Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มาป่วยเป็นโรคเสพติดการเขียนนิยายกันเถอะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

จขกท. กำลังป่วยเป็นโรคเสพติดการเขียนนิยายค่ะ
เคยมีทฤษฎีของใครจำไม่ได้ที่บอกว่า ถ้าเราทำกิจกรรมอะไรต่อเนื่องอย่างน้อยสามอาทิตย์ขึ้นไป มันจะเกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมขึ้น เราเชื่อว่าจริงนะคะ

อะไรที่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราป่วยโรคเสพติดการเขียนนิยาย
1. มันสนุกกับการเล่าเรื่องจนหยุดไม่ได้
2. คลายเครียดจากการทำงานประจำที่หนักหน่วง
3. มีความสุขกับการเสพติด Comment ยอดวิว ยอด Fav
4. มีความสุขหนักเข้าไปอีกตอนที่เขียนจบ
5. มีรอยยิ้มเวลาที่เห็นคนมากดโหลดตัวอย่างหรือซื้อก็ได้ใน MEB
6. มีความสุขที่คนอ่านมีความสุขกับงานของเรา

สรุปว่า
เขียนนิยายแล้วมีความสุข จขกท. เลยขอป่วยแบบไม่ยอมรักษาต่อไปค่ะ
 
ที่เขียนกระทู้นี้ขึ้น แค่อยากสร้างแรงฮึดให้นักเขียนหน้าใหม่พยายามทะลุกำแพงนิสัยของตัวเองให้ได้ แล้วจะได้เจอกับโลกอีกใบที่สนุกจนหยุดไม่ได้แบบเรานะคะ
ขอให้นักเขียนทั้งหลายมาป่วยเป็นโรคนี้กันเยอะนะคะ

สวัสดีค่ะ
Glory Glacier
 

แสดงความคิดเห็น

>

13 ความคิดเห็น

My hope, My world 23 เม.ย. 61 เวลา 21:42 น. 1

เป็นเหมือนกันค่ะจนต้องเขียนทุกวัน ละนิดละหน่อย รู้ตัวอีกทีก็ยาว ช่วงปิดเทอมว่างหน่อยก็แบบนี้ สนุกดี ระบายความเครียดด้วยเพราะเหมือนเรามาแบ่งปันเรื่องราวกับนักอ่าน


เวลาเค้าเม้นต์ก็เหมือนมีคนมาแสดงตัวว่าชอบเรื่องเล่าของเราน่ะนะคะ

4
Glory Glacier 23 เม.ย. 61 เวลา 21:49 น. 1-1

ดีใจมีเพื่อนป่วยโรคนี้ด้วยกัน ทำมาสิบเดือนแล้ว ยิ่งป่วยหนักขึ้นเลยๆๆ

0
NK_Killer 23 เม.ย. 61 เวลา 21:54 น. 1-2

เราแต่งมา 2 เรื่องละ แต่คอมเม้นไม่ขยับเลย ยอดวิวสูงถึง 583 แต่เม้นไม่มีเพิ่มเลย อยากรู้ว่านิยายเรามันเป็นยังไง

0
My hope, My world 23 เม.ย. 61 เวลา 21:58 น. 1-4

เราแต่งแฟนฟิคค่ะ เม้นขึ้นง่ายกว่าอยู่แล้ว ไม่แปลกหรอก กับนิยายออริล้วนนี่คงลำบากหน่อยค่ะ นักอ่านเงาจะเยอะกว่า บางทีน่ะนะคะ

0
Charlotte russe 23 เม.ย. 61 เวลา 21:53 น. 2

ป่วยเหมือนกันค่ะ

อาการเดียวกัน เสริมแค่

1.หยุดคิดถึงนิยายไม่ได้ ไปเจอนู่นนี่ก็เชื่อมโยงกับนิยาย

2.เป็นสิ่งที่ทำอย่างสุดท้ายก่อนนอน และทำเป็นอย่างแรกเมื่อตื่นนอน

3.ลงตอนใหม่แล้วรีเฟรชแทบทุกนาทีเพราะอยากเห็นคอมเม้นท์ ยอดวิว หรือยอดกำลังใจ

4.สนุกเวลาคอยตอบคนอ่านรู้สึกเหมือนมีเพื่อนคุย


แต่การเสพติดที่ไม่ส่งผลเสียต่อชีวิตประจำวันก็เสพติดไปเถอะค่ะ ไม่เป็นไร (แต่เราถึงส่งผลเสียก็ไม่สนใจอยู่ดี555)

2
Glory Glacier 23 เม.ย. 61 เวลา 22:01 น. 2-1

มีอาการแบบ ข้อ 1-4 ครบเช่นกัน อาการนี้เป็นหนักขึ้นเรื่อยแต่ยินยอมป่วยค่ะ มันมีความสุข

0
Charlotte russe 23 เม.ย. 61 เวลา 22:03 น. 2-2

จงป่วยอย่างมีความสุข ดีกว่าไม่ป่วยแต่ไร้ความสุข //ว้าวววคม ชมตัวเองก็ได้5555

0
24 เม.ย. 61 เวลา 07:18 น. 5

ถ้าเราทำกิจกรรมอะไรต่อเนื่องอย่างน้อยสามอาทิตย์ขึ้นไป มันจะเกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมขึ้น

- ทฤษฏี 21 วัน ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่จริงค่ะ


ปัจจัยการเปลี่ยนพฤติกรรมหรือกระทำตามความเคยชินมันเยอะมากค่ะ บางอย่างอาจต้องใช้เวลาหลายปี บางอย่างอาจฝึกฝนโดยใช้เวลาแค่หลักชั่วโมง และแต่ละคนใช้เวลาในการเรียนรู้ต่างกันด้วยค่ะ


ยกตัวอย่าง ฝึกภาษาซ้ำ ๆ ๆ เวลาแค่ 21 วันไม่พอแน่ค่ะ แต่ฝึกขี่จักรยานบางคนใช้เวลาไม่ถึงวันก็ปั่นได้แล้ว น้อยมากที่ใครจะใช้เวลาฝึกปั่นจักรยานซ้ำซากถึง 21 วันกว่าจะปั่นเป็น อย่างช้าไม่กี่วันหรอกค่ะ

0
Lurun-kun 24 เม.ย. 61 เวลา 10:29 น. 6

ป่วยเหมือนกัน ยอมให้เพราะรักสิ่งที่ทำ ถ้าจะมียา..ยาชั้นเลิศคือนักอ่าน เห็นนักอ่านกับเม้นเหมือนได้กินยาให้มีแรงปั่นงาน ขาดนักอ่านเหมือนลมหายใจรวยระริน^_^"[เป็นอีกมุมนึงครับ^.-]

0
Lurun-kun 24 เม.ย. 61 เวลา 10:32 น. 7

ป่วยเหมือนกัน แต่ยอมให้เพราะใจรัก แต่หากจะมียา..ยาชั้นเลิศคือนักอ่าน เห็นนักอ่านเห็นเม้นแล้วมีแรงปั่นงาน ขาดนักอ่านเหมือนลมหายใจรวยระริน^_^" [อีกมุมนึงครับ^_-]

0
no one know 24 เม.ย. 61 เวลา 10:56 น. 8

ถ้าเขียนแล้วมีความสุข เขียนสนุกได้ต่อเนื่องก็เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ครับ


แต่เฉพาะข้อ 3. เท่านั้นที่ผมเกรงว่าอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ เพราะเห็นได้ว่าคอมเม้นต์ ยอดวิว ยอดแอดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดให้คนเขียนหน้าใหม่ ๆ ก้าวเข้าสู่วงการ และมันก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาเลิกไปด้วย เพราะในวันที่เรายังมียอดพวกนี้อยู่ เรามีความสุข เรายังไปต่อได้ แต่ถ้าวันใดเกิดเหตุขัดข้อง ไม่มียอดวิวยอดเม้นต์เข้ามา หายนะมาเยือนเลยนะครับ บ้างก็บ่นน้อยใจ บ้างก็ออกมาประกาศว่าจะไม่อัพต่อเพราะไม่ได้ยอด หรือแย่กว่านั้นบางรายอาจจะเลิกเขียน ลอยแพนิยายไปเลยก็มีครับ...


ได้ยอดวิวยอดแอดก็เป็นเรื่องน่ายินดี แต่อย่าไปยึดติดกับมันมากเลยครับ มุ่งเป้าไปที่ผลงานของเราก่อนเป็นอันดับแรก

0
White Frangipani 24 เม.ย. 61 เวลา 15:57 น. 9


มาป่วยเป็นโรคเสพติดการเขียนนิยายกันเถอะ




จขกท. กำลังป่วยเป็นโรคเสพติดการเขียนนิยายค่ะ

เคยมีทฤษฎีของใครจำไม่ได้ที่บอกว่า ถ้าเราทำกิจกรรมอะไรต่อเนื่องอย่างน้อยสามอาทิตย์ขึ้นไป มันจะเกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมขึ้น เราเชื่อว่าจริงนะคะ

อะไรที่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราป่วยโรคเสพติดการเขียนนิยาย

...........


...................




ที่เขียนกระทู้นี้ขึ้น แค่อยากสร้างแรงฮึดให้นักเขียนหน้าใหม่พยายามทะลุกำแพงนิสัยของตัวเองให้ได้ แล้วจะได้เจอกับโลกอีกใบที่สนุกจนหยุดไม่ได้แบบเรานะคะ

ขอให้นักเขียนทั้งหลายมาป่วยเป็นโรคนี้กันเยอะนะคะ



สวัสดีค่ะ

Glory Glacier




 สวัสดีค่ะ


อ่านๆข้อความจากกระทู้นี้แล้ว...มีพลังฮึดขึ้นมาจริงด้วย


ขอให้นักเขียนทั้งหลายมาป่วยเป็นโรคนี้กันเยอะนะคะ"...55555 เกิดเป็นโรค...หรือเกิดเป็นอาการป่วยเลยด้วยหรือ555


หากเข้าขั้นนั้นก็ไม่ดีนะคะ


เม้นต์นี้นะคะ รู้สึกว่าน่าจะยาววววมากๆๆค่ะ


คือรู้สึกว่ามีอารมณ์ร่วม...ต่อหัวข้อของประเด็นค่ะ5555


เจ้าของเม้นต์เป็นเพียงนักเรียนหัดเขียนค่ะ คือยังไม่มีนิยายเป็นเรื่องเป็นราวค่ะ คือมีเขียนๆนะ มีเขียนไว้มากมาย แต่ที่เขียนๆนั้นคือการเขียนเมื่อคราวมีอารมณ์ที่สนุกๆ เขียนด้วยความเพลิดเพลิน เขียนเพราะอารมณ์ที่จะเขียนมีเข้ามาในวินาทีนั้นๆ


ด้วยความที่เขียนด้วยเหตุดังกล่าว...จึงเกิดเป็นนิยายที่เขียนเพื่อความสนุก คือเขียนเป็นงานอดิเรก เขียนเพราะมีอารมณ์เขียน เพราะเหตุนี้นิยายทุกๆเรื่องจึงยังไม่เป็นนิยายที่สมบูรณ์ได้...นั้นเองค่ะ


คือมีเขียนไว้มากมาย เรื่องสั้นๆบ้าง ตอนต่างๆในซีรี่ย์ซึ่งตนเริ่ม...หรือเป็นเรื่องราวแบบคร่าวๆในเรื่องยาว...ก็มีอยู่หลายๆเรื่อง หากแต่นิยายทั้งหมดนั้นยังไม่สมบูรณ์ค่ะ


คือยังไม่มีความรู้สึกว่าตั้งใจ หรือไม่มีความรู้สึกว่าจะจดจ่อ...ที่จะทำให้มันเป็นเรื่องราวหรือรูปเล่มนั้นเองค่ะ


จริงแล้วเป็นแบบนี้มานานมากแล้วนะ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆเลยด้วย ชอบๆหรือติดที่จะโน๊ตเหตุการณ์เรื่องราว...ทั้งเรื่องจริง หรือเป็นแบบนิยายแฟนตาซี หรือบทความ หรือแม้บทกลอนต่างๆก็รัก ก็ชอบที่จะเขียน หรือไดอารี่ประจำวันของตนก็ชอบจดบันทึก


เป็นคนที่รัก ชอบ ติดการเขียน จากที่ผ่านๆมาติด หรือจะเรียกว่า...มีอาการติด...ก็น่าจะได้


หรือว่าจะเรียกว่าเป็นอาการที่เป็นธรรมชาติ ธรรมชาติหนึ่งก็น่าจะเชื่อได้แบบนั้นด้วยเช่นกัน เพราะตั้งแต่จำความได้นะก็เขียนๆ จดๆ โน๊ตๆไว้มากมาย (คือมีผลงานที่ผู้ใหญ่เก็บสะสมไว้ให้ค่ะ)


มีงานวาดมากมายตั้งแต่เด็กๆซึ่งจำความไม่ได้ แต่เมื่อได้เห็น...55555 นั้นแสดงว่าเรานะตัวเล็กมากๆในครั้งนั้น


มีงานวาดภาพการร์ตูนเป็นเรื่องราว เป็นตอนๆประกอบหรือก็มีอยู่มากมายหลายๆเรื่อง (จากที่เห็นตอนที่เป็นเด็กตัวเล็กๆนะ น่าจะเป็นคนที่หมกหมุ่นกับการวาด การเขียนมากๆ)


นำมาดูเมื่อไรนะหัวเราะได้ทุกครั้งเลยด้วย555 เช่นมีการนำเอาเรื่องของคุณพ่อ คุณแม่มาวาด และเขียน และลงชื่อคุณพ่อ คุณแม่โต้งๆเลยด้วยค่ะ เขียนเป็นฉากตลกๆก็มีมากมาย(มีภาพคุณพ่อคนหล่อ หัวเราะจนนํ้าลายกระจาย555)


วาดคุณแม่...ผู้ที่เชื่อว่าเป็นผู้ที่ถืออำนาจสูงสุดในบ้าน...วาดเป็นท่านเป็นควีน(สวมมงกุฎ) หน้าตาบึ่งตึง เคร่งขรึม คิ้วขมวด5555


นำมาดูเมื่อไรนะหัวเราะงอหาย5555 (ทำไปได้อย่างไรกันก็ไม่รู้ด้วย อาจจะเป็นเพราะถูกตามใจมากๆแน่ๆ หากแต่ถูกขัดใจเมื่อใด ถึงเกิดเรื่องภาพ...เรื่อง ที่ไม่น่าภิรมณ์ของคุณแม่ขึ้นมาแน่ๆเลย 555)


เคยถามผู้ใหญ่ว่า...อายุประมาณเท่าไร...ที่วาดภาพการณ์เหล่านี้นะ คุณแม่ก็บอกว่าให้ดูวันเดือนปี...ที่หัวกระดาษ...จริงด้วยสิเรานะลงไว้ทุกหน้า (ตอนนั้นอายุประมาณ4ขวบกว่าๆ)


เคยถามว่าแล้วโกรธไหมที่วาด เขียนเกี่ยวกับคนในบ้าน โดยเฉพาะคุณพ่อ คุณแม่นะนำมาเป็นตัวการ์ตูนเลยด้วย และคุณแม่นะได้รับบทที่ดูจะร้ายกว่าใครๆในเรื่องราว(คือเป็นคนที่มีอำนาจ ใช้อำนาจ อาจจะรู้สึกว่าคุณแม่เคร่งครัดเกินไปในตอนนั้น555) ก็ได้คำตอบว่า...ไม่เคยโกรธนะ ทุกคนเข้าใจว่าเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ของคนในวัยนั้นต่างหากหล่ะ จึงเก็บไว้ให้ไง


มีภาพปลา ภาพนก ภาพสัตว์ชนิดต่างๆ ภาพดอกๆไม้ชนิดต่างๆ ภาพภูเขา ภาพธรรมชาติ ภาพท้องฟ้าที่สดใส ภาพเหล่านี้มีอยู่มากมาย และดูจากหัวมุมของกระดาษที่ตนลงไว้ เริ่มจากอายุประมาณ3-4ขวบ


มีอยู่ภาพเป็นภาพปลา ระบายสีด้วย หากแต่เป็นลายมือของคุณแม่ที่ลงวันที่ไว้ ตอนนั้นอายุ2ขวบกว่าๆ ภาพนี้คุณแม่บอกว่ามีคุณค่าต่อจิตใจมากๆ นำมาใส่กรอบเลยด้วยนะ(ภาพเหล่านี้นะคะจริงแล้วดูไม่ได้เลยด้วย แต่รู้ว่าเป็นภาพอะไรเท่านั้นเองค่ะ5555)


ทั้งหมดนี้รวมๆคืองานวาด งานเขียนนะเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติหนึ่งของเจ้าของเม้นต์นี้เลยด้วยค่ะ คือรักการเขียน รักการวาด คือจริงแล้วเป็นธรรมชาติของเจ้าของเม้นต์นั้นเองค่ะ


คือจริงแล้วเกิดมาก็มีความรัก...ในศิลปะ..ทางด้านการวาด และเขียน...ติดตัวมาด้วยเลยค่ะ


เพียงแต่...ไม่เคยมีโอกาสที่จะเขียน...ให้เป็นเรื่องราวหรือสิ่งใดๆ จนเป็นรูปเล่ม เป็นสิ่งตีพิมพ์ขึ้นมาได้...เพราะมีสาเหตุบางประการ...หรือว่าอาจจะเป็นเพราะโชคชะตาฟ้าลิขิต...(โทษพรหมลิขิตเลยด้วยค่ะ555)


การที่จะเขียนให้เป็นนิยาย หรือเรื่องราว หรือเป็นหนังสือ...ซึ่งเคยมีความตั้งใจนั้นถูกพับไป...ด้วยเหตุผลบางประการ...


แต่การเขียนด้วยความรัก ด้วยอารมณ์ที่อยากจะเขียน...ในวันนี้ยังคงมีอยู่ค่ะ เขียนบ่อยๆ เขียนเรื่อยๆตามที่มีโอกาส เขียนๆแล้วก็เก็บไว้ นำมาอ่านเล่นบ้าง นำมาตรวจตา ตรวจทานเป็นงานอดิเรกด้วยเช่นกัน

คืองานเขียนในวันนี้เป็นงานอดิเรกที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ คือไม่รู้สึกว่าตนนั้นต้องกดดัน หรือผลักดันให้ตนเองต้องเขียนๆเช่นที่ตนอยู่ในวัย..ที่มีอุดมการณ์ที่ร้อนแรงเกินไป5555 (ร้อนแรงเกินไปก็ไม่ดีจริงด้วยสินะ)


คือเกี่ยวกับงานเขียน หรือแนวที่อยากเขียนนะ เคยเป็นคนที่มีอุดมการณ์ที่ร้อนแรงค่ะ555 มีอุดมการณ์ที่ร้อนแรงลุกเป็นไฟเลยด้วย


เป็นคนที่มีอุดมคติ...เช่น เรื่องของการเมือง...ซึ่งมีเหตุการณ์ความไม่ยุติธรรมของผู้บริหารในส่วนสูง...(ในประเทศต่างๆนะคะ) เราชอบการเมืองเราก็ติดตาม...เมื่อติดตาม...ก็เข้าใจ...และเห็นได้ถึงความไม่ยุติธรรม...เคยที่อยากจะเขียน...เรื่องราวของการเมืองที่ฟอนเฟะ การเอารัดเอาเปรียบ การคอร์รัปชั่น การโกง(โกงประชาชน) เรื่องราวแบบนี้ก็เคยร้อนเป็นไฟที่อยากจะเขียน...(เคยเก็บหลักฐานมากมายเพื่อการนี้อีกด้วย) แต่ผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วย...ในวันนั้น เขาทั้งหลายทำทุกอย่าง...เพื่อระงับเรา...เพราะเหตุผลดังที่ว่าเรานะยังเด็กมากๆสำหรับเรื่องราวเหล่านี้...ในวันนั้น


ซึ่งมาวันนี้เห็นด้วยกับเหตุผลของผู้ใหญ่...และก็ขอบคุณที่เขาทั้งหลาย...รั้ง(หรือเพื่อปกป้องเรา) เพื่อรอให้เราโต มีประสบการณ์ ที่จะสามารถมองหลายๆอย่างให้ชัดเจนจากหลายแง่มุมให้จงได้เสียก่อน...นั้นคือเหตุผล


และเหตุผลดังกล่าวนี้...หรือก็รวมความที่ว่า...ให้เราหยุด หรือพักการเขียนไปเลยด้วย คือจะให้ดีต้องไม่เขียน...ไม่จับต้อง ได้ไม่เกิดแรงบันดาลใจ...ที่จะผลักใสตัวเราเองในวันนั้น...


จากวัันนั้นถึงวันนี้....ก็ผ่านมานานพอสมควร...ผลที่ได้...คือเจ้าของเม้นต์นี้เป็นเพียงนักเรียนหัดเขียนในวันนี้ รักที่จะเขียน เป็นงานอดิเรกในทุกอารมณ์ที่ตนมีในขณะนั้นๆ


เขียนๆ และเกลาๆไว้มากมายหลายๆเรื่องหลายๆแนวด้วยค่ะ สนุกสนาน รื่นเริงทุกครั้งที่อารมณ์ประดังเข้ามา...นะ คือมีอารมณร์เขียนแล้วนะ อารมณ์มันจะพาไปเอง เกิดเป็นแง่มุม เกิดเป็นมุมมอง เกิดเป็นเหตุการณ์ เรื่องราวที่จะสามารถร่ายๆออกมาได้ง่ายๆผ่านการพิมพ์ สนุกสนาน หลั่งใหลไปของมันเองตามอารมณ์นั้นๆเลยด้วย มีอารมณ์แบบนี้เมื่อไรนะคะ นิ้วมันจะมีหน้าที่รัวๆแป้น อารมณ์...เป็นผู้ส่งผ่านสาระของมันเอง หากเกิดเป็นอารมณ์แบบนี้จึงจะสามารถเขียนได้ค่ะ


เช่นอารมณ์ที่เกิดขึ้น...ร่วมกับหัวข้อประเด็น...ของคุณจนเกิดเป็นเม้นต์นี้ เป็นต้นค่ะ

(ไม่อย่างนั้นเขียนไม่ด้ายยยยน๊าาา เคยมีหลายๆกระทู้นะคะ พยายามจะเม้นต์ตั้งใจหลายๆครั้งพิมพ์ลบ พิมพ์ลบ คืออ่านแล้วมันผิดประเด็นน๊าาา ผิดอยู่นั้น ไม่สามารถเม้นต์ได้...สาเหตุเพราะไม่มีอารมณ์ร่วม...นั้นเอง ลบทิ้งไปเลยด้วย คือเม้นต์ไม่ได้น้าา หากไม่มีอารมณ์ค่ะ)





หากแต่วันนี้ก็มีอดิเรกมากมาย...ที่ตนรัก...อยู่หลายชนิดด้วยค่ะ


เช่น การออกกำลังกาย เป็นอดิเรกที่ติดมาก ออกกำลังกายแล้วรู้สึกดี มีพลัง สดชื่น ร่าเริง แจ่มใส กระชับกระเฉง ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องเตรียมตัว...เพื่อสรีระ สัดส่วน...เพื่อชุดว่ายนํ้า...เพื่อเตรียมพ้ร้อมในฤดูกาลซัมเม่อร์(คือฤดูร้อนที่จะมาถึงนี้) คือเป็นวัฒนธรรมที่เราเพื่อนๆผู้หญิงจะไปเล่นนํ้าด้วยกันบ่อยๆ เพราะฉะนั้นช่วงนี้ีที่ต้องฟัดกับการที่จะได้มาซึ่ง...รูปทรง...เพื่อชุดว่ายนํ้าสวยๆ ...ไม่อย่างนั้นไม่มีความเชื่อมั่น5555


นี้ก็เป็นอดิเรกที่ต้องตั้งใจ ใส่ใจ...ก่อนวันเวลาจะมาถึง


ดูหนังทั้งของไทย และเทศ...ดูละคร(ไทย) ตอนนี้ ช่วงนี้...หรือก็ติดค่ะ เป็นอีกอดิเรกที่ติดมากๆด้วยเช่นกัน


อ่านหนังสือ...เรื่องที่ตนชอบก็ติด...อ่านแล้ววางไม่ลง เป็นอีกอดิเรกที่ติดมากด้วยค่ะ


มีอีกหนึ่งเพิ่มเข้ามาคืองานถักนิตติ้ง(งานนี้รักมากๆ แต่เคยทิ้งไป)...มาวัันนี้นำกลับมาทำ เกิดเป็นการติด ถักเสื้อหนาว เพราะมีความตั้งใจว่าอยากเปลี่ยนคอลเล็คชั่นเสื้อหนาวของตนใหม่ในฤดูกาลแห่งหน้าหนาวที่จะมาถึงในปีหน้า...ก็ต้องเตรียมลงมือถักกันตั้งแต่นี้เลย...เพราะต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นช่วงนี้ เป็นฤดูสปริงอากาศที่ยังคงเย็นนะ วันว่างนะนั่งข้างๆเตาผิง ฟังเพลงเพราะๆ เพลินๆ จิบชา(ชาเขียวอบดอกมะลิ Sen Cup ของเชียงราย)หอมๆติดถักนิตติ่ง...สนุกเพลิดเพลินชนิดวางไม่ลง...นี้ก็เป็นอีกงานอดิเรกที่ติดด้วยเช่นกัน


เจ้าของเม้นต์นี้มีอดิเรกมากมาย...ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมที่ต้องออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ(ซึ่งมีลงวันนัดไว้ยาวๆเป็นหางว่าว...ตามวันเวลา...ที่ผ่านเข้ามาด้วยนะคะ)


ทั้งหมดนี้...เป็นอดิเรก...ที่ติดมากๆค่ะ ทำแล้วสนุกสนานค่ะ


แชร์ๆ แบ่งปันค่ะ


หากแต่...การติด...หลายๆอย่างมากมายเช่นนี้...อาจจะเป็นสาเหตุที่ว่า...ไม่สามารถจดจ่อ...ในเรื่องของการเขียน...เพราะทำอะไรก็สนุกทุกอย่างนั้นเองค่ะ


อาจจะเพราะเหตุนี้แน่ๆ (จับจดหรือเปล่าก็ไม่รู้ด้วยนะ5555 หากแต่ทำแล้วสนุกค่ะ เพราะแบบนี้อะไรๆก็ช้าลง...ช้าตามๆกันเลยด้วย 555 แบ่งๆเวลาเพื่อความบันเทิงในชนิดที่แตกต่ง ทุกอย่างจึงช้าเป็นเต่าในทุกงาน555)


หากแต่...เข้าใจว่า...ด้วยความที่เกิดมามีศิลปะ...ในการเขียน การวาดติดตัวมา...คือเป็นชีวิต เป็นจิตใจของเรา...เจ้าของเม้นต์ก็หวังว่าในวันหนึ่ง...เจ้าของเม้นต์อาจจะสามารถจดจ่อ...กับการเขียนให้เกิดเป็นเรื่องราวเกิดเป็นผลงานขึ้นได้เป็นรูปเล่ม...หรือเป็นผลงาน...ที่ดีพอที่จะออกสู่สังคม...ได้ในวันหนึ่ง...


หรือหากไม่สามารถเกิดขึ้นได้...ก็จะเชื่อด้วยว่า...เรานะคงไม่มีบุญวาสนา...ที่จะเป็นนักเขียน...ได้ นั้นเองค่ะ


คือการที่เชื่อว่า...บางครั้ง หรือในบางคน การที่ว่าคนเรานะอาจจะ...บุญมี(คือมีพรสวรรค์) แต่กรรมมาบัง...นั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้จริงนะคะ


คือว่าเป็นคนที่เชื่อ ศรัทธา...หรือยํ่าเกรง...ในเหตุนี้ด้วยค่ะ



เม้นต์นี้...เม้นต์เข้ามาบอกว่า...ขอบคุณสำหรับแรงบันดาลใจ...มากมายที่คุณมีให้ และแบ่งปัน...ต่อนักเขียนหน้าใหม่ค่ะ


อ่านแล้วก็พลอยเกิดเป็นแรงบันดาลใจมากมายเลยด้วยค่ะ


ด้วยความที่ตนมีใจรัก...งานเขียน เป็นธรรมชาติในส่วนบุคคลเป็นทุนเดิม...เจ้าของเม้นต์ก็หวังเช่นกันว่า...วันหนึ่ง...จะสามารถขยับความสามารถของตนขึ้นมาเป็นนักเขียน...หน้าใหม่...จากตำแหน่งนักเรียนหัดเขียน...ด้วยเช่นกันค่ะ


ขอบคุณ คุณเจ้าของกระทู้ สำหรับกระทู้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ...ดีๆ กระทู้นี้ค่ะ


เจ้าของเม้นต์ ขอเป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้ และเพื่อนๆนักเรียนหัดเขียน ทั้งนักเขียนหน้าใหม่-เก่า และนักเขียนจากทุกระดับชั้น ขอให้ทุกๆคนมีความสุขสนุกสนานกับงานเขียน และประสบความสำเร็จในการที่จะเขียนนิยายให้จบได้...รวมด้วยกับประสบความสำเร็จเรื่องการตลาด ด้วยค่ะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-08.png


ขอบคุณอีกครั้งค่ะ



https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-06.png


เม้นต์นี้ยาววววววว ต้องขออภัยด้วยค่ะ เม้นต์นี้ถือโอกาสฝึก...เขียน...เป็นอดิเรกในวินาทีนี้ ที่มีอารมณ์ร่วม ต่อประเด็นของหัวข้อนี้...เลยด้วยนะคะ

เพื่อนๆคนใดที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ได้...นะคะ นับถือเลยด้วยค่ะhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png



4
Glory Glacier 24 เม.ย. 61 เวลา 19:02 น. 9-1

ขอบคุณค่ะ อ่านเพลินเลยค่ะ พยายามกันต่อนะคะ ขอให้ได้ลองเริ่มดูสักหนึ่งตอน อาจจะค้นพบคำตอบก็ได้นะคะ ว่าจะถนัดอ่าน หรือถนัดเล่าเรื่อง

นักเขียนที่แท้คงเป็นอาชีพนักเล่าเรื่องนะคะ

ส่งให้ได้แต่กำลังใจค่ะ

0
White Frangipani 24 เม.ย. 61 เวลา 20:47 น. 9-2


 ขอให้ได้ลองเริ่มดูสักหนึ่งตอน อาจจะค้นพบคำตอบก็ได้นะคะ ว่าจะถนัดอ่าน หรือถนัดเล่าเรื่อง


555555


สวัสดีค่ะเจ้าของกระทู้


จริงสินะ แท้จริงชอบอ่าน...หรือชอบเล่า...มากกว่ากันนะ?


ลองๆคิดๆตามคำแนะนำของคุณนะคะ


ในความเป็นจริงนะน่าจะมีเปอร์เซ็นต์รักการอ่านมากกว่า เปอร์เซ็นต์การเล่าเรื่องค่ะ(การเล่าเรื่องในที่นี้คือการเขียนนะคะ)


ก็ตามที่อธิบายยาวๆข้างบนค่ะ ช่วงหลังๆนี้ติดอดิเรกหลายๆชนิด รวมๆมีความขี้เกียจคิด...ในเรื่องเขียนด้วยในบางครั้ง หากอารมณ์ไม่มาก็จะไม่เขียน...ค่ะ


กาลเวลาผันผ่าน...ความรู้สึกอยากที่จะทำอะไรๆ...ที่แตกต่างนั้น อาจจะเป็นสาเหตุด้วย


ส่งให้ได้แต่กำลังใจค่ะ "...ขอบคุณ คุณมากมายค่ะ

ด้วยใจที่รักการเขียน...จะพยายามต่อไปด้วยเช่นกันค่ะ


เป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้มากมายด้วยเช่นกันค่ะ


ขอให้คุณเขียนด้วยสุข สนุกสนานนะคะ



https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-13.png




0
Glory Glacier 24 เม.ย. 61 เวลา 21:15 น. 9-3

อีกสองเดือนจะครบหนึ่งปีที่เริ่มเป็นนักเล่าเรื่อง 555 สารภาพว่าเริ่มจากเป็น

นักอ่านค่ะ อ่านมันทุกอย่างที่อยากรู้ สนใจ และบางครั้งโดนบังคับอ่านเพราะมันต้องใช้ในการทำงาน

พอมาเริ่มเขียนนิยายก็เลยได้เจอความสนุกนะคะ

แต่กว่าจะเขียนกันเป็นเรื่องราว ก็ on the job doing เยอะเลย

งานอดิเรกที่เจ้าของคอมเม้นท์เล่ามากก็คล้ายกัน ดูหนังนี้สมัยวัยรุ่นจัดแบบดูไปหมด โตมาหน่อยก็ติดซีรีย์ทั้งเกาหลี อเมริกา ตาแฉะ

เพลงนี้ก็ชอบฟังทั้งไทย เทศ J-pop K-popจัดกันไป

แต่สุดท้ายก็จบที่บ้าอ่านหนังสือโลกจินตนาการมันมันส์ดี

ตอนนี้เลยลอง้ขียนจินตนาการออกมาเป็นเรื่อง ด้วยความที่รู้สึกอยากส่งต่อความสุขให้คนอ่าน

ขนาดเราอ่านเองยังฟิน คนอื่นอ่านคงมีความสุขด้วย

นั้นคือเหตุผลที่ป่วยที่แท้จริงค่ะ


ขอบคุณที่มาเม้นแลกเปลี่ยน ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ชอบก็พอค่ะ


0
White Frangipani 24 เม.ย. 61 เวลา 22:22 น. 9-4

ตอนนี้เลยลอง้ขียนจินตนาการออกมาเป็นเรื่อง ด้วยความที่รู้สึกอยากส่งต่อความสุขให้คนอ่าน

ขนาดเราอ่านเองยังฟิน คนอื่นอ่านคงมีความสุขด้วย


55555 ขอแสดงความยินดีด้วยกับคุณค่ะ คุณคิดติดบวกมากๆค่ะ


ชอบมากค่ะ อ่านอะไรที่ติดบวกแล้วเกิดเป็นพลังดีๆค่ะ แต่ก็ไม่แน่เสมอไปนะคะ


มาพักหลังๆนี้ได้มีโอกาสอ่านๆข้อความมากมายหลายๆกระทู้ ซึ่งเกิดขึ้นราวดอกเห็ดในหัวข้อต่างๆคล้ายๆกับที่ว่า...นิยาย...ในวัันนี้...เป็นอะไรที่ดูจะไม่มีคุณค่าที่จะเป็นนิยาย


คืออ่านแล้วคล้ายนิยายส่วนมากถูกตีค่าตํ่าจากนักอ่าน...ทั้งหลาย ซึ่งเขาไม่เห็นด้วย ไม่อิน ไม่ฟิน ไม่เม็คเซ้นส์ สำหรับเขานักอ่าน...นั้น ก็เกิดขึ้นมาเป็นบทพิพากษ์ วิจารณ์กันเป็นว่าเล่น...


มีบอกตรงๆว่า(อาจจะ)...ไม่ถูกชะตา...ก็ยังมีเกิดขึ้นเลยด้วยค่ะ55555555555


บางครั้งอ่านแล้วนะก็ระลึกถึง...ผู้ที่ตั้งใจเขียนด้วยใจรัก ว่า เขาทั้งหลายจะรู้สึกอย่างไร???บ้างนะ


แต่ก็นะ...การที่คนเราอยากจะเขียน รักที่จะเขียน...คงไม่มีใครหยุดยั้ง...ผู้ที่จะเกิดเป็นนักเขียน...คนหนึ่ง...ในวันหนึ่งได้ด้วย...นั้นก็เป็นความจริง



นั้นคือเหตุผลที่ป่วยที่แท้จริงค่ะ"...จริงแล้วการที่เราทำอะไรๆด้วยความที่เรารัก...รักที่จะทำ ทำแล้วเป็นสุขสนุกสนาน และสิ่งที่เราทำไม่เกิดเป็นพิษภัย...ต่อผู้กระทำให้มันเกิด หรือต่อผู้ที่ได้เสพมันเข้าไป...นั้นเราไม่เรียกว่าเป็นสิ่งที่เกิดจากผู้ที่ป่วย...หรือจากผลงานของผู้ขาดสติแต่อย่างใดนะคะ


ป่วย...ในที่นี้(เกี่ยวกับการเขียน) แท้จริง...คือการกระทำที่ขาดซึ่่่งสติ...นะคะ (คือป่วยทางจิตแบบนั้นนะคะ)


เจ้าของเม้นต์เข้าใจว่า...คุณเป็นสุข สนุกสนาน กับการสร้างผลงาน...จากจินตนาการ...คิดแบบนั้นดีกว่านะคะ



เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ ขอให้คุณเป็นสุข สนุกสนานกับผลงานสร้างสรรค์...ในทุกๆวันค่ะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png


ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ กระทู้นี้ อีกครั้งค่ะ




0
ชิดดาว/กฤตติกา 22 ก.ค. 61 เวลา 13:37 น. 13

เราพึ่งรู้ตัวค่ะ

มันจะแบบไม่อยากลุกไปไหน อยากนั่งติดอยู่แต่หน้าคอม

พยายามคิดหาเนื้อเรื่องมาแต่งต่อ

กะจะเขียนแค่สองสามชั่วโมงแต่มันก็ยาววววไปเลย555

หยุดไม่ได้จริงๆค่ะ^^


0