คุณเคยอยู่จุดที่ต่ำที่สุดระดับไหน ?
ตั้งกระทู้ใหม่
เชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านมาจุดนี้กันมาแล้ว
จุดที่ต่ำที่สุดของคุณเคยต่ำสุดระดับไหน ?
11 ความคิดเห็น
ใช้เงินวันละ 30 บาท
แล้วคุณมีวิธีรับมือยังไงครับ กว่าจะผ่านจุดๆนั้นมาได้
ขึ้นมินิบัส+เดิน ค่ารถวันละไม่เกิน 7 บาท บางวันเดินตั้งแต่หัวลำโพงไปสี่แยกอโศก ประหยัดเงิน บางวันก็เดินจากหัวลำโพงไปสี่แยกหนองแขม
ค่าอาหาร
ซื้อหมูปิ้งไม้ละ 5 บาทสองไม้ 10 บาท
ข้าวสวย 10 บาทแบ่งกินสองมื้อ
ปีนั้นมีเงินใช้แค่เดือนละ 300 บาท ต้องอยู่ให้ได้หนึ่งปี
รายเดือนซื้อกาแฟ 50 กินทั้งเดือน
น้ำตาล 15 บาท
ค่าข้าววันละ 30 บาท
โทรศัพท์ใช้หยอดเหรียญเอา เติมเงินเดือนละ 20 บาท
ค่าหอ รวมน้ำไฟเดือนละ 1700 อยู่หอพักหญิงห้องเล็กๆ
ก็ทนอยู่แบบนั้นปีนึงผ่านมาได้นะ ใช้เงินทั้งเดือนต้องไม่เกิน 2,000 บาท
ทุกวันนี้ใช้เงินวันละเท่านั้นแหละ มากสุดคือ 50 บาท
สุดยอดมากคับ กว่าจะผ่านมาได้สุดๆ ผมเป็นกำลังให้นะครับ สู้ๆครับ
ขอบคุณค่ะกว่าจะมาถึงทุกวันนี้เจ็บมาเยอะ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว
ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะครับ
น่าสงสารจังค่ะ
ขุดบ่อส้วมซึมลึก 4 เมตร
ขุดเสร็จ ใช้ผ้าปิดใช่มั้ยคับ
ขุดหลุมทำบ่อส้วมครับ ไม่ใช่ลงไปสูบน้ำส้วม
อ่อๆครับ ถือว่าสุดยอดเหมือนกันครับ
สมัย ม.ปลาย เราโดนเพื่อนในห้องเรียนบูลลี่ เเกนนำที่บูลลี่เราคือ หัวหน้าห้องกับคนในเเก๊งของนาง พวกหัวหน้าจะไม่ชอบเวลามีใครสักคนมาสนิทกับเรา หรือคุยกับเรา ซึ่งเราโดนบูลลี่มาตลอด 3 ปี (จนเรียนจบ ม.ปลาย)
เเต่เราไม่ใช่คนที่จะยอมถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวไปตลอด 3 ปีหรอกนะ (เราเอาคืนในเเบบของเรา) เราเเอบไปสมัครเป็นสายลับให้กับคุณครูประจำชั้น เวลาหัวหน้าห้องชวนเพื่อนในห้องโดดเรียนคาบวิชาฝรั่งเศสของครูต่างชาติ เราจะเเอบไปฟ้องคุณครูประจำชั้น เเล้วก็ให้คุณครูมาจัดการ ต่อว่าสั่งสอน บางทีก็เห็นครูบ่นว่าจะหักคะเเนนจิตพิสัย
ซึ่งก็มีเพื่อนในห้องบ่นว่า "ใครมันฟ้องวะ อย่าให้รู้นะ"
ก็เเน่นอนว่าเรานั่งทำการบ้านเงียบๆ เตรียมตัวสอบมหาลัยดีๆ เเล้วก็ไม่มีใครจับได้จนเรียนจบ
เเต่พอขึ้นมหาลัย เราก็ได้เจอกับเพื่อนดีๆ เยอะเเยะเลย เเล้วเราก็มีเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาปัญหาชีวิต เเถมยังสามารถปรึกษาเกี่ยวกับนิยายได้ด้วย เพราะนางก็เป็นนักเขียนเหมือนกัน
ถือว่าคุณผ่านจุดที่โหดมาเหมือนกันนะครับ ผมว่าคนบลูลี่คนอื่นมันไม่ได้มีอะไรที่เหนือกว่าเราด้วยซ้ำ
สู้ๆนะครับ ผมจะเป็นกำลังให้คุณนะครับ
-ขออนุญาตินะครับ
คุณใช้เวลานานมั้ยครับกว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้
เคยอยู่ในจุดที่ไม่เหลือมนุษย์คนไหนในโลกจะแยแส
เคยอยู่ในจุดที่จมอยู่กับปัญหาและไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร
เคยอยู่ในจุดที่มีแต่ความโกรธแค้นเสียใจ
เคยอยู่ในจุดที่ภาวนาขอความตาย
แต่สุดท้าย... ก็ไม่ตาย 5555
ถ้าให้เทียบให้เห็นภาพคือคนที่ขับรถดิ่งลงไปในเหวอีกนิดเดียวจะกระแทกพื้น แต่ขับฝ่าความหายนะแล้วตีโค้งกลับมาได้ภายในนาทีเดียว แล้วก็จบทุกปัญหาทุกความเสียใจได้ในนาทีนั้นนั่นแหละ
คุณผ่านมันมาได้ถือคุณเป็นคนที่สุดยอดมากๆคนหนึ่งเลยครับ
ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆครับ
ขอบคุณน้า ตอนนี้เรากลายร่างเป็นที่ปรึกษาของพวกพ้องไปแล้ว 5555
ชีวิตเรารันทดจนถ้าเอามาเล่าคนฟังจะหาว่าเว่อร์เลยแหละ (รันทดขนาดที่เราเอาชีวิตตัวเองมาเขียนเป็นนิยายแล้วโดนคนอ่านด่าว่า "ใครมันจะซวยขนาดพระเอกวะ คนเขียนบ้าหรือเปล่า ถ้า koo เป็นพระเอก koo ฆ่าตัวตายไปแล้ว")
จริง ๆ ในโลกนี้มันก็มีทั้งความสุขความทุกข์ความเฉย ๆ แค่บางคนอาจจะเจอทุกข์เยอะทุกข์น้อยต่างกันไป บางคนมีศัตรูมาก บางคนมีมิตรมาก ตลอดจนความเข้มแข็งทางใจที่ไม่เท่ากัน เจอรูปแบบปัญหาชีวิตแตกต่างกัน
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ ใครเจอเรื่องแย่ ๆ ก็ค่อย ๆ แก้กันไป ถ้าไม่สามารถ "สุขมากที่สุด" ได้ ก็ให้ "ทุกข์น้อยที่สุด" ก็ยังดี
ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรเพราะไม่เคยคิดว่าว่าจะต้องไปอยู่จุดที่มันสูงกว่าใคร.. แค่จะอยู่ในจุดที่เรามีความสุขและได้ทำให้คนที่เรารักยิ้มได้ก็พอแล้วค่ะ
จุดต่ำสุดตอนนี้นะตะ ต่ำยิ่งกว่าตอนนั้นอีกค่ะ
คือเรากำลังถูกวิญญาณแค้นตามอาฆาตอยู่ค่ะ
แบบว่าอีผีมันเกาะแน่นยิ่งกว่าสัมภเวสีอีก จุดธูปไล่ก็แล้วมันก็ไม่ไป แผ่เมตตาให้แล้วมันก็ไม่ไป เอาน้ำมนต์สาดไล่มันก็ยังไม่ยอมไปเกิดใหม่เสียที
ไล่มันจนเหนื่อยแล้ว อีผีตนนี้ก็ยังคอยตามหลอกหลอนอยู่ ไม่รู้ว่ามันจะแค้นทำไม ตัวเองควบคุมความเสื.อกไม่ได้เอง แยกแยะไม่ออก ไหนความจริงไหนนิยาย แล้วก็มาแค้น เฮ้อ ซวยจริงๆ อยู่ดีๆ เดินไปเหยียบขี้หมาจนได้
เนี่ยล่ะค่ะจุดต่ำสุดของชีวิตตอนนี้ โดนผีตามเกาะ
เราคิดว่าการใช้กระทู้คนอื่นเป็นเครื่องมือในการพิมพ์ด่ากันลอยๆ เป็นเรื่องที่ไร้มารยาทมากๆ ค่ะ คุณสองคนไปด่ากันที่อื่นเถอะ สงสารเจ้าของกระทู้
จุดที่พูดไม่ได้มองไม่ได้หัวเราะไม่ได้ เเละไม่มีความรู้สึก โดนบูลลี่มาเเปดปี สามปีหลังโดนน้อยลง เเรกก็เเค่แกล้งหลังๆ ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นดักทำร้าย ทำให้เราเสียหน้า ไม่มีที่ยืนในสังคม ไปที่ไหนก็มีเเต่คนเรียกว่าขยะ ปล่อยข่าวลือสร้างสถาณะการณ์ ทำให้ครูไม่ชอบหน้า เกรดตกเรียนไม่ได้ จุดที่เราจะตายก็ตายไม่ได้ ความรู้สึกของมีดที่กรีดเราที่เดิมซ้ำๆ ไม้บรรทัดเก้าอี้ที่ฟาดที่เดิมทุกๆวัน ในหัวมีเเค่คำว่าฆ่า เคยเเทงสวนจริงเเต่ทำไรไม่ได้มันสิบกว่าคน จุดที่ฟ้องไปก็ไม่มีความหมายอะไรนอกจากคำว่าเรียกร้องความสนใจ บอกครอบครัวพ่อเเม่ก็พูดเเค่ว่าเว่อเเละคิดไปเอง เเผลที่ตัวก็บอกว่ามันเป็นเเค่การเล่นของเด็ก เคยคิดจะฆ่าตัวตายสี่ครั้ง เเค่มองก็โดนต่อย พูดตอบครูก็โดนอัด หัวเราะก็จะโดนมัดเเล้วมันก็ปาข้าวของใส่ ฟ้องแม่บอกว่าไปโรงบาลบ้าไหม ภาพมันยังชัดเจน โดนซ้อมมันทุกวันฟังเสียงหัวเราะ โดนปาข้าวของใส่ไล่ให้ไปตาย พูดกรอกหูทุกวันว่าให้ฆ่าตัวตาย ชีวิตสว-ะมันไม่มีค่าหรอก ซึ่งตัวตนของเราก็คือคนที่มีชีวิตอยู่เหมือนไม่มีตัวตน เคยไหมคนที่พูดหน้าตาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเเต่เพิ่งปาพล้าใส่หน้าอ่ะ ก็อยากไปตายจริงๆ นั่นเเหละ อยากหายไปเลย ให้ไม่มีใครจำได้ บำบัดมาห้าหกปีละ ดีขึ้นเรื่อยๆ เเต่ยังมีข้อจำกัดเข้ากับคนยาก มองโลกในเเง่ลบมากถึงมากๆ การบำบัดก็ไม่ได้เกิดจากหมออย่างเดียว เเต่เกิดจากสภาพเเวดล้อมด้วย โชคดีที่ได้มีคนใจดีเดินเข้ามาในชีวิต เเม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ราวสองปี เเต่มันก็มีความหมายมากๆ คนที่ลืมความหมายของคำว่าความสุข ส่วนตัวมองว่าถ้าเอาชีวิตตัวเองมาเขียนเป็นนิยายนี่น่าจะขายได้ดีเลยล่ะ 55555555 มองย้อนกลับไปเเล้วก็อยากจะรู้เหมือนกันนะว่ามีใครเคยโดนหนักกว่านี้ไหม เเล้วถ้าคนอื่นโดนเเบบเราเขาจะทนโดนซ้อมทุกวันรึเปล่า หรือจะชิงตายไปก่อนละ เเล้วถ้าคนอื่นโดนเเบบเราในวันที่ตกต่ำที่สุด เขาจะยังพูดคุยหัวเราะได้อยู่ไหม เเล้วความรู้สึกนึกคิดนั้นจะยังมีอยู่รึเปล่า ความรู้สึกเกลียด โกรธ เเค้นหรืออยากจะฆ่าใครสักคน มันก็หายไปตามเวลาที่ผ่านไป บอกตัวเองทุกวันว่าเราเลยจุดนั้นมาเเล้ว เเต่อดีตมันฝังเเน่นนะ ลืมไม่ได้สักที
ลึกลงไปใต้แม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 20 เมตร
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?