Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รับวิจารณ์นิยาย แฟนตาซี ลึกลับ สืบสวน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

รับวิจารณ์นิยายแฟนตาซี ลึกลับ สืบสวน เป็น 3 แนวที่ผมพอให้ความเห็นได้
วิจารณ์ตามมุมมองและรสนิยมของผมเอง   ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณของตัวเองประกอบด้วยน่อ
หากวิจารณ์แล้วไม่ถูกต้องถูกใจ สอนได้แย้งได้แต่ขอเหตุผลอธิบายให้ผมได้เรียนรู้ไปด้วย

ถ้ายาวมากจะอ่านอย่างน้อยแค่จบช่วงแรกของเรื่อง  
ถ้าสั้นมากจนไม่จบช่วงแรกของเรื่องก็จะขอข้าม

** รับเฉพาะเรื่องที่ลงในเวบ Dek-D  

**ไม่รับแฟนฟิกชั่น
**ไม่รับนิยายติดเหรียญ
 
ใครอยากร่วมสนุก(?) ก็โพส ชื่อเรื่อง กับ Linkไปยังนิยายก็พอครับ
ถ้าอยากจะเขียนโฆษณาเพิ่มให้คนที่ผ่านไปผ่านมาก็ไม่ว่ากัน
ผมจะเขียนวิจารณ์ลงในคอมเม้นย้อย ไม่เขียนในหน้านิยายนะ

 
คิดว่าน่าจะมีแรงอ่านแค่ 5 เรื่อง หากมีคนสนใจเกินกว่านั้นอาจจะไม่ได้อ่าน
ลองแปะไว้ได้ แต่ขออภัยล่วงหน้าหากไม่ได้ลงคอมเม้นให้

แสดงความคิดเห็น

>

17 ความคิดเห็น

Pasit234 19 ส.ค. 64 เวลา 06:40 น. 1

จักรพรรดิมังกรบรรพกาล https://writer.dek-d.com/Pasit234/writer/view.php?id=2185027


เมื่ออยู่ดีๆทั้งพ่อและแม่ก็หายไปพร้อมกับทิ้งสมุดบันทึกที่ทำนายเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ทั้งเหตุร้าย และภัยพิบัติแถมยังบอกวันที่โลกกำลังจะเกิดการปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เอาไว้ด้วย แถมตัวเองดังมารู้ทีหลังว่าดันมีสายเลือดของมังกรบรรพกาลอยู่ด้วย!!

พระเอกเก่งครับ แต่ว่าไม่ได้เก่งเว่อแบบตบทีดีม่อนตาย ค่อยๆเก็บเวลไป ไม่ฮาเรม มีเวทมนต์ เผ่าพันธุ์ต่างๆด้วย

พร้อมรับคำติชมและคอมเม้นต่างๆเสมอค้าบบ มาอ่านกันได้น้าา

4
yurinohanakotoba 20 ส.ค. 64 เวลา 13:41 น. 1-1

จักรพรรดิมังกรบรรพกาล

https://writer.dek-d.com/Pasit234/writer/view.php?id=2185027

ผู้เขียน พสิด


อ่านไป 23 ตอน

พ่อแม่ของพระเอกอยู่ ๆ ก็หายตัวไปไลน์ไม่ตอบ ทิ้งตำราการเดินลมปราณไว้ พร้อมคำทำนายว่าโลกจะกลายเป็นอิเซไกระบบเกม พระเอกจึงได้พาเพื่อน 1 ชาย 1 หญิงมาแฮงเอ้าท์ ณ เซฟเฮ้าส์ เมื่อวันแห่งคำทำนายมาถึง พื้นโลกถล่มทลายมอนเตอร์กำเนิดขึ้นมาโจมตีผู้คน พวกเขาทั้งสามก็ฝึกฝนทักษะช่วยผู้คนพัฒนาเลเวล พบพานมิตรสหายรู้จัยยยยย.. เก่งเทพแมพซ่า


โครงเรื่อง

แกนหลักของเรื่องคือโลกเปลี่ยนเป็นกลายเป็นอิเซไกระบบเกม ผลกระทบต่อโลกทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ พวกพระเอกก็พัฒนาความสามารถกันไป ไม่มีอะไรเป็นจุดหมายชัดเจนเพื่อกำหนดทิศทางของเรื่อง ทำให้คนอ่านไม่เข้าใจว่ากำลังอ่านเรื่องราวของอะไร การผจญภัยก็ไม่ใช้ เรื่องของกลุ่มตัวเองก็จืดชืด ไม่มี Plot Device ที่ทำหน้าทีขับเคลื่อเรื่องราว

ยกตัวอย่างเช่นตำราที่แม่ทิ้งไว้ก็ควรเป็น Plot Device ได้ การแย่งตำรา มีตำราเล่มที่ 2 มีวิชาใหม่ มีคำทำนายเพิ่มเติม เพื่อกำหนดทิศทางและต่อยอดเรื่องได้ เมื่อไม่มี Plot Deice ถ้าอยากเขียนแบบเรื่อย ๆ ไม่กำหนดทิศทาง ก็ควรมีจุดที่เป็น Turning point เป็นจุดที่มีเหตุการณ์กระทบกับตัวละคร มีความขัดแย้งที่รุนแรงทำให้เกิดการตัดสินใจ นำพาเรื่องราวไปสู่ขั้นต่อไป ขยับความน่าสนใจ เพิ่มน่าติดตามของเรื่องขึ้นอีกเลเวลหนึ่ง

โดยสรุปโครงเรื่องไม่มีความแปลกใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างเห็นได้จากการ์ตูนนิยายอิเซไคระบบเกมต่าง ๆ แต่นั้นไม่แย่เท่าไม่มีอะไรให้รู้สึกว่าน่าติดตาม


ตัวละคร

พระเอกกลุ่มเพื่อนตัวละครใหม่ที่เข้ากลุ่ม จืดชืด ไม่รู้ว่าอะไรคือจุดเด่นของแต่ละตัว นอกจาก รวย เป็น บรูซ เวย์น ไม่รู้สึกตัวไหนมีเสน่ห์หรือน่าสนใจ อ่านแล้วบอกไม่ได้ว่าพระเอกเป็นคนยังไง เพื่อนอีกสองคนก็เหมือนกัน เหลือแต่นินจาที่ดูเด่น ใช้งานได้เป็นมือเท้า แต่การได้มาก็ไม่มีอะไรน่าจดจำ ควรลงทุนกับตัวละครสร้างซีนให้ตัวละครได้แสดงตัวตน มีฉากจำให้คนอ่านรู้จักตัวละคร แต่ความจืดชืดทั้งหลายก็มาจากที่ส่วนของโครงเรื่องไม่มี Turning point ระหว่างตัวละครไม่มีปมขัดแย้งให้ตัวละครได้แสดงนิสัยออกมา


การเขียนและการใช้ภาษา

คุณใช้ Omniscient pov (POV3 มุมมองพระเจ้า) ในการเล่าเรื่อง แต่สลับมุมมองบ่อย เวลาเล่าเรื่องใครก็ไปมุมมองของคนนั้น ในมุมคนเขียนคงเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ในมุมคนอ่านทำให้อ่านยากมากเพราะนิยายคือการเล่าเรื่องด้วยตัวหนังสือไม่ใช่ภาพ ต้องอ่านและจินตนาการตาม ต่างกับสื่อที่นำเสนอด้วยภาพ ถึงสับมุมมองไปมาก็ยังดูเข้าใจ การจินตนาการคือล้างภาพในสมองแล้วสร้างใหม่ ถ้าเปลี่ยนมุมมองการรับรู้บ่อย ๆ ก็จะถูกขัดจังหวะ ดังนั้นเวลาใช้มุมมองพระเจ้าก็เลือกมุมมองที่ไม่ต้องกระโดดไปกระโดดมาเถอะ

คลังคำค่อนข้างน้อย อ่านนิยายให้มากขึ้นจะช่วยได้ ตอนนี้หลาย ๆ คำที่ใช้ยังรู้สึกฝืนเช่นคำแทนตัวบุคคล การอ่านจะได้เห็นตัวอย่างการใช้คำและแอคชั่นต่าง ๆ ของตัวละคร จดจำมาใช้ก็จะได้ความหลากหลายขึ้น


เห็นถามบ่อย ๆ เรื่องฉากสู้ บอกได้ว่ารู้สึกธรรมดา คนอ่านไม่รู้สึกกับการบรรยายฉากสู้แบบฟันตรงนั้น แทงตรงนี้ อ่านมาก ๆ คือรำคาญด้วยซ้ำ การสู้มี รุก รับ พลิกผัน แต่เวลาเขียนคือ รุกอย่างดุดัน รุกอย่างคาดไม่ถึง รับได้อย่างเหลือเชื่อ โต้กลับอย่างคาดไม่ถึง พลิกกลับได้รับชัยชนะ สิ่งที่ต้องเขียนในฉากสู้คือสิ่งที่ทำให้รู้สึกแบบนี้ ไม่ใช่แค่เขียนให้เห็นว่าฟันแทงท่าไหนอย่างไร


โดยสรุปก็อยากให้อ่านหนังสือนิยายให้มาก อ่านหนังสือหลาย ๆ ประเภท จะได้จดจำรูปแบบภาษาดี ๆ มาใช้ เขียนให้เป็นตัวเอง อะไรที่จดจำคนอื่นมาเขียนก็พยายามหาทางต่อยอด อย่าเปลี่ยนแค่ไข่ดาวเป็นไข่เจียว คนอ่านจะได้รู้สึกว่านี่เป็นจุดน่าสนใจชองนักเขียนคนนี้


ในตลาดแนวอิเซไกระบบเกมมันก็จะมีหลายเรื่องที่เขียนแบบเรื่อยเปื่อย พระเอกหลุดเข้าโลกหนึ่ง แล้วก็จะเก่งเรื่อย ๆ แบบไม่รู้จะไปจบตรงไหน เขียนออกมาได้รับความนิยมสูง การเขียนแบบนั้นจึงบอกไม่ได้ว่าเป็นจุดเสียสุดแย่เพราะมีคนที่สนุกกับมัน แต่เพราะนี่เป็นการวิจารณ์ มีรูปแบบมีเกณฑ์ มีความชอบไม่ชอบของนักวิจารณ์


โปรดใช้จักรยานในการอ่าน

0
Pasit234 20 ส.ค. 64 เวลา 14:02 น. 1-2

ขอบคุณมากๆเลยครับ ผมตั้งใจอ่านตั้งแต่ต้นจนจบก็พบว่าตัวเองมีข้อบกพร่องมากมายจริงๆ จะนำคอมเมนต์ไปพยายามปรับปรุงแก้ไขและสร้างผลงานที่ดีกว่านี้ออกมาให้ได้ ขอบคุณจริงที่สละเวลาอ่านและวิจารณ์ให้ครับบ

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

Pi Cryo 24 ส.ค. 64 เวลา 13:17 น. 1-4

ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับฉากต่อสู้นะครับ ผมว่าอธิบายละเอียดเป็นสิ่งที่ดีและแนะนำให้เขียนต่อนะครับ ใช่ว่าหลายๆ นิยายเขาไม่เน้นแค่เขียนประโยคสองประโยคพอ มีอีกตั้งหลายเจ้าที่อธิบายละเอียดและก็ยังสนุกด้วยครับ เราแค่ยังอ่านไม่เยอะพอเท่านั้นเอง


ฉากการต่อสู้สามารถบ่งบอกถึงคาแรคเตอร์ของตัวละครนั้นๆ ได้ดีเท่ากับการตัดสินใจ คำพูดหรือการกระทำเช่นกัน และที่สำคัญ เราคนเขียนไม่อาจคาดหวังว่าคนอ่านจะมีความรู้เรื่องการต่อสู้ได้ระดับทุกคนนะ ตัวอย่างเช่น สมมุติพระเอกมีความสามารถในการต่อสู้ระดับช่ำชอง ถ้าเราเขียนว่า "เขาสามารถหลบดาบของฝ่ายตรงข้ามได้สง่างาม" ถ้าคนอ่านมีความรู้มาก่อนก็จะเข้าใจว่าพระเอกก็แค่สไลด์หลบไปด้านข้างอย่างถูกจังหวะ แต่ถ้าคนอ่านไม่รู้ก็จะคิดต่างๆ นาๆ โอเวอร์ไปเลย เช่นหมุนตัวหลบสองสามรอบ ซึ่งมือโปรไม่ทำแน่นอนครับ เพราะโดนแทงตายตั้งแต่ยังหมุนไม่จบรอบแรกด้วยซ้ำ


ถ้าคนเขียนไม่ได้ซีเรียสผมก็ไม่ว่าอะไรนะครับ แต่เห็นเขียนลงละเอียดมาแล้ว ผมแนะนำเลยว่าดันต่อไปเลยครับ จะเป็นเสน่ห์ในนิยายของเรา

0
Pasit234 19 ส.ค. 64 เวลา 06:45 น. 2

Chronos School โรงเรียนอลเวน คนอลเวง


ถ้าหากคุณชอบนิยายแฟนตาซีแนวโรงเรียนเวทมนต์เหมือนกันละก็ นี่เลย Chronos School โรงเรียนอลวน คนอลเวง

ความฝันที่แสนประหลาด ทั้งยังฝันซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้น เขาจึงต้องไปเข้าเรียนที่โรงเรียนโครนอส โรงเรียนอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิ์เพื่อที่จะตามหาพลังและไขปริศนาให้จงได้

"พลังน่ะ ตอนนี้ที่ไม่จำเป็นต้องใช้อาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องการมันอย่างสุดใจแล้วไม่มีล่ะก็ มันเจ็บปวดนะ.."

พร้อมรับคำติชมและคอมเม้นต่างๆเสมอค้าบบ มาอ่านกันได้น้าา

0
yurinohanakotoba 22 ส.ค. 64 เวลา 02:14 น. 3-1

กฎของลานประหาร13ชั้น

https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2245136

ผู้เขียน CharP:)


อ่านไป 10 ตอน

เป็นเรื่องแนว ลึกลับ เอาขีวิตรอด รูลออฟเฮอเร่อ ว่าด้วยเรื่องของคนที่ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองไม่มีความทรงจำ ต้องผ่านแต่ละชั้นของหอคอยร่วมกับคนอื่น ๆ อีก 12 คนที่มีชะตากรรมเดียวกัน โดยแต่ละชั้นจะมีกฏการเอาชีวิตรอดอยู่ หากใครทำผิดกฎก็คือตาย


โครงเรื่อง

ยังไม่เปิดเผยอะไรมาก คือแทบไม่เปิดเผยอะไรเลย ทำให้คนอ่านโฟกัสไปแค่การที่ตัวเอกต้องปฏิบัติตามกฏที่ตั้งไว้เพื่อผ่านแต่ละชั้นไป แล้วค่อยขยายไปยังตัวละครอื่น ซึ่งดี ทำให้จุดขายของเรื่องคือการกระทำของตัวละคร ในสภาวะที่มีกฎต่าง ๆ คุมเอาไว้ว่าแหกกฎคือตาย กับความลึกลับคาดเดาไม่ได้ของหอคอย ซึ่งเนื้อหาของทั้งสองส่วนเขียนได้น่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเรื่องดำเนินผ่านไป ช่วงห้องอาหารจนห้องอาบน้ำยังรู้สึกธรรมดากับเรื่อง ห้องนอนตอนที่ 8 เขียนได้ดีเลยละ พอมาถึงห้องสมุดก็น่าสนใจขึ้นไปอีก เป็นงานหนักสำหรับคนเขียนที่ต้องทำให้ชั้นต่อ ๆ ไปสนุกและน่าสนใจขึ้น แต่ทำได้ก็จะชนะใจคนอ่านด้วย


ตัวละคร

เปิดมาตัวเอกไม่เหลือความทรงจำเหมือน ๆ(?) กับคนอื่นอีก 12 คน ชั้นแรกไม่บอกอะไร ชั้นที่สองเปิดเผยความสามารถของเขา ชั้นที่สามเปิดปมในใจของเขา ชั้นที่สี่เริ่ม ๆ จะเปิดเผยประวัติแบบใช้ชั้นเชิง ทั้งหมดทำให้คิดว่าตัวละครอื่นก็มีความสามารถ ไม่ธรรมดาเหมือนกัน จนอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า คนอื่นน่าจะมีความสามารถแบบไหน มีความเป็นมาอย่างไร ตอนนี้บอกได้แค่ว่ากลุ่มตัวเอกในชั้น 4 ดูน่าสนใจทุกตัว


การเขียนและการใช้ภาษา

ใช้ POV1 ให้ตัวเอกเป็นคนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น ใช้ภาษาสั้นกระชับเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว การ Pace ของเรื่องจะเป็นจังหวะเร่ง เดินหน้าม้วนเดียวจบ เกิดอะไรขึ้น - ทำอะไร เหมือนกับเรื่องเล่าแนวรูลออฟเฮอเร่อ เน้นเสพเข้าใจง่าย ถึงจะเจ็บใจแต่ก็ต้องบอกว่าเขียนแบบนี้เข้ากับคนอ่านได้มากกว่าจริง ๆ แล้วมันก็เหมาะสมกับเรื่องที่เล่า


โดยสรุป ก็ไม่รู้จะแนะนำอะไร บอกได้แค่ในสิ่งที่มันเป็นและก็ดีอยู่แล้ว แม้ตัวโครงเรื่องจะไม่ใช่ของสดใหม่ไม่เคยเห็นมาจากไหน แต่ด้วยการนำเสนอที่เข้าใจง่าย กับการวางพล็อตที่น่าสนใจ ก็ทำให้ได้เรื่องที่น่าติดตามออกมา แม้โดยส่วนตัวเวลาอ่านเรื่องอะไรผมจะคาดหวังจะเห็นโลกเห็นมิติของตัวละครมาก แต่ก็นั่นละ อาหารแต่ละแบบก็มีวิธีการกินต่างกันไป นิยายก็เหมือนกัน


ส่วนเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกมีไอเดียติดใจนิดหน่อย คือทุกชั้นบังคับตาย 1 คนเพราะกฏบอกไม่หมด จบชั้น 2 ควรมีคนพูดขึ้นมาแล้วว่า “กฎแบบนี้เท่ากับกำหนดว่าใครจะตายไว้แล้วไม่ใช่หรือ” จริงอยู่ที่เรื่องบอกไว้แต่แรกแล้วว่าบังคับตาย 1 คน แต่ควรมี “ใคร” สะกิดใจวิธีที่คิดไม่ถึงรอดจากฉากบังคับตายด้วย

ชั้น 2 ถ้ากระสุนนัดสุดท้ายด้านจะเพิ่มจุดพลิกผันให้แองจี้ช่วยชีวิตตัวเอกได้

ชั้น 3 ตัวละครที่คุยกับตัวเอกไม่ควรตายไปเฉย ๆ ควรมีเบาะแสอะไรให้ตัวเอกไว้แก้เกมในอนาคต

ส่วนที่ไม่ชอบคือกฎมีความวุ่นวายเล่นกับการแยกประเภท พอเจอหลาย ๆ ชั้นมันก็จะรู้สึกว่าซ้ำ ๆ


เรื่องนี้อยู่ที่ฝีมือการวางพล็อตอย่างเดียวว่าชั้น4 และชั้นต่อ ๆ ไปจะทำได้ดีขนาดไหน

คงได้แต่พูดเป็นภาษาหมูกระทะว่า สู้ ๆ น่อ

0
CharP:) 22 ส.ค. 64 เวลา 08:45 น. 3-2

ขอบคุณมากเลยนะคะ ส่วนที่เสนอมาดูน่าสนใจมากเลยค่ะ จะลองไปปรับใช้ในชั้นถัดๆ ไปนะคะ ต่อจากนี้ไม่รู้ว่ามันจะได้ตามที่หวังหรือเปล่า แต่เราจะพยายามนะคะhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-13.png ขอบคุณที่สละเวลามาวิจารณ์ให้นะคะ

0
aka-aru 19 ส.ค. 64 เวลา 09:04 น. 4

อยากฝากนะคะ...แต่เพิ่งเขียนแค่ต้นเรื่องเอง คงต้องผ่านไปก่อน(ฮา) แนวดาร์กแฟนตาซีค่ะ(ถึงแม้ว่าตอนต้นเรื่องอาจจะดูใสๆ ไปบ้างก็ตาม)

เป็นเรื่องของตระกูลเอเมราลิสต์ ในยุคของดอว์น เด็กที่เกิดมาท่ามกลางความรักของครอบครัว มีน้องสาวหนึ่งคน จุดเปลี่ยนแปลงในชีวิตเขาเริ่มต้นในวันเกิดอายุ15ปี จู่ๆเขาก็ถูกตามฆ่าอย่างไม่มีเหตุผล ไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นใคร หรือว่ามีความแค้นกับตระกูล...แต่ว่าคนคนนั้นกลับจ้องเล่นงานเขาแต่เพียงผู้เดียว หลังจากที่ต้องคอยระแวดระวังมาตลอด เมื่อถึงตอนอายุ16เขาได้รับสืบทอดสัญลักษณ์ของตระกูลสำหรับเปิดประตูห้องลับในคฤหาสน์ และหลังนั้นเขาถึงได้รู้ ตัวตนของฆาตกรที่ถูกห้วงเวลาลบหายไป

ถ้าสนใจ ฝากไว้สำหรับอนาคตด้วยนะคะ เรื่อง Dusk and Dawn ค่ะ

0
Ciel En Rose 19 ส.ค. 64 เวลา 10:39 น. 5

https://writer.dek-d.com/jingin/writer/view.php?id=814230

ฝากWildRose Court คฤหาสน์กุหลาบป่าด้วยค่ะ

กุหลาบที่ผลิบานด้วยตัวเองกลับจำต้องโดนบ่มเพาะให้เป็นกุหลาบเลอค่า ก่อให้เกิดพันธะสัญญาที่ไม่ควรอุบัติขึ้น!! เงื่อนงำมวลดอกไม้แห่งมวลดอกไม้ได้เริ่มขึ้น >หนึ่งคำสั่งที่ต้องทำ..

2
yurinohanakotoba 24 ส.ค. 64 เวลา 03:04 น. 5-1

WildRose Court {คฤหาสน์กุหลาบป่า}

https://writer.dek-d.com/jingin/writer/view.php?id=814230

ผู้เขียน Pasnapang


อ่านไป 28 ตอน

เป็นเรื่องของคฤหาสน์กุหลาบป่าที่อาศัยของแลนด์ลอร์ด ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนและสิ่งมหัศจรรย์มากมาย ก.ไก่ล้านตัว


โครงเรื่อง

เริ่มเรื่องที่อลิซเด็กสาวอายุเท่าไรก็ไม่รู้ (ในเรื่องใช้หญิงสาวแต่อ่านแล้วรู้สึกเด็กไม่เกิน 14) เดินทางไปยังคฤหาสน์กุหลาบป่าเพื่อพบกับเจ้าของที่นี่ด้วยจุดประสงค์บางอย่าง หลังจากนั้นหลายตอนค่อยเฉลยว่ามาหาพี่สาว ที่ตอนนี้เหมือนกลายเป็นคนละคน เพราะไม่มี่ความทรงจำเรื่องเกี่ยวกับเธอที่เป็นน้องสาวเหลืออยู่ ความเจ็บป่วยทางใจนี้ทำให้อลิซนอนป่วยอยู่ในคฤหาสน์

อืม...น่าจะประมาณนี้มั้ง แต่นิยายเน้นไปที่การเล่าเรื่องของคนในคฤหาสน์ พออ่านแล้วจะเกิดความสับสนมากเพราะไม่สามารถจับได้ว่าใครคือ ตัวเอก (Protagonist) พูดว่าตัวเอกอาจจะรู้สึกเฉย ๆ แต่หน้าที่ของตัวเอกคือเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องราว ให้คนอ่านได้จับยึด มีความเข้าใจเป้าหมายและสิ่งที่แบกรับ เกิดความรู้สึกร่วมไปกับตัวเอก

แต่เรื่องนี้ผมไม่สามารถจับแขนตัวละครให้ลากผมไปได้ ตัวผู้เล่าเรื่องก็ไม่จับมือผมเดินไปกับเรื่องราว เหมือนผมต้องวิ่งหาทางเองแล้วก็อยู่ ๆ ก็ถูกทิ้งไว้กลางดงกล้วย ถ้าเป็นไปได้อยากให้คุณลองเขียน Mind map ของนิยายเรื่องนี้ออกมาดู Google คำว่า How to Mind Map a Novel Plot จะพบหลายวิธี หลายคำแนะนำ ลองเลือกอันที่รู้สึกว่าใช่มาวาดเป็น Mind map ของเรื่องนี้ดู จะได้เห็นขั้นตอนความคิดของนิยายของตัวเอง


ตัวละคร

ผมคิดว่าตัวละครเรื่องนี้เยอะ แบบเยอะจัง เยอะไปไหน แต่ก็รู้สึกว่าตัวละครแต่ละตัวมีการออกแบบได้น่าสนใจทิ้งตัวไหนไปก็คงเสียดาย แต่(อีกแล้ว)กลับไม่ได้รับการนำเสนอที่น่าสนใจ เพราะคุณเลือกจะทำให้ทุกตัวเด่น ลองนึกภาพว่าคุณมี ขวดน้ำอัดลมหลากสี น้ำเขียว น้ำส้ม น้ำแดง โค้กและสไปรท์ ถ้าใส่ทุกอย่างลงไปในตู้เย็นเปิดมาก็เห็นน้ำอัดลมหลากสีก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรพิเศษ เอาโค้กหนึ่งขวดวางตรงกลางที่เหลือเป็นสไปรท์ โค้กก็จะพิเศษขึ้นมาและคุณค่าของโค้กเพิ่มขึ้น

ในงานปาตี้ มันมีขวดเดียวไม่หยิบก่อนอดดื่มแน่นอน

อยู่ในบ้านคนเดียว เหลือขวดเดียว เก็บไว้ตอนกระหายจริง ๆ

ตัวละครก็เหมือนกัน การสร้างซีน(Scene) ให้ตัวละครเด่นจะทำให้คนอ่านเห็นคุณค่าและจดจำตัวละครได้ง่าย ถ้าเป็นซีนที่สร้างภาพจำตัวละครได้ก็ยิ่งดี ตามปรกติเราจะเห็นการวางบทบาทของ ตัวเอก ตัวร้ายและเพื่อนตัวเอก (ตัวเดินเรื่อง ตัวขัดขวาง ตัวสนับสนุนตัวเอก) การทำให้ตัวละครเด่นก็ประยุกต์จากบทบาทลักษณะนั้นได้


การเขียนและการใช้ภาษา

คุณมีต้นทุนทางภาษาที่ดีอยู่แล้ว แต่การเล่าเรื่องผมคิดว่าไม่ผ่านครับ เรื่องถูกเขียนเพื่อบอกเล่าสิ่งที่อยู่ในจินตนาการของคุณ คุณสนุกกับการบรรยายให้ภาพเหล่านั้นปรากฏเป็นตัวหนังสือ แต่คุณไม่ได้พูดคุยกับคนอ่าน ไม่พยายามจับมือคนอ่านวิ่งไปในโลกของคุณ แต่วิ่งนำหน้าไปคนเดียว คนอ่านส่วนหนึ่งก็จะวิ่งตามละ ทิวทัศน์แถวนี้น่าสนใจไม่เลว แต่วิ่งตามไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ไหว ล้มหายตายจากไปทีละคนสองคน

ปัญหาอีกอย่างนอกจากการเล่าเรื่อง คือคุณเขียนมากแต่คนอ่านได้ไปน้อยครับ ภาษาสวยลื่นไหลแต่มันมากและได้น้อยจริง ๆ ส่งผลให้การเดินเรื่อง (Pace) ไปได้ช้าบางซีนคือเรื่องหยุดนิ่งไปเลย จังหวะการเดินเรื่องไม่สนุกไม่น่าติดตาม


โดยสรุป สำหรับผมเรื่องนี้อ่านยาก ต้องคิดตลอดว่าผู้เล่ากำลังจะเล่าอะไรให้ฟังและเล่าเพื่ออะไร แม้จะใช้ภาษาได้อย่างสวยงามแต่ก็เป็นการอ่านที่ห่างไกลคำว่าเพลิดเพลินไปค่อนข้างไกลเพราะไม่เข้าใจว่าเล่าเรื่องอะไร ความน่าสนใจของเรื่อง ความน่าสนใจของโลกที่สร้างขึ้นผมรู้สึกว่ามีนะ แต่ถ้าจะวิ่งไปโดยไม่สนใจคนอ่านระวังจะวิ่งอยู่คนเดียว


ถ้าอยากเขียนเรื่องของผู้คนในคฤหาสน์ให้เริ่มจาก Origin ของแต่ละคนก่อนก็ยังได้ หาประเด็นร่วมของทุกคนที่จะเล่าให้พบ (เช่น หน้าที่ในคฤหาสน์, อยู่ที่นี่เพราะอะไรหรือแบกรับอะไรอยู่) ก็คิดว่าน่าจะเล่าอะไรง่าย ๆ ออกมาได้ แล้วก็อยากจะให้ลองศีกษา Dramatic structure ตรงไหนต้องสร้าง Turning point ตรงไหนควรแสดง Conflict ตรงไหนควรวาง Clue อะไรคือประเด็น อะไรคือแรงที่ขับเคลื่อนเรื่องไปข้างหน้า พลังของมันพอหรือไม่ จะเล่าอย่างไร


ดูจากคอมเม้นเหมือนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเก่าตั้งแต่ปี 57 คำวิจารณ์อาจจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว สุดท้ายคือปลวกมันมีชีวิตในที่อากาศหนาวเย็นไม่ได้

0
Ciel En Rose 24 ส.ค. 64 เวลา 20:22 น. 5-2

ขอบคุณมากค่ะ

เรื่องนี้แต่งนานแล้วจริงๆ ค่ะ ตอนนี้มีแผนรีไรต์

จะนำคำแนะนำไปปรับปรุงค่ะ ส่วนปลวกเป็นเวทมนตร์ค่ะ^^

0
yurinohanakotoba 26 ส.ค. 64 เวลา 00:48 น. 6-1

COME BACK HOME ภารกิจลับ... พานายกลับบ้าน

https://writer.dek-d.com/daodai/writer/view.php?id=2244547

ผู้เขียน D.dade


อ่านไป 25 ตอน(24 สารภาพ)

เป็นเรื่องของมนุษย์ต่างดาวหนีการตามล่า(?)มาอยู่ที่โลก มีทั้งฝ่ายไล่ล่าและฝ่ายช่วยเหลือ


โครงเรื่อง

มนุษย์ต่างดาวหนีมายังโลกและใช้ร่างของชายหนุ่มที่เสียชีวิต เพื่อแฝงตัวใช้แบบมนุษย์ไป โดยฝ่ายตามล่าและฝ่ายช่วยเหลือก็แฝงตัวใช้ร่างมนุษย์และพยายามตามหาเป้าหมาย

โครงเรื่องไอเดียน่าจะเป็นนิยาย Young adult สไตล์ฝรั่งได้ สร้าง Conflict ของตัวเอกได้ง่าย คนอ่านเอาใจช่วย มองเห็นการเติบโตของตัวละคร แต่ในเรื่องไม่ได้วางโครงสร้างเพื่อการพัฒนาตัวละคร ทำให้มิติของเรื่องแบนมองเห็นในแง่มุมเดียวคือเรื่องภารกิจของแต่ละคน แต่ก็ไม่รู้จะวิจารณ์อย่างไรเหมือนกันเพราะอ่านไปทั้งหมด 25 ตอนก็ยังเหมือนแค่อินโทรของเรื่องเอง เพิ่งมีจุดให้ทุกฝ่ายได้พบหน้ากันและเริ่มไล่ล่า เริ่มหนี เริ่มหาทางรับมือ ซึ่งถือว่ายาวมากกว่าจะเข้าประเด็นของเรื่อง


ตัวละคร

ย้อนกลับไปที่พูดว่าตัวพล็อตตัวไอเดียของเรื่องเขียนแนว Young adult สไตล์ฝรั่งได้ แต่คนเขียนเลือกเขียนออกมาสไตล์เทพซ่า ตัวเอกต้องรวย ต่อยตีเก่ง ฉลาด มีความอเกสซีฟ สิ่งเดียวที่แบกรับคือชีวิตของตัวเอง ตามความเห็นผมมันไม่มีอะไรให้เอาใจช่วยอีกแล้ว ตัวละครที่ชื่อข้าว ตัวเอกมนุษย์ที่น่าจะมาพัวพันกับเรื่องวุ่นวายนี้ก็ไม่ให้ความรู้สึกที่กำลังซวย ชีวิตกำลังอยู่บนเส้นด้าย คนอ่านต้องเอาใจช่วย ตัวเธอดูแบน ๆ ไม่มีมิติไม่เห็น ก็เข้าใจว่าเรื่องไม่ได้นำเสนอเธอเท่าไรนัก ไม่มีพื้นที่สำหรับเล่าเรื่อง ผลคือตัวละครที่น่าจะสำคัญก็ดูน่ารำคาญ

คนที่รู้สึกอยากเอาใจช่วยจริง ๆ ก็คือทะเล ที่ถ้าปล่อยหนีไปได้ จะเป็นตัวละครที่ต้องสู้ เต็มไปด้วยแรงขับและเหตุผลที่ล้างแค้น ทำให้เห็นการพัฒนาการได้ง่าย แต่เรื่องของเขาก็จบอย่างรวดเร็ว ด้วยที่อยากให้รู้สึกว่าน่าสงสาร

ผมเลยรู้สึกว่าคุณมองข้ามเรื่องของการสร้างความประทับใจให้คนอ่านมีต่อตัวละคร


การเขียนและการใช้ภาษา

การเขียนการเล่าเรื่อง อ่านเข้าใจแต่ก็มีหลายท่อนที่มองภาพรวมไม่ออก เพราะแต่ละประโยคมันไม่ส่งไม้ต่อกัน พูดประโยคหนึ่งจบ แต่ประโยคที่สองพูดเรื่องอื่น ผมต้องอ่านช้าลงเพื่อค่อย ๆ ทำความเข้าใจประโยคทั้งหมด แต่จัดว่าใช้ภาษาใช้คำได้ดีอ่านรู้เรื่อง แต่นี่เป็นเรื่องส่วนตัวเลย การเขียนสไตลนี้ผมไม่ชอบเนื้อความแต่ละประโยคมันขาดความเชื่อมต่อสอดประสานกัน ผมมองว่าเพราะ POV ของคุณมีปัญหา


POV ของคุณจัดว่า“พังพินาศ”มาก ผมอ่านแล้วงงว่านี่คืออะไร เป็นการดูถูกคนอ่าน หรือว่าไม่รู้จริง ๆ ว่าไม่ควรเขียนแบบนี้ ภาษาก็อ่านรู้เรื่อง รูปแบบการเขียนก็มีความเป็นภาษานิยายก็แสดงว่าอ่านนิยายมาบ้าง แต่ทำไมใช้ POV มั่วแบบนี้

การเล่าด้วยมุมมองบุคคลที่ 3 แล้วบรรทัดต่อไปใช้ ผม ข้า ฉัน ที่เป็นมุมมองบุคคลที่ 1 นี่ผมว่ามันเกินไปนะ แล้วอยู่ ๆ ก็สลับอีกกลับมาเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 คนอ่านนิยายเขาเห็นแบบนี้จะกดปิดออกจากหน้านิยายนะครับ


โดยสรุป แนวมนุษย์ต่างดาวยึดร่างมนุษย์ถึงไม่ได้แปลกใหม่ แต่ก็ไม่เคยเห็นในรูปแบบของการหลบหนี ไล่ล่า คิดว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจอยู่ แต่อยากเห็นมิติของเรื่องและตัวละครว่าจะพัฒนาไปแบบไหนด้วย อย่าให้หยุดอยู่แค่การทำภารกิจของแต่ละคน และสุดท้ายอยากให้หัดใช้ POV3 อย่างเดียวในการเล่าเรื่อง ย้ำอีกครั้งว่า คนอ่านนิยายเขาเห็นการสลับ POV1 POV3 ไปมาทั้งเรื่องแบบนี้จะกดปิดออกจากหน้านิยายนะครับ

0
MidnightSky0249 19 ส.ค. 64 เวลา 10:59 น. 7

https://writer.dek-d.com/Chinaroo16141/writer/view.php?id=2231893


ฝากเรื่อง The Gem of Dragon ดวงใจจอมมังกร

แนวแฟนตาซีค่ะ ดาร์คนิดหน่อย
มิมีสิ่งใดเป็นนิรันดร์ เมื่อแย่งไปยย่อมเอาคืน ดวงใจทับทิมทิ่มแทงผู้อื่น ดวงใจสีนิลไหลเวียนคืนพลัน อัคคีถลันโชติช่วงลุกท่วมสูญสิ้น บุรุษหนึ่งเดียวคือคำตอบ

4
yurinohanakotoba 30 ส.ค. 64 เวลา 17:05 น. 7-3

The Gem of Dragon ดวงใจจอมมังกร

https://writer.dek-d.com/Chinaroo16141/writer/view.php?id=2231893

ผู้เขียน MidnightSky0249


อ่านไป 16 ตอน

บนโลกที่มีหลายเผ่าพันธุ์ มังกรเป็นสิ่งมีชีวิตแข็งแกรงที่ต้านได้ทั้งอาวุธและเวทมนตร์ แต่สิ่งที่มีอำนาจอยู่เหนือทุกชีวิตกลับสยบยอมแก่ดวงใจมังกร อัญมณีที่มีพลังทำให้มังกรเชื่อฟังเผ่าพันธุ์ที่เป็นเจ้าของมัน


โครงเรื่อง

ตัวเอกของเรื่องตื่นขึ้นมาในที่ทิ้งศพที่อยู่บนรอยต่อของดินแดงมนุษย์และปิศาจ เขาจำได้แค่แพ้ในลานประลองและห่วงเรื่องของทางบ้านจึงขโมยม้าที่เร็วที่สุดของทหารชายแดนกลับเข้าเมืองหลวง โดยไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นปิศาจไปแล้ว ประจวบเหมาะพอดิบพอดีกับที่เจ้าหญิงแดงปิศาจมาประทำภารกิจแถวนั้น ก็ติดตามไปเพราะมนุษย์มีกฏห้ามปิศาจเข้าเมือง ถ้าเข้ามาจะตอบโต้อย่างรุนแรง

ตัวเอกได้ทราบความจริงระหว่างเดินทางว่าบ้านของตัวเองโดยราชาสั่งให้มังกรเผาทำลายเพราะมีแนวคิดเชื่อว่ามนุษย์กับปิศาจอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ส่วนตัวเอกไปหาเจ้าหญิงที่เป็นคนรักก็เจอฉาก NTR และรู้ว่าตัวเองโดนวางยาพิษก่อนเข้าสนามประลองเป็นเหตุทำให้แพ้จนถึงชีวิตและโดยเอาศพไปโยนทิ้งเป็นการหยามเกียรติ

ตัวเอกเปิดเผยตัวโดยไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นปิศาจ ทำให้พวกทหาไล่ล่ากัน เจ้าหญิงแดนปิศาจจำเป็นต้องช่วยหลบหนี สุดท้ายก็หนีออกมาจากเมืองได้ เจ้าหญิงมองว่าตัวเอกเป็นตัวประหลาดจากมนุษย์ทำไมกลายเป็นปิศาจจึงให้ไปพบราชาเมืองปิศาจที่เป็นน้าหรืออาเธอนี่ล่ะ(จำไมได้)เผื่อจะรู้อะไร

ราชาแดนปิศาจก็เหมือนจะรู้ แต่ไม่บอก เอาตัวเอกไปกักบริเวณ แต่อยู่ได้ไม่นานราชาเมืองมนุษย์ก็ยกทัพมังกรมาทำลายบ้านเมืองปิศาจ “ไอจะขยี้ยูให้แหลกคึ” โทษฐานที่เป็นปิศาจข้ามดินแดนไปยังเมืองมนุษย์ พวกปิศาจรับมือโดยการสร้างภาพลวงตาให้พวกมังกรทำลายไปเสร็จสมอารมณ์หมายไม่มีอะไรเหลือให้ขยี้ก็ยกทัพกลับเมือง พระเอกก็เลยถูกราชาแดนปิศาจเลี้ยงดูไว้ให้กลายเป็นนักรบปิศาจ ฝึกฝนวิชา ประลองฝีมือ เปิดเผยชาติกำเนิด จนถึงตอนที่ 16 เป็นช่วงย้อนความ

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือความขัดแย้งของเรื่องนี้เบาบาง ทั้งที่ขนาดยกทัพทำลายเมือง แต่ผมมองไม่เห็นความขัดแยงหลักที่ดำรงอยู่ ราชาฆ่าพ่อล้างตระกูลวางแผนฆ่าตัวเอง ตัวเอกคิดว่า พ่อผิดที่มีแนวความคิดอยู่ร่วมกับปิศาจจึงทำให้ราชาต้องลงมือกับตระกูลเรา นี่มัน Victim blaming ความขัดแย้งทุกอย่างถูกสยบอย่างราบคาบ (แต่ช่วงหลังดูเหมือนจะมีความคิดล้างแค้นแต่ไม่ได้แสดงออกที่ชัดเจน)

ตัวเอกเป็นมนุษย์ เป็นศัตรูกับปิศาจ แต่พวกปิศาจบอกเราจิตใจสูงกว่า อภัยได้แค่เอามังกรมาถล่มเมืองเรื่องสิว ๆ

พอตอนที่ 6 เรื่องก็จะวน ๆ อยู่กับฝึกฝนเพื่อเป็นนักรบปิศาจ มันไม่ใช่แนวฉันจะเป็นนักรบปิศาจเพื่อจะล้างแค้นให้พ่อ หรือเป็นเพื่อก้าวข้ามบางสิ่ง แต่มันเป็นแบบ ให้เป็นก็เป็น ให้ฝึกก็ฝึก จังหวะการเดินเรื่องช้าลงจากช่วงแรก มีฉากสู้ที่เหมือนดูอนิเมชั่นของจีน ก็ยิ่งเดินเรื่องช้าลง เพราะการต่อสู้เหล่านั้นไม่ได้ยืนอยู่ในฐานะชองอุปสรรค์ ไม่ใช่กำแพงที่ต้องก้าวข้าม เป็นฉากเพื่อให้แสดงความ Edgy เท่านั้น

ไม่มีความขัดแยง ไม่มีแรงขับเคลื่อนจาก Plot device ทำให้เรื่องนี้ดำเนินไปด้วยการลากของผู้เขียน คุณต้องลงไปเขียนถึงเรื่องหนึ่งเพื่อดันเรื่องไปด้านหน้า แล้วเรื่องของคุณโครงใหญ่มาก ลากคนเดียวมันไปไม่ไหว

ถ้าอยากได้เครื่องทุ่นแรงก็สร้างความขัดแย้งหลักขึ้นมา ทำให้มันดำรงอยู่ในเรื่องสร้างผลกระทบต่อทุกตัวละคร ตัวละครมีความขัดแย้งของตัวเองอีกสามระดับ (ระดับสังคม ระดับคนรอบตัว ระดับภายใน) สร้าง Plot device ออกแรงผลักดันเรื่องไปยังเป้าหมายอีก คนเขียนจะไม่ต้องลงไปลากทุกอย่าง อยากเล่าอะไรพิเศษค่อยลงไปลาก เนื้อเรื่องก็จะเดินไปข้างหน้าได้ด้วย


ตัวละคร

ตัวเอกของเรื่อง เป็นตัวที่มองไม่ออกว่าเป็นคนอย่างไร เขามีหลักคิดอย่างไร เขาภักดีต่ออะไร อะไรคือเป้าหมาย อ่านแล้วตอบไม่ได้ มันไม่เหมือนถามว่าโนบิตะเป็นคนยังไง ไม่เหมือนถามว่าเพื่อนสนิทคุณเป็นคนยังไง ตัวเอกชองคุณเป็นคนยังไง

เจ้าหญิงแดนปิศาจเป็นคนยังไง แข็งนอก แต่อ่อนใน มีความผู้ยิ้งผู้หญิงชอบดูแลคนอื่น ก็เหมือน ๆ จะจับได้ แต่ตัวเอกนี้มันอะไรหว่าจับไม่ได้เลย บางครั้งอาจจะต้องคิดซีนเพื่อสื่อสารกับคนอ่านเลยว่าตัวเอกมันเป็นคนยังไงแบบขอสามคำพูดออกมาแล้วใช่เลย ไม่เอาแบบ หล่อ ผมแดง ตัวเหม็นนะ


การเขียนและการใช้ภาษา

คุณใช้ POV3 มุมมองพระเจ้า ที่มีความ Tell แบบ เล่า ๆ ๆ ๆ ๆ มีเรื่อง เล่าเยอะ ก็ เล่า ๆ ๆ (ผมเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องเล่าทุกเรื่องที่คิดได้) ข้อดีมันก็มีทำให้เรื่องดำเนินไปได้เร็ว แต่คนอ่านจะไม่ถูกดึงเข้าไปในโลกของคุณเท่ากับการ Show หากคุณไม่หัดเล่าเรื่องแบบแสดงให้คนอ่านเห็นแทนการเล่าให้ฟัง (show don't tell) มันก็จะมีกำแพงกั้นระหว่างเรื่องราวกับคนอ่าน คนอ่านจะไม่ถูกดึงเข้าไปในเรื่อง มันเป็นได้แค่เรื่องเล่าไม่ใช่โลกอีกใบหนึ่ง

การใช้ภาษาของคุณ สั้นกระซับใช้คำได้เหมาะสมสวยงาม อ่านลื่นไหลเชื่อได้ว่ามาจากความใส่ใจอย่างมาก ก.ไกสิบห้าล้านตัว


โดยสรุป ภาษาดี แต่เรื่องราวไร้ความขัดแย้งที่ทรงพลัง การเล่าเรื่องไม่ชูจุดที่สร้างความน่าติดตาม ติดการเล่ามากเกินไปจนกลายเป็นกำแพงทำให้คนอ่านไม่อินลงไปในโลกชองเรื่องราว คนอ่านจับทิศทางของเรื่องได้ไม่ชัดเจน หากถามว่าพระเอกต้องทำอะไร ผมอ่านมา 16 ตอนไม่ได้หรอกนะ ตอบแบบอ้อมแอ้ม คือตามหาหัวใจมังกร ถ้าถามว่าเอาไปทำอะไร ตอบไม่ได้แล้ว ตัวละครแบบนี้คนอ่านไม่รู้จะตามอะไรนะ ไม่รู้ทั้งเป้าหมาย ไม่รู้ทั้งสิ่งที่กำลังแบบรับ ก็ไม่รู้จะเอาใจช่วยยังไง


ชีวิตตัวเอกตอนเป็นอัศวินมังกรควรสร้างปัญหากับชีวิตเขาตอนนี้มากกว่านี้ และความขัดแย้งนี้ก็ถูกขยายให้ใหญ่ยิ่งขึ้นได้ง่ายด้วย ตัวเวมมนตร์สะกดจิตนี้เชื่อว่าอ่าน ๆ ไปก็ต้องมีจุดสงสัยว่าทำไมตอนนั้นไม่ใช้ ตอนนี้ไม่ใช้แน่นอน เป็นผมคงตัดทิ้งไปเลย คนอ่านจะได้ไม่ต้องรู้สึกว่าเป็นพล็อตโฮล

อีกจุดที่สงสัยเสมอคือเฝ่าปิศาจเรียกตัวเองว่าเป็นปิศาจ อ่านแล้วไม่เข้าใจว่ามีอะไรภูมิใจถึงเรียกตัวเองว่าปิศาจ

เอาแค่นี้แล้วกัน

0
กระต่ายปากเเดง 19 ส.ค. 64 เวลา 15:05 น. 8

เราติดเหรียญ แต่ติดตอนครึ่งเรื่องหลัง เพราะฉะนั้นครึ่งแรกน่าจะอ่านได้ (แต่ถ้าไม่รับติดเหรียญเลยก็ข้ามเม้นนี้ไปนะคะ)

ชื่อเรื่อง :ข้าคือราชินีผู้ทรงอำนาจ

https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2236230

เรื่องย่อ : ถูกพระเจ้าส่งมาเป็นเจ้าชายโอเมก้า เพื่อปกครองประเทศเล็กๆที่กำลังจะล่มจม ไหนจะมีการก่อกบฎอีก ทำไมทุกคนที่นี่ถึงเหยียดโอเมก้าขนาดนี้เนี่ย!!

0
PK030531 19 ส.ค. 64 เวลา 18:16 น. 9

นักศึกษาประจำมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง 8 คน ไปล่าท้าผีที่ป่า 'สนธยา' ณ จังหวัดกาญจนบุรี และก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย สองสัปดาห์ต่อมา กล้องของพวกเขาก็ถูกค้นพบพร้อมกับไดอารี่ของผู้หายสาบสูญ มีเหตุการณ์แปลกๆ ที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นในวิดีโอคลิป ในวิดีโอเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดว่า พวกเขาหายไปได้อย่างไร? ใครทำ? และทำไปเพื่ออะไร?

The Ghost Hunting Project: ตามล่าหาวิญญาณ

By Punchangk


https://writer.dek-d.com/PK030531/writer/view.php?id=2247012

1
IBlackShadowI 19 ส.ค. 64 เวลา 18:50 น. 10

ชื่อเรื่อง - Demon Creator [จอมมาร กับ การสร้าง]

คำโปรย - หลังจากปราบจอมมารตนสุดท้ายลง โชคชะตากลับเล่นตลก ให้เกิดมาเป็นจอมมารมือใหม่ นี่มันเรื่องตลกอะไรเนี่ย!!!

แนวนิยาย - แฟนตาซี ต่างโลก ตัวเอกเกิดใหม่เป็นจอมมาร

นิยายเป็นสบายๆ เรื่อยๆ ไม่ซีเรียสอ่านเพลินๆ มีการวางแผน ซ่อนปม

ขอบคุณครับ


https://writer.dek-d.com/IBlackShadowI/writer/view.php?id=1833114

0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

AungMoonLord 23 ส.ค. 64 เวลา 21:26 น. 13

ชื่อเรื่อง: บาโอกับลูกเต๋าแห่งพระเจ้า

คำโปรย: นี่คือการต่อสู้ของประชาชนกับกองทัพของจักรวรรดิด้วยพลังวิเศษที่เรียกว่าลูกเต๋าแห่งพระเจ้า

แนว: แฟนตาซี การเมือง โรแมนซ์ สงคราม ดราม่า อบอุ่นหัวใจ (ไม่วาย)


เรื่องนี้มีอะไรดี: เป็นแนวการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ที่ผสมความแฟนตาซีลงไป


->ประมาณว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากประชาชนมือเปล่าที่ถูกกองทัพจักรวรรดิเข่นฆ่าอย่างโหดร้าย แต่อยู่ๆก็มีพลังวิเศษปรากฎขึ้นในหมู่พวกเขา เช่น หยุดเวลา เทเลพอร์ต ยิงพลังออกจากฝ่ามือ วิ่งหลบด้วยความเร็วเหนือเสียง

->หากมีพลังเหล่านี้พวกเขาจะสามารถเอาชนะกองทัพจักรวรรดิที่มียุทธโธปกรณ์ล้ำสมัยได้หรือไม่? แล้วความสามารถเหนือมนุษย์เหล่านี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรกันแน่นะ?

->สุดท้ายแล้วการเปลี่ยนแปลงอาณาจักรนี้ให้กลายเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั้นจะสามารถทำได้จริงหรือเปล่า?

->ทั้งหมดนี้ถ้าอยากรู้ต้องรอติดตามได้เลยครับ

https://image.dek-d.com/27/0900/6873/132263043

ลิงค์นิยาย: https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=2245277

เสริมให้อีกนิด โมเมนต์ระหว่างคู่พระนางจะมีฉากหวานๆซึ้งๆด้วยเน้อ เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวดราม่า แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นหัวใจด้วยเช่นกัน

0
จันทร์หอน 24 ส.ค. 64 เวลา 14:08 น. 15

รบกวนเรื่องนี้สักเรื่องนะงับ ยังมีไม่กี่ตอน

ช่วยอ่านและ Link , Comment , Share หรือให้กำลังด้วยน๊าาา หรือติชม ก็ได้ไม่ว่ากัน


# แฟนตาซี หนุ่มน้อยผจญภัยพร้อมสหาย

https://writer.dek-d.com/farnotfear/writer/view.php?id=846335


0