Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

นักเวทย์ใช้ฮิลได้ไหม ถ้าได้นักบวชมีประโยชน์อะไร(นิยายแฟนตาซี)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือหลายเรื่องมาก ที่นักเวทย์ใช้ฮิลได้(บางทีนักดาบยังใช้ได้เลย) แล้วดันมีนักบวชในทีมด้วย

จะไว้บัพเพื่อนแบบนั้นหรอ มันก็มีนักเวทย์ใช้บัพได้อีกอ่ะ

แล้วนิยายเรา สเป็คโคตรสูง ควรให้ทุกตัวใช้ฮิลได้ดีไหม

แสดงความคิดเห็น

15 ความคิดเห็น

Draco's sister 25 ต.ค. 61 เวลา 16:07 น. 1

เราว่าเราเตือนแล้วนะ โอเค คงจะพูดไม่ชัด เป็นไปได้ ลงอาทิตย์ละสองสามกระทู้ก็พอ ได้มั้ยคะ? ที่ลงอะ เยอะไปละ

10
Miran/Licht 25 ต.ค. 61 เวลา 16:42 น. 1-2

ขอแนะนำตามประสาผีประจำบอร์ดได้ไหมคะคุณจขกท.


เราเข้าใจว่าคุณอยากได้ข้อมูลแบบมุขปาฐะ คือ การถามความเห็นนอกจากการค้นหา


เราไม่ได้มีปัญหากับการตั้งกระทู้ของใคร อยากตอบก็ตอบไม่ตอบก็ไม่ตอบ แม้จะรู้สึกลำใยบ้างกับบางกระทู้ที่ช่วงนี้มาเยอะ หรือการตั้งคำถามที่ ไม่รู้จะตอบอย่างไร เช่น ให้ช่วยคิดคำโปรยนิยาย เปิดเข้าไปดูบอกตามหัวกระทู้ ไม่ได้มีเนื้อหาขยายความอะไร งงในงง


เราไม่คิดจะจำกัดการตั้งคำถามแต่ บางทีถ้ามาถี่ๆ แบบนั้นก็จะเตือนๆกันว่า เกรงใจคนอื่นหน่อยมันจะดันกระทู้คนอื่นค่ะ


จากที่เห็นกระทู้ของคุณ เราเห็นว่าคำถามของ คุณจขกท. เกี่ยวกับนิยายแฟนตาซี และคุณสามารถรวมทุกคำถามมาเป็นกระทู้เดียวได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องแตกกระทู้หลายๆ กระทู้เลยค่ะ


0
มัมมี่ซ่ากาแฟไทย 25 ต.ค. 61 เวลา 16:45 น. 1-3

รวมยังไงให้คนที่มีความรู้ทุกด้าน เข้ามาอ่านหรอครับ กลัวจะได้คำตอบไม่ครบ แต่ยังไงก็จะลองไปใช้ดู

0
G.Tenju 25 ต.ค. 61 เวลา 17:16 น. 1-4

- ทุกหัวข้อที่นายตั้งกระทู้ถามมามันคือข้อมูลของนิยายที่มาจาก 'ความคิดเห็น' ไม่ใช่ความรู้หรือข้อเท็จจริง ต่อให้มีส่วนของความรู้ ก็เป็นความรู้มือสอง "ฉันเจอมาอย่างนี้ ฉันจึงเชื่อว่ามันเป็นแบบนี้"


- ทุกลูกเล่นพลังในนิยายเคยมีคนทำมาหมดแล้ว จะต่างกันหลักๆคือมุมมองหรือวิธีแสดงไอเดียออกมาในแง่มุมของนักเขียนเอง อันนี้ต้องใช้จินตนาการ ถ้าถามความเห็นจากคนอื่นก็แปลว่ามีคนใช้มันได้ดีในแง่มุมนั้นไปแล้ว


คำแนะนำส่วนตัว : การตั้งคำถามเป็นสิ่งที่ดี แต่แทนที่จะถามหาผลลัพธ์ที่มันงอกมาได้ไม่มีวันจบสิ้น เราถามหาวิธีคิดแทนดีกว่า

0
G.Tenju 25 ต.ค. 61 เวลา 18:27 น. 1-6

https://image.dek-d.com/27/0641/8534/127737209


เอาความหวังดีตูคืนมา!!!

ป.ล. นายมีเทคนิคการหักมุมที่น่าสนใจ น่าเอาไปใช้ในนิยาย ///ถุ้ย!

0
PenGuinTeaTime 25 ต.ค. 61 เวลา 20:05 น. 1-8

โอ้ย แฟนตาซีข้อมูลมันหาง่ายโครตๆเลยครับ ตอนคนอ่านกับตามเท่าคุณผมยังไม่เอาเวลามาตั้งกระทู้เลยครับ หาเองล้วนๆ แล้วยิ่งตั้งถี่ขนาดนี้ เพียงเพราะว่าเหงานี่ ไปหาห้องแชทคุยเหอะ มันดันกระทู้อื่นหมด!!!!

0
มนุษย์มันฝรั่ง 25 ต.ค. 61 เวลา 18:33 น. 2-2

ถ้านึกไม่ออกว่านักบวชพวกนั้นถ้าไม่มีเวทมนตร์รักษา ก็นึกถึงพวกเจไดก็ได้ครับ พวกนั้นก็จัดว่าเป็นนักบวชเหมือนกัน ตอนแรกเคยคิดอยากเป็น แต่เจอศีลเจได กับต้องบำเพ็ญภาวนา ไปเป็นนักล่าเงินรางวัลก็ได้วะ..

0
Ohlalamade 25 ต.ค. 61 เวลา 17:02 น. 3

ในความคิดเรา นักเวทย์ควรใช้ฮิลได้อย่างจำกัด และพลังฮิลที่เบามากๆ ถ้าเทียบกับนักบวช อย่างที่รู้ๆ กัน นักเวทย์มีพลังโจมตีที่รุนแรงมาก ส่วนนักบวชมีพลังโจมตีที่ต่ำมาก นักบวชควรจะฮิลได้แรงมากๆ และสามารถสร้างเกราะป้องกันระดับสูง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับอะไรบางอย่าง ไม่งั้นเดี๋ยวใช้พร่ำเพรือมันจะดู โอเว่อร์ไปครับ

9
มัมมี่ซ่ากาแฟไทย 25 ต.ค. 61 เวลา 17:13 น. 3-1

ok นักเวทย์ต้องบัพได้น้อยกว่า


แต่ติดไปคิดมา กระรอกเรื่อง overlordล่ะ บัพขนาดนั้นยังน้อยอีกหรอ ฮ่าน่ะ

0
PenGuinTeaTime 25 ต.ค. 61 เวลา 17:16 น. 3-2

เอาโอเวอร์ลอร์ดเป็นแนวแต่งหรอครับ ถ้างั้นคงไม่ต้องปูอะไรมากหรอกครับ บอกไปเลยว่ามันเก่งโครตๆก็จบแล้ว หรือไม่ก็เรียนจบมาจากโรงเรียนเวทย์ขั้นสูงหรือปูพื้นเรื่องไปเลยว่าครอบครัวเป็นผู้ใช้เวทย์ไรงี้

0
Ohlalamade 25 ต.ค. 61 เวลา 17:17 น. 3-3

คิดว่าควรปรับให้ฮิลได้น้อยนะ หรือไม่ควรฮิลได้เลย เพราะไม่งั้น นักเวทจะเทพเกินไป จนเสียสมดุล

0
Ohlalamade 25 ต.ค. 61 เวลา 17:19 น. 3-4

หรือถ้าจะปูว่า นักเวทย์ฮิลได้ งั้นต้องไม่มองว่าการฮิลในเรื่องมีความสำคัญอะไร ควรไปเน้นความสำคัญ ที่พลังเวทย์แปลกๆ หรือการบำเพ็ญหรือการเรียนเวทย์ หรือการค้นหาจนได้เวทย์ระดับสูง มาไว้ต่อสู้กันดีกว่า ให้มองว่าการฮิลในเรื่องถือเป็น เวทย์พื้นฐานที่ใครๆ ก็ทำได้แบบนี้ก็ดีนะครับ

0
Ohlalamade 25 ต.ค. 61 เวลา 17:21 น. 3-6

หรือจะมองว่า การฮิลนั้น ต้องเป็น วิชาฮิลชั้นสูง ที่อาจจะต้องแลกด้วยการสูญเสียอะไรบางอย่างไป ทำให้ดูว่าการฮิลนั้นมันยากขึ้นมาอีกนิด ไม่ใช่ใครๆ จะฮิลแบบนี้ก็ฮิล ต้องเป็นการฮิลระดับ ที่ยิ่งใหญ่ อลังการ ตระการตาครับ ถึงจะดู ว้าว

0
มัมมี่ซ่ากาแฟไทย 25 ต.ค. 61 เวลา 17:26 น. 3-7

จะลองเอาไปทำดูครับ -เวทย์ฮิล เรียนยากเนี่ย น่าจะเอาตัวรอดสนุกดี


แต่แลกอะไรบางอย่างไป? มันเหมือนจะแปลกๆน่ะ

แต่ถ้าปรับใช้ดีๆให้โลกสงบหน่อยคงจะดราม่าดีเหมือนกัน หึหึ

0
Ohlalamade 25 ต.ค. 61 เวลา 17:31 น. 3-8

เช่นการฮิลแบบนี้ สามารถบินขึ้นไป เหนือฟากฟ้า แล้วฮิลคนที่ใกล้ตาย ได้ทั้งเมือง หรือทั้งกองทัพ เป็นเวทย์ฮิลเกือบใกล้เคียงระดับการชุบชีวิตคนตายได้ แต่อาจแลกมาด้วยอายุไขที่น้อยลง หรือ somthing ไม่งั้น ถ้าเรียกมาใช้ได้ตลอด ผมว่ามันจะดูน่าเบื่อไปนิด แล้วจะดูชนะไปซะหมด หรืออาจต้องทำสัญญาบางอย่างเพื่อแลกวิญญาณ 1 ในสี่ ให้กับ เทพแห่งการรักษาหรือเทพอะไรก็ได้ที่เก่งๆ เพื่อดึงพลังของเทพ นั้น มาช่วยในการฮิลอันยิ่งใหญ่ระดับนี้ครับ

0
มัมมี่ซ่ากาแฟไทย 25 ต.ค. 61 เวลา 17:47 น. 3-9

ถ้าฮิลขึ้นกับจำนวนมานาที่ใช้ และเวลาล่ะ

เช่น ใช้มานา100ฮิลใน1วิ ได้100ทันที

แต่ใช้ 50 ฮิลใน 10วิ ได้วิล่ะ20แต่รวมกันได้200(ในเรื่องสู้กันอย่างกะดราก้อนบอล)


แบบนี้พอได้ไหมครับ ในเรื่องไม่มีระบบเกม แต่จะมีโรงเรียนสอนให้ฮิลแม่น และนั้นคือหน้าที่ของนักบวช

0
Mirage Tao 25 ต.ค. 61 เวลา 17:03 น. 4

แนะนำให้เพิ่มเป็นธาตุดีกว่าครับ เช่นนักเวทย์ใช้ดิน น้ำ ลม ไฟ ส่วนนักบวชก็เป็นเวทมนต์ประเภทแสง เวทย์รักษา เวทย์ฟื้นฟู เนื้อหาจะได้หลากหลายมากขึ้น หลังๆ อาจมีการผสมธาตุ หรือธาตุลึกลับอย่างความมืดมาด้วย

1
มนุษย์มันฝรั่ง 25 ต.ค. 61 เวลา 17:31 น. 5-2

พวก scholar ใน final fantasy สามารถใช้ซัมม่อนของตัวเองในการรักษาอาการบาดเจ็บของผู้ป่วยได้ รวมถึงเวทมนตร์จากคัมภีร์ก็สามารถใช้ในการรักษาได้ หรือแม้กระทั่งพวกนักเวทย์ขาว ที่ไม่ใช่นักบวช แต่ก็สามารถรักษาผู้คนด้วยเวทมนตร์ขาวได้เช่นกัน

0
white cane 26 ต.ค. 61 เวลา 09:24 น. 7

ไปอ่านเจอความคิดเห็นที่หนึ่ง เลยไปอ่านตรงชื่อของผู้ใช้งาน เพิ่งสังเกตว่าตั้งหลายกระทู้มากที่เกี่ยวกับแฟนตาซี


ผมว่าถ้าจะถามเกี่ยวกับแฟนตาซีอย่างเดียวอย่างนี้ เอาข้อมูลมายัดอยู่ในกระทู้เดียวแล้วแยกเป็นข้อๆ ไปเลยมันจะง่ายกว่าไหมครับ เพื่อนๆ เขาจะได้ไม่ขี้เกียจไปตอบหลายกระทู้ไง


ส่วนคำถามของของเจ้าของกระทู้... มันขึ้นอยู่กับเราว่าจะกำหนดให้ตัวละครที่มีความสามารถพิเศษนี้มีไหม เพราะถ้ามีมันก็จะส่งผลต่อการดำเนินเรื่องไม่น้อย อย่างเช่น พระเอกต่อสู้กับตัวร้าย จนกระทั่งเกือบตาย แต่ทว่ามีพลังวิเศษรักษาตัวเองได้ จึงเอามารักษาตัวเองแล้วไปลุยกับตัวร้ายต่อ ตรงข้ามกับตัวร้าย ไม่มีพลังอะไรเลยที่ใช้รักษา สุดท้ายก็ตายเพราะความขี้โกงของพระเอก จบแบบง่ายๆ ไม่มีอะไรให้น่าติดตามเลย ถ้ามีพระเอกที่เก่งไปหมดทุกด้านอย่างนี้ อาจทำให้นักอ่านเกิดความเบื่อได้ง่ายมาก เนื่องจากทั้งเรื่องมันเก่งคนเดียว จุดน่าสนใจจึงไม่ค่อยมีนัก เพราะมันแทบไม่ต้องพยายามอะไรก็ชนะอยู่แล้ว จริงไหม ?

4
มนุษย์มันฝรั่ง 26 ต.ค. 61 เวลา 09:34 น. 7-1

พวกเวทมนตร์ฟื้นพลังผมก็ใช้ แต่ส่วนมากก็ใช้เป็นเหมือนกับ second wind ใน dnd สร้างพลังชีวิตชั่วคราวจากแรงฮึด ฟื้นแค่พอให้ลุกขึ้นมายืนได้ ไม่ถึงขั้นเต็มหลอด แต่สุดท้ายสู้จบก็หืดขึ้นคอตามเดิม

0
มนุษย์มันฝรั่ง 26 ต.ค. 61 เวลา 13:39 น. 7-3

มันมีข้อจำกัดของมัน ก็แบบเวทชุบชีวิตในไฟนอล ที่ไม่สามารถคืนชีวิตให้คนตายได้ ใช้เพียงแค่ฟื้นพละกำลังคืนให้กับคนที่อยู่ในสภาพปางตายหรือที่เรียกว่า knock out เท่านั้น



0
Twenty SIX 26 ต.ค. 61 เวลา 09:46 น. 8

ลองนึกถึงสนามรบจริงๆเลยดีกว่า


ถามว่าทหารราบสามารถปฐมพยายาบาลเพื่อนคนข้างๆที่โดนยิงบาดเจ็บได้มั้ย?

โอเค มันได้อยู่แหละ


แต่ถ้าให้แพทย์สนามที่เขามีอุปกรณ์รักษาตรงจุดกว่า มียามอร์ฟีนใช้ระงับอาการเจ็บปวด ผ้าพันแผลที่ดีๆ

มันจะดีกว่ามั้ยถ้าให้แต่ละสายทำหน้าที่ของตัวเองๆไป

2
มนุษย์มันฝรั่ง 26 ต.ค. 61 เวลา 10:11 น. 8-1

ถ้าให้ผมนึกถึงเกมที่เล่นก็ไฟนอล 14


เร้ดเมจกับซัมมอนเนอร์ฮีลได้มั้ย ชุบได้มั้ย ก็ได้เหมือนกัน แต่มันจะมาเสียเวลาปั่น dps แล้วมันไม่แรงเท่าพวกสายฮีลเลอร์อย่าง แอสโทรฯ สกอลาร์ หรือไวท์เมจ

0
no one know 26 ต.ค. 61 เวลา 10:39 น. 9

เอาจริง ๆ มันก็แล้วแต่คนแต่งล่ะนะ ไม่มีกำหนดตายตัวหรอก...


1. จะให้ทุกคนใช้ฮิลได้หมด ก็ทำให้มันกลายเป็นเรื่องสามัญไป เช่นเซตติ้งในโลกที่ทุกคนใช้เวทพื้นฐานได้ เหมือน ๆ กัน เพียงแต่คาถาฮีลระดับสูงจำเป็นต้องมีสายเลือดพิเศษหรือผ่านการฝึกฝนอย่างหนักก็ว่ากันไป


2. ฮีลเป็นของเฉพาะนักบวช อันนี้ก็เซตติ้งทั่ว ๆ ไป แต่ก็มีออฟชั่นเพิ่มได้ เช่นให้พวกนักดาบหรือจอมเวทพกม้วนคัมภีร์สายฮีลไปด้วย เท่านี้ก็ใช้ฮีลกันได้ทุกคนแล้วเย้! (แต่มีจำนวนจำกัดหรือขายราคาแพงก็ว่ากันไป)

1
Netmilk Pk 27 ต.ค. 61 เวลา 13:52 น. 11

ถ้าตามสายแฟนตาซีดั้งเดิม


นักบวช จะใช้พลังจากพระผู้เป็นเจ้าในเรื่องนั้นๆ ในการบัพและรักษา เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าจึงต้องเป็นคนดี ไม่เคยทำชั่ว ไม่เคยฆ่าคน และเป็นผู้มีศรัทธาต่อพระเจ้าเพียงผู้เดียว


พระเจ้าเป็นผู้สร้างชีวิตให้มนุษย์ เพราะฉะนั้น พระเจ้าจึงเป็นผู้ผูกขาดในการฮีลและบัพ ซึ้งเกี่ยวกับพลังชีวิตของมนุษย์


นักเวทย์ จะใช้พลังธาตุต่างๆ ในการโจมตี เป็นผู้หันหลังให้แก่พระเจ้า ไปหาพลังธาตุที่รุนแรงและใช้ง่ายกว่า ไม่ต้องเป็นคนดี ไม่ต้องมีศรัทธา ฆ่าใครก็ได้


ส่วนแฟนตาซีสมัยใหม่


นักบวช จะเป็นแค่ผู้ที่มีศรัทธาต่อพระเจ้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีพลังเวทย์ อาจมีหรือไม่มีก็ได้


นักเวทย์ ก็ยังใช้ธาตุเหมือนเดิม ซึ้งแต่ละธาตุก็จะมีคุณสมบัติต่างกัน ธาตุแสงจะมีคุณสมบัติในการรักษา ใครใช้ธาตุแสงได้ก็จะฮีลได้

1
มนุษย์มันฝรั่ง 27 ต.ค. 61 เวลา 14:28 น. 11-1

ก้อย่างใน final fantasy ที่นักบวชไปโฟกัสด้านพละกำลังและการรักษาสมดุลจักระแทน ส่วนแพทย์รักษาคือนักเวทขาว ที่ใช้เวทมนตร์ขาวในการฟื้นพลัง รวมถึงต่อสู้กับภูติผี

0
Trianglecat 27 ต.ค. 61 เวลา 20:52 น. 12

จากประสบการณ์การเล่นเกมแฟนตาซีอันน้อยนิดของผมนะ


นักบวช หรือ Preist หรือ Cleric หรืออะไรก็ช่าง


มันจะเป็นตามที่กล่าวๆ มาอย่างเช่น เป็นผู้มีศรัทธาต่พระเจ้า เป็นคลาสที่้บัฟ หรือง่ายๆ ก็คือซัพพอร์ท ในด้านพลังศรัทธา ซึ่งจะมีผลต่อเพื่อน คนรอบข้าง หรือตัวเอง ส่วนจะเป็นบัฟอย่างเช่น Great Defending และอีกมากมาย


แต่เอาจริงๆ ผมว่ามันเป็นมากกว่านั้น


ยกตัวอย่าง Dark soul ที่คลาส Cleric จะมีความสามารถในการ ฮีล และยังมีค่าพิเศษนั่นคือ Holy ที่จะทำความเสียหายกับ Undead หรือ อมนุษย์แรงขึ้นกว่าคลาสอื่นๆ (แถมมีสายฟ้าดวย โคตร Op)


หรือใน Konosuba ที่ Aqua ตัวซวยประจำเรื่อง มีสกิลอย่าง Turn Undead ที่จะทำให้ Undead ในรัศมีได้รับความเสียหาย


สรุปคือ คลาสนักบวช เป็นคลาสที่เอาไว้บัฟเพื่อน และเอาไว้ปราบผี นั่นเอง ในเรื่องพลังเวทย์ ถ้าเน้นการโจมตี คลาสนักบวช ก็ไม่น่าจะเทียบกับคลาสนักเวทย์ได้ แต่นักบวช มีค่า Holy ที่จะทำความเสียหายแก่ Undead มากเป็นพิเศษ นั่นแหละคือประโยชน์ของคลาสนี้


เสริม บางทีที่เห็นคลาสอื่นๆ มีฮีล ก็ไม่น่าแปลกนะครับ เพราะหนึ่งเลย การที่ตัวละครออกผจญภัยเดี่ยวๆ ก็ควรจะมีเวทย์อย่างน้อยสองสามเวทย์ไว้ป้องกันตัว อย่างเช่นที่คุณกล่าวมานั่นคือ คลาสนักดาบ นักดาบ เป็นคลาสทั่วไป ที่สามารถทำดาเมจแก่ศัตรูด้วยการโจมตีระยะประชิด มันก็ถูกแล้วที่เขาจะมีฮีล ไว้ใช้ยามที่ไม่มีคนมา ซัพพอร์ท แน่นอนมันไม่แรงเท่านักเวทย์หรอก แต่มันก็พอที่จะทำให้คลาสนั้นพลิกสถานการณ์ได้



2
มนุษย์มันฝรั่ง 27 ต.ค. 61 เวลา 22:19 น. 12-1

ถ้าตามเกม RPG พวกสายนักรบหรือนักสู้ ส่วนมากจะมีสกิลติดตัวที่ชื่อว่า Second Wind สร้างพลังชีวิตชั่วคราวเพื่อให้ตัวเองมีแรงฮึดสู้ ก่อนที่จะได้รับการรักษาอีกทีจากทีมแพทย์สนาม อย่างในเกม Dungeons and Dragons ก็นับจำนวนฟื้นพลังชีวิตจากการทอยเต๋า D10 1 ลูก บวกกับเลเวลของตัวละคร เป็นต้น

0
Trianglecat 28 ต.ค. 61 เวลา 00:05 น. 12-2

นั่นก็ดีเหมือนกัน


เพราะจุดประสงค์ของคลาส ซัพพอร์ท ก็คือการช่วยเหลือ และเสริมสร้างศักยภาพในการต่อสู้


การที่คลาสจู่โจมมีสกิลฟื้นฟูพลังชีวิต มันก็ขึ้นอยู่กับโลกแฟนตาซีของ จขกท. ว่าเขาอยากให้มันเป็นแบบ มีปาร์ตี้ หรือเป็นแฟนตาซีแบบตัวเอกลุยเดี่ยว


แต่เมื่อเทียบกันแล้ว สกิลฮีลของคลาสนักรบ มันก็ดีไม่เท่า คลาสซัพพอร์ท เอาตัวอย่างจากคุณก็คือ Passive Second Wind ที่จะฟื้นฟูพลังชีวิตขึ้นมานิดนึง เพื่อสู้ต่อ ก็คล้ายๆ กับเวลาตอนที่ตัวละครตาย ถ้ามีไอเทมพิเศษ(ที่ไม่ใช่ใบชุบ) ก็จะฟื้นขึ้นมาแต่เลือดแค่ 1/4 อะไรประมาณนั้น


เอาเป็นว่า ความคิดเห็นและการตีความของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อยู่ที่การนำมาสร้างสรรค์ และปรุงแต่ง ให้คิดว่า มันเวิร์ค และเม๊คเซนต์ ที่สุดเท่าที่จะคิดได้

0
Oh My Afro 28 ต.ค. 61 เวลา 04:06 น. 13

อ้างอิงจากนิยายของเราเอง พูดง่ายๆ คือคิดเองนั้นเเหละอาจไม่ได้ประโยชน์เเต่ถือว่าเล่าให้ฟังก็เเล้วกัน

ในนิยายของเรา มี อาชีพนักบวช เเต่ นักบวชอาจเป็นผู้มีพลังเวทหรือไม่ก็ได้ ส่วนหน้าที่ของนักบวชคือประกอบพีธีทางศาสนาทั่วไป หรือเตรียมเเท่นพีธี วงเเหวนเวท ในตอนที่ต้องจัดการกับพวกสัตว์อสูรตั้งเเต่ระดับกลางขึ้นไป


สรุปง่าย -เรื่องที่จขกท.ถามมาในหลายกระทู้น่ะ บ้างเรื่องคิดเองก็ได้ ไปหาอ่านอันนั้นอันนี้มาเเล้วเอามาย่อยเป็นของตัวเองมันก็สนุกดี นิยายเเฟนตาซีไม่ใช่ตำราเรียน มันจึงไม่ต้องมีกฎตายตัวต้องทำตามอย่างเขาเสมอไป เเค่ในนิยายมันต้องมีตรรกะ ความสมเหตุสมผลในตัวมันเอง เเค่นั้นก็พอเเล้ว

0
KURIKOSAMA 28 ต.ค. 61 เวลา 04:57 น. 14

นางเอกนิยายผมใช้ได้ทั้งฮิว ทั้งเวทย์ ทั้งบัฟ ทั้งๆที่เป็นคลาสนักรบ


ถามว่าแล้วนักบวชมีประโยชน์อะไร


มีประโยชน์กับตี้อื่นครับ ไม่ใช่กับนางเอก 555555555

0
พลทวนไร้พันธะ 26 ธ.ค. 61 เวลา 23:47 น. 15

ถ้าเล่นแนวเกมผมไม่มีความเห็น คิดว่าคงหาตัวอย่างจากเกมเองได้

แต่ถ้าเอาสายเรียล แฟนตาซีสมจริง นักบวชไม่ต้องฮีลได้ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องร่วมสู้ด้วย เพราะนักบวชคือคนสำคัญอะนะ เหมือนเดินทางร่วมกัน ทหารก็ออกไปสู้ พระก็อยู่ในที่ปลอดภัย การต่อสู้ไม่ใช่หน้าที่ของพระ พระเป็นที่เคารพไม่ใช่เพื่อนเล่นหัวกัน

พระมีสกิลอื่นอีกมากมายมหาศาลที่นักสู้ทำไม่ได้ พระมีความรู้มากมาย เจรจากับเจ้าเมือง เป็นเสาหลักของกลุ่มเวลาทุกคนหวาดกลัวสิ้นหวังจิตใจไม่ปกติ พระก็เป็นที่พึ่งทางใจและช่วยให้คนอื่นกลับเป็นปกติ

ถ้าเก่งก็อาจร่วมสู้ด้วยได้ แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคนสั่งการ มอบหมายหน้าที่ให้ทุกคนในกลุ่ม เป็นคนที่ใหญ่ที่สุด อาจไม่ใช่หัวหน้าแต่ทุกคนจะก้มหัวให้

ประมาณนั้นครับ

1