให้มีการ จัด เรท นิยาย ขึ้นป้ายชัดเจน แยกป้าย แยกเรท เหมือนเกมส์ เลย ว่านิยายเรื่องนี้ คุณจะเจอกับ อะไร ให้เลือก ตอนที่จะตั้งหมวยของนิยายอ่ะ
10+ 15+ 18+ 20+ ก็ว่าไป เพื่อคนหลายๆคนเช่นผมทดไม่ได้ที่จะเห็นนิยายติด 20+ มาอยู่ในกลุ่มที่เลือกหานิยาย จะได้ไม่แจ้งแบน ให้กินใจกันเปล่า หรือ หรือ ถ้ามีใครคิดอยากเอา ฉาก Sex เข้ามา 10+ จะได้ แจ้งแบนกันแบบไม่ค้างคาใจ 10+ ลดการฆ่า 15+ฆ่าได้ แต่ไม่โหดมาก อะไรก็ว่าไป ต้องคุยกันเรื่อง เรท และเนื้อหานิยายในแต่ ระ เรท นั้น ไม่รู้มีใครคิดทำยัง แต่ผมเสนอเลย

แซว* บางที่ถ้าคุณเปรม คนนั้น เค้า มา เขียนนิยาย ระบาย การล่าสัตว์ บาง ที เสือดำคงไม่ตาย แต่อาจมีคนที่อ่าน นิยาย ของ คุณ เปรมคนนั้น อาจอยากล่าเสือดำดูซักครั้งแทน smiley

แสดงความคิดเห็น

>

20 ความคิดเห็น

Cocoloco 16 มี.ค. 61 เวลา 10:53 น. 1

เด็กก็คือเด็กครับ…คงเขียนเพื่อความสะใจละมั้ง ไม่ค่อยจะใส่เหตุผลลงไปในนิยาย 555


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-12.png Nani!

0
G.Tenju 16 มี.ค. 61 เวลา 12:07 น. 2-2

สะท้อนมาจากจิตใต้สำนึกคนเขียน...จริงครับ แต่คนที่จะมีจิตใจเกลียดชังจนทำร้ายคนอื่นได้ มักจะถูกทำร้ายมาก่อนเช่นกัน มันเลยเป็นความทรงจำด้านลบในหัว ทำให้เขาอยากระบายออกมา

0
แฟรงค์ ไฟลอย 17 มี.ค. 61 เวลา 08:12 น. 2-3

ระบายออกมาเป็นตัวอักษร

แต่....ต้องดูเวลาและสถานที่

เช่น เวปนี้เด็กเยอะมาก


นิยายควรมีลิมิตของตัวมันเอง

เด็กวัยรุ่นส่วนมาก ความมั่นใจในตัวเองสูง คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรยาน "ครับ อ่านไม่ผิด จักรยาน"


มั่นใจในทุกสิ่ง ทั้งๆที่ความรู้เท่าหางอึ่ง สุดท้ายก็พลาด แล้วก็ทำได้เพียงแค่ ผมขอโทษ ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์

0
G.Tenju 20 มี.ค. 61 เวลา 21:49 น. 2-4

ก็คนแต่งมันยังเด็กอยู่ไง จะให้ทำยังไงละ = =


ส่วนที่อธิบายเรื่องจิตใต้สำนึกนั่น ผมอยากให้เข้าใจปัญหาที่เด็กมันเจอ กลัวคนมาอ่านตรงนี้แล้วจะเผลอตัดสินคนเพราะเคยมีคนพูดประเด็นนี้แล้วเขาไปตีความว่า...


นิยายเนื้อหารุนแรง = คนเขียนจิตใจต่ำ


แค่นั้นแหละ...https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-13.png

0
FreelanceBoy 16 มี.ค. 61 เวลา 11:29 น. 3

นิยายมันก็คือเรานั้นเเหละครับ จะมีเหตุผลหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับคนเขียนว่าเขาจะเป็นมีเหตุผลเเค่ไหน

เเต่นิยายไร้เหตุผลผมคิดว่า เขาคงอยากจะระบายละมั้งครับ เคยไปดูกระทู้ถามเเรงบันดาลใจในการเขียนหรือทำไมถึงมาเขียนนิยาย ก็มีคำตอบว่า อยากจะระบายนั้นละครับ

บางคนระบายลงในนิยายเพราะในลึกๆคงอยากจะทำจริงๆละมั้งครับเเต่ก็ยังมีสติรู้ว่ามันผิดเลยสร้างตัวละครที่เป็นจิตใต้สำนึกของเราขึ้นมาเเล้วระบายลงไปในอีกโลกหนึ่ง ผมคิดว่ามันเป็นวิธีรักษาจิตใต้สำนึกของคนที่เครียดเอามากๆละมั้งครับ

ส่วนคนที่เขียนนิยายเเนวดาร์คเเบบมีเหตุผล ผมคิดว่าคนกลุ่มนั้นคือคนที่ผ่านมันมาเเล้ว เเละต้องการจะให้คนอื่นรู้ว่ามันเลวร้ายมากเเค่ไหน เลยคิดจะนำเสนอมาในรูปเเบบนิยาย


ส่วนคนที่บอกว่าสะใจน่ะ. . . คนเป็นที่สนุกไปกับการระบายของคนเขียน บางทีเขาอาจจะรู้สึกเหมือนเราก็ได้ อ่านตามเเล้วรู้สึกว่า เออ โลกมันเลวร้าย เอาเลยลุยเข้าไป

คนที่เครียดเหมือนคนอ่านจริงๆคงจะรู้สึกดีตาม ส่วนคนที่ไม่ได้รู้สึกคงจะหดหู่ลงกว่าเดิมครับ

ทุกๆอย่างมันก็มีทั้งดีเเละเสียนั้นละครับ

0
SilverPlus 16 มี.ค. 61 เวลา 11:36 น. 4

แหมจะพูดยังไงดี


นิยายส่วนมากที่อยู่ในเว็บนี้ ถูกเขียนขึ้นโดยคนเขียนอายุน้อย ๆ ซึ่งพวกเขาเขียนเอาสนุก เขียนเอาความสะใจ


และอีกอย่าง หากเรายัดศีลธรรมลงไปเยอะ นิยายจะมีกรอบหนามาก และเขียนถึงมันยากด้วยในกรณีของนิยายที่ต้องมีการต่อสู้กันเยอะ นักเขียนหน้าใหม่จึงมองข้ามส่วนนี้ไปเลย คิดอะไรได้ เขียนออกมาแบบนั้น


คนอ่านก็อายุพอ ๆ กับคนเขียน ก็เลยสนุกตามกันไปโดยไม่คิดอะไร


เกมหลายเกมก็เป็นแบบนี้นะ ฆ่ากันตาย โดยไม่มีความถูกผิดเข้ามาตัดสิน เกมพวก MOBA หรือพวก battle Royal อะไรพวกเนี้ย ซึ่งวัยรุ่นส่วนใหญ่จะคลุกคลีกับมันอยู่ตลอด อาจจะนำความเคยชินที่ตัวเองเล่นเกมแบบนี้มาเขียนก็ได้

0
เวิ่นเว้อ 16 มี.ค. 61 เวลา 11:42 น. 5

โลกก้าวไปไว เทคโนโลยีก้าวล้ำ สื่อหลายๆอย่างสมัยนี้เปิดกว้าง ให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไดเสพกันอย่างอิสระ บางคนก็ไม่ได้แยกแยะหรือคัดกรองสื่อนั้นๆ ว่ามันดีอย่างไร หรือมันไม่เหมาะสมอย่างไร บางทีคนเสพก็ถูกสื่อพวกนั้นครอบงำโดยไม่รู้ตัว


สมัยนี้ศีลธรรมมันตามเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปไวแบบไฮสปีดไม่ทันหรอกค่ะ

0
K.W.E. 16 มี.ค. 61 เวลา 11:44 น. 6

เอาจริงๆ นิยายหลายเรื่องเป็นประเภทแต่งสนองนี๊ดผู้เขียนไปแล้วครับ


พวกคำว่าดาร์ค อะไรพวกนี้ก็แค่สร้างวาทะกรรมมาเพื่อปกป้องว่านี่คือนิยายที่อยากนำเสนอมุมมองหนึ่งนะ...

ซึ่งบางทีมันก็ไม่ใช่นำเสนอหรอกครับ แต่อยากระบายรสนิยมในใจและแรงขับผลักดันของตัวเองให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างมากกว่า


เพราะถ้านำเสนอมุมมอง มันจะออกมาแบบเชิงได้ข้อคิด ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม

ไม่ได้มีแค่บทสะใจเพียงอย่างเดียว แถมบางเรื่องสะใจแบบไร้เหตุผลอีกต่างหาก นึกจะเก่งก็เก่ง นึกจะโหดก็โหด ตอนอยู่ภพภูมิหนึ่งอย่างขี้กลัว มาอีกภพภูมิหนึ่งเหมือนเด็กได้ปืน ไล่ยิงคนสนุกสะใจซะงั้น



ก็นะ...


เรื่องแบบนี้ยุคสมัยไหนก็เป็นกันล่ะ สมัยผมเด็กๆ ยังวาดการ์ตูนเล่นเลย คิดมุกแบบสะใจๆ เหมือนกัน

แต่เพราะเราคุมไซเบอร์ไม่ได้ มันก็เลยทำให้เด็กวัยรุ่น(และอาจมีเด็กโข่ง) สมัยนี้ มีโอกาสเผยแพร่ผลงานมาให้เห็นกันแบบง่ายๆเลย ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนแล้วเป็นอะไรที่ยากมากครับ สนพ. ไหนก็ไม่อยากเสี่ยงหรอก


เริ่มจากจินตนาการก็มักจบในจินตนาการ อย่างดีหน่อยก็เป็นนิยายเขียนเองอ่านเอง การ์ตูนวาดเองอ่านเอง (หรือให้เพื่อนอ่านด้วย)

แม้ช่วงแรกที่เน็ต 56k มาใหม่ๆ อันนั้นก็ไม่ได้เปิดกว้างแบบนี้ เพราะคนใช้งานไม่มาก ผู้ดูแลก็ทำได้อย่างเต็มที่ ควบคุมง่าย ถ้าไม่ใช่บอร์ดเฉพาะทางจริงๆ พล็อตแบบนี้เขียนลงก็ถูกลบเ-้ยนเอาง่ายๆ ครับ เพราะงั้นจินตนาการด้านมืดๆ มันเลยไม่ค่อยมีช่องทางเผยแพร่เหมือนสมัยนี้



แล้วความน่ากลัวมันอยู่ที่ว่ากระแสพวกนี้มันทำให้เกิดความชินชาครับ ยิ่งไม่มีการควบคุม หรือลงโทษ (ในสถานที่นั้นๆ) ก็ยิ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดและดึงแนวร่วมได้


เอาง่ายๆ ว่าถ้าเป็นสมัยก่อน พวกกระทู้ถามหาแนว NC หรือถามหาวิธีเลี่ยงแนว NC ประเด็นสอบถามเรื่องการถูกแบนเนี่ย มันจะไม่เยอะถี่ขนาดนี้แน่ๆ ครับ เพราะเป็นที่รู้กันว่า NC 18+ ลงที่ dek-d ไม่ได้


แต่พอนิยายเริ่มเยอะและหลุดรอดขึ้นมามากขึ้น ก็เริ่มเป็นประเด็นล่ะ มีการขอรอมชอมผ่อนผัน มีการตั้งกระทู้สอบถามกันแบบโต้งๆ ก็มี


เกิดการกลืนขึ้นมาแล้วนั่นเอง แค่กฎยังมีความแข็งอยู่ (แค่กันไม่ได้ทัว่ถึงและอาจมีล่าช้าในการตรวจสอบ)

แต่ก็เป็นปัญหาขึ้นแล้วจริงๆ



ทำอะไรได้ไหม?

เราๆ ก็ทำไม่ได้มากไปกว่ารณรงค์แหล่ะครับ ถ้าเป็นคนเขียนก็พยายามสรา้งบรรทัดฐานนิยายดีๆ เข้าไว้ จะโหดก็ให้อยู่ในเหตุในผล จะดาร์คก็ให้มันอยู่ในร่องในรอยให้มีข้อคิด


เด็กใหม่มีข้อสงสัย ก็ชี้แจงในกรอบที่เหมาะสมไป

ข้อได้เปรียบหนึ่งคือทางเรายืนที่แจ้งครับ แสดงออกได้เปิดเผย แต่อีกฝ่ายบางคนอาจยืนที่มืดเพราะตัวนิยายบางเรื่องก็แอบผิดกฎอยู่ (โดยเฉพาะประเด็นทางเพศ...) ก็ออกมาแอ็กชันอะไรมากไม่ได้


หรือถ้าเจอนิยายไหนผิดกฎก็แจ้งแบนกันไป

หรือถ้ามีไอเดียดีๆ ก็เสนอ WM ปรับปรุงกฎหรือวิธีการปฏิบัติกันไปครับ


เริ่มจากอะไรใกล้ตัวที่เป็นรูปธรรมนี่แหล่ะง่ายดี และมีต้นทุนดีด้วย

1
NessZero 16 มี.ค. 61 เวลา 15:22 น. 6-1

ปกติผมก็อ่านๆไปแหละครับไม่ชอบผมก็ไม่อ่าน แต่หลังๆเห็นมันเริ่มเยอะขึ้น มีคนแต่งตามสมองกันเต็มที เลยรู้สึกว่าคงต้องออกมาพูดอะไรซักอย่างแล้ว อย่างน้อยผมก็คนหนึ่งที่รู้สึกไม่ดีกับการระบาย ออกแบบนี้ มันก็เหมือนกับ เรา ด่าคนระบบ ส่ง facebook ตัวเอง ทั้งๆที่มันเป็นส่วนตัว แต่มีคนเข้ามาเม้น เข้ามาชมมีการแชร์ สุดท้ายทำไมเจ้าของคริป ถูกฟ้อง เพราะ อะไรก็แล้วแต่ที่ ผ่านสื่อและเปิดให้คนจำนวนมากได้เข้ามารับชม ผมว่า ไม่ว่าจะ ตัวหนังสือ หรือ คริป มันก็ไม่ต่างกันหลอก เข้าใจว่าอยากระบาย แต่ มันก็ต้องคิดก่อนโพสซักหน่อย

0
แอ้บแอ้แอ้ 16 มี.ค. 61 เวลา 11:46 น. 7

ตลกน่ะ! จะมีศีลธรรมก็หัดมีขอบเขตซะบ้าง แสร้งตัวเป็นคนดีมันสนุดตรงไหน แต่บางทีก็สนุกนะ

ขึ้นอยู่กับฝ่ายตรงข้ามว่ามีค่าพอให้เราทำตัวเป็นคนดีมีศีลธรรมมากน้อยแค่ไหน

1
NessZero 16 มี.ค. 61 เวลา 15:25 น. 7-1

ประเด็นผมไม่ได้ชี้ไปทางว่าต้องมี ศิลธรรม ทุกเรื่อง ผมชี้ไปที่ คนที่คิดจะโพส ข้อมูล สื่อ ต่างๆ ควรคิดก่อนโพส ว่า สิ่งที่คุณจะโพสนั้น มัน มีการใช้คำว่า ศิลธรรม สกีน ไปซักรอบ หรือเปล่า ผมอาจจะสื่อไม่ค่อยตรงจุด แต่ก็ประมาณนี้

0
คะน้าตัวน้อยตัวนิดน่าดูยูฮูวู้ฮู 16 มี.ค. 61 เวลา 11:48 น. 8

เอาน่า ช่วงจูนิเบียวก็เป็นแบบนี้กันแหละ เดี๋ยวโตขึ้นก็...

จะเป็นแบบเรา ลบ(เผา)นิยายดาร์กทิ้งเพราะอับอายความจูนิเบียวของตัวเอง

อีกอย่างไม่มีใครคิดทำจริงๆ หรอก เหมือนเกมgta เรายิงชาวบ้านอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว แต่ในชีวิตจริงไม่ทำหรอก

พวกทำน่ะ ไม่มาเล่นเกมหรือเขียนนิยายหรอก

0
G.Tenju 16 มี.ค. 61 เวลา 11:55 น. 9

อะไรที่มนุษย์เราเป็นไม่ได้ หรือหาไม่ได้จากโลกความเป็นจริง เราจะไปทดแทนมันด้วยจินตนาการครับ... เรื่องพวกความรุนแรงที่คนเราได้รับจนต้องบรรยายออกมาในนิยาย มันไม่ใช่เรื่องที่จะไปหาว่าใครผิดถูกได้ ทุกพฤติกรรมมีที่มาที่ไปของมันเอง เราต้องทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง


ผมเองก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ ที่นิยายของหลายๆท่านแสดงออกถึงความรุนแรงอย่างเต็มที่ แต่มันก็ดีแล้วที่เขาระบายมันออกม่าผ่านตัวอักษร เพราะถ้าไประบายกับคนจริงๆ คงไม่ใช่เรื่องสนุก ผมจะห่วงก็แค่อย่างเดียว คือเด็กๆ ที่เข้ามาอ่านแล้วเข้าใจว่ามัน 'เท่' เชื่อว่ามันเป็นแบบอย่างเท่านั้นเอง


หน้าที่เราคือสนับสนุนผลงานดีๆครับ เพราะถ้าอะไรไม่ดี โจมตีไปก็มีแต่จะทำให้การต่อต้านทวีคูณ แม่ชีเทเรซ่าท่านก็รู้ความลับนี้ ท่านเลยสนับสนุนสันติภาพ แทนการต่อต้านสงครามครับ


(ดูพวกอันดับ TOP ในธัลวาลัยสิครับ นิยายแนวที่พวกคุณต่อต้านติดอยู่บนสุดกันทั้งนั้น อย่ามาบอกว่าที่นั่น 18+ อยู่แล้วนะ นิยายธรรมดาทั่วไปก็เยอะแยะแต่ทำไมหมวดนี้ถึงคนเยอะที่สุด?)


คลิปข้างล่างนี้ผมตั้งเวลาประเด็นสำคัญเอาไว้แล้ว มันเป็นแนวคิดกำกับหนังของเฉินหลงครับ

https://youtu.be/gKEHHUxUySs?t=51m43s


โลกมันไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น เราแค่ต้องแก้ไขให้ถูกจุด รักคนอื่นให้มากขึ้น ตั้งคำถามให้เป็น ตัดสินให้น้อยลง แล้วเราจะเห็นสาเหตุจริงๆของปัญหาครับ...


แถม : ลองตั้งกระทู้ชมนิยายดีมีศีลธรรมสิครับยากกว่ากันเยอะ แต่ถ้าตั้งกระทู้บอกว่าอะไรไม่ดีคนจะโผล่มากันเพียบ แล้วถามหน่อย คนที่เขารู้ว่าตัวเองผิดจะเข้ามาทนฟังคนอื่นด่าตัวเองไหม? = =

0
แมวขี้เกียจบนฟูกนุ่มv.2 16 มี.ค. 61 เวลา 12:29 น. 10

กระทู้นี้พูดแทนใจเราหลายอย่างเลยค่ะ นี่เป็นอีกเรื่องนึงที่เราคิดมาหลายครั้งแล้วว่ามันเป็นเพราะอะไร หรือเป็นที่เราเองที่ก้าวไปไม่ทันสังคมของเด็กสมัยนี้


สิ่งที่เราเห็นรอบตัวคือ น้องหลายคนที่เรารู้จักอายุยังไม่ถึง 15ปีเลยด้วยซ้ำ เขียนนิยายแนวข่มขืนแล้วฟิน โดนผู้ชายตบตีถือเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ซึ่งเรารู้สึกว่าเป็นค่านิยมที่ผิดมากๆ แต่น้องๆ เหล่านั้นกลับบอกว่าเป็น เรื่องธรรมดา ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ทั้งๆ ที่น้องๆ ก็เป็นผู้หญิง


ส่วนเรื่องในนิยายสายบู๊นี่เราเจอทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่นะ ตัวร้ายฆ่าคนสาปแช่ง ตามล่ากันจะเป็นจะตาย แต่พระเอกนางเอกฆ่าตัวประกอบ ฆ่าคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง บางทีอยู่ๆ ก็ฆ่าเล่น กลับดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่พระเอกนางเอกสามารถกระทำได้ และนักอ่านก็อวยมาก ดูเป็นเรื่องมุมมองที่บิดเบี้ยวมาก


บางท่านอาจจะบอกว่ามันความจูนิเบียวของเด็กวัยนี้ แต่เราว่ามันไม่ใช่ว่าจะเป็นแล้วโตขึ้นก็หาย แต่เราคิดว่าจะเป็นการซึมซับความรุนแรงเข้าไปและติดเป็นนิสัยส่วนลึกโดยไม่รู้ตัว มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นสร้างทัศนคติที่ไม่ดีให้กับคนอ่าน อาจจะไม่เป็นทุกคนเพราะคนอ่านบางคนก็รู้สึกค้านๆ ในใจอยู่บ้าง แต่เราว่าคนอวยอะ น่ากลัว

1
NessZero 16 มี.ค. 61 เวลา 15:33 น. 10-1

เห็นด้วยครับ หลายคนอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยจริงๆ แต่ผมว่ามันอาจเป็นสาเหตุของจุดเริ่มต้น หลายๆ อย่าง น้อง เพื่อน พี่ หลายๆคน ควรรู้แล้ว เข้าใจด้วยว่า ไม่ว่าท่านจะโพสข้อความ นิยาย คริปต่างๆ ของท่านออกทางสื่อออนไลย์ ไม่ว่าด้วยเจตนา ได้ก็ตามควรคิดก่อนโพสให้มากๆ ชอบคิดว่ามันเป็นเรื่อง ตลก ขำๆ เรื่องเด็ก แต่-ที่เห็นเนีย มันเริ่มบานปลายกันไปใหญ่

0
แฟรงค์ ไฟลอย 16 มี.ค. 61 เวลา 13:38 น. 11

การกระทำเป็นตัวกำหนด

อะไรที่ทำบ่อยๆ

จะเป็นความเคยชิน

ถ้าทำต่อบ่อยๆ จะเป็นนิสัย


ถ้าเป็นนิสัย ยังทำต่อ

จะเป็นสันด+าน


ในกรณีแบบนี้ ถ้าอ่านมาก เสพมากๆเข้า มันจะซึมซับ แบบโซฟี หลับสนิทตลอดคืน เอ๊ยยย ไม่ใช่ละ


คนเขียนไม่เท่าไหร่หรอก

คนอ่านต่างหากที่น่าเป็นห่วง



อ่านมากๆเข้าเส้น เผลอไปทำตามนิยาย งานนี้เจ๊งบ้งแน่นอน

2
A.p.Alis 16 มี.ค. 61 เวลา 13:46 น. 11-1

เรื่องนี้เราเห็นด้วยค่ะ เพราะตัวอย่างที่เห็นก็คือเด็กแถวบ้านเรานี่แหละ ชอบอ่านนิยายที่มีฉากลักโขมย แล้วก็เอาไปเลียนแบบจนเป็นเรื่อง เดือดร้อนไปถึงพ่อแม่ที่ต้องไปยกมือไหว้เขาประหลกๆ เพราะการกระทำสิ้นคิดที่ลูกไปเรียนแบบมาจากนิยายที่อ่าน



0
White Frangipani 16 มี.ค. 61 เวลา 15:09 น. 12


สุดจะทนกับความเสื่อมของคำศีลธรรม



สวัสดีค่ะ เจ้าของกระทู้



อ่านๆจากเหตุ...ที่คุณเล่ามาเกี่ยวกับนิยาย...ซึ่งเกิดขึ้นจริงนี้ เป็นเหตุการณ์มากมาย...ซึ่งสาเหตุทั้งหมดทั้งมวลที่คุณเล่ามานี้...แท้จริง...เป็นการสะท้อน...เงาของนักเขียน...นั้นก็เป็นความจริงนะคะ


หนังสือมากมายถูกเขียนขึ้นมา จากนักเขียนมากมาย นั้นก็ใช่ และเป็นสาเหตุให้เราๆเห็นได้ถึงเงาซึ่งอยู่เบื้องหลัง...ความรู้สึกนึกคิดของผู้เขียน...นั้นก็เป็นความจริงค่ะ


มีหนังสือมากมายซึ่งสามารถสะท้อนถึง...ศีลธรรม...นั้นหรือก็ยังคงมีอยู่ค่ะ


หากอาจจะมีน้อยลงไปทุกทีนั้นอาจจะเป็นความจริง...เพราะมาวันนี้หลายๆคนเข้าใจว่าศีลธรรมนั้นกินไม่ได้นั้นเองค่ะ


เพราะเหตุนี้...นักเขียนหลายๆคนจึงมีเป้าหมาย หรือจุดมุ่งหมาย...ในการเขียนเพื่อ...ป้อนตลาด...หรือเราจะเรียกอีกชือ...คือนิยายทำเงินนั้นเองค่ะ


มาวันนี้เป็นยุคสมัยที่เงินเป็นจ้าวอำนาจ...ซึ่งเงินมีฤทธิ์เดช มากมายนัก และอำนาจของเงินอยู่เหนือความเชื่อเกี่ยวกับศีลธรรม...ในจิตใจของคนไปเสียแล้ว...เพราะความแตกต่างระหว่างศีลธรรมและเงิน


คือเงินสามารถจับต้องได้ และ เงินสามารถบันดาล(ซื้อ)ทุกอย่างได้...ตามที่จิตใจของคนนั้นๆต้องการ...นั้นก็เป็นความจริงนะคะ


เหตุเช่นนี้ซึ่งเกิดขึ้นจริง จึงเป็นเหตุดังที่เราเรียกว่านิยาย...กระแส หรือนิยายแนวฮิต หรือนิยายแนวตลาด หรือเราจะเรียกอีกชื่อ คือนิยายทำเงินนั้นเองค่ะ


เพราะหากไม่...นิยายก็ขายยาก หรือขายไม่ได้ หรือไม่สามารถทำเงินได้นั้นเองค่ะ


ความจริงที่เราเถียงไม่ได้...เลยด้วยค่ะ



__________________________


หากแต่...หลายคนที่ไม่รู้ว่า...แท้จริง...จิตใจ จิตวิญญาณ และจิตใต้สำนึก...ที่แท้จริงของเรานั้นเป็นเช่นไร??? มันมีอาการเช่นไร??? และแท้จริงมันมีธรรมชาติเป็นเช่นไร...และที่สำคัญยิ่ง...มันต้องการอะไร???


นั้นมาวันนี้...หลายๆคน หรือคนส่วนใหญ่...ไม่รู้ในธรรมชาติ...หรือไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริง...ของเขาเองนั้นเองค่ะ


มีหลักฐานนะคะ มาวันนี้หลายๆคนเรียนรู้การเสพเงิน...เพราะเป็นยุคเป็นสมัยที่หลายคนเชื่อ ศรัทธา...ในอำนาจของเงินนั้นเองค่ะ ทั้งหมดนี้คือความจริงนะคะ


และการที่จะได้เงินมาก็แน่หล่ะว่า...สินค้าที่จะสามารถขายได้ทั้งหลาย...ต้องตามยุค ตามสมัย หรือต้องผลิตสิ่งที่หลายๆคนต้องการ


และมาวันนี้...สิ่งเสพผ่านการอ่าน...ก็คือผลงานในรูแบบ ในแนว ในลักษณะที่คุณยกมาทั้งหมดค่ะ


หนังสือส่วนมาก...ผลิตขึ้นเพื่อเป็นสิ่งที่จะเสพ...เพื่อความสะใจ...ความเมามัน หลงใหล เพ้อฝันไป นั้นเป็นสิ่งเสพติดที่หลายๆคนรักที่จะเสพ...ทั้งหมดนี้คือคำตอบนะคะ


คือสาเหตุที่เป็นแบบนั้นคงไม่มีอะไรมากกว่านี้ค่ะ


แต่นั้นแค่เด็กๆ ณ ตอนนี้ ผมได้มีโอกาส อ่านนิยายจากนักเขียนรุ่น น้อง อายุ ที่อ่านๆมายังน้อย มาก 14 - 18 ปี ส่วนมากนิยายที่เขาถ่ายทอดออกมานั้น รุ่นแรง นำเสนอ แนวคิดทาง อาชญากรรม ปล้นธนาคาร เอาเงินไปใช้จ่าย กฎหมายมีแค่เป็นเครื่องประดับ มีอำนาจ มีพลัง สามารถทำได้ทุกอย่าง ผิดชอบชั่วดีของตัวละคร ไม่ค่อยนำเสนอ หรือเหตุจุงใจที่กระทำไม่มี แค่ไม่มีเงินก็ไปเอาเงินเหมือนขอแม่กินขนม คำว่า ศีลธรรม อย่าไปถามถึง แถมนักอ่านยังสนับสนุน สะใจบ้างละ ดีงามบ้าง ละ มันใช้จริงๆหรือ กับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้


ตามที่คุณเขียนมานี้...คือการนำเสนอความไร้ซึ่งแก่นสาร คือความที่หลุดไปจาก...การมีสติที่จะสามารถรู้ได้ว่า...ผิด ถูก ชอบ ชั่ว ดี...ได้ในจิตสำนึกค่ะ


เราเรียกว่าอาการตกตํ่า...ค่ะ เหตุเช่นนี้เกิดขึ้นได้เป็นธรรมดาในคน เมื่อเขาทั้งหลายพึงพากันเชื่อ พากันศรัทธาที่จะเป็นเช่นนี้ แน่นอนทุกอย่างเกิดขึ้นได้ค่ะ


และมันก็เกิดขึ้น...ดังที่คุณเห็นๆค่ะ


ไม่เพียงในนิยายนะคะ เหตุการณ์จริงก็มีเกิดขึ้นมากมายค่ะ


เหตุเช่นนี้จะเกิดขึ้น...ในวันหนึ่ง...ในยุคหนึ่ง ในความเป็นคน ในเหล่าผู้คน เหตุนี้เคยถูกทำนาย...ไว้ว่ามันต้องเกิด


และมันก็เป็นความจริง...และเหตุเช่นนี้เพียงก่อตัวเท่านั้นเองนะคะ...ต่อไปในอนาคตมันจะยํ่าแย่กว่านี้ค่ะ


เหล่าผู้คนจะทุกข์ทรมานแสนสาหัสยิ่งกว่านี้...


...ผิด ถูก ชอบ ชั่ว ดีจะหายไปจาก จิตสำนึกของผู้คนมากมาย...สาเหตุมาจาก...ภาพลวงตาจากเทคโนโลยี่...เพื่อการทำเงิน...ได้บังเกิดขึ้น...ผู้คนจะมีความไร้ซึ่งแก่นสาร หรือแม้หาความสุขสงบไม่ได้ ไม่สามารถสัมผัสได้ถึง...ธรรมชาติแห่งความจริง และเขาก็จะไม่ไม่ต่างจากซอมบี้ ผีตายซาก เปรต หรือผีดิบ คือเขาจะมีชีวิตอยู่กับความเวิ้งว้าง ไร้แก่นสาร...ไม่รู้สึกถึงคุณค่า...ของชีวิต


หาความสุขสงบที่แท้จริงไม่ได้ หรือไม่พบ


ทุกอย่างได้ก่อตัว...ขึ้นมาเป็นรูปร่างแบบเห็นได้ชัดเจน...ในวันนี้


มาวันนี้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดเป็นวัฒนธรรม หลายๆคนเป็น อยู่ กระทำ ปฎิบัติ...จนดูเป็นธรรมชาติ...ของเหล่าผู้คนไปเสียแล้วค่ะ


และผู้คนมากมายก็ตกอยู่ในอาการหลงใหลมัวเมา ไร้แก่นสาร เกิดเป็นความรู้สึกทุกข์ทรมานในจิตใจ เป็นปรกติ เป็นธรรมชาติของเขาทั้งหลายในทุกๆวันกับการมีชีวิตอยู่


และมาวันนี้ก็มีการผลิตตัวยา(หรือดรัก)เพื่อที่จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ให้ผู้คน...ที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในทุกๆวัน (แต่นั้นเพียงบรรเทา หรือเขาทั้งหลายอาจจะทุกข์หนักขึ้นเมื่อร่างกายเกิดอาการติดยาขึ้นมา)


ที่คุณเห็น รู้ สัมผัสได้นั้นเป็นความจริงนะคะ


คุณอย่าได้ตกใจไปเลยค่ะ ทุกอย่างที่คุณเห็นเป็นความจริง ไม่ใช่ภาพลวงตาแต่ประการใดค่ะ


หากแต่คุณเห็น รู้ เข้าใจได้แล้วนั้น...คงเป็นวาระกรรมเวร...ของส่วนบุคคลค่ะ (เจ้าของเม้นต์นี้เชื่อแบบนั้น และก็เข้าใจว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลอีกด้วยค่ะ)


ผมรู้สึกไปคนเดียวหรือเปล่า แต่เราควรทำอะไรซักอย่างหรือเปล่า ศีลธรรม มันยังจำเป็นหรือเปล่า?


ตอบว่าอาจจะไม่เพียงคุณแต่ผู้เดียวที่รู้สึก เห็น รู้ เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ค่ะ


อาจจะมีผู้คนอีกบางส่วน...ที่รู้สึก เห็น เข้าใจได้เช่นเดียวกับคุณ


และที่เป็นแบบนี้สาเหตุน่าจะมาจากตรงที่ว่า...คนเรานะ มีวาระกรรมเวร...เป็นตัวแปร จึงทำให้ผู้คนสามารถเห็น เข้าใจ รู้ ถึงเหตุเดียวกันเป็นความหมายที่แตกต่างมุมมอง เหตุเช่นนั้นเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา


และก็เป็นความจริงอย่างยิ่งยวดค่ะ


จากหัวข้อ...ของคุณนะคะ


อ่านแล้วก็เกิดเป็นความห่วงใย...



สุดจะทนกับความเสื่อมของคำศีลธรรม



คืออยากแนะนำคุณว่า...เมื่อคุณเห็นแล้ว รู้แล้ว เข้าใจแล้ว สัมผัสได้แล้ว...คุณก็จงทำความเข้าใจให้ได้ว่า...เหตุเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง...นะคะ


และคุณต้องทนให้ได้ด้วยค่ะ หรือหาทางแก้ไขมัน...หากคุณเข้าใจว่า...เหตุที่คุณเห็นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี...ค่ะ


ในส่วนของความเชื่อของเจ้าของเม้นต์เข้าใจว่า...เหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้...อาจจะเป็นสาเหตุที่จะนำพามาสู่...ความเจริญรุ่งเรืองที่สุด...ของพุทธศาสนาในโลกนี้...ในอนาคตกาลก็เป็นได้ค่ะ


เพราะเข้าใจว่า...หากผู้คนมากมาย...ต้องมีชีวิตอยู่แบบไร้แก่นสาร แบบทุกข์ทรมานตกตํ่าตนถึงที่สุด ซึ่งในความจริงโดยธรรมชาติของมนุษยชาติซึ่งในความเป็นจริงนะ ไม่มีใครต้องการแบบนั้น


หากผู้คนมากมายส่วนใหญ่พบความทุกข์ทรมานแสนสาหัสจนถึงที่สุดแล้ว...เขาทั้งหลายจะดิ้นรน ต่อสู้ค้นหาทางออก...ในที่สุด นั้นก็เป็นธรรมชาติของมนุษยชาติค่ะ


เพียงแต่...หลายๆคนต้อง...มีการพบเจอ ความทุกข์ทรมานเสียก่อนจึงจะสามารถเรียนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างความทุกข์ หรือความสุข


หรือรู้ได้ถึงความผิด ถูก ชอบ ชั่ว ดี ค่ะ



หรือแท้จริง...แล้วจิตสำนึก หรือจิตวิญญาณโดยธรรมชาติของคนมันไม่ต้องการแบบนั้นอย่างแน่นอนค่ะ


เพราะมาวันนี้...หลายๆคนต้องเสพยา...เพื่อบรรเทา...อาการดังเหล่านี้...เพื่อการอยู่ในความทุกข์ทรมาน...ของจิตใจ จิตสำนึก และจิตวิญญาณ...ซึ่งในความเป็นจริง...


หากแต่ไม่มียาตัวใดรักษาอาการดังกล่าวนี้ได้...หากที่ผู้คนจะสามารถมีความเชื่อ ความศรัทธา ที่จะยึดถือ...ปฎิบัติ ตามปรัชญา...ดังที่ว่า...ความรู้สึก ผิด ถูก ชอบ ชั่ว ดี เท่านั้นที่จะเป็นแก่นสาร...ที่จักนำความสุขที่แท้จริงมาสู่ชีวิตได้



ทั้งหมดนี้...มีส่วน...ซึ่งเกิดเป็นเหตุเชื่อมโยง...มาถึงการผลิต...ผลงาน...หรือเกิดเป็นนิยาย...มากมายในแบบที่คุณยกมาค่ะ


คือทุกอย่างในโลกนี้...มันมีเหตุแห่งที่มานะคะ


คือทุกอย่าง...มันมีเหตุเป็นปัจจัยแห่งการบังเกิด...เหตุการณ์ต่างๆนั้นก็เป็นธรรมชาติ เป็นความจริงค่ะเจ้าของกระทู้


คุณอย่าเครียดไปเลยนะคะ ดูแลตัวคุณเองให้จงได้ พยายามเลือกเฟ้นอ่านในสิ่งที่คุณรู้สึกว่าดี


หลบเลี่ยงสิ่งเสพที่ทำให้คุณรู้สึกสลด หรือเศร้าหมอง เท่านั้นค่ะ ที่คุณจะรอดพ้นความรู้สึกที่ไม่ดีนี้ไปได้


เจ้าของเม้นต์นี้ก็พยายามด้วยเช่นกันค่ะ


อ่าน หรือดู เสพสิ่งที่สลดหดหู่แล้วทำให้ทุกข์ทรมานจริงด้วยสินะ



หรือหากจะดี...ก็ลองๆเสพสิ่งเหล่านี้(ข้างล่างค่ะ ยกมาฝากคุณด้วย)...ดู ฟัง เสพสิ่งเหล่านี้บ้างจะทำให้คุณรู้ว่า...สิ่งดีๆที่คุณจะสามารถเสพแล้วเป็นสุขได้นั้นก็มีอยู่จริงค่ะ



เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ


เสพ...ด้วยการรับฟังคลิปนี้เช่นนี้ก็เป็นสุขได้





คลิปนี้...รับฟังแล้วก็เป็นสุขได้





สุดท้าย หากจะเปรียบ...เหตุการณ์จริงเกี่ยวกับผู้เขียน ดังที่คุณยกมา...ซึ่งเป็นผลงานของเขานักเขียนจะอายุมาก หรือน้อยก็ตามที


เมื่อรับฟังเพลงข้างนี้แล้ว...คุณ(อาจจะ)สามารถรับรู้ได้ถึง...ความจริงเกี่ยวกับมนุษยชาติ


ตามเนื้อเพลง ดังที่มีบอกเล่าไว้เป็นความจริงยิ่ง ดังที่ว่าความแตกต่างในบทบาท...ที่แท้จริง...ของตัวละคร...การเล่นบทต่างๆได้จริง...ในชีวิตจริง


และสาเหตุนี้...ก็สามารถเกิดเป็นนักเขียน...ซึ่งเขาหลายๆคนก็เขียนนิยายในแนวต่างๆนั้นแท้จริง...สะท้อนถึงความเป็นตัวตน...ของผู้เขียน...นั้นเองค่ะ



ชีวิตนี้ หรือ โลกนี้...ของเขา(นักเขียนทั้งหลาย) หรือของเรา(หรือนักอ่าน)คือโรงละคร...นั้นก็เป็นความจริงนะคะ





หวังอย่างยิ่งว่า...คุณเจ้าของกระทู้จะสามารถเข้าใจ...บทสนทนา...นี้ได้


หากคุณไม่สามารถเข้าใจได้ ต้องขออภัยด้วยค่ะ


เจ้าของเม้นต์อยู่ในช่วงกำลังฝึกหัดเขียน เพื่อที่จะเป็นนักเขียน...ต่อไป...ค่ะ






เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png





4
NessZero 16 มี.ค. 61 เวลา 15:47 น. 12-1

ขอบพระคุณมากครับ ผมรู้สึกดีที่ได้อ่าน เม้น นี้ครับ ชื่นใจครับ ขอบคุณมากๆครับ

0
White Frangipani 16 มี.ค. 61 เวลา 15:59 น. 12-2

สวัสดีค่ะ


ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ เพื่อ...ผู้ที่รักการอ่าน...หรือสื่อเพื่อ...เสพที่แฝงไว้ด้วยศีลธรรม...นี้ด้วยค่ะ


ขอชมว่าคุณเก่งมากเลยค่ะท่ี่สามารถอ่านข้อความยาวววววววววววว เช่นเม้นต์ข้างบนนั้นได้


ชื่นใจครับ...วาววววววววววววววววววว คำนี้นะคะ เพราะมากเลยด้วยค่ะ ^____^



อ่านแล้วให้ความรู้สึกดีมากเลยด้วยยยยยยยยยย


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png



ชื่นใจ ชื่นใจ ชื่นใจ ชื่นใจ ชื่นใจ ชื่นใจ ชื่นใจ ชื่นใจ คำนี้นะคะเจ้าของเม้นต์จะฝึกหัดพูดให้ติดเป็นนิสัย และติดปากเลยด้วยค่ะ จะนำไปใช้เพื่อ...ผู้ที่รับฟังได้รู้สึกดีๆด้วยค่ะ


ขอบคุณสำหรับ...คำ...ที่มีความหมายที่รับฟังแล้วดีต่อจิตใจค่ะ ^___^



ขอเป็นกำลังใจ...ให้คุณ ทั้งงานเขียน...และการอ่านของคุณค่ะ



https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-13.png



0
เรโกะ จิทาคุ 17 มี.ค. 61 เวลา 08:19 น. 12-3

ศีลธรรมกินไม่ได้ ลั่นเลยค่ะ 5555555 ศีลธรรมกินไม่ได้แต่เรารับรู้ได้ด้วยใจใช่ไหมคะ? แฮร่

0
White Frangipani 17 มี.ค. 61 เวลา 16:38 น. 12-4

55555555


สวัสดีค่ะ


ศีลธรรมกินไม่ได้"...จริงนะคะ คำ คำนี้ หลายๆคนได้กล่าวมันขึ้นมาแบบชัดถ้อยชัดคำ เจอบ่อยๆและมีโอกาสได้ยินบ่อยๆด้วยค่ะ



หลายๆคนยังบอกด้วยว่า...คนที่เชื่อเรื่องศีลธรรมนั้นเป็นคนโลกสวย เป็นอะไรทีตลก หรือเป็นตัวตลกเป็นที่น่าขบขันของหลายๆคนด้วยค่ะ


คือที่เขาบอกแบบนั้น จริงแล้วคือเขาด่า นะคะ5555


คนที่มีศีลธรรมในวันนี้จะถูกด่าด้วยนั้นก็เกิดเป็นวัฒนธรรมขึ้นมาค่ะ เป็นความจริงนะคะ




เมื่อครั้งที่เห็นเหตุการณ์ของผู้คนที่มีความเชื่อแบบนี้ ตนนั้นทุกข์ทรมานมาก ที่ทุกข์ทรมานนี้เพราะสงสารเขาทั้งหลายนะ


ขออนุญาตยกตัวอย่างนะคะ เคยพบเจอนักธุรกิจคนหนึ่ง ในครั้งแรกที่พบเจอครั้งแรกก็เกิดความศรัทธาในตัวเขา และเราก็ทำธุรกิจร่วมกัน คือลงทุนด้วยกัน และเรามารู้อีกครั้งว่า เขาผู้ถือหุ้นใหญ่นะโกงลูกค้า


เราเมื่อรู้ก็ตกใจ เสียใจ เกิดเป็นความรู้สึกผิด เกรงกลัวต่อบาปเกิดเป็นทุกข์ทรมานมากมาย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เมื่อตัวบาปมันทำงาน


แม้เราจะเป็นหุ้นส่วนเพียงเล็กๆแต่เราก็มีส่วนนะ ก็บอกผู้ที่ถือหุ้นใหญ่ว่า ทำแบบนี้ไม่ได้นะ บาปนะนั่น เราโกงเขานะ เป็นบาป


หากแต่ก็ถูกตอกกลับมาว่า..."บาปหรือ ตัวตนเป็นอย่างไร...คุณบอกได้ไหม หากคุณบอกได้นะจะเชื่อว่าตัวบาปมีอยู่จริง" เขาบอกแบบนั้นค่ะ


"คุณอย่าโง่เลย มีโอกาสก็ต้องเอาเงินทั้งนั้น เงินนะ ไม่อยากได้หรือ" เขาปลอบเราค่ะ


เมื่อได้ยินเช่นนี้...เราก็ยิ่งทุกข์ทรมานมากมายสาหัสแบบเพิ่มดีกรีขึ้นเรื่อยๆ ทุรนทุราย เรานะจะบอกได้อย่างไร...ว่าอาการบาปนะมันอยู่ที่จิตใจเรา เราเองที่รู้สึกผิดบาปต่อการกระทำของเขาและเราก็มีส่วนร่วมโดยไม่ตั้งใจ เรานะทรมานมากๆด้วยเหตุที่เขากระทำ


และหากจะหาหลักฐาน...คือมีอยู่น๊าา จ้าวตัวบาป หรือต้นเหตุแห่งความรู้สึกบาปที่จิตใจของเรา...แท้จริงคือเขานั้นเอง...เขาผู้ที่ถือหุ้นใหญ่...นำพาเราไปทำบาป เพราะฉะนั้นเขาคือตัวบาป เขาคือต้นเหตุที่แท้จริง แม้เราจะอธิบายอย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจ


ยังตอบมาด้วยว่า..."คุณโง่ละสิ ไม่ว่า"(เรานะกลายเป็นคนโง่ไปเลยด้วย ฮื้อ แต่ช่างเถอะโง่แบบนี้นะดีแล้ว)..."คือเมื่อมีโอกาสได้เราก็ต้องตักตวง" เขาบอกแบบนี้ค่ะ


เราบอกว่านั้นคือการโกง คือการลักขโมย...ของผู้อื่น นั้นผิดน๊าา นั้นเป็นบาปน๊าาา นั้นคือการไร้ซึ่งศีลธรรม แต่จะบอกอย่างไรเขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้


ที่เป็นแบบนั้นเพราะเขาไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา หรือเขาไม่มีปรัชญา...ซึ่งมีความหมายจากคำว่า...ศีลธรรม...อยู่เป็นพื้นฐานนั้นเองค่ะ (เรานะถูกหัวเราะใส่หน้าเลยด้วยค่ะ)


ในที่สุด...เราก็สิ้นสุดการร่วมงาน...คือเราแยกตัวออกมาและเลิกรากันไป ไม่ขอมีส่วนร่วมอีกต่อไป


หากแต่คนเช่นนี้ เป็นแบบนี้ ทำแบบนี้มีอยู่จริง และมีอยู่มากมาย...นับวันที่จะมากขึ้นเรื่อยๆอีกด้วย


สาเหตุเพราะ...เงิน...เป็นอะไรที่มีอำนาจ...ต่อจิตใจที่ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นเองค่ะ


ข้างบนนั้นเป็นเพียงตัวอย่างนะคะ



สาเหตุเพราะผู้ที่ไม่มีศีลธรรมที่จิตใจนี้นะแท้จริงเขาเองซึ่งเป็นผู้อยู่บนกองทุกข์ทรมาน มืดมิด มืดมน มืดบอดต่อการที่จะสามารถเข้าใจในสิ่งที่ผิดๆได้ ชีวิตในทุกๆวันนั้นไม่ต่างจากการเวียนว่ายอยู่ในนรกอเวจี หรือที่เราเรียกว่านรกบนดินนั้นก็คงไม่ต่างกัน


การกระทำภาคปฎิบัติต่างๆของผู้ที่ไม่มีศีลธรรมในจิตใจนั้นไม่ต่างจากสัตว์ร้ายในอบายภูมิ หากแต่เขาไม่รู้ตัว


อบายภูมิ คือ ภูมิกำเนิดที่ปราศจากความเจริญ มี ๔ คือ นรก เปรตวิสัย อสุรกายภูมิ และกำเนิดเดรัจฉาน.


แม้ความทุกข์ทรมานซึ่งในการมีชีวิตทุกๆวันนั้นสั่นระริกเพราะความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ของเขาเองเขาก็ไม่รู้ว่า...


คือไม่รู้ได้ว่าแท้จริงเขาไม่จำเป็นต้องเป็น อยู่แบบนั้นก็ได้นะ


และการที่ไม่ต้องทุกข์ทรมานแบบนั้น...คือแม้จริงชีวิตในทุกๆของคนเรานั้นสามารถสุขสงบได้นะ หากแต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับเขา...เพราะเขาไม่รู้ได้ ไม่เห็นได้ สัมผัสไม่ได้ เขาไม่เชื่อ เขาไม่ศรัทธาว่าเหตุนี้มีอยู่จริง และสามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ


ความเชื่อ ความศรัทธา...ในศีลธรรม ในความดี...คือเหตุที่จะทำให้จิตของเราเป็นสุขสงบได้นั้นคือความจริง เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากด้วย


แต่ความที่หลายๆคนไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา...ในเหตุเช่นนี้ มาวันนี้หลายๆคนจึงมีวัฒนธรรมดังที่ว่า...การมีชีวิตอยู่คือความทุกข์ทรมานเท่านั้น และเขาก็เชื่อว่าชีวิตนี้ โลกนี้ เป็นอะไรที่บัดซบ ทนๆ อยู่ๆไป ทำๆไป เลวต่อไป ไร้แก่นสารต่อไป ไร้ซึ่งศีลธรรมต่อไป และคนเหล่านี้ก็ตกอยู่ในสภาพแบบนี้...จนเขาตายลงในที่สุด


และที่เลวร้าย...หลายๆคนซึ่งอ่อนแอ...ไม่เข้มแข็งพอที่จะใช้พลังจิตคิดให้เกิดปํัญญาด้วยตัวของเขาเอง เขาก็เรียนรู้เหตุที่ร้ายๆนี้ กระทำตาม เอาแบบอย่าง ในที่สุดก็เกิดเป็นวัฒนธรรม...ซึ่งหลายๆคนทำในสิ่งนี้...และที่สุดก็เกิดเป็นวัฒนธรรม และหลายๆคนเชื่อตามๆกันว่ามันต้องเป็นแบบนี้


เขาเข้าใจว่ามันไม่มีทางออก และยิ่งอาการของเขาหนัก เขาก็จะยิ่งมืดมน และจมลงในที่สุด


สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะมนุษยชาติเป็นสัตว์ฝูงอาจจะมีส่วน


เพราะในธรรมชาติส่วนหนึ่งของมุษยชาตินั้นการเรียนแบบซึ่งกันและกันนั้นเป็นธรรมดาของคนในเรา


และสาเหตุที่ยํ่าแย่ที่จะเกิดเป็นจุดเริ่ม...ในเคสนี้...คือเมื่อเขาเด็กๆ เขาทั้งหลายไร้เดียงสา...มักที่จะง่ายในการเรียนแบบหรือก็อปสิ่งที่ไม่ดีเหล่านี้...เพื่อตัวเขาเอง เหตุเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นวัฎจักร


หากแต่วัฎจักรของการอยู่ในสภาพจิตใต้สำนึก...ขาดซึ่งศีลธรรมนี้ ดูจะเป็นอะไรที่จะหนักหนาสาหัส และรุนแรงต่อตัวบุคคลเอง และเกิดเป็นสังคมที่ดูจะไร้ซึ่งศีลธรรมหนักขึ้นทุกๆวัน


ทั้งที่ตัวตนของเขาก็ทุกข์ทรมานเพราะการนี้...และหลายๆคนก็ช่วยกันแบกหาม เป็น อยู่ ปฎิบัติ จนเกิดเป็นวัฒนธรรมที่เลวร้ายนี้...ต่อไป ครอบคลุมสังคมหนาขึ้น และหนาขึ้นทุกๆวันเกิดเป็นยุค เป็นสมัยที่ไร้ซึ่งศีลธรรม อนาถมากเลย


ช่างน่าเสียดายกับหนึ่งชีวิต...ซึ่งแท้จริงในหนึ่งชีวิตของคนเรานี้สามารถสัมผัสกับความสุข ความสงบความสวยงามได้นะหากเขาต้องการ และนั้นมีวิธีเดียวคือ จิตสำนึกต้องมีศีลธรรม ต้องศรัทธา ต้องเชื่อ และต้องยึดมั่นในศีลธรรม เท่านั้น



ศีลธรรมกินไม่ได้แต่เรารับรู้ได้ด้วยใจใช่ไหมคะ?"...ใช่ค่ะ หลายๆคนเข้าใจ และเชื่อแบบนั้น


ศีลธรรม...แท้จริงคือปรัชญา...หรือกฎ...ซึ่งสามารถบอกให้จิตของเราพึงรู้ว่า...สิ่งใด ถูก ผิด ชอบ ชั่ว หรือดี หรือแม้รู้ได้ถึงผลในรูปแบบ...ของมันว่าเป็นเช่นไรค่ะ


และเมื่อจิตใจ จิตใต้สำนึก หรือสมองของเรามันมีกฎ มีระเบียบแบบแผน มันรู้ว่าสิ่งใด ถูก ผิด ชอบ ชั่ว ดี เมื่อมันรู้ได้แล้ว มันก็จะมีกรอบ มีขอบเขต มีข้อบัญญัติในตัวของมันเองค่ะ


เมื่อมันมีกรอบ มีขอบเขต มีข้อบัญญัติ มันก็จะไม่ทำในเหตุที่จะนำไปสู่ความตกตํ่า และทุกข์ทรมานมาสู่ตน และไม่นำมาสู่สังคมของเขาด้วยค่ะ


การที่จิตใจ จิตใต้สำนึกที่ยึดถือ ยึดมั่น ศรัทธาในศีลธรรม...นี้ จะเกิดเป็นพลังแห่งความดี และความสุขมาสู่เรา เพียงระลึกถึงศีลธรรมให้ได้ในทุกๆวัน...ทุกวินาทีเราจะรู้สึกได้ราวกับอิ่มทิพย์


ศีลธรรม ไม่เป็นเพียงกรอบและขอบเขต หรือเป็นข้อบัญญัติของจิตใต้สำนึก หากศีลธรรมมีอิทธิฤทิ์มากกว่าการเป็นกรอบ ขอบเขต หรือเป็นข้อบัญญัติหากยังเป็นอาหารทิพย์แก่จิตใจ จิตใต้สำนึก หรือให้กับจิตวิญญาณของเราอีกด้วยค่ะ (เจ้าของเม้นต์เข้าใจแบบนั้นค่ะ)


คนที่มีศีลธรรมนะคะ ไม่ต้องเดือดร้อนทุรนทุรายที่จะต้องกระเ สื อ ก กระสนไปทำในสิ่ง(ผิดๆ)มากมายให้ต้องเหนื่อยยาก เพื่อการอยู่ เพียงเขามีศีลธรรมเท่านั้นทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น และเป็นสุข สงบได้นั้นเองค่ะ


เมื่อจิตของเรารู้สึกสัมผัสได้ตราบใดเราจะสามารถสัมผัส...ศีลธรรม...ได้ด้วยจิตสำนึกค่ะ


ศีลธรรม...จริงแล้วกินได้นะคะ หากแต่เป็นอาหารทิพย์ของจิตวิญญาณค่ะ555 (และยังเป็นอะไรที่มีพลังที่ปาฎิหาริย์ และมหัศจรรย์มากจากการค้นพบของศาสดา)


จิตวิญญาณที่จะเป็นสุข สงบ สว่าง ไสวได้ ต้องมีศีลธรรมประจำใจ


เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต ซึ่งจะสามารถมีความสุขสงบได้...ของเราค่ะ


ทั้งหมดนี้เป็นความเข้าใจ...ซึ่งมีอยู่ของเจ้าของเม้นต์



แบ่งปัน...สิ่งที่เข้าใจเกี่ยวกับหัวข้อการมี หรือไม่มี...ศีลธรรม...ค่ะ อธิบาย บรรยายยืดๆ ยาวๆๆๆๆมากเลยด้วย https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png 



0
Stay_Toonz 16 มี.ค. 61 เวลา 16:43 น. 13

อันที่จริงนิยายไทยใน Dek-D ส่วนใหญ่จะอ่านแบบไม่ค่่อยคิดอะไรมากหรอกเพราะคงจะเป็นว่านิยายใน Dek-D จะยึดตึดแต่รูปแบบเดิมๆ ซึ่งต่างจาก Fanfiction ของฝรั่งมาที่ถ่ายทอดมาได้ดีกว่า

0
ชนุ่น 16 มี.ค. 61 เวลา 18:31 น. 15

ไม่ได้จะว่านะครับ แต่อันนี้ผมไม่รู้ว่าจะจัดกลุ่มในพวก "เด็กอายุ 14-18" แบบที่คุณเจ้าของกระทู้ว่ารึเปล่านะครับ แต่ก็ยอมรับแหละครับว่าผมก็เขียนแนวที่รุนแรงพอสมควร แต่ออกไปทางสะท้อนปัญหาในสังคมมากกว่า และก็ใช่ว่าจะสะใจผมด้วย เพราะผมต้องการให้คนอ่านได้เห็นอะไรมากกว่านั้น นอกจากฆ่ากัน ไขคดี แล้วก็จบไป (ถึงจะมีเรื่องสั้นที่เขียนจบไม่กี่เรื่องก็เถอะ 5555)


แต่ก็นั่นแหละครับ มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าเขาชอบอะไรแนวไหน อย่างผมชื่นชอบแนวสังคม สืบสวนสอบสวน เลยเลือกเขียนแนวนี้ แต่สำหรับบางคนที่เขาเขียนเรื่องที่มีเนื้อหารุนแรงอาจจะเพราะว่า ปัจจุบันในวงการวรรณกรรมเราสามารถพูดออกมาได้ตรงๆ แล้วนะครับ อาจจะไม่ต้องโดนเซ็นเซอร์มากเท่าเมื่อก่อน หรือในเว็บ คนเขียนอาจจะแค่ต้องการเขียนเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองหรือความต้องการของคนบางกลุ่มเท่านั้น เขาจึงเลือกเขียนเรื่องประมาณนั้น


แต่ไม่ว่าอย่างไร ผมก็ยังรู้สึกงานเขียนที่สมควรจะเรียกว่า 'วรรณกรรม' จริงควรให้คุณค่าอะไรมากกว่าความสะใจ หรืออ่านแล้วสนุก แล้วก็จบ คือมันควรจะให้อะไรมากกว่านั้น เช่นว่าอ่านแล้วเราอาจจะต้องนั่งคิด ทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ หรืออยากลองออกเดินทางไปไหนมาไหน ซึ่งอันนี้ถึงจะไม่ใชหนังสือขายดี หรือดังระดับเบสท์เซลเลอร์ แต่ผมก็ถือว่าหนังสือเล่มนั้นสัมฤทธิ์ผลในการเขียนแล้วล่ะครับ


อนึ่ง การจัดเรทนิยายนี่ ผมว่าในเว็บเด็กดีค่อนข้างจะชัดอยู่แล้วนะครับ เพราะทางเว็บจะแบนนิยายที่มีเนื้อหารุนแรง ละเมิดลิขสิทธิ์ มีเื้อหาส่อไปทางเพศ และกระทบต่องสถาบัน แต่ถ้าจะปรับให้จัดเรทได้อันนี้ผมก็ไม่ว่าอะไรอยู่แล้วครับ

0
Whiteflower Ri 16 มี.ค. 61 เวลา 20:43 น. 16

ชื่นชมนะคะ ที่ "กล้า" ออกมาพูดในสิ่งที่เรา "คิด" ได้ และสิ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ดีด้วย


มันน่าจะขึ้นอยู่กับพื้นฐานการเลี้ยงดูด้วยรึเปล่าคะ ส่วนตัวเราเติบโตมากับวัดวา เราจึงไม่เคยเขียนแนวผิดศีลธรรม ประเพณีเลย ส่วนตัวชอบ คนมีคุณธรรมมากกว่า เวลาดูหนัง ดูละคร ถ้าเรื่องไหนตัวเอกมีคุณธรรม เสียสละ เราจะชอบเป็นพิเศษ ประทับใจมากด้วย


เห็นด้วยที่ว่า สิ่งที่เราเขียนมีผลต่อคนอ่านแน่นอน และนักเขียนควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยเช่นกัน


เราคิดว่า นิยายที่ดี ต้องมีสาระคุณธรรมอยู่ในตัวของมันเอง เมื่อเราอ่านจบจะไม่ใช่แค่รู้สึกสนุก แต่รู้สึกประทับใจ



2
หลันซี 16 มี.ค. 61 เวลา 20:52 น. 17

*ศีลธรรม ค่ะ



ความเห็นส่วนตัวของคนที่อ่านนิยายมาหลายแนวนะคะ...มันอาจจะเป็นจิตวิทยาก็ได้ค่ะ ที่ว่า


ฆ่าไปแล้วคนหนึ่ง พอฆ่าคนต่อมาก็คงจะให้ความรู้สึกว่า

"แค่ฆ่าเพิ่มอีกคนเอง"

จนกลายเป็นคนที่เลิกหวาดกลัวการฆ่าในที่สุดค่ะ


แต่ก็นะ นักเขียนเดี๋ยวนี้ชอบมองข้ามคุณสมบัติของการมีมนุษยธรรมพื้นฐานที่คนปกติควรมีและเขียนให้ตัวเอกเป็นโรคจิตค่ะ...ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีคนเขียนแบบนี้้เยอะแล้วก็มีชอบเยอะด้วย


ปล.ส่วนตัวแล้วเราก็ไม่ค่อยชอบหรือไม่ค่อยเกลียดหรอกค่ะ...ออกจะเฉยมากกว่า ตับไตเราไม่ค่อยแข็งแรง เลยไม่ได้ชอบมากมายเท่าไหร่ แต่จะให้อ่านก็พออ่านได้นะคะ...?

0
อ่านเขียน 17 มี.ค. 61 เวลา 06:23 น. 18

เห็นปัญหาเดียวกัน ดูเหมือนเรื่องหมวดนิยายจะไม่ค่อยชัดเจน เช่น หมวดซึ้งกินใจ เท่าที่เปิดดู น่าจะเป็น...หมวดรักซึ้งกินใจ...เพราะนิยายรักออกแนวโรแมนติกมาก ก็คงมาจากไม่แน่ใจว่าจะลงหมวดไหน...เพราะรักดราม่าก็ไม่ใช่ รักคอมเมดี้ก็ไม่เชิง...คือ หาหมวดจริงๆไม่ได้ และเห็นนิยายหลายเรื่องลงไม่ตรงหมวดเลย คือ จำพวกมาเฟีย เมียรำเรอ ง่ะ


ถ้าพูดกันเรื่องปัญหาเรื่องที่กล่าว บอกเลยว่าเกิดจากจิตสำนึกที่ถูกปลูกฝังมาในทางที่ผิด บวกกับอ่อนประสบการณ์ในการนำเสนอ เพราะยังแยกไม่ออกว่า...ควร...ไม่ควร...หรือ...อะไรดี...อะไรไม่ดี...เขียนเอาความมัน เขียนเอาความสะใจ จากจิตใต้สำนึกฝ่ายต่ำของตัวเองเป็นหลัก


สรุปว่า...ก็อยากให้แยกหมวดนิยายให้ชัดเจน และที่ขาดไม่ได้...การคัดกรอง และ คำแนะนำ...จากผู้พิจารณา


โดยให้คำแนะนำกับเรื่องที่มีเนื้อหารุนแรง หรือที่มีแต่ด้านมืดด้านเดียว ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้เขียนมาก ฝากไว้ด้วยนะ

5
chinchang22 17 มี.ค. 61 เวลา 19:42 น. 18-1

เห็นด้วยค่ะ คือเห็นหมวดคอมเมดี้ช่วงหลังละตกใจตั้งแต่ชื่อเรื่องละ

แอบอุทานในใจว่าอยู่หมวดนี้จริงดิ คือ ดูชื่อเรื่องนิยายผู้ใหญ่หนักมาก

ยิ่งพอเปิดเข้าไปมีนักเขียนบ่นว่าโดนแบนเพราะลงฉากอย่างว่า

แล้วมีคนอ่านให้กำลังใจว่าทำถูกแล้ว เรานี่ปวดหัวเลย ลงหมวดน้

แล้วยังเอาเนื้อหาแบบนั้นมาลงอีก ไม่รักษากฎอีก

0
chinchang22 17 มี.ค. 61 เวลา 19:51 น. 18-2

คือแอบอยากถามพี่เว็บเหมือนกันว่าทำอะไรเรื่องที่ดูลงไม่ตรงหมวดได้บ้างไหมคะ

คือเรื่องที่เห็นบ่นว่าโดนแบนนี่ เค้าอุตส่าห์บ่นสามบรรทัดเพื่อเพิ่มอีกหนึ่งตอน

และบอกว่านิยายเค้าโดนแบน เราแอบงงใจว่าเค้าไม่อายเหรอที่ติดป้ายบอกว่านิยาย

เคยทำผิดกฏไว้แบบนั้น

0
เวิ่นเว้อ 17 มี.ค. 61 เวลา 19:54 น. 18-3

เดี๋ยวนี้คิดว่ามีปะปนอยู่ทุกหมวดนะคะ แต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง. เห็นการพัฒนาการแบบว่า ลงแล้วสักพักแล้วค่อยลบจะได้ไม่โดนแบน


0
chinchang22 17 มี.ค. 61 เวลา 20:13 น. 18-4

เราเห็นคนเคยตั้งกระทู้บ่นอยู่นะคะ ว่านิยายแบบเรทผู้ใหญ่มาลงหมวดตลก

เราเองก็สังเกตว่าจำนวนนิยายจากสามสี่พันกลายเป็นหมื่นเรื่องแล้วหมวดนี้

แล้วก็มีความเป็นไปไว่าแต่ละหมวดจะมีการลงแบบหมวดไม่ค่อยตรงเมนหลัก

หนักขึ้นไปเรื่อยๆ แน่ๆ ตามจำนวนนิยายที่มากขึ้น เลยอยากถามพี่เว็บว่า

อีกหน่อยจะมีแนวทางอะไรแก้ปัญหาที่เพิ่มขึ้นนี้บ้างมั้ยค่ะ

0
ตรังสุน 11 พ.ค. 61 เวลา 02:02 น. 19

เด็กสมัยนี้ชอบดูลามกทั้งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย โตพร้อมเทคโนโลยี แต่ขาดสามัญสำนึก

1
เรโกะ จิทาคุ 11 พ.ค. 61 เวลา 09:08 น. 19-1

จริงค่ะ แต่หนูก็ไม่ดูบ่อยเท่าไหร่นะคะ ดูแค่เป็นความรู้เท่านั้น แล้วก็...ปล่อยมันไปอย่างหน้าตาย...

0
varunyanee 11 พ.ค. 61 เวลา 07:14 น. 20

1.ถ้าแต่งนิยยตามข้อตกลง


2.ถ้าตรวจสอบจริง ย้ำว่าจริงๆ แบบบทต่อบท



......จะไม่มีแบบที่บอกแน่ .....

0