Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[มาเก็บเกี่ยวความรู้ค่ะ]เรามีหลายคำถามเลยค่ะ ที่อยากจะถาม

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ

เรามีหลายคำถาม อยากจะถามมาก ว่า

คำถามข้อที่1 เรากะจะแต่งนิยายแนว เกาหลียุคโบราณน่ะค่ะ พวกเขามักจะใช้คำว่า พระราชา แทนด้วยว่าอะไรหรือคะ? ขอเป็นภาษาไทย ที่ทำให้เราเข้าใจด้วยนะคะ เป็นคำพูด เวลาเรียกขานน่ะค่ะ

คำถามที่2 ต่อมาจากข้อที่1 วัฒนธรรมของเกาหลีมีอะไรบ้าง เราอยากจะรู้จริงๆค่ะ (เอาวัฒนธรรมดั่งเดิมนะคะ)

คำถามที่3 เราอยากถามว่า นักเขียนทุกคนเคยคิดอยากจะทำอะไรเป็นพิเศษไหมคะ ลงไปในนิยายของเราเองน่ะค่ะ

คำถามก็มีเท่านี้ค่ะ หมายเหตุ ที่มาถามที่นี่นั้น เป็นเพราะว่าเรา อยากทุกคนช่วยชี้แน่ะให้หน่อยค่ะ 

ขอบคุณมากเลยนะคะ ขอความกรุณาหน่อยค่ะ (สามารถตอบได้ทุกข้อเลยนะคะ แล้วแต่ว่า ทุกคนจะตอบข้อไหน เราไม่กะเกณฑ์ค่ะ)

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

Miran/Licht 11 ม.ค. 62 เวลา 20:15 น. 1

ตอบเฉพาะข้อ 3 แล้วกันเพราะเราไม่ดูทีวี ซีรีส์เกาหลีเลยไม่ดู ตอบยาก จำได้แต่ว่าถ้าเกาหลีโบราณเรียกพระราชานี่แหละ จำได้แค่นี้


ตอนกลับมาเขียนนิยายแรกๆ ตอนที่ตัดสินใจจะเอานิยายเรื่องที่สองหลังจากกลับมาเขียนลงเผยแพร่ในเน็ตตั้งใจว่า อยากจะวาดการ์ตูนแก๊กสั้นๆ แบบ 4Koma ประกอบทุกตอน (ช่วงแรกๆ ลงอาทิตย์ละ 3 ตอน) จังเลย


แต่จนแล้วจนรอดเขียนจบไปแล้วก็ยังไม่ได้เขียน แค่เขียนนิยายก็กินพลังชีวิตไปมากแล้วค่ะ มีแต่เขียนเล่นหวัดๆ ในกระดาษร่างนิยาย

https://image.dek-d.com/27/0060/1867/127563830

3
11 ม.ค. 62 เวลา 20:53 น. 2

1. เกาหลี คำว่า กษัตริย์ ใช้ วัง แปลไทยว่าพระราชา ในหนังสือแปลก็ใช้คำนี้ ส่วนคำเรียก (ฝ่าบาท) ใช้ แพยา


2. เราไม่แน่ใจว่าวัฒนธรรมเกาหลีคืออะไร แต่ว่าถ้าคุณลินอยากได้ข้อมูลประวัติศาสตร์ เราแนะนำเล่มนี้ค่ะ ประวัติศาสตร์เกาหลี : จากยุคเผ่าพันธุ์ถึงยุคสาธารณรัฐใหม่ / ไพบูลย์ ปีตะเสน.


และขอเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ พอดีเราไปอ่านนิยายพีเรียดเกาหลี(ในเว็บนี้นี่แหละค่ะ) แล้วมีการกล่าวถึง อ้อนวอนถึงพระเจ้า เลา... อยากบอกว่าเดิมเกาหลีนับถือผีค่ะ เหมือนๆ สังคมอื่นๆ ส่วนศาสนาพุทธเริ่มเข้ามามีบทบาทในเกาหลีช่วง ค.ศ. 372 ส่วนศาสราคริสต์น่าจะเข้ามาช่วงหลังๆ เลย ทั้งนี้ทั้งนั้นปัจจุบันคนเกาหลีส่วนใหญ่ไม่นับถือศาสนาค่ะ

1
แมวยุ่งหลังแป้นพิมพ์ 11 ม.ค. 62 เวลา 20:54 น. 3

แนะนำให้ซื้อหนังสือประวัติศาสตร์เกาหลีมาอ่านค่ะ การค้นคว้าเองจะเห็นภาพที่สุด

หรือจะดูซีรีย์เกาหลีโบราณ ๆ หน่อยก็ได้ค่ะ เอาตัวเองเข้าไปก่อน แล้วค่อยเริ่มเขียนเรื่องของตัวเองมันจะอินกว่าน่ะ


สำหรับคำถามข้อ 3 ส่วนใหญ่ก็เป็นตอนพิเศษเยอะ ๆ ภาพประกอบ การ์ตูนแก๊ก อีกแบบคือเขียนนิยายที่เชื่อมต่อกันกับนิยายเรื่องก่อน แบบยูนิเวิร์สเดียวกันอะไรงี้

3
Miran/Licht 11 ม.ค. 62 เวลา 21:03 น. 3-2

ตอนพิเศษทุกเทศกสลกลายเป็น signature เราไปแล้วค่ะ วันทานาบาตะก็เขียน วันฮัลโลวีน วันพ่อ วันแม่ เขียนหมด ฮาาา


ภาพประกอบอันนี้ก็บ่อยไป...


พอเขียนจบก็เขียน one shot ลงหน้าเพจ อาทิตย์ไหนอบรมทั้งอาทิตย์ก็ one shot วันละตอน 7 วัน ถึงขนาดมีว่า

อาทิตย์นี้ #ระทมรายวัน พอหมดอาทิตย์ต่อไปจะเป็น #ระทมรายสะดวก

อาทิตย์ถัดมา อาทิตย์นี้เป็นสตอรี่มังกรกับกระต่ายนะ

อีกอาทิตย์นึง งวดนี้เป็น นิทานลูกนกนะ


ส่วนนิยายเชื่อมกันนี่เราเอาแบบจักรวาล CLAMP ค่ะ โยงกันหมดเบย...https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png

0
spinechi 11 ม.ค. 62 เวลา 21:05 น. 4

อาจจะตอบไม่ตรงหัวข้อนะ เพราะถามถึงเกาหลี แต่เราศึกษาของญี่ปุ่นมา น่าจะพอเป็นแนวได้


ตอบข้อสองนะคะ

ของญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมสวยงามและโดดเด่น จนบางทีเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ในนิยายเราเลือกมาหลายอย่างเหมือนกันเพราะจุดขายคือ "ความเป็นญี่ปุ่น" พูดถึงมรรยาท แม้กระทั่งการพูด ความสนิทสนมในแต่ละระดับ(การเรียกชื่อ/นามสกุล) ฉากที่ทำการบ้านหนักมากคือ "ฉากแต่งงาน"

ในส่วนนี้คุณจะเอาไปใส่ลงในนิยายของคุณก็ได้นะ การทำนิยายเปิดกว้างอยู่แล้ว เราไม่หวง

อยู่ที่วิธีการสื่อสารต่างหาก


ส่วนข้อสามอยากทำอะไรเป็นพิเศษไหม น่าจะเผยแพร่วัฒนธรรมไทยแลกเปลี่ยนกันค่ะ เขาทึ่งเรา เราทึ่งเขา ดูอนุรักษ์นิยมดี น่าจะเข้าได้กับนิยายย้อนยุค

ส่วนอีกความเห็น สังเกตเอาจากละครที่ตัวเอกหลุดเข้าไปในอดีต/ปัจจุบัน ไปแสดงตัวตนตัวเองในอีกโลก ก็น่าสนุกดีนะ เหมือนละครบุพเพสันนิวาส เขียนดีมากๆ

1
ปล่อยอึ่ง 11 ม.ค. 62 เวลา 21:10 น. 5

อยากจะทำอะไรเป็นพิเศษในนิยายของตัวเองเยี่ยงนั้นรึ ก็มีประมาณว่า


-ทำตอนพิเศษที่มันเกี่ยวโยงกับเนื้อเรื่องในนิยายแบบสั้นๆ ถึงสั้นมาก เป็นเนื้อเรื่องแบบที่จะตัดทิ้งก็ได้ แต่ว่ามันจะต้องมีอะไรให้เซอไพรซ์ในระดับที่ว่า 'ใครที่อ่านจนถึงแค่ตอนจบเฉยๆ น่ะ -พลาดแล้ว' ซึ่งบางทีอาจเป็นการเฉลยอะไรที่ใครหลายคนมักจะมองข้ามไปในตัวนิยาย หนักกว่านั้นคืออาจจะหักล้างบทสรุปในตัวนิยายไปเลยก็ได้ และอาจจะทิ้งปมเอาไว้เพื่อบอกว่า 'มันยังไม่จบนะโว้ย กูมีภาคต่อ'


-ต่อจากข้อเมื่อกี้เลยครับ ทิ้งลิงค์นิยายภาคต่อเอาไว้ พร้อมบอกชื่อเรื่องและรายละเอียด


-ลงรายละเอียดของข้อมูลที่ไม่ได้มีบอกในเนื้อเรื่อง (หาโอกาสยัดข้อมูลลงไปไม่ได้, ขยายข้อมูลที่มีอยู่แล้วให้เข้าใจมากกว่าเดิม หรืออาจเพิ่มส่วนที่ไม่สำคัญลงไป เช่น ความหมายของชื่อตัวละคร แรงบันดาลใจในการสร้างตัวละคร หรือเรื่องราวต่างๆ) มีข้อมูลอะไรบ้าง กี่อย่าง ก็ยัดใส่ลงไปให้หมด ยกเว้นข้อมูลบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องเก็บเอาไปใช้งานในภาคต่ออยู่


-รวบรวมคำถามหรือข้อสงสัยในนิยายที่น่าสนใจของคนอ่าน แล้วนำมาตอบคำถามเท่าที่จะทำได้ อันไหนที่ตอบไม่ได้ก็บอกไปเลย 'กูมีภาคต่อ' ถือเป็นการโปรโมทนิยายไปในตัว และสานความสำพันธ์ของนักเขียนกับคนอ่าน


2
☆ราชินีอิซาเบลล่า☆ 11 ม.ค. 62 เวลา 21:16 น. 5-1

ดีเยี่ยมเลยค่ะ เพราะเราก็มีโครงการ สร้างนิยายภาคต่อเช่นกันค่ะ เราจะทำภาคสอง ให้สนุกดียิ่งขึ้นไปอีก

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น