Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แต่งนิยายไปอัพไปหรือแต่งจบแล้วค่อยอัพดีครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ขอคำแนะนำสำหรับนักเขียนมือใหม่ด้วยนะครับ //โค้งตัว ^^

แสดงความคิดเห็น

13 ความคิดเห็น

นีทคุง 16 มี.ค. 65 เวลา 22:57 น. 1

แต่งจบค่อยอัพดีสุด ถ้าจริงจังกับการเขียนนิยาย


แต่ผมทำไม่ได้เพราะจะหมดอารมณ์แต่งไปซะก่อน เลยกลายเป็นแต่งไปอัพไป


1
รีดอินเงา 16 มี.ค. 65 เวลา 22:58 น. 2

ถ้ามั่นใจตัวเอง ว่าจะแต่งจบจริงๆ ไม่เทนักอ่านกลางคัน ก็แต่งไปอัปไปค่ะ


แต่เราไม่เชื่อใจนักเขียนหรอก ในฐานะนักอ่าน บอกเลยว่า ไปแต่มาให้จบก่อนเลยค่ะ แล้วค่อยมาทยอยลงก็ได้ค่ะ


เรารอนิยายเรื่องนึงมาสองเดือนแล้ว ไปตามก็แล้ว เม้นแล้ว อวยแล้ว แชร์แล้ว อะไรก็แล้ว นักเขียนก็ยังไม่มา อยากจะกรี๊ดให้ไปถึงบ้านนักเขียน แต่ไม่รู้ว่านักเขียนอยู่ไหน ฮึยยยยยย

1
เสียใจแต่ก็แคร์ 16 มี.ค. 65 เวลา 23:10 น. 2-1

วอนคนช่วยตามหาคุณนักเขียนท่านนั้นด้วยนะครับ ฮ่า ขอให้เขากลับมานะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

0
varunyanee 16 มี.ค. 65 เวลา 23:03 น. 3

มือใหม่....แนะนำให้แต่งจนจบก่อนอัพค่ะ เพราะมีโอกาสตัน และมีแนวโน้มจะเทสูง

ลองหัดแต่งให้จบ อ่านทวน แล้วค่อยๆทยอยปล่อยค่ะ

ในที่นี้ดีตรงที่ประเมินได้ว่า ทิศทางของนิยายเป็นเช่นไร

ถ้ากระแสดี เปิดขายตอนอ่านล่วงหน้าหรือขายเป็น E-book พร้อมทยอยอัพ..ก็มีโอกาสมีรายได้ค่ะ ///ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับว่านิยายสนุกไหม ฐานแฟนคลับมีเท่าไหร่นะคะ

4
นีทคุง 16 มี.ค. 65 เวลา 23:23 น. 3-2

อันนี้จริงแต่ปัญหาก็คือ มันจะไม่มีกำลังใจในการเขียนอะ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นหมด เล่นกีต้าร์บ้าง ไปเทียวบ้าง ไปดูหนังบ้าง ออกกำลังกายบ้าง


พอวันไหนเหนื่อยๆก็ทิ้งตัวลงเตียงแล้วไหลยาวเลย แล้วก็จะไม่มีโอกาสเรียนรู้ข้อผิดพลาดของตัวเองด้วย(คือพอเอามาลงโดนนักอ่านด่าเลยมีการพัฒนา) แต่ถ้าแต่งจบแล้วเอามาปล่อยแล้วไม่มีคนอ่านก็จะล้มเลิกการเขียนไปเลยอย่างถาวร (เพราะคิดว่าตนเองไม่เหมาะกับงานสายนี้) (ซึ่งความจริงแล้วคนเราจะต้องฝึกฝนไปทีละนิดและเรียนรู้ข้อผิดพลาด)


เอาจริงมันมีหลายอย่างที่ทำแล้วได้กำไรสู้กว่านิยาย เช่น เปิดร้านอาหาร ทำห้องเช่า เล่นหุ้น ทำวีดีโอลงเน็ต (พูดเหมือนงานหลังแต่จริงๆแล้วพวกนี้เอามาทำเป็นงานเสริมได้ทั้งนั้นถ้ามีแบบแผนจัดการดีๆ ก็จะพอมีเวลาว่าง)


ถ้ามือใหม่ใจไม่ได้รักในการเขียนจริงๆ เขียนแค่ 20 ตอนก็หมดอารมณ์แต่งจากนั้นก็ไปทำอย่างอื่นแล้ว เหมือนผมอะฝึกเขียนมา 4 ปีเงียบๆ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ต้องมาแต่งไปอัพไปให้โดนด่าก่อนถึงจะมีการพัฒนา (〃 ̄ω ̄〃ゞ

0
นีทคุง 16 มี.ค. 65 เวลา 23:52 น. 3-3

เอาจริงๆแล้วมันเป็นครั้งแรกในชีวิตขอผมเลย ที่เขียนนิยายมาไกลถึง 225,000 คำ


ก่อนหน้านี้ที่ฝึกเขียนเงียบๆคนเดียว แค่ 15 ตอน 20 ตอนก็ปล่อยทิ้ง แล้วไปทำอย่างอื่นแล้ว ไม่เคยแต่งได้ไกลไปกว่านี้เลย


ภูมิใจจุดๆเลยเอาจริงๆ (〃 ̄ω ̄〃ゞ ถึงนิยายผมมันจะไม่ได้ดีอะไรตามภาษามือใหม่หัดเขียนก็เถอะ


0
varunyanee 17 มี.ค. 65 เวลา 00:05 น. 3-4

ค่อยๆทำไปค่ะ เป็นการฝึกสั่งงานตัวเอง ห้ามใจตัวเอง ด้วยสถานการณ์จริง

พอเราทำมันทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าทางซ้ายหรือขวา ....เราจะได้คำตอบให้ตัวเองว่า

>> จริงแล้ว เราจะเดินไปทางไหนดี //

ได้ก้าว...ดีกว่าความคิดที่จะก้าว

คิดที่จะก้าว ...ดีกว่าไม่คิดอะไรเลย ^^

0
Ciel En Rose 16 มี.ค. 65 เวลา 23:11 น. 4

เราแต่งไปอัปไปค่ะ แต่จริง ๆ มีแต่งไว้หลายตอนแล้วค่อยอัปค่ะ ซึ่งทำได้ตอนมีนิยายตุนไว้ต้น ๆ เรื่อง ทว่าการแต่งจบแล้วอัปประจำจะดีกว่าค่ะ

1
Sambaboy 16 มี.ค. 65 เวลา 23:59 น. 5

ทั้งสองแบบมันมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ และสำหรับมือใหม่และมือเก่าที่มีแฟนคลับอยู่แล้วก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นกัน


[สำหรับมือใหม่]

-แต่งไปอัพไป

ข้อดี คือ อัพไปเรียนรู้ไปได้ง่าย แก้ไขข้อบกพร่องตามคำวิจารณ์ได้ง่าย แก้ตามเม้นท์ได้ง่าย

ข้อเสีย คือ ถ้าคนอ่านน้อยมีโอกาสสูงที่จะเทนักอ่าน เปิดเรื่องใหม่ หรือหนีไปเลย

-แต่งจบแล้วค่อยอัพ

ข้อดี คือ อัพจบแน่ๆ สามารถทำ ebook ขายควบคู่ไปด้วยได้

ข้อเสีย คือ ช่วงซุ่มแต่งอาจไม่อดทนพอที่จะแต่งให้จบอาจเลิกก่อน ถ้าแต่งจบเอามาอัพแล้วคนอ่านน้อยหรือโดนเม้นท์ด่าเยอะ วิจารณ์เละ จะแก้ลำบากยิ่งเรื่องยาวยิ่งตามแก้ไม่ไหว อาจหมดกำลังใจที่จะอัพให้จบเช่นเดียวกัน


[สำหรับมือเก่า]

-แต่งไปอัพไป

ข้อดี คือ ปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องเอาใจแฟนคลับได้ง่าย

ข้อเสีย คือ ถ้าคนอ่านน้อยก็มีโอกาสสูงที่จะเทนักอ่านเช่นเดียวกัน แต่คงไม่หายไปไหนเพราะยังมีแฟนคลับ แต่ใช้วิธีดองเรื่องเก่า(บางคนระบุไว้เลยว่าดองไม่มีกำหนด) แล้วเปิดเรื่องใหม่แทน

-แต่งจบแล้วค่อยอัพ

ข้อดี คือ อัพจบแน่ๆ สามารถทำ ebook ขายควบคู่กันไป

้ข้อเสีย คือ ไม่น่ามีนะ ยังไงฐานแฟนคลับก็ตามอ่าน

5
Sambaboy 17 มี.ค. 65 เวลา 00:09 น. 5-1

สำหรับมือใหม่ ความเห็นผมคือ ควรกระจายความเสี่ยง เอาข้อดีทั้งสองแบบมาอย่างละครึ่ง คือแต่งให้ได้หลายๆ ตอนก่อน (ควรเกิน 10 ตอน) เพราะถ้าจะเลิกแต่งก็อยู่ในช่วง 10 ตอนนี้ละ แต่ถ้าแต่งเลยไปแล้วก็ควรจะรอดครับ


ตอนเอามาอัพถ้าเจอข้อบกพร่องสามารถตามแก้ได้ง่าย และมีโอกาสเทน้อยเพราะแต่งไปเยอะแล้ว

0
นีทคุง 17 มี.ค. 65 เวลา 00:20 น. 5-2

ถ้าให้ดีควร 25 ถึง 30 ตอน(แต่ของผม 20 ตอนและมีการแต่งล่วงหน้าไป 14 ตอน)(คือการเขียนตอนใหม่แล้วทยอยลงตอนเก่า) ถ้านิยายเป็นแผนยาว ช่วงแรกจะสำคัญมากๆและจะเขียนมากยากที่สุด อารมณ์เหมือนตีกรอบหน้ากระดาษอะ(มันคือการว่างขอบเขตเนื้อเรื่องนะ เวลาไหนเผลอเขียนออกทะเลจะได้รู้ขอบเขตเรื่องและไม่หลงทะเลไปไกลจนหาทางกลับไม่ได้)

0
นีทคุง 17 มี.ค. 65 เวลา 00:34 น. 5-3

ถึงจะมีการแต่งล่วงหน้า แต่ผมก็ดันไปโดนวัคซีนสูตรผสมเข้าพอดี 14 ตอนที่แต่งล่วงหน้าไปคือใช้หมดในพริบตา (இ﹏இ`。)


ตั้งแต่ตอน 60 อะผมแต่งสดหมดเลย แต่ก็ไม่รู้ทำไมแต่งสดคำผิดถึงได้หลุดน้อยกว่าการแต่งล่วงหน้าไปไกลๆ ทุกวันนี้ผมยังสงสัยตัวเองอยู่เลย(แต่งล่วงหน้ามันควรดีกว่าแต่งสดสิฟะ แล้วทำไมแต่งสดมันถึงได้ดีกว่า!!) ถามตัวเองทุกวันอะ

0
Sambaboy 17 มี.ค. 65 เวลา 00:41 น. 5-4

แต่งล่วงหน้าอาจจะอยู่ในอารมณ์ แต่งไปก่อนเดี๋ยวค่อยมาดูอีกที แล้วก็ลืมไปเลย

แต่ถ้าแต่งไปอัพไป มันต้องดูตอนนี้แหละ จะอัพอยู่แล้ว


ประมาณนี้หรือเปล่าครับ ^^

0
No name 17 มี.ค. 65 เวลา 09:39 น. 7

เขียนให้จบแล้วค่อยอัพ เพราะว่าคุณจะไม่จำเป็นต้องมานั่งกังวลเลยว่านักอ่านรอ ระหว่างเขียนตอนต่อไป (ถ้าไม่มี stock) แล้วนิยายทิ้งช่วงนานคนอ่านจะหายเรื่อยๆ เขียนให้จบแล้วค่อยอัพค่ะ ถ้าคุณไม่หมด passion สะก่อนนะ

1
A.L. Lee 17 มี.ค. 65 เวลา 09:43 น. 8

ถ้าทำได้ ควรแต่งให้จบค่อยอัป เพื่อไม่ให้เกิดอาการฟุ้งซ่าน ธาตุไฟเข้าแทรกจนต้องปิดนิยายรีไรต์ หรือเทนักอ่าน มันเป็นเครดิตตัวเองด้วย และเอามาลงถี่ ๆ ลงทุกวันกระตุ้นยอดวิวยอดเฟบได้ แต่มีข้อเสียคือ มันเหงามากกกกกก


นั่นเป็นสาเหตุให้หลายคนก็ทนไม่ไหว เขียนเสร็จก็อัปเลย (รวมถึงเราด้วย) เพราะอยากรู้ฟีดแบ็ก อยากได้กำลังใจ แต่อย่าลืมว่ามันเป็นดาบสองคม คนที่ผลตอบรับดี ก็ไฟพุ่ง มีแรงเขียนยาว ๆ ไป แต่ถ้าผลตอบรับไม่ดี เจอคอมเมนต์แย่ ๆ ก็มีโอกาสเฟลจนเลิกเขียนสูง


งั้นทำยังไงดี =w=


เราว่านะ เขียนจนมั่นใจว่าไปรอดแน่ถึงค่อยอัป เขียนให้รอด intro ก่อน ให้ลองเข้าไปแตะปมหลักของเรื่องจนชัวร์แล้วว่าจะมาเวย์นี้ อาจจะ 10-20 ตอน หรือซัก 40-60% ของเรื่อง แค่นี้น่าจะเป็นระดับที่ยังพอทนกับอาการคันไม้คันมืออยากลงได้อ่ะนะ และเป็นความยาวที่พอจะรู้ว่านิยายเรื่องนี้จะไปรอดหรือไม่แล้วด้วย

1
TunKoB 18 มี.ค. 65 เวลา 17:24 น. 9

นิยายลงเว็บส่วนใหญ่แต่งไปอัพไป ส่วนใหญ่ที่แต่งจนจบแล้วค่อยลงทีเดียวจะเป็นกลุ่มนักเขียนที่ส่งสำนักพิมพ์มั้งครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าแต่งเพื่ออะไร การแต่งแล้วได้รู้ผลตอบรับจากนักอ่านไปด้วยมันจะทำให้เกิดกำลังใจมหาศาล กลับกันเกิดผลตอบรับออกมาในแง่แย่หรือแง่ลบ มันก็หนักหน่วงเหมือนกัน

1
S.G.Thawi 19 มี.ค. 65 เวลา 20:01 น. 11

แต่งจบแล้วค่อยอัพ ไม่งั้นก็ เขียนไปได้สัก 80% แล้วลงก็ได้ครับ มีโอกาสสูงที่จะไม่ตันกลางทาง

ที่สำคัญคืออย่ากดดันตัวเองให้มากเกินไป เพราะไอเดียมักจะมาตอนสมองโล่งๆ

0
Mynaryn 19 มี.ค. 65 เวลา 20:57 น. 12

นับถือใจมือใหม่ที่แต่งจบหรือเกือบจบแล้วค่อยลงอ่ะ


คือแบบมือเก่ามันยังมีฐาน ฟค. ไง


แต่มือใหม่นี่นั่งเขียนอยู่คนเดียว 6 เดือน 

เอามาลงดันมีคนอ่านหลักสิบ นี่คงเศร้าจัดอะ


อย่างเราเขียนมา 5 ตอน ก็ทนไม่ไหวละ คันมือ ต้องลงอยากได้ฟีดแบค พอยอดวิวยอดเฟบพุ่งก็ใจฟู ลุยยาวๆ


แต่ตอนนี้พอยอดวิวเริ่มนิ่ง ยอดอันเฟบพุ่ง ใจเหี่ยว หมดแรงT^T

0
issamany2 21 มี.ค. 65 เวลา 14:10 น. 13

เเต่งจบหรือใกล้จบเเล้วค่อยอัพดีกว่า จาก ปสก ตรง ถ้าฟีดแบ็คไม่ดีทำเอาหมดไฟได้ง่ายๆนะเออ แต่ถ้าเเต่งจบแล้วฟีดไม่ดี อย่างน้อยเราก็แต่งจบอ่านะ

0