ชวนมาแชร์กันค่ะ นอกจากเขียนแล้ว ชอบอ่านนิยายกันไหมคะ แล้วเวลาเลือกอ่านนิยายสักเรื่อง เลือกจากนามปากกา หรือเลือกจากอะไรกันบ้าง

อ่านอยู่ค่ะ จุดประสงค์หลักคืออ่านเอาสนุก ส่วนผลพลอยได้จากการอ่านคือได้ซึมซับสำนวนวิธีการเขียน เพิ่มคลังคำศัพท์ในหัว หาแนวใหม่ๆ หาไอเดียหรือแรงบันดาลใจจากนิยายเรื่องอื่นที่อ่าน

ส่วนเลือกอ่านนิยายเราจะเลือกจากแนวเรื่อง ปก คำโปรยค่ะ (ไม่ใช่สายตามนักเขียนเป็นทุนเดิม ง่ายๆ คือขี้เกียจตามและไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่) เราชอบดูที่เนื้อเรื่องมากกว่า บางทีเจองานเขียนดีบ้างแย่บ้างสลับกันไป แล้วก็ซื้อนิยายตามกระแสบางเรื่องมาอ่าน (แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ซื้อ ส่วนที่ซื้อคือส่วนน้อย)

ส่วนการเขียนนิยายของตัวเอง อันที่จริงเคยเป็นสายดองมาก่อนที่กลับตัวกลับใจมาเป็นสายเขียนให้จบ จุดประสงค์หลักคืออยากหารายได้จากสิ่งที่ชอบ เลยต้องพยายามเตือนตัวเองให้เขียนนิยายนะ กำหนดเดทไลน์ให้ตัวเอง ส่วนใหญ่ก็จะขี้เกียจจนเลยบ่อยๆ หรือคิดเนื้อไม่ออกแต่งไม่ออก แต่ก็เตือนตัวเองว่าถึงเลยเดทไลน์แรกก็มีเดทไลน์สองรออยู่ เดทไลน์นี้ต้องลงนิยายแล้วต้องเสร็จแล้วให้ทัน ไม่งั้นผู้อ่านหาย อะไรแบบนี้ค่ะ บังคับตัวเองให้นั่งหน้าจอ มองกระดาษเปล่าๆ ทบทวนเนื้อเรื่อง ไปๆ มาๆ เดี๋ยวก็คิดต่อได้เอง ถึงเขียนได้วันนึงครึ่งหน้าหรือน้อยกว่าครึ่งหน้าก็ไม่เป็นไร เขียนได้สองสามบรรทัดก็ช่าง อย่างน้อยก็ได้เขียน เนื้อเรื่องยังได้ขยับ ดีกว่าปล่อยไปเปล่าๆ แล้วเนื้อเรื่องเท่าเดิม

ยังอ่านอยู่ค่ะ ที่อ่านก็มีนิยายของเคโงะ ฮินาชิโงะ โอตสึอิจิก็ยังอ่านอยู่ ถ้านิยายอื่นก็ของ เออิจิ นาคาตะ แนวนี้เลือกนิยายจากนามปากกาเหมือนกันค่ะ แต่เป็นนิยายแนวที่ชอบถึงจะอ่าน ดูจากนามปากาผู้แปลด้วยค่ะ

ปกติเราเลือกอ่านจากคำโปรยค่ะ จากนั้นก็จิ้มเข้าไปอ่าน ถ้าติดใจค่อยไปตามนักเขียนต่อ วนลูปแบบนี้เรื่อยๆ

และล่าสุดเรื่องที่อ่านปัจจุบัน อ่านไปอ่านมามารู้ทีหลังว่าเป็นนักเขียนคนเดียวกันกับเรื่องที่อ่านไปก่อนหน้านี้ 555

อ่านจ้า จะเป็นนักเขียนได้เราต้องเป็นนักอ่านด้วยค่ะ นักเขียนเดี่ยวๆ ค่อนข้างรอดยากนะ นักเขียนที่เขียนแล้วติดท็อป ติดชาร์จ ได้ bestseller เขาก็ต้องเป็นนักอ่านมาก่อนแล้วก็นำทักษะการเล่าเรื่อง การเขียนบรรยายหรืออื่นๆ มาปรับปรุงตัวเองแล้วทำให้นิยายดีขึ้น

การอ่านก็เป็นอีกวิธีหนึ่งของการพัฒนา มีความฝันอยากเป็นนักเขียนก็ต้องอย่าหยุดอ่านค่ะทุกท่าน 555

<a href="https://www.kagider.org/"> sdfาร่sdf</a> [url=https://www.kagider.org/] sdfาร่sdf[/url] [https://www.kagider.org/ sdfาร่sdf]

อ่านอยู่ค่ะ เวลาเลือกอ่านจะเลือกจากคำโปรย ถ้าน่าสนใจก็ลองเข้าไปอ่าน แต่ก็อย่างว่าแหละเนอะ เริ่มแรกการบรรยายก็จะเป็นการปูพื้น ต้องอย่างน้อยก็ประมาณบท 2-3 (ที่เคยเจอมานะ)ถึงจะเข้าเนื้อหาหลัก ๆ แน่นอนว่าเมื่อเริ่มแรกมันเป็นการปูพื้นฐาน สำหรับเราถ้ามันรู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้ประทับใจตั้งแต่แรกก็จะกดออกและคิดว่า สักวันจะกลับมาเปิดใจอ่าน ผลสรุปคือติดงอมแงมทุกเรื่อง!

ในทางกลับกัน เปิดมาน่าติดตามเลยก็ติดงอมแงมเช่นกัน อันนี้ขอนับว่าเป็นกรณีแรกละกันเนอะ กรณีที่สองคือนักเขียนเหมือนกันค่ะ มีนักเขียนอยู่ไม่กี่ท่านที่ติดตามแทบทุกเรื่อง ไม่นับแฟนฟิคนะคะเพราะไม่ค่อยชอบ^^;

กรณีที่สาม แนวค่ะ แนวเกิดใหม่มีเยอะแยะแค่ไหนเราก็รับได้นะคะ แต่!! การที่เกิดใหม่เป็นนางร้ายแล้วอยากอยู่แบบธรรมดาไป ชั้นจะไม่ร้ายตามต้นฉบับเอยอะไรนี่คือตัดออกไปเลย สำหรับเราถ้าจะร้ายก็ร้ายให้สุดไปเลยดีกว่า(ความคิดส่วนตัวนะคะ)

กรณีที่สี่ การใช้คำถูกผิด บางคนเราเข้าใจว่าเขาไม่ได้ตรวจคำผิดก่อนหรือตรวจทานแล้วยังมีตกหล่นอันนี้ไม่เป็นไร อภัยได้ แต่ 'บางคน' เขียนผิดแบบตั้งใจเลยหรือไม่รู้อันนี้กดออกเลย อย่างเช่นการใช้ ค่ะ คะ นะคะ วะ ว่ะ บางมีโผล่มาประโยคคำถามต้องลงท้ายด้วย คะ แต่บางคนลงท้ายด้วย ค่ะ แบบ ไปไหนค่ะ เป็นต้น (ยกตัวอย่างแม่ตัวเอง เราแก้ให้บ่อยมากกก แต่แม่ไม่จำเห็นทีคือหงุดหงิดแปลก ๆ 555) หรือหากเป็นการพูดมีหางเสียงของผู้ชายที่สุดแสนจะง่ายคือ ครับ ทั้งประโยคคำถามและบอกเล่า แต่จะมีบางพวกที่เขียน คับ ความรู้สึกแบบ... ไม่รู้จริง ๆ หรือขี้เกียจใส่ตัว ร ฮะ

โอ้ย พิมพ์ยาวมาก555 รู้สึกเหมือนตัวเองเรื่องมากโคตรเลย หลัง ๆ มานี้เหมือนจะเป็นการบ่นแฮะ

นานๆทีจะมีกระทู้แบบนี้ คิดถึงมาก...

งั้นมาตอบกันเลย ขั้นแรกเราเลือกดูคำโปรยของเรื่อง ว่าอ่านแล้วมีอะไรน่าสนใจบ้าง สองแนวเรื่อง ถ้าดราม่าหนักๆก็ไม่เอาค่ะ เราชอบตลกคอเมดี้มากกว่า ถึงแม้ว่ามันจะมีฉากดราม่าบ้างปะปลายก็ตาม ถือว่าเป็นสีสันของเรื่องที่ควรมี และสามเลือกดูว่าแนวเรื่องไปในแนวทางแบบไหน ถ้าผู้เขียนมีสำนวนการเขียนที่ดี จะติดตามต่อไปค่ะ และรวมถึงผลงานอื่นๆอีกด้วย ถ้าผู้เขียนออกผลงานที่ดีและทำให้เรารู้สึกสนุกและอยากติดตามอีก เราก็จะคนนั้นอยู่ในความทรงจำเลยก็ว่าได้ จะจำชื่อนามปากกาไว้อย่างแม่นยำเลยล่ะค่ะ

ตอนนี้ก็อ่านอยู่ค่ะ พอผันตัวเองมาเป็นนักเขียนยิ่งอ่านมากกว่าเดิมอีกค่ะ ฮ่า ๆ

ส่วนเรื่องเลือกนิยายจากอะไร ถ้าหมายถึงเลือกอ่านตัวเราเลือกจากคำเปรยก่อนเป็นอย่างแรกจากนั้นก็ไปอ่านข้อมูลของตัวเรื่องและบทนำค่ะ ถ้าน่าสนใจก็อ่านต่อถ้าไม่ก็ลาก่อน แต่ถ้าเป็นการเลือกซื้อนิยายมาเก็บเอาไว้ล่ะก็ส่วนใหญ่เราซื้อก็ต่อเมื่อเราชอบเนื้อหาจริง ๆ ไม่ได้สนใจเรื่องนามปากกาเท่าไหร่ แค่ชอบก็ซื้อ