คิดตอนจบนิยายไม่ได้ทำไงดีค่ะ
ตั้งกระทู้ใหม่
คิดไว้หลายแบบอยู่ แต่ก็เลือกไม่ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะแบบไหน ก็จะมีความรุ้สึกที่ว่า "ดีแล้วหรอ แบบนี้จะดีหรอ แล้ว...ล่ะ ทำไม...ล่ะ" มึนค่ะ ตัดจบไม่ลงซะที ช่วยแนะนำทีค่ะ
นิยายที่เราแต่ง
เนื้อเรื่องก็ประมาณ ย้อนเวลาค่ะ
(มันจี้ตรงพระเอกเลือกที่จะตายเอง เลยลองแต่งดูค่ะ)
พระเอกเป็นโรคซึมเศร้า (แต่เขาก็เป็นคนดัง)
นางเอกพยายามช่วยเขา
แต่มันก็เป็นสิ่งที่ยากลำบาก
เขาเป็นคนดัง เธอเป็นคนธรรมดา (แค่เข้าถึงก็ยากล่ะ)
เขาเลือกที่จะตายเอง
เขาเป็นโรคซึมเศร้า(นางเอกต้งหาสาเหตุเพื่อจะช่วยเขา)
ทะเลาะกับยมทูต(ก็แบบ แย่งงานยมทูตนี่เนอะ)
............ก็ประมาณนี้ค่ะ..............................
มีฉากจบอยู่
1 แบบช่วยสำเร็จ (ทั่วๆไปเลยค่ะ แฮปปี้และรักกัน)
2 เหมือนจะไม่สำเร็จ (คือ ข่าวว่าพระเอกตาย แต่ไม่ตายล่ะมาหานางเอก)
3 ตายล่ะเกิดใหม่ (ตัดปัญหาไปหลายอย่าง แต่เรารู้สึกไม่โอเคตอนจบแบบนี้)
4 เทวดาช่วย (ช่วยให้กลับมา)
5 ไม่ตาย ไม่ปล่อยข่าวว่าตาย (ทิ้งปริศนาให้นางเอกไปหาจนเจอ)
6 ตาย ไม่เกิดใหม่ (เฝ้าดูนางเอกจากสวรรค์ ล่ะก็จบ)
7 ตกนรกไปซะ!!!(หยอกๆนะ 555)
มีอีกค่ะ มันจะมาเรื่อยๆ 555
ใครมีแบบไหนเสนอไหมคะ
ขอบคุณค่ะ
tokyo tip
10 ม.ค. 62 เวลา 21:39 น.
2,783
views
10 ความคิดเห็น
ลองอ่านดูค่ะ......
ขอบคุณค่ะ
จริงๆ เราไม่ได้สนใจว่าจบแบบไหนน่าเบื่อหรอก
เพราะว่าถ้าคุณเคยอ่านนิยายมาหลายแบบ
หรือเคยดูหนังหลากหลายแนว
การจบมันก็วนๆอยู่แบบนี้แหละ
จะจบสมหวังก็ดี ถ้าเราแต่งเนื้อเรื่องปูทางให้สมหวังมันก็ต้องจบแบบสมหวัง แม้ในชีวิตจริงไม่มีใครสมหวังได้ตลอด แต่เชื่อเถอะค่ะว่านักอ่านก็ล้วนรู้เรื่องนี้ดี แต่ที่จบสัมหวังเพื่ออะไร เพื่อให้เห็นว่า พวกเขาได้ฟันฝ่าอุปสรรคมานับไม่ถ้วนก็เพื่อให้มีความสุขตลอดไป แม้ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ตาม ยกตัวอ่างประมาณนี้พอเห็นภาพไหมคะ
ค่ะ เห็นภาพค่ะ เพราะพอนึกๆแล้วเราเองก็เป็นนักอ่านมาก่อน ความรู้สึกก็ประมาณนั้นเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ทำเป็นรูทเลยไหมล่ะครับ
เกมวิชวลโนเวลนิยมทำกันบ่อย ๆ เลย แล้วบางทีทุกรูทก็ไปเชื่อมโยงกับบทจบที่สมบูรณ์ที่สุดครับ
สมัยก่อนนี่ผมชอบฮิกุราชิมาก
ตอนแรกก็งงนะว่าทำไมมันมีหลายเนื้อเรื่องจัง
จนพอมาอ่านเนื้อเรื่องสุดท้ายที่เลยกระจ่างเลย ว่ามันมีเหตุให้เกิดการวนลูปได้ จนในที่สุดมาหลุดลูปเอาในเนื้อเรื่องสุดท้ายนี่ล่ะ แถมลุ้นดีด้วยเพราะเราเข้าถึงตัวละครสำคัญจากรูทก่อนหน้าหมดแล้วด้วย
แต่ถ้าวิธีเล่นเป็นรูทมันยาก ก็อาจต้องใช้พล็อตย้อนเวลามาช่วยสักหน่อย
อย่างหนังเรื่อง edge of tommorow เองก็ใช้มุกนี้ได้เข้าท่ามากครับ
จบแบบให้คนดูคิดต่อเองสิคะ แบบปลายเปิด
แต่ถ้าคุณจะเขียนแบบมีภาคต่อก็ต้องทิ้งปริศนาไว้
แต่ถ้าต้องการให้จบโดยไม่มีภาคต่อ
ก็ให้ตัวละครแสดงออกไปเองแบบประมาณว่า
ให้นักอ่านสังเกตวิเคราะห์เองว่า สุดท้ายแล้วพระเอกจะตายหรือไม่ ให้คนอ่านไปจินตนาการเอง
ขอบคุณค่ะ เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ
อย่าลืมอย่างหนึ่งนะคะ อย่าให้ความคิดบางอย่างมาเป็นกรอบครอบความคิดของเราอีกที ไม่มีใครสมหวังทุกอย่าง แล้วก็ไม่มีใครผิดหวังทุกอย่างเช่นกัน ตอนจบจะจบอย่างไรก็ช่าง เหรียญยังมีสองด้านเสมอ กลับกันเช่นกันค่ะ ตอนจบ มันก็ต้องมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ
เราไม่สามารถทำให้ถูกจริตได้ทุกคน
พระเอกไม่ตาย
ตอนจบหายซึมเศร้า
แถมความทรงจำเกี่ยวกับนางเอกหายไป
กลายเป็นคนไม่รู้จักกัน
เดินร่วมกันบนทางเส้นขนาน
แล้วก็มีภาคต่อ ให้ทั้งสองสานสัมพันธ์กัน รักกัน กับหนึ่งคนที่เต็มไปด้วยความทรงจำ กับอีกคนที่หัวใจเว้าแหว่ง
แนะนำเฉยๆ ไม่ได้ว่าให้ทำตามนะคะ55
ถูกใจมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
คุณ “อยากอ่าน” ตอนจบแบบไหนล่ะคะ
เดินไปบอกพระเอกว่ายังมีสมบัติของโกล โรเจอร์ซ่อนอยู่ที่แกรนไลน์อยู่นะ
ขอทราบแก่นของเรื่องครับ ถ้ายึดมั่นในแก่นแล้ว ตอนจบจะไม่ยากเลยครับ เช่น
1 แก่นที่ว่าด้วยความเสียสละเพื่อคนที่เรารัก ถ้าใช้แก่นนี้ก็อาจจะจบว่าเขาไม่ตาย แต่ก็ไม่สมหวังกับเรานะ คือจะมีประโยชน์อะไรหากเราสมหวังในรักแล้วเขาต้องจากไป อะไรทำนองนี้
2 แก่นที่ว่าด้วย ชีวิตมีค่า... เราจะเห็นมันเมื่อสูญเสียมันไป ถ้าใช้แก่นนี้ก็อาจจะให้จบแบบปวดตับชนิดที่ว่าฆ่าตัวตายสำเร็จ แต่วิญญาณเขาก็มารู้ว่าแท้จริงแล้วยังมีผู้คนอีกมากมายที่รักเขาบลาๆ
3 แก่นที่ว่า ชีวิตคือทางเลือก... เป็นแก่นที่อินดี้กันไป จะจบแบบให้คนอ่านคิดเองก็ได้ จบแบบไม่บอกอะไร หรืออาจจะแฝงโฟร์ชาร์โด้วไว้ให้คนอ่านค้นว่าแท้จริงแล้วตายหรือไม่ตาย บลา ๆ
นี่ก็เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ ครับ ลองหาแก่นที่คุณต้องการจะบอกคนอ่านให้ได้ก่อนครับ แล้วตอนจบจะไม่ใช่เรื่องยาก
พิมพ์ผิดขออภัย พิมพ์จากมือถือ TT
ไม่ชอบข้อ3, 4 และ 6 เลยแฮะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?