อยากเขียนนิยายแนววิศวะทำไงดี

เอาแค่วิศวะเฉย ๆ ได้มั้ยคะ เพราะการจะให้เจาะจงวิชาแต่ละวิชาที่ลงงี้ แต่ละมหาลัยมีชื่อที่ไม่เหมือนกัน หน่วยกิตก็... บางช่วงสาม สอง งี้ แล้วแต่ละที่ไป

อ่า แต่ที่เราเคยเห็นพวกโยธาคุยกันนี่ ดรออิ้งสำคัญมากค่ะ เพราะจะเน้นเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นวิชาภาคของเขาเลย

ส่วนพวกปีหนึ่งเทอมหนึ่งก็จะเรียนวิชาสายวิทย์พื้นฐานเหมือนม.ปลายเลย แต่ลึกกว่า

อ้อ แล้วเหมือนว่าจะมีพวกแล็ปฟิ แล็ปเคมีด้วยค่ะ

อ้อ แล้วก็เราไม่ค่อยแน่ใจด้วยว่าปีหนึ่งลงหน่อวยกิตได้ไม่เกิน 21 มั้ย ถ้าเกินต้องทำเรื่องกับทางมหาลัย

นี่ยังไม่พูดถึงกรณีดรอปกลางเทอม ก่อนสอบไฟนอล ดรอปตั้งแต่ยังไม่เริ่มเรียนเพราะจะไปเก็บเทอมหน้า ปีหน้าเพื่อไม่ให้โดนไทร์

คือรายละเอียดมันเยอะอะ ถ้ามองกันส้วนกลังนี้ หลายคณะคือเหมือนกันหมด ประมาณนี้ค่ะ

เขียนที่ตัวเองถนัดดีที่สุดค่ะ พี่เราเรียนโยธาเหมือนกัน แต่เราก็บอกคุณไม่ได้เหมือนกัน เพราะเราไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่ชาย ถ้าต้องการละเอียดขนาดนั้น แนะนำว่าลองไปหากลุ่มในเฟสบุ้คดีไหม หรือจะเข้ากูเกิ้ลและเปิดหาดูหลักสูตร คือวิชาที่ลงนี่มันเฉพาะนะคะ หน่วยกิตแต่ละที่ก็ลงไม่เหมือนกัน บางที่เกรดต่ำลงไม่ได้ ไม่ผ่านตัวนี้ก็ลงอีกตัวไม่ได้

คือเขียนในสิ่งที่ไม่รู้ การตั้งกระทู้ถามบางทีมันจะได้สิ่งที่ไม่ละเอียดพอ คุณต้องหาดูในกูเกิ้ลก่อนก็ได้ อยากให้ลองช่วยตัวเองก่อนนะคะ แล้วนำสิ่งที่รู้มาเรียบเรียง จากนั้นค่อยมาถามสิ่งที่ขาดน่าจะดีกว่า อาจฟังดูใจร้าย แต่บางคนเขาอาจไม่มีเวลามานั่งเรียบเรียงข้อมูลให้

มีหลายคนเหมือนกันนะคะที่เขียนในสิ่งที่ตนไม่ถนัด เมื่อไม่ถนัด ปัญหามันจะตามมามากมายแน่นอนค่ะ มันจะไม่จบแค่กระทู้เดียวอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณเขียนสิ่งที่ตนเคยผ่านหรือกำลังเรียนรู้ มันจะเขียนได้ดีกว่า และการพบเจอปัญหาจะน้อยกว่านะคะ

วิศวะโยธารึ พวกเพื่อนสมัยก่อนช่วงปีหนึ่งเทอมหนึ่งจะเรียนพื้นฐานค่ะ ภาษาไทย แคล1 เคมี ฟิสิกส์ (วิชานี้จะเน้นหนักมากในทุกสาย เพราะเป็นตัวตาระโยงระยาง สอบมานี่นั่งลุ้นกันไปค่ะว่าจะเอฟไหม) ต่อมาก็จะเป็นเครื่องมือช่าง ดรออิ่ง คงมีราวๆ นี้ปีหนึ่งเทอม1 เพราะเราเรียน สายอุตสา ส่วนปี1เทอมสอง จะเน้นพวกสตาติกค่ะจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ปีสอง ก็จะเป็นแคล3ค่ะ ที่เน้นแต่ไม่มากพวกไดนามิกส์ ไม่แน่ใจว่าเรียเซอร์เวร์กันปีสองหรือปีสามจะเริ่มแยกกันแล้ว แต่ละสายวิชา และจะมีการไปกางร่มให้กล้องกัน ตัวคนถ่ายจะเป็นอะไรก็ช่างแต่กล้องห้ามตากแดด เลยบอกได้ประมาณนี้ค่ะ

การแต่งนิยาย เราต้องมีความรู้ในเรื่องที่เราแต่งพอสมควร

เพราะทำให้เราอิน สมจริง เวลาแต่งแล้วมันจะไหลลื่น

คนอ่านจะคล้อยตามได้ดี...มีแนวโน้มจะไม่ดองนิยายด้วยค่ะ

มีคำถามว่างั้น ต้องเป็นเด็กวิดวะเหรอที่จะแต่งได้.....เปล๊า

คนที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องนั้นแหละ...จะแต่งได้...ดี

ถ้าไม่เข้าใจ มันจะมีความงง ความแถ เข้ามา...ไม่สมจริงไปอีก

คุณควรจะเขียนในสิ่งที่ตัวเองรู้ตัวเองถนัดจะดีกว่า เพราะการฝืนเขียนในสิ่งที่ตัวเองไม่มีความรู้อะไรเลย นอกจากมันจะออกมาฝืดแล้ว มีโอกาสที่จะล่มกลางคันสูง แต่ถ้าอยากเขียนจริง ๆ ก็ใช้ความพยายามในการหาข้อมูลด้วยตัวเองก่อน หากติดขัดตรงไหนค่อยมาตั้งกระทู้ถามก็ยังไม่สาย

เพื่อนเราคนนึงเรียนวิศวะ

มันอ่านนิยายที่ตัวเอกเป็นวิศวะมันก็ได้แต่สงสัยว่า "เรียนวิศวะที่ไหนวะถึงมีเวลามากถึงขนาดนี้"

หมอก็เช่นเดียวกัน

ไม่มีอะไร มาเล่าให้ฟังเฉยๆ

หากไม่ได้เป็นหรือไม่ได้ทำสิ่งนั้นๆ ต่อให้บอกว่าค้นหาข้อมูลในเน็ตแทนก็ได้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะครับ และไม่ใช่ว่าจะได้ข้อมูลมาแบบเป๊ะๆ ร้อยเปอร์เซนต์ด้วย

ขนาดผมที่อยากจะเขียนนิยายวายร้ายก็ยังต้องมีตำรวจทั้งกรมเป็นคู่ปรับ แถมยังลากหญิงสาวที่กำลังเรียนมหาลัยเข้ามามีเอี่ยวกับเรื่องโดยไม่ได้ตั้งใจก็ยังต้องมานั่งปวดหัวจนถึงทุกวันนี้เลย

ลองคิดดูว่าผมเนี่ยเป็นเด็กผู้ชายที่จบ ม.6 แถมยังไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับตำรวจเนี่ยะ มันจะหาข้อมูลมาได้เยอะและเข้าได้ถึงแค่ไหนกัน

เลือกเขียนในสิ่งที่ตัวเองถนัดก่อนก็ได้ครับ

ลองเขียนที่คุณจขกท.รู้ และมีประสบการณ์มาก่อนดีกว่ามั้ย?? -ที่อยากเขียนนี่เก็บเป็นพล็อตไว้ก่อน ค่อยขยับเมื่อทำการบ้านมาพร้อมแล้ว

คือเราไม่ได้หมายความว่าเขียนไม่ได้นะ แต่กลัวจะเขียนไม่จบ ทิ้งไว้กลางทาง(ดอง)แล้วจะรู้สึกแย่ แย่ทั้งตัวนักเขียนเองที่ไปต่อไม่ได้ และก็แย่กับนักอ่านที่รู้สึกค้าง พาลจะไม่อ่านเรื่องอื่นๆของเราต่อ เหมือนกลัวว่าจะโดนทิ้ง

หรือถ้าอยากเขียนมากๆจริงๆ ยังไงก็จะเขียนให้ได้! ให้ถามคนที่เรียนวิศวะโดยตรงค่ะ จับมันมานั่งเค้น ถามมันทุกเรื่อง เอารายละเอียดมาให้ได้มากที่สุด แล้วกลับมาจัดระเบียบเองว่าคณะวิศวะ ภาคโยธาของมหาลัยในนิยายเรา ตัวละครนั้นๆต้องเรียนอะไรบ้าง? ทำกิจกรรมอะไรบ้าง? แล้วอะไรที่ทำให้ "วิศวะ" นิยายเราแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆที่มีคนเขียนเกลือนเมือง (เราก็เขียน ^_^)

เห็นด้วยกับหลายๆเมนต์ค่ะ เราว่าเขียนเรื่องที่คุณรู้จักดี ก่อนไหมคะเขียนสิ่งที่ตัวเองถนัด มันจะทำให้คุณเขียนลื่นเขียนสนุก

ถ้าปี 1 มหาลัยเกือบทุกแห่งก็จะเป็นวิชาพื้นฐานที่มีชื่อต่างกันไปเช่น

แคล1 = แมท1

ฟิสิกส์1=เจนฟิ

ดรออิ้ง (เขียนแบบวิศวกรรม)

เคมี

แลปฟิ

แลปเคมี

วิชาเสรี

ปี2,3 ถ้าเข้าวิชาภาค ก็จะเป็นพวก สแตติก สตรักเจอ โปรเจ็ค บลาๆ แลปแมททีเรียล solid mechanics มากมาย ปี3 แลปดิน แลปน้ำ ผสมปูน ผสมทราย 5555555

ปิดเทอมปี2 เข้าค่าย เซอเวย์

ปี3 ซัมเมอร์(ปิดเทอม) ฝึกงาน ก็ทำไซด์งานก่อสร้าง ดูไซด์งาน ดูแปลนบันได ดูงานที่ต้อง คลุกฝุ่น หน้ามัน กลับบ้านล้ามาก คำนวณ(กดเครื่องคิดเลขจนเหมื่อยมือ)

ปี4 โปรเจ็คจบ

P.S. เขียนภาษาไทยอาจจะทับศัพท์Engผิด

ง่ายๆ คุณก็ลองเลือกมหาลัยในใจ แล้วก็พิมพ์ว่าหลักสูตร มันก็จะมีขึ้นเอง

ชิวิตจริง ถ้าแบ่งเวลา มันก็มีเวลาว่างน่ะ เรียนวิศวะไม่ได้ไม่มีเวลาขนาดนั่น

แต่ถ้าช่วงสอบหายหัวไปไม่ตอบไลน์ก็คือใช่

ไปร้านเหล้า แล้วเมา ยังตื่นไปสอบได้ A เลย

บางคนอ่านนส บ้างไม่อ่านบ้าง แต่ถ้าคุณเกิดมามี sense of engineering ก็ชิวได้ 555

ลองอ่านนิยายที่คนแต่งเป็นหมอ แล้วแต่งเกี่ยวกับหมอ กับลองอ่านของคนแต่งไม่ใช่หมอ

มันก็มีความต่างกันมากๆ แล้ว ทั้งศัพท์แพทย์ที่เขาคุยกัน

เช่นเดียวกับวิศวะ ก็จะมีศัพท์ที่เราเข้าใจกันแค่ในหมู่วิศวะ

แต่ทั้งนี้ ถ้าความรู้ไม่ถึง ก็สามารถเขียนเลี่ยงไปได้ หรือไม่ต้องเจาะจงตรงนั้นมาก

นิยายวิศวะ ส่วนมากก็เกี่ยวกับกิจกรรมรับน้อง คุณอาจจะไปโฟกัสกิจกรรมมากว่าเรียนก็ได้

หรือคุณอาจจะเขียนให้ตัวเอกa เป็นด้านที่คุณเรียนหรือมี ปสก แล้วตัวเอกbวิศวะ แต่ไม่ต้องเน้นมากก็ได้ค่ะ

สู้ๆ