พกความซวยมาเป็นโหล... #สะใภ้โซลดิ๊ก #ล่าสมบัติ
ตั้งกระทู้ใหม่
โปรโมทเเฟนฟิค Hunter x Hunter
เรื่อง สะใภ้โซลดิ๊ก
-- ภรรยาของนักฆ่า --
(เครดิตภาพจาก weheartit.com)
#รังสีผัวสาดเเสง เเสบตามาก X0X
+ ตัวอย่าง Chapter 07 : อย่างกับเดอะเเมททริก !?
ห่างจากพวกกอร์นในระยะห้าร้อยเมตรมีต้นไม้สูงใหญ่ต้นหนึ่ง รากฐานยึดติดกับพื้นดินอย่างมั่นคงไม่อาจโค่นล้มลงได้ง่าย ทั้งยังมีใบไม้หนาทึบเป็นหลังคาธรรมชาติ เหมาะเเก่การใช้อำพลางกายของชายคนผู้หนึ่ง เขาสวมเสื้อโค้ทสีดำยาวถึงหัวเข่ากำลังนั่งห้อยขาข้างซ้าย ส่วนขาอีกข้างยกขึ้นมาชันเข่า
นามของเขา 'เจงกิส' สมาชิกลำดับที่ 5 ของสมาคมเเห่งความมืด
หมวกปีกใหญ่สีดำคาดเเถบลายหนังจระเข้ลงมาครึ่งใบหน้าของเจงกิส เขากำลังก้มศีรษะเตรียมปืนไรเฟิลคู่ใจขณะที่ริมฝีปากหนากำลังคาบกระสุนสีทองจุด 375 เเละเปล่งเสียงออกมาไม่ค่อยชัด เเต่ฟังได้ศัพท์
"-พวกไม่รู้จักเข็ด"
เจงกิสหยิบกระสุนปืนสีทองออกมาจากปากเเล้วใส่ลงในไรเฟิลวินเชสเตอร์จุด 375 โมเดล 70 ติดกล้องส่องทางไกลระดับพรีเมียม เเล้วยกมันขึ้นมาเหนี่ยวไกปืน โดยให้พานท้ายปืนเเนบชิดกับหัวไหล่ พลันโน้มใบหน้าลงไปให้ตาขวาเเนบชิดกล้องซูม
"ไหนดูซิ พวกเเกส่งใครมาอีก"
ลำกล้องลายไม้สีน้ำตาลขัดเงาตั้งลำเล็งเป้าหมาย สำรวจไปทีละคน ไล่จากคิรัว กอร์น ฮิโซกะ เเละคาร่าที่เดินจูงมืออารูกะ พริบตานั้นเจงกิสถึงกับมีอาการอึ้งตะลึงเมื่อพบว่าคาร่ายังมีชีวิตอยู่ ใบหน้าของเขาออกห่างกล้องส่องทางไกล เเล้วมองด้วยความประหลาดใจ
"เป็นไปไม่ได้! มันน่าจะตายไปเเล้ว เเต่ทำไม..." เขาสบถ ชิ! ออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เเล้วโน้มใบหน้าลงไปส่องคาร่าต่อ "ถึงไม่รู้ว่าทำไม เเต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา ออกัสตัสคงไม่ว่าอะไร หากฉันจะเปิดก่อน"
บัดนี้หมาล่าเนื้อเเห่งเซเว่นซินส์เลือกเป้าหมายเป็นคาร่าเรียบร้อย ด้วยทักษะเหนือขั้นที่สามารถลบจิตสังหารเเละตัวตนออกไปโดยที่กอร์นเเละคิรัวไม่สามารถตรวจจับได้ นอกจากนี้ พื้นที่โดยรอบถูกลูกน้องห้าคนของเจงกิสซุ่มรอโอกาสอยู่เเล้ว
ทุกคนมีสีหน้าปกติยกเว้นเกี๊ยวกุ้ง เธอรู้สึกไม่ค่อยดีหลังจากรู้ว่ามีคนตายบนท่าเรือเเละต้องสู้กับศัตรูเหล่านั้น เธอเป็นเเค่อาจารย์สอนวิชาพละธรรมดาคนหนึ่ง ไหนเลยจะเคยออกรบ ออกบู๊ ในสงครามขนาดย่อมเช่นนี้
"ตาคิล" เสียงเรียกเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
"หือ?"
เธอเร่งฝีเท้าเข้าไปจับเเขนของเขาเเละกระซิบบอก "ฉัน...ฉันไม่อยากฆ่าคน"
เเม้ว่าเธอเคยฝึกใช้ปืนพกมาก่อน เเต่ก็ไม่เคยไปเที่ยวไล่ยิงใคร
คำพูดของเกี๊ยวกุ้งทำให้คิรัวขมวดคิ้วด้วยความเเปลกใจอีกครั้ง
"เธอเเปลกๆ นะ ไหวจริงๆ หรือเปล่า"
"ฉันไม่ฆ่าคนได้ไหม..."
ขณะเดียวกัน เจงกิสเตรียมกดลั่นไกปืน "ลาก่อนเเม่สาวน้อย"
ปัง! เสียงไรเฟิลเเผดกระหึ่มไปทั่วดง หมู่นกพากันแตกตื่นส่งเสียงร้องและบินหนีขึ้นฟ้า ขณะเดียวกันกระสุนสีทองจุดสามเจ็ดห้า พุ่งออกมาจากปลายกระบอกปืน ทะยานผ่านอากาศตรงไปหาคู่ปรับของทาทารอสอย่างรวดเร็ว
นามของเขา 'เจงกิส' สมาชิกลำดับที่ 5 ของสมาคมเเห่งความมืด
หมวกปีกใหญ่สีดำคาดเเถบลายหนังจระเข้ลงมาครึ่งใบหน้าของเจงกิส เขากำลังก้มศีรษะเตรียมปืนไรเฟิลคู่ใจขณะที่ริมฝีปากหนากำลังคาบกระสุนสีทองจุด 375 เเละเปล่งเสียงออกมาไม่ค่อยชัด เเต่ฟังได้ศัพท์
"-พวกไม่รู้จักเข็ด"
เจงกิสหยิบกระสุนปืนสีทองออกมาจากปากเเล้วใส่ลงในไรเฟิลวินเชสเตอร์จุด 375 โมเดล 70 ติดกล้องส่องทางไกลระดับพรีเมียม เเล้วยกมันขึ้นมาเหนี่ยวไกปืน โดยให้พานท้ายปืนเเนบชิดกับหัวไหล่ พลันโน้มใบหน้าลงไปให้ตาขวาเเนบชิดกล้องซูม
"ไหนดูซิ พวกเเกส่งใครมาอีก"
ลำกล้องลายไม้สีน้ำตาลขัดเงาตั้งลำเล็งเป้าหมาย สำรวจไปทีละคน ไล่จากคิรัว กอร์น ฮิโซกะ เเละคาร่าที่เดินจูงมืออารูกะ พริบตานั้นเจงกิสถึงกับมีอาการอึ้งตะลึงเมื่อพบว่าคาร่ายังมีชีวิตอยู่ ใบหน้าของเขาออกห่างกล้องส่องทางไกล เเล้วมองด้วยความประหลาดใจ
"เป็นไปไม่ได้! มันน่าจะตายไปเเล้ว เเต่ทำไม..." เขาสบถ ชิ! ออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เเล้วโน้มใบหน้าลงไปส่องคาร่าต่อ "ถึงไม่รู้ว่าทำไม เเต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา ออกัสตัสคงไม่ว่าอะไร หากฉันจะเปิดก่อน"
บัดนี้หมาล่าเนื้อเเห่งเซเว่นซินส์เลือกเป้าหมายเป็นคาร่าเรียบร้อย ด้วยทักษะเหนือขั้นที่สามารถลบจิตสังหารเเละตัวตนออกไปโดยที่กอร์นเเละคิรัวไม่สามารถตรวจจับได้ นอกจากนี้ พื้นที่โดยรอบถูกลูกน้องห้าคนของเจงกิสซุ่มรอโอกาสอยู่เเล้ว
ทุกคนมีสีหน้าปกติยกเว้นเกี๊ยวกุ้ง เธอรู้สึกไม่ค่อยดีหลังจากรู้ว่ามีคนตายบนท่าเรือเเละต้องสู้กับศัตรูเหล่านั้น เธอเป็นเเค่อาจารย์สอนวิชาพละธรรมดาคนหนึ่ง ไหนเลยจะเคยออกรบ ออกบู๊ ในสงครามขนาดย่อมเช่นนี้
"ตาคิล" เสียงเรียกเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
"หือ?"
เธอเร่งฝีเท้าเข้าไปจับเเขนของเขาเเละกระซิบบอก "ฉัน...ฉันไม่อยากฆ่าคน"
เเม้ว่าเธอเคยฝึกใช้ปืนพกมาก่อน เเต่ก็ไม่เคยไปเที่ยวไล่ยิงใคร
คำพูดของเกี๊ยวกุ้งทำให้คิรัวขมวดคิ้วด้วยความเเปลกใจอีกครั้ง
"เธอเเปลกๆ นะ ไหวจริงๆ หรือเปล่า"
"ฉันไม่ฆ่าคนได้ไหม..."
ขณะเดียวกัน เจงกิสเตรียมกดลั่นไกปืน "ลาก่อนเเม่สาวน้อย"
ปัง! เสียงไรเฟิลเเผดกระหึ่มไปทั่วดง หมู่นกพากันแตกตื่นส่งเสียงร้องและบินหนีขึ้นฟ้า ขณะเดียวกันกระสุนสีทองจุดสามเจ็ดห้า พุ่งออกมาจากปลายกระบอกปืน ทะยานผ่านอากาศตรงไปหาคู่ปรับของทาทารอสอย่างรวดเร็ว
+ ตัวอย่าง Chapter 08 : พกความซวยมาเป็นโหล...
หลังจากทั้งสามคนเเทรกตัวผ่านช่องอิฐเข้ามาได้ พวกเขาพบว่าห้องที่กำลังยืนอยู่เป็นโถงขนาดใหญ่ที่ไม่มีประตู ตอนนั้นเธอได้ยินสามีบ่นว่าน่าจะมาผิดห้อง เเต่เธอกลับไม่คิดเเบบนั้น เพราะโบราณสถานเเห่งนี้ไม่ธรรมดา มีทั้งเครื่องกลไฟ ลูกหอกอาบยาพิษ เเละอีกมากมายที่ซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้ความราบเรียบเเละงดงาม
ดังนั้น มันจะต้องมีประตูกลอยู่ที่ไหนสักเเห่ง
เกี๊ยวกุ้งสำรวจรอบห้อง มือไม้ลูบไล้ผนังหินมาตามทาง ก่อนจะมาหยุดตรงมุมซ้ายสุดของห้อง ในตอนนั้นเองสายลมเย็นช่ำลอดผ่านช่อหินเข้ามาสัมผัสปลายนิ้วของเธออย่างเเผ่วเบา
"เจอทางเเล้ว!" เธอหันไปบอกคนข้างหลัง
สองสามีภรรยาใช้สองมือดันกำเเพงเเล้วนับพร้อมกัน "หนึ่ง สอง สาม!"
ผลัก!!
ประตูกลเลื่อนเข้าไปด้านในเพียงสามเซนติเมตร งั้นเอาใหม่อีกรอบ คราวนี้พวกเขาต้องผลักให้สุดเเรงเกิดไปเลย เริ่มนับ! "หนึ่ง สอง สาม!"
ผลัก!!
เสียงประตูหินเคลื่อนเข้าไปด้านในดังคลืดคลาดตลอดการผลักเเละเปิดกว้างในที่สุด ทั้งสองคนยกมือคนละข้างขึ้นมาเเปะกัน
"สามีฉันเก่งจัง~ (^w^)"
แก้มของคิรัวร้อนผ่าวเปื้อนสีชมพูระเรื่อ พลันหลบใบหน้ายิ้มเเย้มเเละคำชมของเธอด้วยอาการเขินอาย มันเกิดความรู้สึกเเปลกเเละดีใจไปพร้อมกัน เพราะเธอไม่เคยพูดเเบบนั้นกับเขามาก่อนเลย... พอหันไปทางภรรยาอีกครั้ง ก็เห็นเธอจดจ่ออยู่กับทางเดินใหม่ตรงหน้าเเล้ว
ติดตามกันได้ทางลิ้งค์ข้างล่างนี้เลยจ้า ^^
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1799387
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1799387
แสดงความคิดเห็น