Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[ขอความช่วยเหลือ] วางบทพูดของตัวละครอย่างไร ให้ดูเป็นธรรมชาติและสมจริง...?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีค่ะชาวบอร์ดนักเขียนเด็กดีทุกคน
ตอนนี้ยิ้มกำลังเขียนนิยายโรแมนซ์แฟนตาซีอยู่เรื่องหนึ่ง
และยิ้มก็ติดปัญหาเรื่องการวางบทพูดของตัวละครให้ดูเป็นธรรมชาติ
ยิ้มต้องการทำให้บทของตัวละครไม่เรียบ และก็ไม่หวือหวาจนดูเหมือนท่องบท
แต่ตอนนี้นอกจากประโยคจะยาวเฟื้อย
ก็ยังขาดคำที่ทำให้ความหมายของทั้งประโยคเปี่ยมด้วยอารมณ์หรือทรงพลัง

ชาวบอร์ดมีวิธีการวางคำพูดอย่างไร ให้ดูมีเสน่ห์ และเป็นธรรมชาติคะ ?
ทำอย่างไรให้ประโยคบอกรัก สัมผัสได้ถึงความรัก
ทำอย่างไรให้ประโยคเศร้า สัมผัสได้ถึงความเศร้า
ทำอย่างไรให้ประโยคเสียอารมณ์ สัมผัสได้ถึงความเสียอารมณ์
และประโยคเหล่านั้นก็ดูเป็นธรรมชาติ ตัวละครมีชีวิตจริง ๆ

รบกวนเพื่อน ๆ พี่พี่ทุกคน ชี้แจงแถลงไขให้ทีค่ะ

ด้วยรักจากรักยิ้ม จุ๊บก่อนล่วงหน้า คริกครักครุกคริก



 

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น

ทิตภากร : กันต์ระพี 20 ต.ค. 62 เวลา 11:49 น. 1

บทพูดจะดูสมจริงเป็นธรรมชาติมีวิธีง่ายๆ ตามนี้ค่ะ

พิมพ์คำพูดตัวละครลงไปแล้วเอาคำนั้นมาลองพูดดูค่ะ (อย่าอ่านในใจ ให้พูดออกมา) ถ้าฟังดูทะแม่งๆ ออกแข็งๆ ไม่เหมือนเวลาเราพูดปกติ แปลว่ายังใช้ไม่ได้ค่ะ ลองดูนะคะ


ส่วนการสื่ออารมณ์ตัวละคร คุณต้องเข้าถึงตัวละครที่เขียนและเข้าใจสถานการณ์ในตอนนั้นก่อนค่ะ แล้วจินตนาการจะโลดแล่น คุณจะคิดคำพูดดีๆ หวานๆ ซึ้งๆ ออกมาได้เองค่ะ

บทพูดที่จะสื่อ ไม่ว่าจะยาวหรือสั้นก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ ถ้าอารมณ์ตอนนั้นพาไป ก็สามารถใช้ในบทพูด หรือบรรยายซีนอารมณ์ตัวละครอย่างยาวๆ ได้ค่ะ

1
white cane 20 ต.ค. 62 เวลา 12:55 น. 2

เขียนลงไปแล้วลองอ่านดูว่ามันให้ความรู้สึกยังไง


เข้าใจมะ ?


ยกตัวอย่างเช่นข้างบน มันอ่านแล้วให้ความรู้สึกห้วนและเป็นกันเองมาก จนถึงขั้นเรียกได้ว่า "กวนประสาทและไม่มีมารยาท ลักษณะนี้จะใช้กับสำหรับเพื่อนสนิทเท่านั้นครับ


ส่วนอารมณ์อื่นก็ลองจินตนาการเอาก็แล้วกันครับ ถ้าพูดแล้วจะรู้สึกยังไง

1
thepierecipes 20 ต.ค. 62 เวลา 13:10 น. 3

มันมีคำพูดที่ว่า "การกระทำสำคัญพอๆกับคำพูด" ตรงนี้อาจจะช่วยเสริมให้คำพูด ประโยคใดๆ ดูมีมิติขึ้น อย่างการใช้สายตาของตัวละคร การเทคแอคชั่นต่างๆ เช่น ...แกลองมองในตาเขา ถ้ามีสายตาแบบเดียวกับฉันที่มองแกตลอดมา ก็แปลว่ารักแกหมดหัวใจ [เพลงดูดี - โพลีแคท] ประโยคบอกเล่าธรรมดาที่พูดกับอีกฝ่ายสื่อถึงนัยยะบางอย่าง ซับซ้อนขึ้นด้วยการเปรียบเทียบเปรียบเปรย มีความโรแมนติกของตัวละครและระหว่างตัวละคร (ความโรแมนติกในที่นี้คือการถ่ายทอดอารมณ์ ถ่ายทอดความรู้สึก การวางตัวในความสัมพันธ์ชั้นต่างๆ เด็กพูดกับผู้ใหญ่ เพื่อนคุยกับเพื่อน) จุดนี้เราเรียนรู้ได้จากการดูหนัง ดูละครซีรีย์ ดูเอ็มวี ฟังการใช้ภาษาจากเพลง จากนิยาย จากการพูดคุยในชีวิตประจำวัน คนภาคเหนือกับคนภาคกลางวางตำแหน่งต่างกัน หลายๆพื้นที่วางประธาน+กริยา+กรรม ไม่เหมือนกัน และหลายๆครั้งก็ไม่จำเป็นต้องมีแพทเทิร์นนี้เสมอไป กริยาอาจจะเริ่มก่อน หรือกรรมอาจจะเริ่มก่อนก็ได้ ขึ้นอยู่กับชั้นเชิงที่นักเขียนจะเล่น

4
รักยิ้ม :) 20 ต.ค. 62 เวลา 13:15 น. 3-1

ตอนอ่านเนื้อเพลง ยิ้มนี่ร้องออกมาเป็นทำนองเลยค่ะ ฮ่า ๆๆ ขอบพระคุณนะคะ ยิ้มจะลองเอาคำแนะนำนี้ไปปรับใช้ แต่ก่อนอื่น คงจะต้องขอตัวไปฟังเพลงนี้ก่อนแล้วล่ะค่ะ คิดถึงงง

0
thepierecipes 20 ต.ค. 62 เวลา 13:30 น. 3-2



เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่น่าเป็นเคสศึกษา เราไม่ค่อยเจอเพลงที่มีอารมณ์รัก-โลภ-โกธร-หลงในเพลงเดียวอ่ะ เอ็มวีมันอาจจะดาร์กไป (เรื่องสั้นดาร์กกว่านี้เยอะ สะพรึง!) แต่ความโรแมนติกคือครบ มีอารมณ์ ความรู้สึก ในความรักก็ลังเลที่จะไม่รัก แต่ก็ยังรัก ซับซ้อนเว่อร์


0
รักยิ้ม :) 20 ต.ค. 62 เวลา 13:38 น. 3-3

ชอบไลฟ์สไตล์แล้วก็ความอาร์ตตลอดเวลาของคุณจังเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ > < มายไอดอลลลลล

0
รักยิ้ม :) 20 ต.ค. 62 เวลา 13:19 น. 4-1

เก่งจังเลยนะคะ ที่สามารถสวมบทบาทเป็นตัวละครได้ ยิ้มเป็นคนไม่อินกับอะไรง่าย ๆ แต่ละลองไปทำตามดู ขอบคุณนะคะ

0
yurinohanakotoba 20 ต.ค. 62 เวลา 13:39 น. 5

ผมก็สายแฟนตาซีนะ คิดว่านิยายบทพูดมันไม่จำเป็นต้องสมจริงเป็นธรรมชาติแบบคนเราคุยกัน

แต่ต้องทำให้คนอ่านเชื่อว่าตัวละครนั้น ๆ เป็นคนพูดประโยคเหล่านั้นจริง ด้วยบริบทนี้ Voice ของตัวละครจึงเป็นสิ่งแรกที่นำมาคิดเวลาสร้างบทสนทนา

ชายหนุ่มเย็นชา มีความรู้สูง ได้รับความเชื่อถือ มีความมั่นใจ จะมี Voice เวลาพูดแบบหนึ่ง ชายหนุ่มขี้เล่น ท่าทางพึ่งพาไม่ได้ จะมี Voice เวลาพูดอีกแบบหนึ่ง

ด้วยความที่ต้องสื่อถึงตัวละครมันเลยทำให้บทพูดมันไม่เหมือนคนปรกติคุยกัน แต่จะสื่อถึงตัวละครนั้น ๆ และในนิยายมันจะมีบทพูดที่เรียกว่า Dramatic Dialogue ที่ใช้ในการบอกเล่าความรู้สึกของตัวละคร สิ่งที่เก็บงำในจิตใจ มันยิ่งทำให้บทพูดไม่สมจริงเข้าไปใหญ่

"ลาก่อนแล้วพบกันใหม่" ประโยคบอกเล่าปรกติ

"ถึงเวลาที่ต้องจาก หากมีวาสนาต่อกัน เราคงได้พบกันอีก" เป็นดรามาติก ไม่อยากให้เวลานี้มาถึง คาดหวังในสายสัมพันธ์ที่จะทำให้กลับมาพบกัน


อาจจะต่างกับความเห็นของคนอื่นก็พิจารณาเลือกลองเลือกใช้ดูแล้วกัน


2
รักยิ้ม :) 20 ต.ค. 62 เวลา 19:50 น. 5-1

พิมพ์ยาวๆ เนื้อแน่นๆ ขอบคุณมากเลยนะคะ ยิ้มจะนำไปปรับใช้ค่ะ > <

0
ทิตภากร : กันต์ระพี 21 ต.ค. 62 เวลา 13:08 น. 5-2

@yurinohanakotoba

เห็นด้วยเลย แนวแฟนตาซี...บทสนทนาจะมีความแตกต่างออกไป ส่วนใหญ่จะมีความนัยในคำพูด จะเห็นได้ในหลายๆ เรื่อง ในตัวละครที่มีบารมี หรืออำนาจ ที่เป็นตัวเด่นๆ

0
รักยิ้ม :) 20 ต.ค. 62 เวลา 19:49 น. 6-1

ยิ้มติดปัญหาที่ ตัวละครค่อนข้างใช้แบบว่าศัพท์สูงเยอะเพราะเป็นเทพน่ะค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ

0
FreudMs 20 ต.ค. 62 เวลา 20:17 น. 7

ธรรมชาติของตัวเอง หากเลียนแบบคนอื่น ต่อให้สมจริงเท่าไหร่ก็ไม่มีวันดูเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง


หาประสบการณ์จากชีวิตจริง วิธีการพูด จุดประสงค์ อารมณ์ แล้วเขียนมันออกมา

4
รักยิ้ม :) 20 ต.ค. 62 เวลา 22:40 น. 7-1

ปัญหาคือมันเป็นนิยายแฟนตาซีค่ะ ยิ้มไม่เคยเป็นเทพมาก่อนเนี่ยสิ โฮก ขอบคุณนะคะ

0
FreudMs 21 ต.ค. 62 เวลา 00:28 น. 7-2

ถ้ายิ้มไม่เป็นเทพ ถ้างั้นจะสร้างโลกในนิยายได้ยังไง?https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-07.png

0
21 ต.ค. 62 เวลา 01:15 น. 8

ขำตรงที่คุณ คริกครักครุกคริก จังเลยค่ะ ฮ่าๆๆ ยังไงก็ลองเขียนแบบที่เราสนทนากับคนอื่นดูสิคะ แล้วเดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง ไปได้ไหลลื่นนั่นเองค่ะ อิอิ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-11.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-09.png

0
รักยิ้ม :) 22 ต.ค. 62 เวลา 18:59 น. 9-1

อย่างนี้นี่เอง ยิ้มจะพยายามเข้าให้ถึงบทบาทตัวละครมากขึ้นค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ

0
โอ๋จิ 22 ต.ค. 62 เวลา 20:11 น. 10

เราวางนิสัยแต่ละตัวละครต่างกันโดยที่แต่ละคนจะมีความแตกต่างในตัวของมันเองที่เข้ากับตัวละครอยู่ค่ะ

เช่น A เป็นคนร่าเริง ไม่ค่อยอยู่นิ่งๆมีพลังตลอดเวลา นิสัยเหมือนเด็ก

ก็จะมีความคิด ที่ไม่ซับซ้อนการพูดก็จะ พูดชัดเร็วแรงแต่อาจไม่ได้พูดดีทุกเรื่อง แต่บทดูแล้วให้อารมณ์ ที่เหมือนตัวละครเจ้ากันกับบทจริงๆค่ะ

" เฮ้! นายไม่ไปจริงๆหรอ? ไปเถอะน้าฉันจะไปด้วย" อย่างที่เรายกตัวอย่าง

ค่ะ จากประโยคมีความร้องขอ แสดงความตกใจ ล้อเลียนชักชวนให้คนคล้อยตาม คนที่อ่านจะสัมผัสได้ว่าตัวละครเป็นไทป์สดใสร่าเริงชอบอ้อน

สรุปก็คือวางนิสัยไว้อย่างไรบทก็ควรจะเข้ากับตัวละครนั้นๆด้วยค่ะ

1
3 พ.ย. 62 เวลา 16:12 น. 11

ต่างคนก็มีเทคนิคที่แตกต่างกันไป สำหรับผม ไม่ใช่แค่บทพูดแต่เป็นในทุกๆ ฉากที่เกิดขึ้นในเรื่อง ผมจะสร้างฉากนั้นขึ้นมา อย่างเช่นเราจะอธิบายฉากการประลองอะไรแบบนี้ ผมก็จะวาดลานประลองขึ้นมาในหัว แล้วจินตนาการถึงองค์ประกอบ ทั้งหมดก่อน แล้วเอาอะไรที่นักอ่านควรจะรู้หรือสิ่งที่เราอยากจะเล่าลงไป


บทพูดก็เช่นกัน เราต้องรู้ก่อนว่าบทสนทนานั้นจะมีใครประกอบอยู่บ้าง แล้วสร้างภาพของพวกเขาขึ้นมา และต้องรู้ว่าพวกเขายืนอยู่ในฉากแบบไหน อุปนิสัยของแต่ละคนเป็นแบบไหน จากนั้นก็ต้องไม่ลืมหัวข้อสนทนาว่าเราจะเล่าถึงเรื่องอะไร จากนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาคุยกัน...งะมะ จริงๆ คือลำดับเอาประโยคที่ควรจะเกิดขึ้นและน่าสนใจรวมถึงอะไรที่คิดว่านักอ่านจะติดตามอ่านแล้วนำมาแปลงเป็นตัวอักษรอีกที


อย่างเช่นบทสนทนาของพระนางในคืนเข้าหอ เราต้องมีห้องหอที่เป็นสถานที่หลัก แล้วเราต้องวาดห้องหอของเิราขึ้นมาให้ชัดเจน จากนั้นต้องรู้ว่าพระนางของเราเป็นคนที่มีอุปนิสัยยังไง แล้วลำดับเหตุการรวมถึงบทสนทนาออกมาเป็นตัวอักษร ในความคิดเป็นฉากๆ แล้วกรองมันมาเป็นบทสนทนาของเราอีกทีหนึ่ง ....



ผมว่าแค่เรามีนิสัยของตัวละครที่ชัดเจน และที่สำคัญคือสิ่งแวดล้อมที่แม่นยำ บทสนทนามันก็ไม่ได้ยากหรอก เพราะในที่สุดตัวละครของเราก็จะดำเนินเรื่องไปตามนิสัยที่เราวางเอาไว้



นักเขียนคือคนที่สร้างโลกของตัวเองขึ้น และเป็นคนที่บอกเล่าเรื่องราวของโลกแห่งนั้นออกมาเป็นตัวอักษรให้นักอ่านเข้าใจ


ผมเชื่อว่าโลกทุกใบของทุกคนน่าติดตาม แต่ที่สำคัญที่สุดเรื่องราวที่น่าสนใจนั้นจะได้รับถ่ายทอดออกมามากแค่ไหน...



ออกตัวก่อนเลยว่าผมก็แค่นักเขียนมือสมัคเล่นที่ไม่ได้โด่งดังหรือมีชื่อเสียงอะไร


แค่อยากแชร์สิ่งที่ตัวเองใช้อยู่เท่านั้นเอง *-*



เผื่อว่ามันจะมีประโยชน์


สู้ๆ นะ


เป็นกำลังใจให้ครับhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-09.png

1
รักยิ้ม :) 9 ม.ค. 63 เวลา 01:14 น. 11-1

ขอโทษด้วยนะคะ พีชหายไปนานและเพิ่งกลับมาเล่นบอร์ด ซึ้งใจในคำตอบของคุณมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ขอบคุณที่แชร์ความรู้ดี ๆ ให้นะคะ ^^

0