Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[เล่าสู่กันฟัง] เมื่อไบโพลาร์ทำลายงานของเราเอง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
หัวข้อเหมือนจะโทษโรคไบโพลาร์เลยแฮะ เอาเป็นว่ามาเล่าประสบการณ์ตัวเอง

ก่อนหน้านี้ เราอยู่ในช่วงpositive เขียนไรก็รู้สึกว่าเขียนดี ลื่นไหล คนบอกสนุก เข้าใจ น่าติดตาม โอเค ดีใจ เข้าช่วงไฮเปอร์ ขยันลงนิยาย
หลังจากนั้นความไฮป์ก็หายไป 
เราเริ่มเป็นหนักขึ้นหลังจากกลับจากไปทัศนศึกษาที่จีน ได้เรียนรู้วัฒนธรรมจีนจริง ๆ พอเจอของจริง กลับมาดูนิยายตัวเอง แม่ง...เขียนได้ไง

มันไม่ใช่การตัน คิดอะไรไม่ออก มันคือการคิดออก คิดเนื้อเรื่องได้
แต่...ดีพอหรือเปล่า...?


ลบแก้ ลบแก้ ลบเปลี่ยน สุดท้ายสติแตก อารมณ์เหวี่ยงไปด้านลบถึงขีดสุด ลบทั้งเรื่อง ขอโทษแฟนคลับพันกว่าคนด้วยที่ปล่อยเรื่องค้างคา

เรารู้สึกว่าเราเขียนไม่ดีพอ ไม่ดีเลย เขียนเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกว่าดี ไม่พอใจในผลงานตัวเอง พาลไม่อ่านนิยายคนอื่นไปด้วยเพราะรู้สึกลำไย ทำไมเขาเขียนดีจังถึงแม้ไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด แต่มันสนุก

มีนักอ่านนิยายเราบอกว่าสนุก แต่เรากลับรู้สึกคนละอย่าง เออเขาปลอบใจเราเหรอเปล่า สนุกจริงเร้อะ สนุกจริงหรือเปล่า เราคิดไปเองไหม

เราเขียนนิยาย เรื่องสั้น เรียงความ บทความเล่น ๆ ลงเว็บ ให้ทางมหาวิทยาลัย โรงเรียนมาตลอด ไม่เคยรู้สึกแย่และกดดันขนาดนี้ มันรู้สึกเหมือนเราไม่ดีพอ...

ยิ่งรู้มาก รู้สึกว่างานของเราเหี้ยมาก เขียนวิทยานิพจน์ยังง่ายกว่าอีก แปบ ๆ เสร็จ

และพออารมณ์เรากลับมาอยู่ในจุดสมดุล ก็รู้สึกตัวว่า ฉันทำอะไรลงไป ฉันทำในสิ่งที่ย้อนกลับคืนมาไม่ได้อีกแล้ว ทุกอย่างมีผลกระทบหมด มือตัวเองคลิกลบ ก็ต้องรับกรรมไป (เศร้า)

เอาเป็นว่าใครคิดลบผลงานตัวเอง คิดดี ๆ อย่าให้อารมณ์(มาชั่วคราว)เป็นใหญ่เหนือตัวเอง
เวลา...ย้อนกลับไม่ได้ เช่นเดียวกับการ 
 permanently delete file จากtrash (แต่มีโปรแกรมrecoveryอยู่นะ) 

 
ปล. จริงๆ อาจเป็นเพราะเราคิดไม่ออกว่าจะฝึกงานที่ไหนก็ได้ จะเป็นผู้ใหญ่ลำบากจังโว้ย 

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

Miran/Licht 28 ก.ค. 61 เวลา 22:33 น. 1

เป็นกำลังใจให้นะคะ


คือคำว่าอารมณ์ชั่ววูบนี่จริงๆ ค่ะ คนปกติหรืออาจจะปกติก็เป็นค่ะ


ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องแยกไฟล์ไว้หลายแบบ หลายที่ หลายโฟลเดอร์เหมือนคนย้ำคิดย้ำทำ เพื่อกันความผิดพลาด


เช่น ในนิยาย 1 เรื่อง ในโฟลเดอร์นั้นเฉพาะที่เป็นตัวนิยายจริงๆ จะมี อย่างน้อย 3 ไฟล์ค่ะ

1. ไฟล์รวมไอเดียแรก หรือจดทุกอย่างที่นึกได้ ร่างทุกร่างอยู่ในนี้หมด

2. ไฟล์ที่เขียนจริง

3. ไฟล์ที่แยกเป็นตอนๆ ค่ะ เพื่อสะดวกสำหรับการลง เพราะเราจะจัดไฟล์สำหรับลงเว็บในนี้คือ เคาะแยกบรรทัด เปลี่ยนตัวอักษรให้เป็นสีดำทั้งหมด (ไฟล์ที่ 2 เราจะเขียนแบบคัลเลอร์ฟูลมากค่ะ ทำสี ไฮไลท์เพราะบางทีเกิดจากการตัดต่อ หลายๆ ร่าง หรือจากโน๊ตที่เก็บไว้


จากนั้นทุกอาทิตย์/เดือนจะตั้งโฟลเดอร์ใส่วันที่ไว้ โยนขึ้นไดร์ฟ (ไฟล์ตัวอักษรไม่ค่อยกินที่ค่ะ) สัก 2 ที่หรือหลายๆ ID ในคอม ใน flash drive ด้วย แล้วก็ทิ้งแบบลืมๆ ไว้


ถ้าเราถึงขนาดไล่ลบทุกไฟล์ที่สำรองไว้ เราคงพิจารณาตัวเองมากๆ ค่ะ

0
คิมหันต์อัสนี 28 ก.ค. 61 เวลา 23:06 น. 2

เป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ ที่น้องบอกว่าเริ่มเป็นหนักขึ้นหลังจากกลับจากไปทัศนศึกษาที่จีน ได้เรียนรู้วัฒนธรรมจีนจริง ๆ พอเจอของจริง กลับมาดูนิยายตัวเองแล้วรู้สึกไม่ดี


อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จีนช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมที่เปลี่ยนผ่านจากการปกครองแบบเก่ามาเป็นคอมมิวนิสต์ ทุกอย่างกลับไปสู่จุดศูนย์ ทุกอย่างเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ คนจีนที่เป็นผู้ที่มีการศึกษา ทั้งคหบดี ขุนนางเก่า บัณฑิตผู้ทรงความรู้หรือแม้แต่ครูมวยจอมยุทธสายต่าง ๆ ก็หนีเอาตัวรอด พาครอบครัวข้ามน้ำข้ามทะเลหนีมาอยู่ไทย ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เหล่านี้ ฉะนั้นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม ศิลปะวัฒนธรรมต่าง ๆ กลับกระจายตัวออกนอกประเทศจีนมากมายมหาศาล


จนถึงเมื่อสมัยรุ่นพ่อแม่ผมมีเรื่องเล่าว่าแม้แต่การไหว้เจ้า ที่จีนยังต้องมาดูวิธีการไหว้ของคนเชื้อสายจีนที่กระจายตัวอยู่ทางแถบนี้กันเลยครับ บางครั้งสิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นก็ได้ อย่าคิดมากนะครับ


ขอให้กลับมามีกำลังใจที่ดีและแข็งแรงดั่งเดิมไว ๆ ครับ สู้ ๆ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-01.png

0