Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ปัจจุบันนี้คุณคิดว่าการแต่งนิยายขาย เหมาะกับการทำเป็นงานประจำไหม? จะอยู่ได้อย่างมั่นคงไหม?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อเลยค่ะ ไม่มีอะไรมาก แค่อยากถามความคิดเห็นในมุมมองของเพื่อนๆ

แสดงความคิดเห็น

>

12 ความคิดเห็น

พ. แพทจอมโลเล : )) 19 ส.ค. 62 เวลา 09:51 น. 1

สำหรับเราคิดว่าพอหากินได้ แต่ไม่เพียงพอและไม่ยืนยาวค่ะ

ต้องคิดด้วยว่า การที่เราจะทำเป็นอาชีพหลักมีกินทุกเดือน นั่นหมายความว่าหนังสือหรือนิยายที่แต่งออกมาต้องมีอย่างต่อเนื่อง วินัยต้องมีสุดๆ เราพร้อมตรงจุดนั้นหรือยัง?


นักเขียนอาชีพตอนนี้ ออกนิยายเดือนละกี่เรื่อง ต้องแบกรับในเรื่องพล็อตและเรื่องยิบย่อยอีกมากมายกว่าจะได้เป็นเม็ดเงินมา บางเรื่องได้เยอะ บางเรื่องได้น้อย บางเรื่องไม่เข้าตาใครเลยก็ไม่ได้ทำเป็นรูปเล่ม กำหนดได้ยาก

ยกเว้นว่าคุณมีฐานนักอ่านแน่นหนา แต่งอะไรก็มีคนอ่านแม้ว่าจะเป็นพล็อตเดิมๆ ก็ตาม


เราก็เคยคิดค่ะ ว่าอาชีพนี้จริงๆ แล้วหากหัวไม่ตัน แต่งออกมาเรื่อยๆ ถ้าไม่เอาเข้า สนพ ก็ติดเหรียญไปเรื่อยๆ คงใช้หากินได้

แต่พอมาดูความพร้อมตัวเองแล้ว คงยังไม่ใช่ตอนนี้อะค่ะ 5555


ถึงยังไงถ้าใจรัก และไม่ได้ติดภาระอะไรที่ไหน การเป็นนักเขียนก็เป็นอาชีพที่น่าสนใจนะคะ ทำได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีคอม ^^

0
อูตัณรา 19 ส.ค. 62 เวลา 10:08 น. 2

ถ้าห่วงเรื่องค่าครองชีพ ไม่เหมาะเลย เงินไม่เคยนิ่ง เงินเดือนน้อยกว่ารปภ. อันนี้ไม่กวนทีนนะ เคยถามรปภ.ที่เคยเขียนนิยายเอาเวลารอบดึกมาเขียน เขาบอกไม่คุ้มเหนื่อยเลย เงินที่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อ ไม่ใช่เงินจากสำนักพิมพ์

0
小芥蓝 19 ส.ค. 62 เวลา 10:22 น. 3

เราว่าไม่

สำหรับคนมีงานหลวงเป็นโปรแกรมเมอร์ งานรองเป็นนักเขียนบอกเลยไม่พอกิน เป็นคนจ่ายเยอะอยู่แล้วด้วย

กว่าจะไต่เต้ามีชื่อเสียงจนคนรอซื้อทุกเล่มที่เราเขียนก็คงหลายปี เดือนนึงเขียนได้เล่มนึงก็เก่งแล้ว

แต่...จะถูกใจเหล่าผู้มีกระตังพอที่จับจ่ายหรือไม่แค่นั้นเอง

0
Echo9 19 ส.ค. 62 เวลา 10:33 น. 4

แล้วแต่ทรัพยากรและความพร่้อมของแต่ละคนค่ะ ด้วยสมัยนี้สามารถเขียนขายแบบออนไลน์ได้ ถ้าใครมีเป้าหมายจะทำเป็นอาชีพหลักเลยก็ได้ ด้วยนักเขียนหลายท่านก็ทำกันค่ะ แต่งานเขียนออนไลน์จะข้อจำกัดเรื่องช่วงเวลาและความมั่นคง ชีวิตมันมีค่าใช้จ่ายประจำอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ค่ากิน ถ้าภาระค่าใช้จ่ายตายตัว ก็หมายความว่าต้องมีรายได้จากงานเขียนที่สม่ำเสมอไปด้วย ไหนจะต้องบริหารทุกอย่างเอง ไม่ต่างจากงานประจำ ยิ่งเป็นงานที่ใช้ความคิดไม่กำหนดเวลาเข้าออกเหมือนงานประจำต่าง ๆ ด้วย ต้องมีวินัยและความรับผิดชอบมากสูง ไหนจะต้องค่อยเติมวัตถุดิบในการเขียนเสมอด้วย เพื่อตกผลึกมาให้คนอ่านในติดตามผลงานของเราอยู่เสมอ ๆ แล้วมองระยะยาวว่าในอนาคตเรายังจะได้รายได้ที่มีอัตราเป็นเช่นไร มีอะไรเป็นหลักประกันได้บ้าง เพราะวันหนึ่งเราไม่ไหวกะงานเขียนที่ทำเป็นหลักแล้ว จะหันไปหาอาชีพใดได้บ้าง อายุก็ล่วงเลย สมัครงานใหม่ก็ยากแล้ว


จะอยู่อย่างไรให้มั่นคง ก็ต้องสะสมฐานคนอ่านศึกษาความต้องการ ปรับปรุงตัวเองไปเรื่อย ๆ ในบอร์ดมีคนโพสเรื่องงานเขียนกับรายได้อยู่นะคะ ลองไปศึกษาดูก็ได้ค่ะ นักเขียนท่านนั้นประสบความสำเร็จ ในการทำเป็นอาชีพหลัก จำชื่อกระทู้ไม่ได้แฮะ แต่น่าจะหลายวันอยู่


1
SilverPlus 19 ส.ค. 62 เวลา 10:53 น. 5

ไม่ได้จับงานเขียนเป็นอาชีพ

แต่จากความเห็นส่วนตัว คิดว่าไม่สามารถอยู่ได้

นอกจากเป็นคนพออยู่พอกิน ไม่ต้องแบกภาระครอบครัว ไม่มีหนี้สิน และไม่คิดจะก่อหนี้สิน อันนี้อยู่ได้

ส่วนอนาคต คิดว่าถ้าเก็บเงิน ทำประกัน ก็น่าจะพอไปได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น งานเขียนจะต้องออกอย่างต่อเนื่อง และแต่ละงานจะต้องสร้างเงิน ไม่มีเขียนออกมาแล้วขายไม่ออก

สรุปนะ หากคนทั่วไปทำ ไม่มั่นคงอย่างแรง แต่ถ้าบ้านรวย ไม่มีภาระ และชอบใช้ชีวิตคนเดียว เขียนงานออกมาขายได้เรื่อย ๆ งานเขียนก็เป็นทางเลือกหนึ่งได้เหมือนกัน

0
peiNing Zheng 19 ส.ค. 62 เวลา 11:37 น. 6

ทำได้ค่ะ ทุกอย่างทำเป็นอาชีพได้หมด แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวคนทำเองว่าจะโอเคไหม


มีวินัย ขยัน รู้จักจัดการเรื่องเงิน ศึกษาและพัฒนาตนเอง


ช่วงแรกหนัก หนักมาก อาจไม่พอกิน แต่เมื่อสร้างพอร์ตงานเขียนของตัวเองได้ และดีพอ มีคนซื้องานเก่าเรื่อยๆ จะสบายขึ้นค่ะ (อาจใช้เวลาแค่ปีสองปี ไปจนถึงสิบปี)


ส่วนตัวเราไม่ค่อยเห็นด้วยกับการทำงานเป็นอาชีพ เพราะตัวคนเขียนอาจขาดวัตถุดิบในการเขียนนิยายได้ (ตอนเอ๊าะๆ น่ะไม่มีปัญหาหรอก แต่พออายุมากขึ้น ทรัพยากรในตัวถูกขุดใช้ไปเยอะ ตอนนั้นแหละ...ได้เรื่อง หลายคนไม่ค่อยเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ก็นะ พูดจากใจคนกำลังเผชิญความเสื่อมของร่างกาย ได้แค่เตือน แต่เข้าใจแหละว่าแต่ละท่านมีเงื่อนไขในชีวิตต่างกัน) 


ทีนี้ถ้าอยากเป็นอาชีพจริงๆ เราคงแนะนำว่าให้ทำงานประจำไปด้วยเขียนไปด้วย สร้างพอร์ตนิยายของตัวเองขึ้นมาให้ได้ส่วนหนึ่ง จนกระทั่งมันกลายเป็น Passive income จะทำให้ภาระเราลดลงได้ คอยส่องดูว่าเงินจากนิยายของตัวเองสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานที่สุดหรือยัง 


แต่ละคนมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่เหมือนกัน พวกค่าเช่าบ้าน (ผ่อนบ้าน) หนี้สินขั้นต่ำที่จะต้องจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมลูก หรือจะรวมค่ากินขั้นต่ำไปด้วยก็ได้ค่ะ ถ้ามันครอบคลุมได้ ค่อยมาพิจารณาเรื่องการทำเป็นงานประจำลำดับต่อไป 


ถ้าทำเลยโดยที่ได้รายได้แค่แสนหรือสองแสนต่อปีโดยไม่มีหนี้สิน (กรณีที่อยู่กรุงเทพฯ) เราว่าอาจอยู่ได้ แต่ไม่ใช่คุณภาพชีวิตที่ดีพอค่ะ อย่าลืมว่าจะต้องมีเงินเก็บกรณีเจ็บป่วย ยังไม่รวมเงินฉุกเฉินอื่นๆ พ่อแม่แก่ตัวลงใช้ค่ารักษาเยอะมาก แต่งงานมีลูก เด็กเล็กป่วยบ่อย ไหนจะค่าเทอม ไม่น้อยเลยแหละ

0
yurinohanakotoba 19 ส.ค. 62 เวลา 11:41 น. 7

จินตนาการหมด ตลาดเปลี่ยน ตามโลกไม่ทัน เขียนงานออกมาไม่ได้ ฯลฯ

ถ้าคิดว่ารับมือกับปัญหาพวกนี้ได้ ผลงานแต่ละอย่างที่เขียนมีคุณภาพขายได้ตลอดเวลา และสร้างฐานแฟนมาแข็งแรงพอก็เอาคงพอไหว


คนที่เป็นนักเขียนอาชีพถือว่าอยู่ส่วนยอดปิรามิดของนักเขียนทั้งหมดแล้วนะครับ น้อยคนที่จะปีนไปถึง


0
Miran/Licht 19 ส.ค. 62 เวลา 12:24 น. 8

ขึ้นกับว่าคุณสร้างชื่อเสียง แฟนคลับ สั่งสมบุญเก่าไว้เท่าไร ความขยัน ความคิดสร้างสรรของคุณค่ะ


ลองไล่กระทู้ดูไม่น่าเกิน 3 อาทิตย์มีคุณนักเขียนมาร่วมแบ่งปันอยู่นะคะ นักเขียนบางท่านมีรายได้จากการขายนิยายติดเหรียญเฉพาะเว็บเดียว (เด็กดีอยู่ที่หลักแสน)


สมมติละกันให้คิดง่าย ถ้าคุณทำได้จริง คุณได้จากที่นี่ปีละ 120k เฉลี่ยต่อเดือนคือ 10k แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ การขายนิยายเป็นแบบ post-paid คือคุณอาจต้องเขียนนิยายสัก 1-2 เดือนไร้รายได้ พอเดือนที่ 3 เริ่มเผยแพร่ พร้อมเปิดขาย 1 เดือนถึงได้สรุปยอดให้คุณเบิกเงินออกมาใช้ แต่คุณก็ต้องมีตอนทดลองอ่านสัก 10-20% ด้วยค่ะ


จากนั้นคุณก็มาคิดภาระบรรทุกหรือค่าใช้จ่ายต่อเดือนค่ะว่าคุ้มไหม คุณยังเช่าที่อยู่ ค่าน้ำไฟ ต้องกินใช้ ให้คนที่บ้านเท่าไร ผ่อนอะไรอยู่ไหม


ส่วนเราอาศัยรายได้ประจำจากการทำงาน 5 วัน/สัปดาห์ อีก 2 วันคือพักผ่อนเขียนนิยายจะได้ไม่เปลืองตังค์ไปใช้จ่ายข้างนอก

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

lilin4646 19 ส.ค. 62 เวลา 18:09 น. 10

ทำได้นะครับ แต่คุณต้องไม่ใช่นักเขียนนิยายอย่างเดียวอะ ต้องเป็นนักการตลาด - ที่ดูว่าตลาดต้องการนิยายแนวไหน ขายที่ไหน โปรโมทยังไง กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ต้องเป็นฝ่ายศิลป์ - คุณต้องรู้ว่าหน้าปกนิยายที่ขายได้เป็นยังไง นักวาดท่านไหนเหมาะกับนิยายของเราและกลุ่มเป้าหมายชอบ คุณจะจัดหน้าหนังสือให้สวยงามได้ยังไง ชื่อเรื่องวางตรงไหนยังไง ต้องเป็นบรรณาธิการ - คุณต้องวางแผนว่านิยายจะเป็นยังไงมีกี่เล่ม เนื้อหามีความสมบูรณ์ไหม บังคับให้ตัวเองเขียนนิยายได้ตามกำหนดรึเปล่า ค้นหาสิ่งร่วมระหว่างสิ่งที่นักเขียนอยากอ่านกับคุณอยากเขียน และที่สำคัญที่สุด คุณต้องเป็นนักเขียนที่เขียนนิยายด้วยความสุขถึงจะเขียนได้จนถึงวันสุดท้าย ยังมีอีกหลายข้อนะ แต่ผมนึกไม่ออกแล้ว ตัวผมเองเขียนนิยายเป็นอาชีพอย่างเดียวมา 7-8 ปีครับ แฟนผมก็เป็นนักเขียนนิยาย เลี้ยงลูกพร้อมกันไปด้วยอีก 1 คน ไม่ได้ขายนิยายบนเด็กดี แต่ผมขายนิยายทำมือ/ ขาย E-book /ตั้งสำนักพิมพ์ของตัวเอง ตอนนี้ได้โอกาสไปออกกับสำนักพิมพ์ใหญ่อีกรอบแล้วครับ ก็มีช่วงลุ่มๆ ดอนๆ บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับขนาดอดอยากอะไร แต่มีความสุขมากๆ เลยครับ ผมลาออกจากงานประจำมาเป็นนักเขียนเพื่อจะได้มีเวลาเลี้ยงลูกสาวมากๆ ตอนนี้ลูกสาวโตแล้วพอดูแลตัวเองได้ เลยมีเวลาไปออกกำลังกายรักษาสุขภาพตัวเองเสริม แล้วช่วยกิจการทางบ้านที่ทิ้งไปนานไปพร้อมกันได้ครับ มันก็จะวุ่นวายหน่อย แต่รู้สึกชีวิตสมดุลมาก

0
TunKoB 19 ส.ค. 62 เวลา 21:25 น. 11

มันไม่มั่นคง + มีความกดดันสูงมาก ต้องคิดนำไปข้างหน้าเสมอ เขียนเรื่องนี้อยู่ต้องคิดถึงพลอตเรื่องต่อไปแล้วถ้าเรื่องต่อไปไม่ปังก็ต้องคิดถึงเรื่องที่สาม เขียนแฟนวแฟนตาซี ส่วนใหญ่ 300-400 ตอนจะเป็นยุคทองของเรื่องถ้าเรื่องนั้นปัง หลังจากนั้นรายได้และยอดคนอ่านจะลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะบางส่วนเห็นว่ายืด เอาเป็นว่าเขียนวันละ 1 ตอน อายุเรื่องประมาณ 300-400 ตอน ก็ปีละเรื่อง 1 เรื่องถ้าประสบความสำเร็จจะได้เงินอยู่ที่ประมาณ 2 แสนถึง 7 แสนบาท ใน dek d ตอนนี้คงมีอยู่สองสามเรื่องในหมวดแฟนตาซีที่เขาทำได้ ลองหาดูก็จะรู้ คำถามต่อมา ต่อให้ประสบความสำเร็จมันก็ต้องมีจุดจบของเรื่อง ยืดเรื่องเพื่อขายตอนได้ระดับหนึ่งแต่ทำแล้วนักอ่านจะหายไปเรื่อยๆ คนอ่านลด สุดท้ายก็ต้องจบไป เงินที่ได้มาก็ต้องเก็บไว้ เผื่อเวลาในการคิดเรื่องใหม่ การที่จะเขียน 3 4 5 เรื่องแล้วปังหมดมันคงเป็นไปไม่ได้ ถ้าทำได้ก็คงทำเป็นอาชีพได้สบาย แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก ผมก็เคยเห็นบางคนเรื่องแรกปังมาก ลงใน dek d ขายดิบขายดีคนอ่านหลักล้านติด top แต่ไปลงในธัญไม่ปัง ลงใน fic ไม่ปัง ภาคแรกปังคนอ่านหลายแสน ภาคสองคนอ่านแค่หลักพัน นี่คือความไม่แน่นอนในอาชีพของนักเขียนครับ แต่รายได้ประจำที่ว่าหมายถึงอะไร? เราก็ต้องดูความสามารถของตัวเองด้วย ถ้าเรียกเก่ง ทำงานเก่ง โปรไฟล์ดี ทำงานประจำคงได้เงินเดือน สามหมื่น สี่หมื่น ห้าหมื่น หกหมื่น หรือมากกว่านั้น ทำงานประจำแล้วงานเขียนเป็นงานอดิเรกหารายได้เสริมเถอะ แต่ถ้าเรียนไม่เก่ง การศึกษาไม่ได้เทพ เงินเดือนสตาร์ท 15k หรือน้อยกว่านั้น ผมว่าการเขียนงานขายสามารถเป็นทางเลือกให้ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นงานเขียนเป็นอาชีพอิสระ มีความผันผวนไม่แน่นอนสูง ตอนนี้มีรายได้หลายหมื่นบาทต่อเดือน อนาคตอาจจะเหลือไม่ถึงเดือนละหมื่นก็ได้มันแล้วแต่ผลงาน แต่พึงคิดไว้เสมอนะว่าไม่มีงานไหนที่มันสบายไปทั้งหมด ถ้าคิดจะเป็นนักเขียนอาชีพ สิ่งที่ต้องมีคือความพยายามและความคิดที่ต้องนำปัจจุบันไปเสมอ ถ้าคิดว่าเป็นนักเขียนอาชีพมันเป็นงานที่ง่ายและสบายก็คิดผิดนะ

0
พลทวนไร้พันธะ 21 ส.ค. 62 เวลา 23:01 น. 12

ตอบได้แค่ความคิดเห็นนะครับ เพราะตัวผมเองยังไม่เคยทำ


ผมคิดว่า ถ้ายูทูปยังมีคุณป้าคนไทยทำแล้วมีเงินเลี้ยงลูกสบายๆได้ ไม่ต้องทำงานอื่นเลย

ทำไมนิยายจะทำไม่ได้ล่ะ?

คุณตาไม่มีแขนทั้งสองข้างยังใช้เท้าทำสวนปลูกพืชเลี้ยงปากท้องอยู่ในเมืองไทยด้วยตัวคนเดียวได้ ทำไมกะแค่เขียนนิยายจะหาเงินกินข้าวไม่ได้ล่ะ?


คนหูหนวกยังแต่งเพลงดังระดับโลกได้ ผู้หญิงไร้แขนยังสอบใบอนุญาตนักบินได้ คุณยายวัย64ยังว่ายน้ำข้ามมหาสมุทรได้ คนไม่มีขายังเป็นแชมป์มวยปล้ำได้ คุณลุงตาบอดยังปีนขึ้นยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้ คนเป็นอัมพาตยังกระพริบตาแต่งนิยายจบเล่มได้

แล้วทำไมการแต่งนิยายเป็นงานประจำเลี้ยงชีพมันจะทำไม่ได้ล่ะ?


มันขึ้นอยู่กับความทุ่มเทในการสร้างผลงานและความเข้าใจด้านการตลาด

ถ้ามีใจและเวลามากพอ มนุษย์เราทำสำเร็จได้ทุกอย่างนั่นล่ะครับ

1