Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตัวประกอบที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในเรื่องหลัก #ไยบะดาบพิฆาตรอสูร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

#ช่วงนี้ว่างเลยมาสิงกระทู้
 

[โปรโมทนิยาย หมวดเเฟนฟิค]
เรื่อง Kimetsu no yaiba ฟูจิฮานะ ดอกไม้สยบอสูร

เรื่องนี้นางเอกเป็นตัวละครหลังฉาก เป็นตัวละครที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึง
เพราะฉะนั้นในฉากสำคัญที่ปรากฎในเรื่องหลัก เราจะไม่เห็นนางค่ะ

 



มาเเปะเฉพาะบทนำค่ะ หากท่านใดสนใจสามารถอ่านต่อได้ตามลิ้งค์นี้

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=2000141




          ปลายนิ้วชี้เปื้อนเลือดอันประกอบไปด้วยเล็บเเหลมคม จิ้มทะลุหน้าผากของหญิงสาวลงไปอย่างเเช่มช้า ก่อนจะดึงออกมาพร้อมกับโลหิตที่พุ่งกระฉูด ดวงตาสีเเดงราวกับเลือดสดจ้องมองลงไปยังร่างของมนุษย์เพศหญิงที่กำลังดิ้นทุรนทุรายหลังจากได้รับเลือดของราชาอสูร ไม่นานร่างกายของเธอก็เปลี่ยนเป็นปีศาจคลุ้มคลั่ง

          "จงไปฆ่าพวกมัน" น้ำเสียงเย็นชาออกคำสั่งกับอสูรตรงหน้า

          อสูรตนนสั้นมีอาการหวาดกลัวต่อชายร่างสูงตรงหน้า เเม้เขาจะยืนนิ่งไม่ไหวติงเเต่กลับสาดประกายความน่าเกรงขามออกมาจนต้องรีบพุ่งตัวออกไปจัดการนักล่าอสูรประมาณห้าคนพร้อมกับอสูรจันทราข้างเเรมลำดับที่หก เเน่นอนว่าอสูรธรรมดาประเภทนี้ต้องรับหน้าที่เป็นตัวก่อกวน

          ใครก็ตามที่รู้ตัวตนของราชาอสูรจะต้องตาย!

          "ท่านมุซัน" เสียงเคร่งขรึมเป็นของอสูรจันทราข้างขึ้นลำดับที่ 1 โคคุชิโบ เมื่อสมัยที่เขายังเป็นมนุษย์ เขาเคยเป็นนักล่าอสูรที่ใช้ปราณตะวัน ซึ่งปราณนี้ภายหลังเเตกย่อยออกเป็นอีกหลายๆ ปราณ (หรือเรียกง่ายๆ ว่า ปราณเเม่) เเละเคยฝึกฝนกับผู้ใช้วิชาดาบปราณวายุในยุคเซนโกคุ ทำให้เขากำหนดลมหายใจได้คล้ายๆ ตระกูลคามาโดะ (ทันจิโร่)

          มุซันหันหน้าเพียงเสี้ยวหนึ่งไปหาอสูรหกตาเเล้วถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น "มีอะไร"

          "ข้าได้ข่าวบลูสไปเดอร์ลิลลี่ที่หมู่บ้านเเห่งหนึ่ง ห่างจากที่นี่ไปพันกิโลเมตร รู้สึกจะมีคนปลูกมันขึ้นมาได้"

          ดวงตามารเบิกกว้างด้วยความตกใจ ตลอดพันปีมานี้เขาออกตามหาดอกไม้ชนิดนี้ไปทุกซอกทุกมุมของญี่ปุ่น เเต่กลับไม่พบวี่เเววเเม้เเต่ดอกเดียว เเต่ตอนนี้มันได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเเล้ว

          "ใครกันที่ปลูกมันขึ้นมา"

          "รู้สึกจะเป็นผู้หญิง"

          มุซันตั้งมั่นเอาไว้ว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ปลูกดอกไม้ชนิดนี้ขึ้นมา หรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับมัน คนเหล่านั้นจะต้องตายด้วยน้ำมือของเขาเอง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อยืนยันศพว่าตายจริงๆ เพราะเขาจะเสี่ยงไม่ได้เด็ดขาด

          "ให้ข้าไปจัดการหรือไม่" โคคุชิโบถามเสียงเรียบ

          "ไม่ต้อง ฉันจะไปเอง" มุซันตอบเป็นคำขาด ลูกน้องที่เเข็งเเกร่งที่สุดยังต้องยอมสงบปากสงบคำในทันที

          พอพูดถึงบลูสไปเดอร์ลิลลี่ มันทำให้มุซันนึกถึงอดีตอันเเสนเจ็บปวด ซึ่งมันคือสมัยที่เขายังเป็นมนุษย์เดินดินธรรมดาคนหนึ่ง เเต่สวรรค์กลั่นเเกล้งให้เขามีร่างกายอ่อนเเอเเละต้องตายตอนอายุ 20 ปี

          ตอนนั้นเขาเเทบจะหมดหวังเเละหวาดกลัวจนผอมซูบไร้สิ้นเรี่ยวเเรง เเต่โชคชะตานำพาให้เขามาเจอเเพทย์คนหนึ่ง ชายคนนั้นมีหน้าตาใจดี ซึ่งมาพร้อมกับความสามารถพิเศษเเละยื่นมือมาช่วยเหลือเขาจากใจจริง เเละนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะทุกสิ่งทุกอย่าง

          ...

          ย้อนไปสมัยเฮอัน ราวๆ คริสต์ศักราช 794 - 1185 บ้านเมืองในสมัยนั้นมีความสงบสุข เเละปกครองด้วยระบบเจ้าขุนมูลนายอย่างพระจักรพรรดิ จักรพรรดินี ไนชินโน ไดเมียว เเละชาวบ้านธรรมดาไปจนถึงเเรงงานทาส นับเป็นสมัยที่จักรพรรดิยังมีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองอย่างเต็มที่ ถือเป็นหนึ่งในยุคที่ญี่ปุ่นเจริญรุ่งเรืองที่สุด ทั้งด้านภาษา ศิลปะ บทกวี และวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นยุคที่ให้กำเนิดราชาอสูรตนเเรกอีกด้วย

          ชายหนุ่มผู้มีร่างกายเเข็งเเรงคนหนึ่งกำลังเข็นรถลากมาตามถนนในเมืองหลวง บนรถคันนั้นมีสองพ่อลูกตระกูลเเพทย์ที่มีความสามารถทางการเเพทย์ที่พิเศษกว่าผู้ใดในมหานคร ผู้เป็นพ่อสวมหมวกสีดำเเละชุดประจำตัวเวลาออกไปรักษาคนไข้ ส่วนหญิงสาวในชุดกิโมโนสีม่วงอ่อนลายดอกฟูจิที่นั่งอยู่ข้างกายเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา เธอมีเรือนผมสีขาวที่เกิดจากอุบัติเหตุการทดลองยาในบ้าน

          "มันสวยมากเลยค่ะท่านพ่อ ยิ่งมองก็ยิ่งหลงใหล" หญิงสาวเเอบเปิดกล่องยาบนหน้าตักโดยพลการ ภายในนั้นมีวัตถุดิบการปรุงยาเเละหนึ่งในนั้นมีดอกไม้ประหลาดอย่าง บลูสไปเดอร์ลิลลี่ ดอกไม้สีน้ำเงินที่เป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงยา ซึ่งพ่อของเธอปรุงยาชนิดนี้ให้ผู้ป่วยคนหนึ่งมาหลายครั้งเเล้ว

          "มันจะได้ผลจริงหรือคะ" หญิงสาวเริ่มมีใบหน้าวิตกกังวล พลันหันไปมองเสี้ยวใบหน้าของพ่อ เขามองตรงไปข้างหน้าด้วยสายตามุ่งมั่นพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยน "ท่านรักษาเขามาหลายครั้งเเล้ว เเต่เขากลับไม่ดีขึ้นเลย ข้าเกรงว่า..."

          "ฟูจิฮานะ บนโลกใบนี้ไม่มียาชนิดไหนที่ดื่มเเล้วหายได้ทันทีหรอกนะ ของเเบบนี้มันต้องรอเวลา" พ่อหันมาจับผมของลูกสาวเเล้วส่งยิ้มให้จนสาวน้อยเเสนน่ารักของเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจ "ตามจริงเจ้าไม่ต้องตามมาก็ได้"

          "ข้าเเค่กลัว..." น้ำเสียงของเธอเบาลงกว่าเดิมเล็กน้อย เเต่ใบหน้ายังคงมีความกังวลดังเดิม "จากที่ได้ยินข่าวลือมา เขาเป็นคนใจร้อนหุนหันพลันเเล่น ข้ากลัวว่าเขาจะทำร้ายท่าน"

          "คนเป็นหมอ มีหน้าที่รักษาคน ต่อให้เขาจะเป็นคนยังไง พ่อก็ต้องช่วยเหลือเขาให้ถึงที่สุด" พ่อยิ้มเเล้วพูดต่อ "เเต่ยังไงข้าก็ไม่อยากให้เจ้าเป็นหมอนะ ผู้หญิงที่เป็นหมอมักออกเรือนยาก เจ้าต้องฝึกเย็บปักถักร้อย ทำอาหาร พอออกเรือนไปเเล้ว สามีกับลูกจะได้สบายใจ"

          ฟูจิฮานะทำหน้ายู่พลันสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น "ข้าไม่ชอบ ข้าอยากเป็นเเบบท่านพ่อ" ก่อนจะหันหน้ากลับมาหาพ่ออีกครั้ง "ท่านยิ่งห้ามข้า ข้ายิ่งทำ!"

          ท่านพ่อยิ้มด้วยความเหนื่อยใจ ดวงตาคู่นั้นเเม้จะเเฝงไปด้วยรอยยิ้มเเต่กลับซ่อนความเหนื่อยล้าเอาไว้ด้วย ในตอนนั้นฟูจิฮานะเห็นสีหน้าของท่านก็พลันรู้สึกผิด เเต่ทำไงได้ เธอไม่ชอบงานบ้านงานเรือนนี่นา

          "ถึงเเล้วขอรับ" คนลากรถกล่าวเสียงเข้มเเข็ง

          ฟุจิฮานะลงมายืนบนพื้นในขณะที่พ่อจ่ายเงินให้เจ้าของรถลาก เธอมองประตูคฤหาสน์ตรงหน้าด้วยความตื่นตาตื่นใจ ตัวบ้านรายล้อมไปด้วยต้นซากุระ บ่อปลาคราฟหลากสี เเละสวนหินสไตล์ญี่ปุ่น ความงดงามของสถานที่เเห่งนี้ดึงดูดให้เธอเดินเข้าไปสัมผัสดอกซากุระ ชั่วชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้อาศัยในสถานที่เเบบนี้เเน่นอน ดังนั้นเธอจึงใช้ดวงตาคู่นี้จดจำความสวยงามทุกรายละเอียดเอง

          ถึงเเม้ว่าฟูจิฮานะไม่ชอบงานบ้านงานเรือน เเต่ดอกไม้เป็นสิ่งที่เธอโปรดปรานที่สุด เพราะไม่ว่าเธอจะเหนื่อยล้าสักเเค่ไหน เพียงเเค่มองเเละสูดดมกลิ่มหอมรวยรินก็ทำให้หัวใจชุ่มชื่นขึ้นมาทันที

          ขณะเดียวกันทางด้านคฤหาสน์ คิบุทสึจิ มุซัน เจ้าของคฤหาสน์กำลังนั่งอยู่ในห้องนอนที่เปิดประตูตรงระเบียงทางเดิน ทำให้มองเห็นสวนซากุระได้ชัดเจน

          ตอนนี้สภาพจิตใจของมุซันย่ำเเย่หนักกว่าที่ผ่านมา ซ้ำร้ายยังรู้สึกหัวร้อนเเทบอยากจะส่งเสียงอาละวาด เพราะร่างกายของเขาทรุดโทรมหนักขึ้นทุกวัน เนื่องจากดื่มยาของเเพทย์คนนั้นที่ลือกันนักหนาว่าเป็นหมอเทวดาผู้มีความสามารถพิเศษ หากเป็นหมอเทวดาจริงเเล้วเหตุใดร่างกายของเขาถึงไม่หายสักที!

          จังหวะนั้นเอง หางตาของมุซันเห็นเงาร่างของใครคนหนึ่งอยู่ในสวนซากุระ เขาหันไปทางระเบียงเเล้วทอดสายตาไปยังร่างในชุดสีม่วง ก่อนจะตะลึงงันโดยไม่รู้ตัว

          นางเป็นใคร

          หญิงสาวคนนั้นสวมกิโมโนสีม่วงอ่อนลายดอกฟูจิ เรือนผมสีขาวเกล้าเป็นมวยง่ายๆ เเละเสียบด้วยปิ่นเงินลายดอกไม้หนึ่งอัน ใบหน้าขาวผุดผ่องต้องเเสงเเดดอ่อนๆ ขณะที่ดวงสีม่วงราวกับอัญมณีกำลังมองดอกซากุระที่อยู่บนกิ่งก้านด้วยเเววตาอ่อนโยนเเฝงความเยือนเย็น ดูเเล้วเหมือนภาพทิวทัศน์อันสงบเงียบ

          ฟูจิฮานะรู้สึกเหมือนถูกจับตามองจึงหันไปทางคฤหาสน์ นั่นเป็นครั้งเเรกที่พวกเขาสองคนได้พบหน้ากัน เเต่สิ่งที่ทำให้มุซันเเปลกใจคือใบหน้าอ่อนโยนของเธอเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยไร้อารมณ์หลังจากที่เห็นเขา

          'คนๆ นั้นคือคุณคิบุทสึจิสินะ' ฟูจิฮานะดึงสติของตัวเองกลับมาเเล้วหันไปโค้งตัวเคารพเจ้าบ้านอย่างนอบน้อมก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเเล้วยิ้มบางๆ ให้เขา

          ไม่นานฟุจิฮานะก็ถูกสาวใช้ของคฤหาสน์พาเข้าไปนั่งดื่มชาในห้องรับเเขก ส่วนพ่อของเธอก็เข้าไปยังห้องของมุซันพร้อมกล่องยา พ่อยังคงจำคำพูดของมุซันได้เป็นอย่างดี คำพูดที่บอกว่าอยากเเข็งเเรงเเละไม่อยากตาย

          มุซันเห็นเเพทย์ประจำตัวเดินเข้ามาโค้งตัวเคารพ จากที่จิตใจสงบกลับเดือดขึ้นมาอีกครั้ง เขามองชายคนนั้นเดินเข้ามานั่งข้างกายเเละเปิดกล่องยาออกมาช้าๆ

          "อาการท่านเป็นยังไงบ้าง" คุณหมอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เเต่ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา

          มุซันเห็นหมอกำลังปรุงยาในวิธีเดิมๆ อีกครั้ง ซึ่งหนึ่งในวัตถุดิบนั้นคือบลูสไปเดอร์ลิลลี่ ดอกไม้สีน้ำเงินที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาวัตถุดิบอีกหลายชนิด พอรู้เเบบนั้นเเล้วก็พาลให้หงุดหงิดหัวเสียมากขึ้นกว่าเดิม นี่-ังคิดจะรักษาด้วยยาเดิมๆ อีกเหรอ! ก็เห็นสภาพเเล้วไม่ใช่เหรอว่าทรุดหนักกว่าเดิม!

          มุซันกำผ้าห่มเอาไว้เเน่นเเละคิดเตลิดไปเองว่า หากรักษากับหมอคนนี้ต่อไป เขาจะต้องตายเร็วขึ้นเเน่!

          "หากดื่มยานี้ไปอีกสักพัก ท่านจะต้องหายดีเเน่นอน" -ังคงพูดต่อไปด้วยรอยยิ้มละมุนขณะเตรียมวัตถุดิบตรงหน้าอย่างประณีต

          ในเมื่อความคิดของคนไข้เเละหมอสวนทางกันจนกู่ไม่กลับ มุซันตัดสินใจเลื่อนมือเข้าไปยังใต้เบาะนอนเเล้วหยิบของบางอย่างออกมาอย่างช้าๆ ซึ่งตอนนั้นคุณหมอหันทางเขาเพื่อบอกด้วยสายตาเอ็นดู

          "ในเมื่อท่านกำลังจะหายดีในอีกไม่นาน ควรดื่มยาตามกำ...!" หมอเบิกตากว้างเต็มไปด้วยความตกใจเมื่อเห็นปังตอขนาดใหญ่ลอยมาจากมุซัน ก่อนจะปักเข้ากลางศีรษะของเขาพอดี

          เลือดสีเเดงสดกระจายเต็มอากาศ มีเพียงคำเดียวที่เปล่งออกมาจากปากของเขา พร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความตกใจเเฝงความผิดหวัง

          "ทะ...ท่าน ท่าน..."

          "ไปให้พ้น!!!" นั่นเป็นคำเดียวที่มุซันตะคอกออกมาเสียงดัง ทำให้คนทั้งคฤหาสน์ต่างวิ่งสนั่นมาตามทางเดิน ไม่นานเสียงกรีดร้องก็ดังลั่นไปพร้อมกับร่างที่เป็นลมลงไปกับพื้น

          ฟูจิฮานะวิ่งมายังห้องนอนทันที ทว่าสองเท้าพลันชะงักค้างอยู่หน้าประตูเมื่อภาพตรงหน้าคือปีศาจในคลาบมนุษย์กับพ่อของเธอที่อยู่ในสภาพจมกองเลือด

          "ท่านพ่อ!!!" ฟูจิฮานะวิ่งเข้าไปโอบกอดร่างไร้ลมหายใจของผู้เป็นพ่อพลางร้องไห้อย่างคนสิ้นสติ

          จังหวะนั้นมุซันเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย พอเลิกเเขนเสื้อขึ้นกลับพบว่าเเขนเก้งก้างของเขาเริ่มขยายใหญ่ขึ้น เพราะร่างกายภายในกำลังสร้างกล้ามเนื้อ นั่นทำให้เขารู้สึกได้ถึงพละกำลังอันล้นเหลือเกินมนุษย์ ใบหน้าซีดขาวราวกับซากศพเริ่มมีรอยยิ้มเข้ามาเเทนที่อาการตกใจทีละน้อย

          "เเก!"

          มุซันหันไปทางต้นเสียงเเหลมเล็ก ใบหน้าของเธอฉายเเววอาฆาตเเค้น มือเปื้อนเลือดข้างหนึ่งขึ้นไปดึงปิ่นปักผมเอามาเป็นอาวุธก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาหาเขาอย่างบ้าระห่ำ เธอหวังจะใช้ปิ่นนั่นเเทงให้ทะลุหัวใจด้านชาของเด็กหนุ่ม เเต่ทว่ามุซันกลับใช้เพียงหลังมือข้างเดียวฟาดลงไปยังเเก้มของเธออย่างเเรง ร่างเล็กเเสนบอบบางจึงกระเด็นล้มลงไปนอนเเน่นิ่งบนพื้นทันที

          ใบหน้าซีดขาวของเขาเริ่มประดับรอยยิ้มสยดสยองมากขึ้นกว่าเดิม เขี้ยวขาวสองข้างเริ่มงอกออกมา ซึ่งนั่นเป็นจังหวะที่เขาเริ่มรู้สึกหิวกระหายร่างกายของมนุษย์

          "อึก..." เปลือกตาหนักอึ้งพยายามปรือขึ้นมองสถานการณ์ตรงหน้า เเม้ว่าภาพตรงหน้าจะเลือนรางมากเเค่ไหนเเต่ดวงตาอ่อนล้าคู่นี้ก็ยังเห็นภาพของพ่อนอนอยู่ตรงนั้น พลันนั้นก็เริ่มรู้สึกร้อนไปทั้งดวงตา ก่อนจะสัมผัสได้ว่ามีน้ำใสๆ เข้ามาบดบังการมองเห็นจนภาพขมุกขมัว

          'ท่านพ่อ ข้าเจอดอกไม้ประหลาดด้วยล่ะ' ภาพขาวดำที่เเทรกเข้ามาในตอนนี้ มันเป็นภาพจำก่อนตายหรือเปล่านะ นางเคยได้ยินมาว่าคนใกล้ตายจะได้เห็นภาพในอดีต

          'ลูกพ่อเจอของวิเศษเข้าเเล้ว' ท่านพ่ออุ้มเด็กน้อยที่กำลังกำดอกสไปเดอร์ลิลลี่ ใบหน้าของสองพ่อลูกยังคงกระจ่างชัดเเจ้งราวกับอยู่ตรงหน้า ใกล้เเค่เอื้อม

          'ฟุจิฮานะ คนเป็นหมอ มีหน้าที่รักษาคน ต่อให้เขาจะเป็นคนยังไง พ่อก็ต้องช่วยเหลือเขาให้ถึงที่สุด'

          ฟูจิฮานะพยายามยกมือไร้เรี่ยวเเรงไปทางพ่อของเธอ 'ข้าผิดเอง ข้าผิดทั้งหมด ข้าไม่น่าเจอดอกไม้อัปมงคลนั่นเลย' ในตอนนั้นมุซันเดินเข้ามาในรัศมีการมองเห็นของเธอพอดี

          เด็กหนุ่มมองหญิงสาวบนพื้น เขาลงไปคร่อมตัวเเล้วถอดชุดยูกาตะของเธอจนเหลือเพียงผิวขาวเนียน ปลายจมูกของเขาโน้มลงไปยังเนินผิวเนียนนุ่ม สูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้ที่มาจากกายของเธออย่างเเช่มช้า ก่อนจะเเลบลิ้นลงไปสัมผัสผิวพรรณของมนุษย์เพศหญิงเพื่อลิ้มลองรสชาติใหม่

          "-ปีศาจ" น้ำเสียงเคียดเเค้นชิงชังทำให้เขาเงยหน้าขึ้นไปสบตาเธอ "ไม่ว่าจะเกิดชาติไหน ข้าจะตามไปฆ่าเจ้า เราจะเป็นศัตรูกันตลอดไป ไม่มีความรู้สึกรักใคร่เเละสงสารใดๆ ทั้งสิ้น!" หยดน้ำตาพรั่งพรูออกมาจากดวงตาสีม่วงที่กำลังถลึงตาจ้องมองเขาจนเส้นเลือดปรากฏ มือข้างที่ถือปิ่นปักผมยังคงกำเเน่นจนเล็บมือจิกเนื้อ

          'ฟุจิฮานะ คนเป็นหมอ มีหน้าที่รักษาคน ต่อให้เขาจะเป็นคนยังไง พ่อก็ต้องช่วยเหลือเขาให้ถึงที่สุด' ถ้าเขาอยากหายทรมานมากนักล่ะก็ เธอจะสนองให้เอง

          "ไปตายซะะะ!"

          เธอตวาดคำโตใส่หน้าเขาทั้งน้ำตา ปิ่นเงินเเทงเข้าที่อกซ้ายของเขาอย่างสุดเเรงเกิด เต็มความเเค้น จนฝ่ายชายชะงักค้างไปกับที่พลันคิดว่าตนต้องตายเเล้ว ทว่าผิดคาด...เขายังไม่ตายซ้ำยังฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ว

          ใบหน้าขาวซีดเเลดูหล่อเหลาของปีศาจหนุ่มมองร่างบางใต้ร่างของตัวเอง ดวงตาเเดงสาดประกายความโกรธเเละความหิวกระหายอย่างสุดจะทน ประโยคสุดท้ายที่เขาบอกเธอคือ

          "ข้าจะกลืนกินเจ้าไปทั้งตัว"

          เเละสิ่งสุดท้ายที่ฟูจิฮานะเห็นคือคมเขี้ยวเเหลมคมในปากของเขากำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงกรีดร้องเเสนเจ็บปวดทรมานที่โดนกัดกินพร้อมวงเเขนอันเเข็งเเกร่งที่กอดรัดร่างเเทบเเหลกสลาย

          ฟุบ!

          หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากหมอน ใบหน้าเเละร่างกายชุ่มไปด้วยเหงื่อ

          'อีกเเล้วหรอ... ฝันเรื่องเดิมๆ มาตลอด 15 ปี เเถมผู้หญิงในฝันยังชื่อเหมือนเราอีก' ความกลัวเริ่มกัดกินหัวใจดวงน้อยทีละนิด ช่วงเเรกที่จำความได้ หลังตื่นจากความฝันก็ไม่รู้สึกกลัว เพราะคิดว่าคงฝันร้ายตามปกติเเละมีพ่อเเม่อยู่ข้างกายเสมอ เเต่พอฝันเเบบเดิมซ้ำๆ กลับหวาดกลัวขึ้นมาทุกวัน

          สาวน้อยคนนี้มีผมสีขาวราวกับหิมะเเละสีม่วงตรงปลายผม ชื่อของเธอคือ เคียวกะ ฟูจิฮานะ เธอมีเรือนผมสีนี้มาตั้งเเต่เกิดทั้งที่พ่อกับเเม่ผมสีดำ ตอนนี้เธอเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ในหมู่บ้านเเห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่พ่อกับเเม่ทิ้งไว้เป็นมรดกก่อนตาย พ่อป่วยตายด้วยโรคร้าย ส่วนเเม่ตายเพราะโดนปีศาจสังหารระหว่างขึ้นเขาไปหาสมุนไพรมารักษาพ่อ ฟูจิฮานะจึงต้องเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ตั้งเเต่อายุ 10 ปี

          สมัยที่เปิดร้านใหม่ๆ เคยมีเด็กผู้ชายผมสีดำคนหนึ่งเข้ามาจีบเธอ เขาเป็นคนร่าเริงเเละอ่อนโยนมาก เเต่สิ่งที่น่าขำก็คือ เขาเอาดอกไม้มาจีบเจ้าของร้านดอกไม้เนี่ยนะ ช่างไม่มีเซ้นเอาเสียเลย

          เธอนึกขำออกมาเบาๆ ก่อนจะหันไปมองเเจกันดอกไม้ที่มีดอกฟูจิอยู่ในนั้น เขาพูดว่าอะไรเเล้วนะ 'เธอฝันเห็นปีศาจบ่อยๆ ใช่มั้ย ถ้ามีดอกฟูจิอยู่ข้างๆ ปีศาจจะไม่กล้าเข้ามาเเน่นอน'

          ใบหน้าของเด็กผู้ชายคนนั้นยังคงกระจ่างชัดเเจ้งไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำ เเต่พอยิ่งนึกถึงเขามากขึ้นเท่าไหร่ ใบหน้าของเธอก็เริ่มหมองลงเมื่อนึกถึงเหตุการณ์หลังจากนั้น เพราะหลังจากวันที่เขามอบดอกไม้ให้เธอ ครอบครัวของเขาก็โดนอสูรฆ่าตาย ทั้งพ่อ เเม่ เเละพี่สาว เขาวิ่งหนีออกมาบอกคนในหมู่บ้านเเต่ไม่มีใครเชื่อเขาสักคน ซ้ำยังจับเขาใส่เกวียนเเละคิดจะพาไปหาหมอ เเต่รู้สึกว่าหลังจากนั้นเขาจะหนีไปได้

          ฟูจิฮานะรู้สึกว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเธอจะพบเหตุการณ์ที่ไม่ดี เธอมันตัวซวยจริงๆ หรอ?

          'ป่านนี้เด็กคนนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะ คงจะสูงมากเเน่ รู้สึกว่าเขาจะเเก่ว่าฉัน 1 ปี ตอนนี้คงอายุ 16 ปี โตเป็นหนุ่มเเล้วมั้ง'

          ก๊อกๆๆ

          เสียงเคาะประตูดังมาจากหน้าร้านด้านล่าง ดึกป่านนี้ ใครกันที่มาหาเธอ คงจะไม่ใช่พวกโรคจิตหรอกใช่ไหม

          "มาเเล้วค่ะ" ฟูจิฮานะลุกออกจากเตียงเเล้วหยิบเสื้อคลุมสีขาวมาสวมทับชุดนอน

          มุซันยืนอยู่หน้าร้านดอกไม้ในยามค่ำคืนอันเงียบสงบ เขาคิดมาตลอดว่าเขาทำพลาดที่เผลอฆ่าหมอประจำตัวของตัวเอง เพราะยาที่เขาทานไปเพิ่งออกฤทธิ์หลังจากฆ่าชายคนนั้น ทำให้เขามีพละกำลังและแข็งแรงได้ดั่งใจ แต่ตัวยายังไม่สมบูรณ์ทำให้เขากลายเป็นอสูร และส่วนผสมหลักในการทำยาที่เขารู้คือ บลูสไปเดอร์ลิลลี่ ดอกไม้หายากที่ปรากฏขึ้นมาในสถานที่เเห่งนี้

          ชายหนุ่มยังคิดอีกว่า หากใครรู้เรื่องบลูสไปเดอร์ลิลลี่หรือมีใครปลูกมันขึ้นมา คนๆ นั้นอาจจะคิดค้นยาที่สามารถกำจัดเขาได้ เขาจึงต้องตามไปสังหารทันที เพราะไม่ว่ายังไงความเป็นอมตะ และเดินเหินท่ามกลางแสงแดดได้ คือเป้าหมายสูงสุดของเขา

          ทันทีที่ประตูบ้านเลื่อนไปทางขวา ฟูจิฮานะมองเห็นเเผ่นออกของคนเเปลกหน้าเป็นอันดับเเรก คนผู้นี้เป็นชายหนุ่มผิวขาวซีดสวมชุดสูทราวกับมาจากเมืองหลวง พอเงยหน้าขึ้นไปมองกลับชะงักงันกันทั้งคู่!

          ดวงตาสีม่วงสบตากับดวงตาสีเเดงราวเลือดสด มุซันตะลึงงันถึงกับชะงักกรงเล็บข้างหนึ่งเอาไว้ทันที เขาคิดว่าหากเจ้าของบ้านเปิดประตูปุ๊บเขาจะลงมือสังหารอย่างรวดเร็ว ทว่าผิดคาด ทั้งใบหน้าคร่าตาเเละสีผมของเธอเหมือนกับหญิงสาวรายเเรกที่เป็นเหยื่อของเขา...

          'เธอตายไปเเล้วไม่ใช่หรอ!' เขาเป็นคนลงมือกัดกินร่างของเธอด้วยตัวเอง ไม่มีทางรอดอยู่เเล้ว ทำไมเธอถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้

          'หมอนี่ คนในความฝันเมื่อกี้!' ฟูจิฮานะดึงสติกลับมาก็รีบปิดประตูทันที เเต่มือของเขากลับจับประตูเอาไว้เเน่น พละกำลังขนาดนั้นเธอไม่มีทางต่อต้านได้อยู่เเล้ว

          "ฉันหลงทางน่ะ" มุซันกล่าวเสียงเรียบ เเต่ท่าทางที่ปฏิบัติต่อเจ้าของบ้านมันไม่สุภาพเอาเสียเลย! เจ้าคนไร้มารยาท!

 

+++

อ้างอิงเหตุการณ์จากภาพนี้



 

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

NANATUS 24 ต.ค. 62 เวลา 20:33 น. 1

อยากช่วย จขกท. แก้ความเข้าใจผิดนิดหน่อยครับ โคคุชิโบ UM1 ไม่ได้เคยใช้ปราณตะวันนะครับ เขาใช้ได้แค่ปราณจันทรา อ้างอิงจากตอนที่ 178

1
ก้อนเเป้ง 24 ต.ค. 62 เวลา 20:44 น. 1-1

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่าา ถ้าเจอส่วนที่เราเข้าใจผิดก็สามารถคอมเม้นต์บอกมาได้อีกเรื่อยๆ เลยนะคะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-08.png

0