[ระบาย] สภาวะไฟหมดหรืออะไรก็ไม่รู้
ตั้งกระทู้ใหม่
คือเมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเริ่มรู้สึกประหลาดๆ เวลาจะแต่งนิยายครับ
คือมันจะอึนๆ แต่งไม่ไป รู้สึกระแวง...แบบเหมือนแต่งได้สักย่อหน้าหนึ่งพออ่านปุ๊บแล้วรู้สึกได้ว่ามันห่วยก็จะแต่งย่อหน้านั้นวนลูปไปเรื่อยๆ
สุดท้ายก็คือท้อแล้วก็อารมณ์ดาวน์เพราะเหมือนก้าวไม่ออกสักที
อีกอย่างคือทุกวันนี้เขียนแล้วเหนื่อยขึ้นง่ายมากเลย เหมือนตัวเองใช้สมองหนักเกิดเหตุหรืออะไรรึเปล่าก็ไม่อาจทราบ (คือจากเคยเขียนได้8000-6000คำต่อวัน เดี๋ยวนี้แค่2000ยังยากเลย)
ผมไม่ชอบความรู้สึกนี้เลยครับ...ผมว่าผมอาจจะหมดไฟแล้วจริงๆ T T
อีกอย่างคือเดี๋ยวนี้เหมือนเริ่มจับทางการเขียนได้แล้วพอมันประกอบกับสกิลการอ่านที่มีอยู่ คือจะรู้ได้อย่างง่ายดายเลยว่าย่อหน้าไหนห่วยแตก แล้วจะวนลูปไปด้านบนต่อ ;-;
พอเป็นมากๆ เข้าก็เริ่มเขียนไม่ออกโดยไม่มีเหตุผลเลยครับ...บางทีก็แอบอิจฉาตัวเองสมัยก่อนที่เขียนโดยไม่คิดมาก ไม่คิดเยอะ ไม่รู้สึกว่าตรงไหนแย่ ตรงไหนผิด รูปประโยคมีแต่วลีจนแทบอ่านไม่ออก อ่านไม่รู้เรื่องก็ยังเขียน
แต่เดี๋ยวนี้...เฮ้อ...
.
ผมโคตรอึดอัด :(
12 ความคิดเห็น
พักก่อนไหมคะ เวลาเขียนเยอะๆก็อาจจะมีตันบ้าง สบายใจค่อยกลับมา เราเพิ่งเป็น อารมณ์ดีหัวแล่นๆค่อยเขียนต่อ เป็นกำลังใจให้นะคะ~
เราคิดว่ามันเกี่ยวกับการที่คุณจริงจังและคาดหวังกับการเขียนมากเกินไปหรือเปล่าคะ ประกอบกับที่คุณบอกด้วยว่าตัวเองมีสกิลการอ่านและเริ่มจับทางการเขียนได้ ทีนี้เวลาคุณเขียนคุณก็จะเริ่มบังคับตัวเองไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่า ฉันจะต้องเขียนให้ได้ออกมาดีที่สุด พอเขียนออกมาไม่ได้ตามที่หวังก็ลบเขียนใหม่ซ้ำ ๆ จนเบื่อ หมดความตื่นเต้นที่จะเขียน เพราะคุณคาดหวังกับตัวเองมากเกินไป
วิธีแก้คืออยากให้คุณเข้าใจค่ะ ว่าไม่มีนิยายเรื่องไหนดีที่สุดหรือแย่ที่สุดหรอกค่ะ ในความรู้สึกนักอ่านนิยายทุกคนก็มีแค่ชอบกับไม่ชอบเท่านั้น เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องไปคาดหวังกับตัวเองมากค่ะ แค่เขียนแล้วมีความสุขก็พอ
ผมคงจะกดดันตัวเองหรืออะไรสักอย่างจริงๆ แหละครับ
และยิ่งเห็นชัดมากเวลาลองกลับไปย้อนอ่านเรื่องที่พึ่งแต่งจบเมื่อเดือนที่แล้วของตัวเอง มันน่าสนุกกว่าปัจจุบันมาก (อาจเพราะผมอินกับเรื่องนั้นมากด้วย *จำได้ว่าแต่งลงได้แทบทุกวันไม่มีขัด)
ผิดกับตอนนี้เป็นอะไรไม่รู้ ;~; อยากจะบ้า
เเหมือนกันเลยค่ะ ช่วงนี้ก็เลยเว้นๆ พักสมองไปก่อน หาอะไรใหม่ๆทำ เผื่อจะมีไอเดียโพล่มาให้เราสานต่องานเราได้
ที่อยากแนะนำคือพักก่อนค่ะ เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นเองดน้อ ยิ่งบังคับตัวเองเขียนงานก็ยิ่งไม่ไหลลื่น ขนาดตัวเราช่วงหมดไฟก็ปล่อยนิยายตัวเองร้างไปถึง 3 เดือนเต็มๆ5555
ลองหยุดเขียนซักอาทิตย์นึงแล้วไปทำอะไรอย่างอื่นก่อนก็ดีครับ
ผมเคยเขียนค้างไว้แล้วฟมดไฟ เลยหายหัวไปเล่นเกมมาสามเดือนเต็ม ๆ กลับมาอ่านใหม่อีกที ดันมีไฟจะรีไรต์+เขียนต่อจนจบซะงั้น แต่ส่วนสำคัญก็ต้องขอบคุณแฟนผลงานที่ยังรออยู่ แม้จะมีแค่ไม่กี่คนก็เหอะ
ลองถามตัวเองดูว่ายังมีความสุขที่ได้เขียนอยู่รึเปล่า?(แต่อย่าเพิ่งถามตอนนี้นะ ลองไปหมกมุ่นกับเรื่องอื่นซักพักนึงก่อน แล้วค่อยกลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง) ถ้ายังมีความสุขก็ทำมันต่อไปครับ ถ้าไม่มีความสุขแล้วก็เลิกเขียนแล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่น ชีวิตยังมีเรื่องต่าง ๆ ให้ทำอีกมากครับ
https://writer.dek-d.com/Miran/writer/viewlongc.php?id=1860018&chapter=12
บางทีถ้าเหนื่อยจัดๆ ทั้งร่างกายและความคิด ตัวเรามันก็ไม่ได้แสดงออกมาตรงๆ นะคะ มันอาจจะแสดงออกมาว่า เขียนไม่ดี เครียด ดาวน์ จิตตก เพื่อบอกเราเป็นนัยว่า เธอ เราไม่ไหวแล้ว พักก่อนเถอะ อะไรทำนองนี้ คอมฯ เปิดไว้นานๆ ยังต้องปิดบ้าง ไม่งั้นก็พัง
เรานี่มักจะมีคนรอบข้างเตือนบ่อยๆ ว่า อะไรที่พยายามมากเกินไป ผลมันจะออกมาตรงกันข้ามนะ บางเรื่องพยายามก็ดี แต่บางเรื่องปล่อยตามสบาย อาจจะได้ผลดีกว่า
ทั้งนี้มันก็แล้วแต่แต่ละคน
สำหรับในกรณีที่ จขกท. ว่ามา ผมเองก็เป็นครับ ถ้ามองในด้านร้ายมันก็อาจจะเป็นความเหนื่อยล้าเหมือนกันบที่
จริงๆ แต่ถ้ามองในด้านดี มันกำลังแสดงว่า ทักษะในการเขียนของ จขกท. กำลังดีขึ้นครับ จะเรียกว่ายังไงดีล่ะ -การวนกลับไปแก้ไขเรื่อยๆ มันเป็นการแสดงว่าความ Perfectionist ในตัวของ จขกท. กำลังเริ่มตื่นนั่นแหละครับ
สรุปง่ายๆ คือตัว จขกท กำลังพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นนั่นแหละครับ สำหรับนักเขียนหลายๆ คนถ้ารู้สึกเหมือนอยู่ช่วงเวลาแบบนี้ อาจจะทำให้รู้สึกท้อหรือหมดกำลังใจกันไปบ้าง แต่ถ้าทำตัวให้ชินได้แล้ว จะสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกขั้นได้เลยครับ เพราะสามารถคิดได้ถึงเหตุผลรองรับ เห็นถึงจุดด้อยเลยรีบแก้ มันคือสิ่งที่นักเขียนส่วนใหญ่สมควรมีครับ ดังนั้นอาการแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องดีนะครับ เหลือแค่คุณ จขกท. ต้องรีบชินกับมันให้ไวๆ นั่นแหละ 555555
เป็นหลักอีกแนวเลยที่น่าเก็บไปคิดมากฮะ
//จะทำให้ชินยังไงดีเนี่ย *กุมขมับ
ก่อนอื่นเลยนะคะ คุณควรปล่อยให้จิตใจว่างเปล่าก่อน อย่าไปเครียดกับมันมาก เดี๋ยวความรู้สึกนั้นมันก็จะหายไปเองค่ะ แล้วคุณตั้งปนิพานกับตัวเองว่า งานดีต้องออกมาจากใจเราค่ะ เราต้องการสื่ออะไรให้ผู้อ่านได้รับรู้บ้าง ก็เขียนลงบนกระดาษเปล่าๆก่อนค่ะ เรียงลำดับว่าเราจะใส่อะไรก่อน อะไรมาหลัง แล้วก็เอามันมานั่งอ่านดูก่อนค่ะ จากนั้นค่อยเขียนมันลงไปค่ะ ขอบอกเลยว่า อย่าเพิ่งไปเร่งรัดตัวเองนะคะ เดี๋ยวงานพัง เขียนไปเรื่อยๆ เขียนให้ไปถึงจุดมุ่งหมายของตัวเองค่ะ ค่อยๆคิดค่อยๆเขึยน เดี๋ยวงานมันก็ออกมาดีเองค่ะ พอเขียนจบแล้ว ก็เอามาอ่านดูอีกที ตรวจทานคำผิดคำถูก พอตรวจทานเรียบร้อยแล้ว ก็ลงมือแก้ไขค่ะ จากนั้นพอแก้ไขเรียบร้อยแล้ว งานของเราก็ออกมาดี เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ แค่นี้คุณก็ได้งานดีแล้วค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
เป็นเหมือนกันค่ะ แต่เราไม่ได้ท้อเรื่องที่กลับไปแก้ย่อหน้าเดิมซ้ำ ๆ อะไร (เป็นคนชอบแก้ไปเขียนไปน่ะค่ะ)
ที่แย่คือเรามักจะกดดันตัวเองมากไป พอไม่เป็นตามที่หวังก็ท้อ เริ่มหมดไฟ สุดท้ายเฟดตัวเองออกมานั่งดูอนิเมะ เล่นเกม นอนไปวัน ๆ ก่อน คือห่างหายกับชีวิตที่เอาแต่นั่งแต่งนิยายทุกวันไปประมาณเดือนกว่าได้ นอนเลื่อนทวิตอยู่ดี ๆ ไฟลุกโชนอีกครั้ง เลยกลับมาเขียนต่อค่ะ (ฮา)
สิ่งที่จะบอกคือ ลองหาอะไรทำคลายเครียดก่อน เดี๋ยวทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมค่ะ แค่ต้องพักบ้างเท่านั้นเอง
มาปลอบใจ
เพราะกำลังเป็นเหมือนกัน เราติดลูปแก้ตอนวนไปวนมา เขียนได้จบบทละขึ้รตอนต่อไปแล้ว แต่รุ้สึกไม่ดีพอเลยแก้วน ลบเขียนใหม่ เปลี่ยนทางบ้าง วนกลับมาที่เดิมบ้าง
เจอกำแพงอะครับ แนะให้อ่านดู https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=lawit&group=10
มีประโยชน์มากเลยครับ ./\.
ผมเห็นด้วยกับคำว่ากำแพงมากเลยนะ
แล้วก็รู้สึกว่าครั้งนี้กำแพงที่ผมเจอมันสูงเสียดฟ้าผิดกับทุกครั้งที่ผมเคยเจอจริงๆ //sigh
เพิ่มเติม : ผมสนใจหลัก mastery มากเลยฮะ
ทางนี้กำลังหมดไฟสุดๆเลยล่ะ ในตอนที่ยอดเฟบขึ้นมาอีก20กว่าคน เลยต้องพยายามปรับอารมณ์ และก้มหน้าก้มตาแต่งต่อ T^T
บางครั้งการหมดไฟของเรา เกิดจากการวางพลอตไม่ดี และฝืนแต่งสดมาตลอดก้ได้น่ะครับ ถ้าเรามีพลอตจนจบ แบบจบจริงๆ เขียนไว้จนจบแล้ว อาการนี้น่าจะไม่เกิดครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?