Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อนุคนใหม่ของท่านแม่ทัพมาแล้ว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

งามมากๆเลยเจ้าค่ะ
นิยายยังไม่มาจ้า มาแต่ปก อิอิ


https://writer.dek-d.com/Miraclemoon/writer/view.php?id=2250334

 

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

omen 23 ส.ค. 64 เวลา 17:57 น. 1

ตกลงคราวนี้นางเอกจะเอาง้าวมาฟันหัวฮ่องเต้หรือเปล่าครับ? "แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินของคนในใต้หล้า แผ่นดินของผู้กล้ามีปัญญา ไม่ใช่ของคนขี้ขลาดอ่อนแอ"

When you play the game of thrones ,you win or you die

6
Miraclemoon 23 ส.ค. 64 เวลา 19:04 น. 1-1

ไม่ได้ใช้ง้าวค่ะ แต่ใช้ความสวยแทนเครื่องมือ


....อันสตรีมีความงามเป็นอาวุธ หากหนึ่งรอยยิ้มสามารถจุดไฟบนกำแพงได้ ข้าจะไม่ลังเลเลยที่จะใช้รอยยิ้มของข้าเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ...


หนึ่งรอยยิ้มแลกกับการจุดไฟบนกำแพง เป็นตำนานของโจวอ๋อง สั่งให้จุดไฟส่งสัญญาณศึกบนกำแพงเมืองเพื่อทำให้นางสนมคนโปรดยิ้มค่ะ เลยโดนขุนนางทหารรวมหัวกันกบฏจับฮ่องเต้สำเร็จโทษเสียเลย

0
omen 23 ส.ค. 64 เวลา 23:13 น. 1-2

ขอบคุณครับ ตำนานพันตำลึงทองแขนไม่ไ้ดจับนั่นเอง ฮา

ผมกำลังมองเรื่องความสวยความหล่อมีผลกับการเมืองแบบจีนโบราณแค่ไหนเหมือนกัน มองว่าแม่นางยิ้มเดียวนี่คือ accomplice ผู้สมรู้ร่วมคิด ไม่ใช่เหยื่อทางการเมืองแบบที่แนวสิทธิสตรีพยายามจะสื่อ เพราะเป็นบุคคลสำคัญที่ต้องตอบรับแผนการทางการเมืองกับอ๋องที่ใช้งานแม่นางได้ หรือทำเพื่อเป้าหมายของตนเองนั่นเอง ไม่ใช่เครือ่งมือแต่อย่างใด นึกถึงคนวิจารณ์ว่าคลีโอพัตราไม่ใช่หญิงสาวบ๊องแบ๊วน่าสงสารแต่ประการใด มันคือการเมืองตั้งแต่ต้นจนจบนั่นเอง แน่นอนพอเขียไนปอย่างนั้น ก็จะเป็นอย่างทีผ่มเขียน วังลหวงราวกับหลุดมาจกาหนังสยองขวัญก็ไม่ปาน

0
Miraclemoon 24 ส.ค. 64 เวลา 00:31 น. 1-3

สมัยโบราณวิธีแบบนี้เรียกว่ากลยุทธ์หญิงงามค่ะ คือเอาความสวยเข้าล่อหลอกศัตรู ไม่อย่างนั้นคนจีนโบราณจะมีวลีจำพวก 'วีรบุรุษไม่ผ่านด่านหญิงงาม' ขอตายใต้ดอกโบตั๋น แนวๆนี้

ไม่ว่าจะนางเตียวเสี้ยน

นางไซซี

นางต๋าจี๋

นางเปาซื่อ(คนที่ผัวจุดไฟบนกำแพงนี่แหละจ้ะ)

0
omen 24 ส.ค. 64 เวลา 10:50 น. 1-4

นั่นล่ะครับ ผมสังเกตว่าแม้กระทั่งในโลกที่มีวรยุทธ ความแตกต่างของร่างกายไม่ควรจะมีอยู่จริง โลกของความเท่าเทียมอย่างแท้จริงในด้านกำลัง ผู้หญิงก็เลือกที่จะใช้มารยา มากกว่าเอาง้าวไปเฉาะหัวศัตรูแบบกวนอูอยุ่นั่นเอง

0
Miraclemoon 25 ส.ค. 64 เวลา 14:46 น. 1-5

ตำราพิชัยสงครามไง วิธีเอาชนะศัตรูได้ไม่ใช่แค่เอาง้าวไปเฉาะหัวศัตรูอย่างเดียว

0
omen 25 ส.ค. 64 เวลา 14:59 น. 1-6

แต่เอาง้าวไปเฉาะหัวศัตรูมันคือวิธีที่ง่ายกว่าล่ะครับ when all you have is hammer,everything look like nail

0
Miraclemoon 24 ส.ค. 64 เวลา 00:33 น. 2

ส่วนอีกกลุ่มก็คือใช้ความสวยกรุยทางไปสู่อำนาจ ตัวอย่างของผู้หญิงกลุ่มนี้ก็มี


เยี่ยนฮองเฮาแคว้นเยียน

บูเช็คเทียน

หยางกุ้ยเฟย

ซูสีไทเฮา

3
omen 24 ส.ค. 64 เวลา 10:52 น. 2-1

น่าสนใจว่าในเรื่องนี้ สเกลพลังของจักรวาลนั้น มีวรยุทธจริงหรือเปล่าล่ะครับ หากสาวๆฝึกวรยุทธ ผมมองไม่เห็นสาเหตุอะไรที่จะไม่ฆ่าศัตรูด้วยมือตนเอง มองในแง่นหนึ่ง ฝรั่งคนหนึ่งที่ผมคุยด้วยเข้าใจแนวคิดผู้หญิงได้ดีกว่าผมแฮะ เขาบอกว่้าต่อให้ฝึกวรบุทธได้ แต่ธรรมเนียม นิสัยความเคยชิน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นั่นเอง

0
Miraclemoon 24 ส.ค. 64 เวลา 15:54 น. 2-2

ประเด็นนี้ต้องย้อนไปคุยกันตั้งแต่ในแง่ของชีวะภาพเลยค่ะ


มนุษย์เพศหญิงไม่ได้ถูกออกมาให้เป็นเพศที่ต้องออกล่านะคะ ทางกายภาพรูปร่างก็ไม่ได้แข็งแรงเท่ามนุษย์เพศชาย นิสัยก็ไม่ได้มีความ Aggressive เท่าเพศชาย


การฝึกวรยุทธ์ ถ้าเอาผู้หญิงกับผู้ชายที่ฝึกวรยุทธ์เหมือนกันมาเทียบกัน แน่นอนว่าฝ่ายหญิงก็ยังเสียเปรียบด้านพลกำลังอยู่ดีค่ะ

อีกอย่างด้วยรูปลักษณ์ของสรีระทำให้เป็นอุปสรรค์ต่อการต่อสู้ เช่นหน้าอก สะโพก มดลูก ประจำเดือน ระบบสืบพันธุ์

ถ้าเปลี่ยนให้เพศหญิงมีนิสัยเหมือนเพศชาย ที่มีความกาวร้าวมีรูปร่างแข็งแรงเท่ากันไม่ได้มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ เพศหญิงก็จะลุกขึ้นมาทำสงครามกับเพศชายค่ะ

0
omen 25 ส.ค. 64 เวลา 09:23 น. 2-3

หมายถึงหากเราทำอย่างที่-ันในด้านวรยุทธ ความแตกต่างทางด้านกำลังกายภาพปรกติในระดับมนุษย์ธรรมดา ไม่มีผลแต่อย่างใดในระดับพลังของคนที่ฝึกวรยุทธไปแล้วน่ะครับ เพระาวัดกันที่พลังปราณกับเคล็ดวิชาล้วนๆที่ก็ชอบโม้ว่านางเอกผู้หญิงเก่งอยู่ดี

แต่การฆ่าเลยอาจจะเรียบง่ายเกินไป ผู้หญิงอาจจะไม่เคยชินกับแนวคิดเช่นนั้น ต้องผ่านกรรมวิธีการต่างๆโดยอ้อมเป็นวงก่อน ตามแนวทางที่เคยแก้ไขปัญหามา เป็นปัญหาของวัฒนธรรมและความเคยชินมากกว่าปัญหาเรื่องศักยภาพทางร่างกายน่ะครับ

0