ไม่ค่อยพอใจงานเขียนตัวเอง กับพอไปอ่านแนวเขียนคนอื่นแล้วรู้สึกบั่นทอนตัวเอง
ตั้งกระทู้ใหม่
มีใครเป็นบ้างไหมครับ ตัวเองเขียนด้วยสำนวนตัวเอง แล้วมันรู้สึกไม่ค่อยพอใจ หรือไม่สวย และพอไปอ่านงานเขียนคนอื่นทั้งดูสลวย เพอร์เฟค ดีงาม มองย้อนดูตัวเอง ตูเขียนอะไรวะ เป็นเช่นนี้ตลอดเลยครับ
แม้คนอื่นจะอ่านงานเขียนผมว่ามันปกติ กับตัวเองอ่านเองรู้สึกไม่ค่อยดี เป็นกันไหมครับ
11 ความคิดเห็น
สำหรับผมนะ เนื้อหาสำคัญสุด บรรยายเป็นเรื่องรอง
ต่อให้บรรยายดี เนื้อหาห่วย ก็ไม่อยากอ่านต่อครับ
แต่ถ้าเนื้อหาดี บรรยายห่วย ก็ยังอ่านต่อจนจบ
ได้ยินแบบนี้ละค่อยสบายใจขึ้นหน่อยแฮะ คนอ่านของผมเขาว่ามันไม่ได้แย่สะงั้น แถมเอนจอยขออีกๆด้วยอะ
ของเรากลับกันเลยแฮะ เนื้อหาดี บรรยายห่วยเนี่ย อ่านไม่รอดเลย
สู้ ๆ เขียนไปเยอะ ๆ + อ่านไปเยอะ ๆ คิดว่าน่าจะพอช่วยได้น้า
เป็นเหมือนกัน อ่านแล้วรู้สึกว่าทำไมตัวเองใช้คำได้ไม่หลากหลายเลย บางประโยคน่าจะสั้นกว่านี้ได้แต่เขียนเองแล้วย๊าวยาว 5555 แต่จะมานั่งนึกคำแต่งประโยคให้สวยขึ้น ก็รู้สึกเสียเวลา เลยแบบ เออ ช่างมัน สื่อสารรู้เรื่องพอ 5555+
ถึงจะพูดงั้นตอนเขียน แต่พอเป็นคนอ่านเองอะมันเรื่องมากทุกที เรื่องไหนภาษาน่ารำคาญ อ่านแล้วไม่ใช่ไวยากรณ์ไทย ปิดหมด 555555555
ไม่ต่างกันครับ ใช้คำได้ไม่หลากหลาย ขนาดตัวเองมีนิยายสิบยี่สิบเล่มในบ้าน ยังช่วยได้ส่วนหนึ่งนิดเดียว สมควรเขียนสไตล์Light Novel ญี่ปุ่นละแบบนี้ บรรยายสั้นไม่ได้ดีมาก ได้ใจความ
อ่านเยอะไม่จำเป็นต้องอ่านนิยายอย่างเดียวนะ นสพ นิตยสาร ข่าว เรื่องสั้นตามเว็บ งานรางวัล นิยาย วรรณกรรม มันต้องหลากหลาย ถ้าอยากได้ศัพท์ที่หลากหลายจริง ๆ เพราะนิยายแต่ละเรื่องมีเสียงเป็นของตัวเอง ไม่น่าจะต้องคิดมากอะไร ส่วนตัวทางนี้เองไม่พอใจตัวเอง แต่ไม่เทียบกับคนอื่นนะ มีแต่จะอ่านดูแล้วเขาว่าไงพยายามเรียนและเลียนมามากกว่า เท่าที่จะทำได้ นิยายของเรา เราต้องสร้างเอกลักษณ์
แล้วไลท์โนเวลไม่ได้บรรยายสั้นนะ บางเรื่องคือครบรสเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ต้องใช้คำสละสลวยมากเท่านั้น
ก่อนอื่น ขอโทษนะ ถ้าสิ่งที่จะพูดต่อไปนี้มันแรงเกินไป
การอ่านงานที่ดีกว่าแล้วมาเปรียบเทียบกับตัวเอง บั่นทอนตัวเอง ถ้าอ่านแล้วสร้างแรงผลักดันเชิงบวกไม่ได้ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่สร้างสรรค์กว่านี้เถอะ เพราะที่ทำอยู่มันไร้ประโยชน์มากๆ
คุณเพิ่งยืนอยู่บันไดขั้นแรกๆ แหงนหน้ามองคนที่ยืนอยู่ขั้นที่ร้อย แล้วพูดว่าโอโห้ ทำไมดีกว่างานของคุณตั้งเยอะ แล้วเอางานนั้นมากดดันตัวเองโดยไม่ตระหนักถึงขั้นบันไดที่ตัวเองยืนตัวซ้ำ
คุณไม่พอใจเพราะมาตรฐานของคุณสูงกว่างานที่เขียน นั่นเป็นเรื่องดี คุณคิดแต่ว่าตัวเองเขียนอะไรออกไป แล้วเคยคิดบ้างไหมว่าตัวเองขาดอะไรบ้าง เคยฝึกแบบจริงจังเพื่อพัฒนางานของตัวเองบ้างไหม แล้วมันก็ไม่ได้ใช้้เวลาแค่แปบเดียวนะ บางคนฝึกมาทั้งชีวิต เคยชินกับการเขียน(อย่างอื่น)มาตั้งแต่เด็กด้วยซ้ำถึงเขียนผลงานดีๆ ที่คุณเอามาใข้บั่นทอนตัวเอง เพราะฉะนั้นก็เอาเวลาไปฝึกซะนะ
เห้อ รมเสียเพิ่งทะเลาะกับเมียที่บ้าน
ผมหันดูตัวเองตลอดครับ หาจุดบกพร่องแล้ว แต่แก้ไขไม่ได้เสียสักที
ชอบ คห. นี้มากค่า
เมื่อมีคนบอกว่างานของคุณปกติ ย่อมแสดงว่ามันไม่ได้เลวร้ายอะไร การเป็นตัวของตัวเองไม่ใช่ความผิดบาป ในขณะที่งานเขียนของคนอื่นก็เป็นของคนอื่นค่ะ ไม่ว่าจะเขียนมาดีงามสวยหรูสมบูรณ์แบบอย่างไรก็ไม่ใช่งานของเราอยู่ดี ชื่นชมได้ แต่ไม่ควรเอามาเปรียบเทียบบั่นทอนกำลังใจตัวเอง
การสร้างอัตลักษณ์งานเขียนของตัวเองเป็นสิ่งจำเป็นหากจะเดินในเส้นทางสายนี้
ประสบการณ์จากการอ่านในหลากหลายแขนง การอ่านในสิ่งที่เป็นตัวอย่างอันดีในการใช้ภาษาไทย จะช่วยเพิ่มพูนคลังคำและวิธีการใช้คำอย่างถูกต้องตามหลักภาษา ทั้งนี้ควรฝึกการคิดวิเคราะห์สังเคราะห์ จัดระเบียบข้อมูลอย่างเป็นลำดับขั้นตอนไปพร้อมกันด้วย เมื่อมาถึงระยะเวลาหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ก็จะถูกหลอมรวมเข้าเป็นสำนวนลีลาการเขียนเฉพาะของตัวเรา
การเขียนเป็นหนึ่งในสี่ของทักษะการใช้ภาษา ไม่มีทางลัดให้ มีแต่ต้องขยันหมั่นฝึกให้มากจนเกิดความชำนาญจึงจะประสบความสำเร็จได้
และหากสามารถหา "กระจก" ที่ส่องสะท้อนงานออกมาอย่างเที่ยงธรรม พร้อมทั้งให้คำชี้แนะที่ถูกต้องเหมาะสมก็จะเป็นอีกทางที่ช่วยให้การเขียนค่อย ๆ พัฒนาขึ้นได้ค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณมากครับ ชอบเปรียบกับคนอื่นตลอดแม้พูดเตือนตัวเองหลายรอบแล้ว มันอั้นไม่ได้เลยยยย
ถ้าการเปรียบเทียบเกิดจากการอ่านงานเขียนของคนอื่น ก็เลี่ยงโดยการไม่อ่าน ให้เพ่งแต่ที่งานเขียนของตัวเองก็พอค่ะ แล้วให้คนที่มีความรู้ความชำนาญมีประสบการณ์มาช่วยดูว่าควรปรับแก้อย่างไร ทำแบบนี้ก็จะจิตตกน้อยลง สามารถลดความกังวล แล้วเอาเวลาไปพัฒนางานเขียนของตัวเองให้ก้าวหน้าขึ้นแทน
เราพึ่งมารู้ว่างานเขียนที่ดี มันต้องมีเทคนิคหลายๆอย่างเว้ย แบบเราก็รู้สึกว่างานเขียนเรามันห่วย เลยไปหาทางให้เขียนดีขึ้นและพบว่าการเขียนที่ดีมันก็ต้องการชั้นเชิงของมันเป็นแบบแผน ขั้นตอน ในการเขียนทั้งเรื่อง มันถึงเจ๋งและอิมแพคมาก เพราะเราเขียนแบบคนอื่นไม่ได้เราเลยต้องไปหาทางของตัวเองให้เขียนสนุกที่สุดในแบบของเราเอง ซึ่งก็ยังเขียนอยู่ ในวันหนึ่งถ้าคุนยังตั้งใจอยู่ที่จะค้นคว้าให้เรื่องให้สนุกที่สุด เราก็อยากให้คุณทำต่อไปนะ หาแบบที่เป็นตัวเอง แบบที่คุณชอบ และก็เขียนไปเรื่อยๆ จนในสักวันคุณจะผลิตงานเจ๋งๆออกมาเว้ย
เคยเป็นเหมือนกันค่ะ ไปอ่านนิยายคนอื่น ใช้ภาษาสวยมาก แบบเราทำไม่ได้แน่
บางคนก็ไม่ได้ชอบภาษาสวย แต่ชอบเนื้อหาถูกใจ คนอ่านต้องคลิกกับคนเขียนค่ะ แล้วทุกคนก็จะมีคนเป็นของตัวเอง จะมีนักอ่านบางคนที่คลิกกับคุณ ให้ไปอ่านนิยายที่ภาษาสวยกว่าคุณ เขาก็อาจจะไม่ไป เพราะชอบนิยายของคุณมากกว่า
เหมือนผู้ชายก็ไม่ได้ชอบนางงามจักรวาลทุกคน แต่ไปชอบคนที่สวยน้อยกว่า แต่คลิกกันมากกว่า นิยายคุณจะมีบางอย่างที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเลียนแบบได้ นั่นจะทำให้คุณเจอนักอ่านที่ชอบนิยายคุณจริงๆ มันต้องเข้ากันได้ ไม่จำเป็นต้องดีเลิศที่สุดค่ะ
ครับ ผมเตือนตัวเองตลอดนะอย่าเทียบๆๆๆ สุดท้ายกลั้นไม่ได้ครับ สุดท้ายมัวแค่จมปลักแต่วิธีกาเขียน เนื้อหายังสน แต่ก็อดห่วงวิธีการเขียนไม่ได้
ทุกอย่างอยู่ที่เทสของคน จะเป็นนิยาย หนัง เพลง งานศิลป์ต่างๆ สุดท้ายแล้วมันจะตามหาคนที่คุยกับมันเสมอ <<<< มิตรสหายท่านหนึ่งได้กล่าวไว้
เพราะฉะนั้นทำไปเถอะครับ สำหรับผมไม่เลือกจากคำว่าดีหรือไม่ดี แต่ผมเลือกจากว่าผมอินมั้ยมากกว่า คนเขียนสบายใจ คนอ่านสบายใจ ไม่ใช่ก็กดออก แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว
ผมเคยเป็นนะ วิธีแก้ก็พอมีอยู่ครับ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายคืออะไร บางทีการที่เราคิดว่ามันไม่ดี แต่พอเรานำมาเผยแพร่ลงเว็บแล้วดันมีคนมาคอมเม้นท์ว่า "เฮ้ย สนุกจัง" ผมว่าบางทีเราอาจจะไม่ได้แย่ก็ได้ครับ ถ้าเป้าหมายของเราคือการนำนิยายที่เราเขียนให้คนอื่นได้อ่าน ก็มีแต่ต้องลองครับ ทุกคนนั้นมีสำนวนภาษาเป็นของตัวเอง ถึงมันจะเทียบกันได้ในทางหลักภาษา แต่ถ้าเป็นในมุมมองของคนอ่านมันเทียบกันไม่ได้หรอกครับ ถ้ามันไม่ได้แย่จนมีคนด่า ผมอยากให้มองว่ามันเป็นจุดเด่นของเราที่ไม่เหมือนใครครับ ถ้ามัวแต่แก้ หรือมัวแต่ไม่พอใจ มันก็จะไม่ได้เริ่มสักทีครับ
-สู้ๆนะครับ
ขัดเกลาสำนวนไปเรื่อยๆจ้า ตอนเราเขียนครั้งแรกก็รีไรท์สำนวนไปหลายรอบอยู่เหมือนกัน นักอ่านสมัยนี้เขาไม่เคร่งสำนวนสวยมากหรอก เน้นเนื้อหาสนุกกับกระชับมากกว่า หลายเรื่องที่ดังก็สำนวนกลางๆแต่เนื้อหาออกมาสนุกจนน่าติดตาม
คนเขียนดังๆ ก็เคยเป็นครับ สะสมประสบการณ์ไปเดี๋ยวก็เขียนเก่งขึ้น พอเวลาผ่านไปกลับมาอ่านงานแรกๆ ของเราก็จะแบบ แต่ก่อนเราเขียนเห่ยขนาดนี้เชียว 55+
สะสมเรื่อยๆอยู่ครับ แต่ได้บางอย่างมาเท่านั้น55+
เคยอ่านงานเขียนที่ใช้คำง่ายๆ แต่อ่านแล้วเข้าใจรู้เรื่อง สนุกเฉย และงานที่คำสวยมาก บรรยายดีสุดๆ ก็ยังคงเข้าใจและรู้เรื่องเหมือนกัน เราเลยมองว่ามันแล้วแต่ชอบอะ ถ้าเนื้อเรื่องมันดี น่าสนใจ ยังไงเราก็อ่านอะ แต่ตัดภาพมาที่ตัวเอง // เอ่อ ก็ไม่ได้ดีมากอะไร พายเรือวนไปในอ่าง แฮ่ๆ
แต่คิดว่าเรื่องต่อๆ ไปจะมีประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?