จะทำอย่างไร เมื่อรู้สึกหมดไฟกับการเขียนนิยาย
ตั้งกระทู้ใหม่
มีใครเป็นมั้ยคะ เขียนๆอยู่หมดไฟ แล้วถ้าเป็นทุกคนแก้ปัญหาอย่างไรคะ
ขอบคุณค่ะ
13 ความคิดเห็น
เราเคยหมดไฟจนหยุดเขียนไปเลยค่ะ คือเคยเขียนฟิคเยอะมากๆๆ อยู่ๆ วันหนึ่งหมดไฟ เลิกเขียนไปสิบปี...
ตอนนี้เรากลับมาเขียนอีกครั้งได้ประมาณปีเศษๆ ค่ะ
งานยุ่งมากกกก แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าต้องเขียนต่อไป เราไม่อยากเลิก พอหยุดแล้วมันต่อติดยาก
อีกอย่างคือเราเหมือนมีสัญญาใจกับคนอ่าน พอเห็นว่ายังมียอดคนอ่านขึ้น เราก็เลิกเขียนไม่ลง
ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยจากงาน หรือจะยุ่ง แต่ยังไงก็ต้องเขียน
เราอยากเขียนให้จบค่ะ เพราะคนอ่านที่รอตอนจบอยู่กับความรู้สึกของเราที่อยากเขียนให้จบมันทำให้เรามีไฟ เราอยากรู้สึกถึงความภูมิใจในวันที่เขียนจนจบเรื่อง
ใจจริงเราพยายามบอกตัวเองว่าแต่งให้จบเถอะ ถ้าแต่งจบต้องภูมิใจแน่ๆ มันจะเป็นเรื่องแรกที่เอามาโพสต์ให้คนอ่านแล้วจบด้วย อย่างที่คุณบอกเลยค่ะ ถ้าหยุดนานมันก็ยากที่จะต่อติด เราจะจำความรู้สึกของตัวละครไม่ได้อีก และมีคนอ่านเราก็รู้สึกอยากให้เขาได้อ่านจนจบ แต่พอมันหมดไฟ มันรู้สึกมีอะไรในหัว วาดไว้หมด แต่ไม่มีแรงพิมพ์ มันน่าตลกมาก แต่คือเรื่องจริงค่ะ พอเราจะพิมพ์ลง เราดันรู้สึกตัน ฮ่าๆ ยังไงเราก็ขอขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะคะ
เวลาหมดไฟในการเขียน ต่อให้มีเนื้อเรื่องอยู่ในหัวพร้อมอยู่แล้ว มันก็ยากที่จะกลับมาเขียนต่อได้ และไม่ควรฝืนด้วย เหมือนกับการที่เราจะนับ 1 ถึง 100 เรานับถึง 20 แล้ว และเราก็รู้ว่าต่อไปเราต้องนับ 21 แต่เรากลับนับไม่ได้ เพราะหมดไฟ
หยุดพัก หาอะไรใหม่ ๆ ทำ ดูหนัง ฟังเพลง ปั่นจักรยาน นั่งรถ กินไอติม ช็อปปิ้ง เที่ยวสงกรานต์ หรือกิจกรรมบันเทิงต่าง ๆ ให้สมองได้เจออะไรใหม่ ๆ ให้สมองได้พักผ่อนบ้าง แวะกลับมาอ่าน comment หรือนิยายของตัวเองเล่น แล้วไฟมันก็กลับมาลุกโซนอีกครั้งเองครับ
จริงค่ะ ในหัวรู้นะว่ามันต้องเขียนอะไร แต่พอจะมาพิมพ์ดันพิมพ์ไม่ออก ตันไปดื้อๆ ท้อที่จะพิมพ์เลยค่ะ พยายามหาอะไรอื่นๆทำบ้าง แบบพักสมอง แล้วกลับมาเขียนต่อ พอพักไปนานเราก็รู้สึกว่าเป็นการทำร้ายคนอ่านหรือเปล่า เขาอาจจะคอยเราอยู่ พอหายไปนานเขาคงแอบคิดว่าจะไม่มาต่อแล้วใช่มั้ย แต่เพราะงานที่เราทำก็ยุ่ง สมองก็ล้า ดันอย่างเขียนนิยายด้วย ฮ่าๆ แอบโลภค่ะ ยังไงก็ขอขอบคุณคำแนะนำนะคะ เราจะเอามาปรับใช้ดูค่ะ
ซื้อแก๊สถังใหม่ คาดว่าแก๊สหมด
555คงต้องซื้อมาเติมเยอะเลยค่ะ
ตอนนี้เราก็เป็นอยู่ค่ะ แต่เราก็พยายามนะคะ เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารัก
เช่นกันค่ะ สู้ต่อไป~~
เคยเป็นค่ะ หายไปจากการเขียนนานอยู่แบบเหนื่อย ไม่ไหว
จนแบบหาอะไรทำเอาค่ะ แบบฟังเพลง อ่านนิยายคนอื่น ดูหนัง อะไรประมาณนั้นค่ะ
เหมือนกันค่ะ เราค่อยๆถอยออกมาแล้วพัก พอพักนานดันจำความรู้สึกตัวละครไม่ได้ มันจะเหมือนต่อไม่ติด
ก็หยุดก่อนค่ะ ไปเที่ยว หาแรงบันดาลใจ เดี๋ยวก็มีค่ะ ....ทำใจสบายๆค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะ
ถ้าไม่ไหวจริงๆ หรือไปต่อไม่ได้ไปก็อย่าฝืนครับ แบบนั้นไม่เป็นผลดีกับตนเอง พักผ่อนเสียบ้าง หาอะไรอ่าน หาอะไรทำไปก่อน ผมเคยแต่งทั้งที่ตัวเองอยู่ในสภาพไม่พร้อมมาแล้ว ผลคือ แย่ แย่ไปหมดทุกอย่าง เลยลองพักสักอาทิตย์ ให้สมองมันโล่งหลังจากใช้งานมาหนักจนมันรับไม่ไหว
อีกอย่างที่หนึ่งที่อยากแนะนำคือ อย่าเครียด หรือกดดันตัวเองเวลาแต่ง ต้องแต่งให้ได้เท่านี้ ต้องทำให้ได้เหมือนเมื่อวาน คืออยากบอกว่า แต่งให้เหมือนเราเขียนหนังสือ แต่มีเรื่องราว เขียนไปสบายๆ ไม่ต้องเครียดนะครับ
ขอบคุณมากๆนะคะ เรารู้สึกเหมือนกันค่ะ ถ้ากดดันตัวเองว่าต้องแต่งถึงแค่ไหน มันก็ไม่ไหวแล้วออกมาแย่ไปเลยค่ะ
ไม่ไหวก็พักสักหน่อยค่อยกลับมาเขียนค่ะแต่ส่วนตัวใช้วิธีหาเพลงฟังที่เป็นเรฟอ้างอิงกับนิยายไม่ก็อ่านนิยายตั้งแต่ต้นลงมาจุดไฟเพิ่มแบบว่าอยากกอ่านตอนต่อ แต่เราแต่งเองถ้าอยากอ่านต่อ...ก็มีแต่ต้องเขียนo<-<
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ เราลองหาหนังหรือเพลงใหม่ๆมาฟังมาดู แบบพักสมองตัวเองด้วย มันก็ช่วยได้นิดๆ ใจจริงคืออยากเขียนให้จบ อยากทำให้จบ สู้ต่อไป
หาแรงบันดาลใจเพิ่ม อ่านนิยาย ฟังเพลง หรือดูการ์ตูน ผ่อนคลายสมองบ้าง ถ้าดูหนังหรืออ่านนิยายแนวเดียวกับที่คุณเขียน จะช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจเพิ่ม
ทางที่ดีควรหาว่าอะไรคือสาเหตุให้หมดไฟนะคะ เช่น ท้อเพราะทำงานเยอะ หรือเพราะเขียนนิยายแล้วมันไม่ได้เงินเลยไม่มีแรงกระตุ้น คุณต้องถามตัวเองด้วยว่าเขียนนิยายเพราะอะไร ถ้าคุณมีเป้าหมาย ไฟก็ไม่น่าจะมอดได้ง่ายๆ
ถ้าหมดไฟ ง่ายๆ ก็หาเชื้อเพลิงมาเติม แนะนำการฟังเพลง ดูยูทูปที่นักร้องร้อง เป็นคอนเสิร์ตหรือเอ็มวีอะไรก็ได้ คุณจะได้รับพลังจากนักร้อง ซึ่งมันง่ายกว่าการขอพลังจากศิลปินประเภทอื่น อย่างอื่นก็มีการชมภาพวาดของจิตกรกับการอ่านหนังสือนี่แหละ ไม่ก็ออกไปมองสถานที่ต่างๆ ที่เราอาจจะยังไม่เคยเห็น หรือแม้แต่ภาพบนท้องถนน ดูแล้วคิดตาม บางทีก็ให้ความคิดความหมายดีๆ กับเรานะคะ เราที่ว่าหมายถึงนักเขียนเนาะ นักเขียนคือผู้เสนอความจริงที่อยู่ในโลกออกมาเป็นรูปแบบต่างๆ แล้วแต่จินตนการของแต่ละคน เพราะจินตนาการมันกว้างใหญ่กว่าโลกของเราซะอีก การไฟใหม่ๆ จึงไม่ยากเท่าที่คิด ลองหาดูคะ บางทีงา่นในตอนนี้อาจจะยังไม่ถูกใจก็ได้ ไม่กระตุ้นพอ ลองปรับพล็อตให้ถูกใจคุณมากขึ้นก็ได้
เราอยากเขียนเพราะอยากเขียน อยากให้คนได้อ่านในสิ่งที่เราเขียน เราไม่ได้หวังเงินเพราะเราไม่มีประสบการณ์การเขียนค่ะ คือเขียนเล่นแต่งเล่นไม่จบไม่ลงมีเยอะค่ะ แต่เรื่องนี้เอาลงเลยอยากทำให้จบ แต่ด้วยงานที่ทำมันใช้สมองมาก เราเลยล้าง่าย เราไม่อยากหมดไฟ เพราะมีคนคอยอ่านถึงจะน้อย แต่นั่นก็เป็นแรงผลักดันอย่างหนึ่ง แต่พอไม่ไหว มันก็คือไม่ไหวจริงๆค่ะ เราพยายามทำอย่างอื่น พักบ้าง หาหนังฟังเพลงบ้าง มันก็ช่วยได้นิดๆ เป้าตอนนี้คือแต่งให้จบค่ะ ยังไงก็ขอขอบคุณแง่คิดและคำแนะนำมากๆนะคะ สู้ต่อไป~~
ถ้าเรารู้สึกหมดไฟ เราจะนึกถึงคนที่เขาอุตส่าห์กดเฟบรออ่านนิยายเมาๆกาวๆของเราค่ะ ถึงจะมีน้อยเเต่มีนะ 5555555555555555555555555555555
ใช่ค่ะ ที่เราอยากต่อเพราะมีคนตาม ถึงจะน้อยแต่เขาก็มาเฟบเรา เราเลยอยากแต่งให้จบ ให้สมกับที่เขาคอยกัน แต่พอหมดไฟ มันไม่มีกระทั่งแรงพิมพ์ค่ะ 55
เราไฟดับไปสามปี ดับก็ปล่อยดับค่ะ บังคับตัวเองเขียนแล้วมันฝืนๆ งานออกมาไม่เวิร์ค ไหนๆมันดับแล้วก็ออกเก็บเกี่ยวประสบการณ์แปลกๆ หาหนังสืออ่านเยอะ เที่ยวกระจาย ไอเดียมา ไฟจะติดเองค่ะ
เราก็อยากออกไปเที่ยวหาแรงบันดาลใจเพิ่มนะคะ แต่ติดงานจริงๆค่ะ เสียดายสุดๆ
สุมไฟครับ ถ้ามันหมดไปแล้วก็สุมมันขึ้นมาใหม่ครับ สู้ๆนะครับ มองจุดหมายเอาไว้แล้วไฟมันลุกขึ้นมาเอง
พยายามเติมที่ค่ะ สุมมากๆจนจะไหม้ตัวเองแล้วค่ะ 555 แต่เราก็พยายาม ตอนนี้เป็นช่วงที่ไม่ไหวจริงๆ ทั้งงาน ทั้งเวลา ล้าสุดๆ แต่ก็อยากจะต่อให้จบ ขอบคุณมากๆนะคะ
คุณอาจจะเหนื่อยเพราะงานด้วยส่วนนึงค่ะ ถึงหมดไฟ
พักก่อนได้ค่ะ
พอเริ่มมีเวลาแล้ว เราแนะนำว่าหาแรงบันดาลใจด้วยการเสพพวกนิยาย ละคร เกม หรืออะไรที่มันเจ๋งๆ ประทับใจเราค่ะ
สำหรับเรามันกระตุ้นให้เราอยากเขียนให้จบให้ได้
สู้ๆนะคะ
ขอบคุณมากๆนะคะ^_^
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?