ช่วยวิจารณ์สำนวนในการเขียนให้หน่อยค่ะ
ขออนุญาตินักอ่าน พี่ๆเพื่อนๆนักเขียนทุกท่าน
เรากำลังตั้งใจจะกลับมาเขียนนิยายอีกครั้งค่ะ หลังจากที่เคยเขียนแล้วลบไปหลายเรื่องเพราะขาดวินัย+ทำการบ้านไม่ดี ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ
ครั้งนี้เราตั้งใจว่าจะทำให้ได้ ตอนนี้เขียนติดไว้ที่บทนำ ก่อนจะเอาไปลง เราจึงอยากได้คำวิจารณ์เพื่อปรับปรุงตนเองค่ะ
ขอชี้แจงก่อนว่าเราไม่ได้คิดโปรโมทนิยายด้วยการมาตั้งกระทู้แบบนี้นะคะ เพราะเราลงแค่เนื้อหาบางส่วน ไม่ได้ลงชื่อเรื่อง เเละไม่มีนิยายที่กำลังแต่งค้างในบอร์ดนักอ่านค่ะ
วิจาร์มาเลยนะคะ จะแรงจะยังไงเรารับได้ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
บทนำ
วันที่สอง เดือนหก ปีที่สิบ แห่งเมืองเสียนหยาง แคว้นฉิน
คืนเดือนดับ จันทร์สลัวสาดส่อง กระนั้นก็ยังดูสว่างกว่าแสงดาวอยู่มาก ยามนี้ในช่วงปกติหากเหลียวมองไปทางใดก็มักจะพบแต่ความมืดมิด ไร้ซึ่งความคึกคักสนุกสนานดังเช่นกลางวัน
ทว่าคืนนี้กลับแปลกออกไป สุราดอกท้อราวร้อยไห สุราชั้นยอดของเสียนหยางที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติกลมกล่อมกลิ่นหอมแตะจมูก ถูกนำออกมาเพื่อใช้ดื่มฉลองให้กับชัยชนะหลังโจรกบฏโพกผ้าเหลืองถูกสังหารสิ้น
เมืองทั้งเมืองประดับประดาไปด้วยโคมไฟสว่างไสว อบอวลไปด้วยกลิ่นอาหารเริดรส เหล่าทหารกล้าไปจนถึงชาวบ้านต่างพากันล้อมวงดื่มกิน ชมการร่ายรำและแสดงเพลงพิณอย่าโล่งใจ ในสายตาของชาวบ้านค่ำคืนนี้จึงถือได้ว่าเป็นงานเลี้ยงที่รื่นเริงยิ่ง
แคว้นฉินมีลั่วหยางเป็นเมืองหลวง มีเสียนหยางเป็นเมืองชายแดนตะวันตกติดกับแคว้นหาน ช่วงสามปีมานี้โจรกบฏโพกผ้าเหลืองออกปล้นอย่างหนัก ชาวบ้านหวาดกลัวไม่ว่าทางกรจะส่งมือปราบกองใดมาก็ล้วนพ่ายแพ้ราบคาบ ท้ายที่สุดจึงพากันถวายฎีการ้องเรียนไปถึงองค์จักรพรรดิ
ด้วยเหตุนี้พระราชโองการแต่งตั้งผู้แทนมาจัดการความวุ่นวายจึงถูกประกาศพร้อมกับการเดินทางมาของแม่ทัพประจิม พร้อมด้วยพระอนุชาผู้เชี่ยวชาญยุทศาสตร์แคว้นฉิน
ด้วยความปรีชาของพระอนุชากอปรกับฝีมือกรำศึกของแม่ทัพประจิม หลังออกกวาดล้างเพียงครึ่งเดือนควันสัญญาณก็ถูกจุดขึ้นจากชายแดนทางทิศตะวันตก ตามมาด้วยเสียงกู่ร้องของเหล่าทหาร เมื่อหัวของโจรกบฏถูกตัดกลับมาเสียบประจานหน้าประตูเมืองได้สำเร็จ
องค์จักรพรรดิซึ่งประทับอยู่เมืองหลวงทรงปลาบปลื้มพระทัยยิ่งนัก มีพระราชองค์การปูนบำเหน็จแกแม่ทัพประจิม รวมถึงแต่งตั้งพระอนุชา หยางจิ้งเทียน ให้ดำรงตำแหน่งฉินอ๋อง ในวัย15ชรรษา
มิมีผู้ใดเอ่ยถึงความสูญเสียของการศึกในครั้งนี้
ยิ่งมิมีผู้ใดให้ความสนใจถึงกลวิธี ว่าพระอนุชา หยางจิ้งเทียน ใช้เล่ห์กลอันใด จึงทำให้ปัญหาเรื้อรังกว่า3ปีเรื่องโจรโพกผ้าเหลืองคลี่คลายลงได้ในเวลาเพียงแค่15วัน........
9 ความคิดเห็น
ไม่ชำนาญนิยายจีนค่ะ แต่นิยายเพคะพอถนัดอยู่บ้าง
เท่าที่อ่าน...สำนวนก็โอเคอยู่ค่ะ แต่คำผิด คำตกหล่นมีตลอดทาง การเปรียบเปรย+การใช้ราชาศัพท์ในบางช่วงยังไม่ถูกต้องนัก ลองตรวจเช็กและปรับแก้ดูค่ะ
ยกตัวอย่างคำผิดค่ะ (เอาตอนใกล้ๆ จะจบแล้วกัน)
พระราชองค์การ คำที่ถูกต้องเขียนอย่างนี้ค่ะ พระราชโองการ
ยกตัวอย่างการใช้ราชาศัพท์ที่ถูกค่ะ
ขอยกจุดเดียวกับพระราชโองการนะคะ ตรงจุดนี้ใช้คำว่า "โปรด" จะเหมาะสมกว่าค่ะ โปรดให้ปูนบำเหน็จแก่แม่ทัพประจิม เป็นต้น
คำที่ควรหยิบมาใช้+การเปรียบเปรย
กลวิธี คำนี้ไม่ผิดค่ะ แต่ในการเดินเรื่องที่เกี่ยวกับการรบ คำที่น่าจะหยิบมาใช้ควรเป็น กลยุทธ์ หรือยุทธวิธีการรบมากกว่า
โล่งใจ ไม่ผิดเช่นกัน แต่อารมณ์ที่กำลังดื่มกินในงานเลี้ยงหลังได้รับชัยชนะ ความน่าจะเป็น...คือเพลิดเพลิน รื่นเริง หรือเบิกบานใจ
//แนะนำคร่าวๆ ขั้นต้นแค่นี้ค่ะ หวังว่าจะได้รับประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ จะนำไปปรับปรุงแน่นอนค่ะ ขอบคุณนะคะ^^
สำนวนโอเครครับเเต่สำหรับผมเเล้วคิดว่าสำนวนกลายเป็นนิยายไทยไปครับบอกไม่ถูกมันดูปรุงเเต่งคงเเล้วเเต่คนชอบ ส่วนเนื้อเรื่องดูเเล้วคล้ายกับเลียดก๊ก
1.สมมุตว่านี่คือเลียดก๊ก ทำไมอนุชาเเซ่หยางไม่ใช่เเซ่อิ๋ง หากไม่ใช่เลียดก๊กก้ไม่เป็นไรครับข้ามไปได้เลย
2.ชื่อตำเเหน่ง เเนะนำให้เป็นฉินหวัง ครับดูรื่นหูกว่า หวังกับอ๋องคือตำเเหน่งเดียวกัน เพียงเเต่ออกเสียงคนละสำเนียง อาจจะทำให้นิยายดูอินเตอร์ขึ้นเล็กน้อย
สู้สู้ๆครับ
ขอบคุณค่ะ^^ ส่วนตัวก็รู้สึกแปร่งๆกับสวนการเขียนตัวเองอยู่ค่ะ พอได้ฟังคำวิจาร์ก็รู้เลย จะปรับแก้ค่ะ^^
เสริมเรื่องชื่อตำแหน่งครับ ใช้แบบปกติว่าฮ่องเต้ก็ได้นี่นา
ขอบคุณค่ะจะเก็บไปพิจารณานะคะ แต่ส่วนตัวติดใช้คำว่า จักรพรรดิไปแล้ว ฮือ
คืนเดือนดับ จันทร์สลัวสาดส่อง กระนั้นก็ยังดูสว่างกว่าแสงดาวอยู่มาก --คืนเดือนมืด ดวงดาวทอแสงเลือนลางบนฝากฟ้า--ชอบแนวง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องประดิษฐ์คำอะไรให้เลิศหรู--เดือนดับ+ยังต้องบวกจันทร์สลัว อีกรอบ คือมันก็ดูสวยงามดี แต่หลายๆ ครั้งเข้า ผมอ่านไป ก็ดีด ข้ามๆ ไป บางครั้ง ไม่อ่านมันแล้วบทบรรยายข้ามไป บทพูดเลยแล้วกัน
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ^^ เราก็เป็นค่ะ คำบรรยายที่ยาวเกินไป เราก็ไม่อ่าน เราไม่อยากให้นิยายตัวเองเป็นแบบนั้น เลยพยามหัดเขียนให้กระชับใจความอยู่ค่ะ รู้สึกตัวเองจะตืดบรรยายยืดเยื้อเกินไป จะปรับปรุงนะคะ^^
ผมไม่ได้ถนัดการใช้สำนวนแบบจีนโบราณเท่าไหร่ครับ แต่ก็พอแนะนำให้ได้ ขั้นแรกเราต้องมองผลงานตัวเองในมุมมองของนักอ่าน แล้วต้องอ่านให้หลายรอบด้วย เราจะสังเกตได้ถึงจุดที่แปลกประหลาดครับ
ผมขอยกตัวอย่างให้บรรทัดหนึ่งก็แล้วกัน
คืนเดือนดับ จันทร์สลัวสาดส่อง กระนั้นก็ยังดูสว่างกว่าแสงดาวอยู่มาก ยามนี้ในช่วงปกติหากเหลียวมองไปทางใดก็มักจะพบแต่ความมืดมิด ไร้ซึ่งความคึกคักสนุกสนานดังเช่นกลางวัน
คำว่า “คืนเดือนดับ” นี้ ปกติมันก็หมายถึงค่ำคืนที่มันไม่มีดวงจันทร์ จึงไม่จำเป็นต้องเขียนคำว่า “จันทร์สลัวสาดส่อง”หรือถ้าต้องการเขียนจริง เราควรตัดคำว่า “คืนเดือนดับ” ออกไปนะครับ ไม่อย่างนั้นมันจะขัดแย้งกันครับ
นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้วยังมีข้อความช่วงท้ายอีกด้วย สังเกตในเครื่องหมายคำพูดข้างล่างครับ
ยามนี้ในช่วงปกติหากเหลียวมองไปทางใดก็มักจะพบแต่ “ความมืดมิด” ไร้ซึ่งความคึกคักสนุกสนานดังเช่นกลางวัน
สรุปแล้ว มันจะ “แสงสลัว” หรือว่า “มืดมิด“
มันจะเกิดคำถามอย่างนั้นขึ้นมาครับ อันนี้ผมได้ค้นพบกับตัวเองมาแล้ว เราต้องแต่งนิยายทิ้งเอาไว้ประมาณอาทิตย์หนึ่งแล้วค่อยกลับมาอ่านทวนใหม่ เราจะเห็นจุดบกพร่องได้มากเลยครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ เขียนบ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งครับ
อันนี้เราเห็นด้วย คิดอย่างนั้นเหมือนกัน จะสลัวหรือมืดมิดต้องเลือกสักอย่าง แล้วก็ตรงดังเช่นกลางวัน ไหนๆ ก็เป็นนิยายแนวเพคะที่ต้องปรุงแต่งคำบ้างอยู่แล้ว ความน่าจะเป็น น่าจะใช้คำว่า...เฉกเช่นระหว่างวัน
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทั้งสองท่าน คุณwhite cane และคุณทิตภากร : กันต์ระพี มากๆเลยนะคะ คำแนะนำดีและเป็นประโยชน์มากๆเลย
ส่วนที่ว่าให้แต่งเาไว้ก่อนแล้วมาอ่านเห็นดด้วยเลยค่ะ พอย้อนกลับอ่านนิยายเก่าตัวเอง ความคิดที่ว่า หืม....... นี่เราเขียนอะไร? มันก็เกิดขึ้นมาค่ะ 5555 จะพยายามค่ะ^^
ลองช่วยแก้บ้าง ไม่ชอบอย่างอนกันเด้อ
วันที่สอง เดือนหก ปีที่สิบ แห่งเมืองเสียนหยาง แคว้นฉิน (รู้สึกว่ามันเยิ่นเย้อ เป็นชุดคำยังไงไ่ม่รู้)
--คืนเดือนดับ จันทร์สลัวสาดส่อง คืนเดือนดับแทบไม่เห็นพระจันทร์เลย แต่ประโยคต่อมา กระนั้นก็ยังดูสว่างกว่าแสงดาวอยู่มาก เลือกสักอย่างว่าจะมีแสงหรือไม่มี
--ทว่าคืนนี้กลับแปลกออกไป สุราดอกท้อราวร้อยไห สุราชั้นยอดของเสียนหยางที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติกลมกล่อมกลิ่นหอมแตะจมูก ซ้ำสุรา กับสุรา รวบเป็นประโยคเดียวได้ ถูกนำออกมาเพื่อใช้ ตัดใช้ออก ดื่มฉลองให้กับชัยชนะหลังโจรกบฏโพกผ้าเหลืองถูกสังหารสิ้น
--อาหารเริด เลิศรส
--ด้วยเหตุนี้พระราชโองการแต่งตั้งพระอนุชา....และแม่ทัพประจิมเป็นผู้แทนเพื่อจัดการความวุ่นวายจึงถูกประกาศออกมา
--ด้วยพระปรีชาของพระอนุชากอปรกับประสบการณ์ของแม่ทัพประจิมที่เคี่ยวกรำศึกมานาน หลังออกกวาดล้างเพียงครึ่งเดือน ควันสัญญาณก็ถูกจุดขึ้นจากชายแดนทางทิศตะวันตก (ควันสัญญาณคือบอกว่าชนะเหรอ?) ตามมาด้วยเสียงกู่ร้องของเหล่าทหาร เมื่อหัวของโจรกบฏถูกตัดกลับมาเสียบประจานหน้าประตูเมืองได้สำเร็จ (ประโยคช่วงนี้ยังงง ๆ)
--15ชันษา
--ไม่มีผู้ใดเอ่ยถึงความสูญเสียของการศึกในครั้งนี้
บนก็มิ ล่างก็มิ ไม่จำเป็นต้องแทน มิ เป็ํนไม่ตลอดก็ได้
ปอลิง ปรับตามความเห็นของเรา ดูของคนอื่นแล้วปรับเป็นขอจขกทเอง
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะ เรากำลังปรับแก้พอดี เลยได้ตรวจซ้ำอีกรอบ
ไม่โกรธเลยค่ะ ดีใจมากๆ ^^
ด้วยเหตุนี้พระราชโองการแต่งตั้งผู้แทนมาจัดการความวุ่นวายจึงถูกประกาศพร้อมกับการเดินทางมาของแม่ทัพประจิม พร้อมด้วยพระอนุชาผู้เชี่ยวชาญยุทศาสตร์แคว้นฉิน ด้วยความปรีชาของพระอนุชากอปรกับฝีมือกรำศึกของแม่ทัพประจิม หลังออกกวาดล้างเพียงครึ่งเดือนควันสัญญาณก็ถูกจุดขึ้นจากชายแดนทางทิศตะวันตก ตามมาด้วยเสียงกู่ร้องของเหล่าทหาร เมื่อหัวของโจรกบฏถูกตัดกลับมาเสียบประจานหน้าประตูเมืองได้สำเร็จ
---
เห็นใช้ "ถูกประกาศ" "ถูก.." มีหลายถูกเลย มันเป็นสำนวนแบบ passive voice คือผมว่าไม่จำเป็นต้องใช้มากขนาดนี้ก็ได้มั้งครับ เขียนตรง ๆ เลยก็ได้ เว้นแต่มีเหตุผลพิเศษบางอย่าง เช่นต้องเน้น object อย่างราชโองการ สัญญาณควัน หรือหัวของโจรกบฎ แต่เท่าที่เห็นผมเดาว่า จขกท. อยากเน้นแม่ทัพประจิมและการกระทำของเขามากกว่า ก็น่าจะเขียนแบบปกติ active voice เป็น ประธาน+กริยา+กรรม ใส่คำขยายในที่ ๆ ต้องการได้
เป็นอย่างที่คุณNyx บอกมาจริงๆค่ะ พอเอาไปรับแก้เเล้วโล่งขึ้นเยอะเลย ขอบคุณนะคะ ^^
ขอออกตัวก่อนว่าไม่ถนัดนิยายจีนเหมือนกันนะคะ
พลอยลองไล่อ่านคอมเม้นของท่านอื่นๆแล้วก็มีความเห็นคล้ายๆกัน
เลยจะขอแนะนำในข้อที่เห็นว่าสำคัญๆละกันค่ะ
1.การเรียงลำดับการเล่าเรื่อง
อยากให้ผู้เขียนลองเรียงลำดับการเล่าเรื่องสักหน่อยค่ะ อธิบายยังไงดีน้า คือ..เท่าที่อ่านตอนนี้รู้สึกว่าการโฟกัสในแต่ละประโยค จากประโยคหนึ่งถึงอีกประโยคหนึ่งมันดูจะกระโดดไปกระโดดมาค่ะ ทำให้การสร้างจินตนาการของผู้อ่านชะงักไป เช่น
คืนเดือนดับ จันทร์สลัวสาดส่อง กระนั้นก็ยังดูสว่างกว่าแสงดาวอยู่มาก ยามนี้ในช่วงปกติหากเหลียวมองไปทางใดก็มักจะพบแต่ความมืดมิด ไร้ซึ่งความคึกคักสนุกสนานดังเช่นกลางวัน
ทว่าคืนนี้กลับแปลกออกไป สุราดอกท้อราวร้อยไห สุราชั้นยอดของเสียนหยางที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติกลมกล่อมกลิ่นหอมแตะจมูก ถูกนำออกมาเพื่อใช้ดื่มฉลองให้กับชัยชนะหลังโจรกบฏโพกผ้าเหลืองถูกสังหารสิ้น
เมืองทั้งเมืองประดับประดาไปด้วยโคมไฟสว่างไสว อบอวลไปด้วยกลิ่นอาหารเริดรส เหล่าทหารกล้าไปจนถึงชาวบ้านต่างพากันล้อมวงดื่มกิน ชมการร่ายรำและแสดงเพลงพิณอย่าโล่งใจ ในสายตาของชาวบ้านค่ำคืนนี้จึงถือได้ว่าเป็นงานเลี้ยงที่รื่นเริงยิ่ง
อย่างตอนนี้ หลังจากบรรยายว่ายามปกติของคืนเดือนดับมองไปทางไหนก็จะพบแต่ความมืด ไม่มีความสนุกสนาน ก็ควรจะเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามของยามปกติ ก็คือ เมืองทั้งเมืองประดับประดาด้วยโคมไฟ... อย่างงี้มากกว่าค่ะ แล้วค่อยกล่าวไปถึงการดื่มสุรา แล้วจึงบอกเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงเกิดการฉลอง
ถ้าเรียงลำดับไม่ดีผู้อ่านอาจจะงงได้ค่ะ อย่างตอนที่พลอยอ่าน คืนเดือนดับ..แต่มีแสงจันทร์..สรุปว่าสว่าง? แล้วก็บอกปกติพบเจอแต่ความมืด...กลับมามืด? แต่ตอนนี้มีคนกินเหล้ามากมาย..กินทั้งมืดๆ? เมืองทั้งเมืองประดับโคม..อ๋อ มีไฟ? คือเหมือนภาพในหัวคนอื่นจะไฟติดๆดับๆอ่ะค่ะ
แนะนำให้ค่อยๆเรียงลำดับภาพ แล้วก็โฟกัสไปทีละเรื่องดีกว่า เหมือนเวลาเราดูหนังอ่ะค่ะ จากภาพรวมที่ใหญ่กว่าแล้วค่อยๆย่อลงไปเล็กลง
อีกอย่างที่ต้องเรียงลำดับสักหน่อยคือเรื่องฐานะแล้วก็ความสำคัญค่ะ อย่างเช่นตอนที่กล่าวว่าแม่ทัพประจิมมาช่วยพร้อมด้วยพระอนุชา ความจริงแล้วพระอนุชามียศมากกว่า แม่ทัพควรเป็นผู้ติดตาม จึงควรกล่าวว่าพระอนุชามาช่วยพร้อมด้วยแม่ทัพประจิม อีกทั้งกล่าวถึงแม่ทัพขึ้นก่อนทำให้ผู้อ่านคิดว่าต้องการจะเน้นไปที่แม่ทัพ แต่พออ่านมาจนจบถึงรู้ว่าตั้งใจเน้นไปที่พระอนุชา ทำให้สับสนเล็กน้อยค่ะ
2.เป็นเรื่องการใช้คำค่ะ
อย่างที่ท่านอื่นๆแนะนำไปบ้างแล้ว ก็คืออยากให้ผู้เขียนศึกษาและเลือกใช้คำให้มากกว่านี้สักนิดค่ะ
อย่างเช่น
วันที่สอง เดือนหก ปีที่สิบ แห่งเมืองเสียนหยาง แคว้นฉิน = ตามหลังแห่งควรเป็นรัชสมัยมากกว่า ถ้าในกรณีนี้ตัดคำว่าแห่งออกจะดูกระชับแล้วก็จดจำง่ายกว่าค่ะ
คืนเดือนดับ=คืนที่มืดสนิท ไม่เห็นพระจันทร์ เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรมีแสงเลย
กลิ่นหอมแตะจมูก = ควรเป็นเตะจมูกค่ะ คือเป็นกลิ่นที่พิเศษมากจนมาสะกิดที่จมูกแรงๆ
ชมการร่ายรำและแสดงเพลงพิณ = หน้ากับหลังคำว่า และ ควรเท่ากันค่ะ เช่น ในที่นี่คือ กริยา+การ... = ‘ชมการร่ายรำและฟังการบรรเลงเพลงพิณ’ ต้องระวังการเลือกใช้คำอีกสักหน่อยค่ะ
ไม่รู้จะพอเป็นประโยชน์บ้างไหมนะคะ ไม่ถนัดสำนวนของจีนเท่าไหร่ ถ้าตรงไหนแนะนำไม่ถูกยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ
ยังไงลองอ่านแนวที่ตัวเองเขียนเยอะๆค่ะ จะได้ยืมวิธีการกับการใช้คำของผู้เขียนท่านอื่นมาใช้ได้
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ
เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ ได้เห็นจุดบกพร่องมากขึ้นไปอีก ขอบคุณนะคะ ^^
มันมีข้อบกพร่องเยอะมาก จนคิดว่า คุณควรนำงานที่ประเมินเองว่าดีพอให้คนอื่นเสียเวลา
แล้วนำออกมาให้คนช่วยดู ไม่ใช่งานที่ด้อยคุณภาพขนาดนี้
- ข้อมูลผิด เช่น คืนเดือนดับ ที่หมายถึงข้างแรม กลับให้มีจันทร์สลัว
- การเรียบเรียงประโยค อย่างผิดๆ ไม่มีหลักการ เช่น - ทว่าคืนนี้กลับแปลกออกไป- ประโยคหน้ากับประโยคหลัง ไม่มีอะไรสัมพันธ์กัน
- การใช้คำผิด - ราชาศัพท์ ผิดพลาดมหาศาล
- การพิมพ์ผิด ตกหล่นมากมาย เละเทะ จนบอกไม่หมด - อาหารเริดรส ยุทศาสตร์ ชรรษา
...สุราดอกท้อราวร้อยไห สุราชั้นยอดของเสียนหยางที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติกลมกล่อมกลิ่นหอมแตะจมูก ถูกนำออกมาเพื่อใช้ดื่มฉลองให้กับชัยชนะหลังโจรกบฏโพกผ้าเหลืองถูกสังหารสิ้น...ขอมีส่วนร่วมนิดหนึ่งครับ บทบรรยายตอนนี้ยังดูแข็ง ๆ ไปนิด ผมเกลาให้ใหม่เป็นแบบนี้นะครับ... สุราดอกท้อรสเลิศของแคว้นฉิน ถูกลำเลียงมามิขาดสาย สุราที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติกลมกล่อมกลิ่นหอมยั่วใจนักเลงสุราและผู้มีสุนทรียะในหัวใจ ถูกนำออกมาเพื่อดื่มเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะหลังจากปราบเสี้ยนหนามโจรกบฏโพกผ้าเหลืองไปจนหมดสิ้นจากแผ่นดินแคว้นฉิน...
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?