มาแล้ว! เด็กหนุ่มผู้แสวงหาพลังเพื่อจุดมุ่งหมายของตน นิยายแนวแฟนตาซีตะวันตก (ฝากนิยาย)
https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2319092
<<<เรื่องนี้ไม่เท พยายามออกทุกวัน>>>
วิธีการช่วยนักเขียนผลิตงานออกมา : เพียงกดติดตาม กดหัวใจ
ส่งสติ๊กเกอร์ คอมเม้นต์ให้กำลังใจ ก็พอแล้ว
ที่เหล่ามนุษย์จะใช้เพื่อกำจัดศัตรูที่แท้จริงได้
เขียนเรื่องย่อไม่เก่ง ขอเอาบทนำมาเลยขอรับ
OmegaGods ภาคฟีนิกซ์ I บทนำ
เด็กชายและเด็กหญิง
.
.
.
จงเพ่งดูให้มั่น
เวทมนตร์อยู่ใกล้แค่เอื้อม
ข้าต้องไขว่คว้า
เรื่องราวก่อนหน้านั้น โชคชะตาทั้งสองบรรจบพบเจอกัน วันที่ท้องฟ้าโปร่งใส ธงผื่นน้ำเงินขลิบขอบทองมีรูปสิงโตบินคาบคบเพลิงโบกสะบัดพลิ้วไหวตามกระแสลมในฤดูเหมันต์ ผีเสื้อสีขาวสยายปีกโผบินวนเวียนไปมาอย่างอิสระ ขาเล็กจิ๋วสีดำของมันเกาะติดพื้นผิวแอปเปิลสีแดงบนชั้นวางของร้านผลไม้แห่งหนึ่ง ร้านตั้งอยู่บริเวณริมถนนภายในขอบกำแพงที่ติดกับแนวชายป่ามรณะนามว่าเอเดน ป่าแห่งความตายนี้เล่าขานกันว่าเป็นดินแดนดงดิบอันเขียวขจีต้องคำสาปอันเต็มไปด้วยพิษซากมังกรพันปี บ่อยครั้งที่ผู้กล้าเสียสติเข้าไปพบเจอเรื่องอันเลวร้ายสุดสยอง ชาวเมืองแถวนั้นมักได้ยินเสียงป่ากรีดร้องราวกับเสียงระฆังในงานส่งวิญญาณคนตาย มนุษย์ผู้ใดเหยียบย่างเข้าไปในอาณาเขตป่าเอเดนแล้ว จะไร้เงาหัว จะไร้หนทางออก วิญญาณจะสิงในพฤกษาชั่วนิรันดร์กาล แต่หากโชคดีรอดมาได้ ก็มักจะกลับมาแบบร่างกายไม่ครบทุกส่วนอย่างแขนขาด ขาขาด ตาบอด ซึ่งชาวเมืองเห็นอยู่เป็นประจำ
จู่ ๆ ผีเสื้อก็บินหนีจากแอปเปิลเหมือนมีอะไรไปจิ้มมัน ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าแอปเปิลผลนั้นดูผิดแปลกไป ผลสีแดงดุจหัวใจกระดุกกระดิก แล้วลอยขึ้นค้างกลางอากาศราวกับนกน้อยกระพือปีก จากนั้นก็เคลื่อนตัวแหวกอากาศพุ่งตรงเข้าหาฝ่ามือของเด็กชายที่กางรอรับไว้อย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาฝ่ามือใครไม่รู้ว่องไวชิงแอปเปิลตัดหน้าเด็กชายได้ก่อน แล้วตอนนี้แอปเปิลผลนั้นก็อยู่ในมือของเด็กหญิงแล้ว
“จะ...จา..เจ้า” เด็กชายพูดตะกุกตะกัก ชีพจรเต้นถี่เมื่อดวงตาสีเขียวของเขาจับจ้องแผ่นหลังร่างผอมของเด็กหญิงผมสีเงินอันประดับประดาด้วยเพชรรูปทรงขนนกสีขาวดุจไข่มุกส่องประกายระยิบระยับอันบ่งบอกความเป็นสตรีสูงศักดิ์
“พ่อมดน้อย เจ้าอดยากจนขโมยเลยรึ”
"ฮะ" เขาขมวดคิ้วพยายามนึกคำพูดโต้ตอบ แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า แอปเปิลนั้นมันเป็นของข้าตั้งแต่แรกแล้ว เจ้าต่างหากที่ขโมยไป เขาอยากจะพ่นคำพูดแบบนี้ออกมา แต่คำนั้นหนักอึ้งเกินไป
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ค่อยคุยกับมนุษย์บ่อยนักใช่ไหม” เด็กหญิงหันมายิ้มเยาะเย้ย พลางชูแอปเปิลในมือต่อหน้าต่อตาเขาราวกับก้อนหินไร้ค่า ดวงตาสีฟ้าไม่เป็นมิตรของเธอมองเด็กชายจากหัวจรดเท้าอย่างดูหมิ่น เธอเห็นดวงตาสีเขียวเผยบนใบหน้าที่เปื้อนขี้โคลนของเด็กชายผมสีน้ำตาลเข้มหยักศกชี้โด่เด่ยุ่งเหยิง สวมชุดคลุมจากใบไม้และเปลือกไม้สีน้ำตาล พร้อมกับกลิ่นที่เธอคิดว่าเป็นขยะ เขาเหมือนเป็นเด็กอายุประมาณแปดขวบเท่ากับเธอ "ยี้ ข้ากำลังมองอะไรอยู่เนี่ย"
แต่ว่าเด็กชายมองเด็กหญิงต่างออกไปจนคิดว่าเธอเป็นเหมือนอะไรบางอย่างที่เขาพยายามนึกอยู่ "นะ..นา..นาง..ฟา..ฟ้า" เขานึกคำนั้นออกมาพลางมองใบหน้าเรียวเล็ก ผิวเปล่งปลั่งไร้มลทินของเธอ ผ้าคลุมสีดำขลิบขอบสีทองห่อหุ้มร่างน้อยอันบอกบาง เข็มกลัดสิงโตบินคาบคบเพลิงทองคำสะท้อนแสงแวววาวโดดเด่นยึดจับผ้าคลุมระหว่างคอ ในชุดเครื่องแบบของเธอดูงดงามและเหมือนเป็นผู้ทรงพลังอันเปี่ยมล้นไปด้วยอำนาจทั้งปวง ผมสีเงินส่องประกายของเด็กหญิงทำให้เขาคิดว่าเธอเป็นเหมือนสิ่งที่อยู่บนสวรรค์ เขาหลับตาเรียกสติตัวเองกลับมา เธอก็แค่มนุษย์ที่ดูถูกเขา “รา...เรา..มะ...มา...คุ..คุย..กัน...ดิ...ดี...ได้ไหม”
“ช่างน่าสงสาร คนป่าหรือนี่ เจ้าคงถูกสัตว์เลี้ยงมา” เด็กหญิงชูคอมองไปยังแอปเปิลในมือของเธอ "เอาอย่างนี้ละกัน ข้ารู้สึกเสียดายความสามารถหากปล่อยเจ้าไป ลองใช้ความสามารถเมื่อตะกี้ของเจ้าให้ข้าดูหน่อยสิ ข้าอยากรู้ยิ่งนัก เจ้าทำให้มันลอยได้อย่างไรกัน มันเป็นเวทมนตร์ใช่ไหม”
“คา..คือ..วะ..ว่า--” เด็กชายพูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่ในปาก เขาไม่ควรเปิดเผยเรื่องนี้ให้กับใคร
“เจ้าหัวขโมย ข้ารอเจ้าแสดงมายากลอยู่นะ”
เด็กชายเงียบพลางถอนหายใจ แล้วหันหลังเดินหนี
“อย่ามาหันหลังให้ข้า" เธอตวาด "เจ้าอยากได้แอปเปิลนี้ไม่ใช่เหรอ เอานี่ไหม มาเป็นคนของข้า แล้วเจ้าจะมีกินอย่างไม่จำกัดเลย เจ้าอยากมาเป็นองครักษ์หรือมาเป็นคนรับใช้ของข้าไหมล่ะ เจ้าจะได้สุขสบายอยากกินอะไรก็กินไปทั้งชาติ”
เด็กชายหันกลับมาด้วยแววตาเป็นประกายพร้อมกับคำพูดที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เขาเคยเอ่ยออกมา "เรา..ปะ..เป็นเพื่อนกันเถอะ”
“ข้าไม่มีทางเป็นเพื่อนกับเจ้าหัวขโมย”
“ขะ...ขโมย" เด็กชายยิ้มพลางส่งสายตาชี้ไปยังแอปเปิลในมือของเด็กหญิง และย้ำอีกครั้งด้วยการนำนิ้วชี้ไปที่เธอ "ขโมย"
“ เจ้า” เธอรู้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร สีแดงฉายแววบนใบหน้าเด็กหญิงชัดเจน เขาพยายามจะโยนให้เธอต่างหากที่เป็นขโมย ด้วยเนื่องจากหลักฐานมักจะอยู่ในมือผู้ก่อเหตุเสมอ “เกิดมาทั้งชีวิต ไม่มีใครกล้าบังอาจกับข้าถึงเพียงนี้ ข้าเห็นเจ้ามีความสามารถ ไม่ควรมาเป็นขโมยเช่นนี้ ข้ากะจะมอบยศองครักษ์ส่วนตัวให้ เจ้าจะได้กินดีอยู่ดีไปทั้งชาติ แต่เจ้ามันไร้มารยาทเกินเยียวยา”
“ขะ...ขโมย" เด็กชายขำคิกคัก
“เจ้าคนหยาบคายไร้มารยาทเช่นเจ้าต้องเจอข้าสั่งสอน”
เด็กชายโบกมือลาอย่างไม่สนใจไฟโกรธที่ปรากฎใบหน้าของเด็กหญิงเด่นชัดยิ่งกว่าสิ่งใดโดยรอบ ๆ บริเวณนี้ แม้แต่อากาศยังรับรู้ได้ถึงความร้อนในร่างกายที่ถูกอัดแน่นในผ้าคลุมสีดำ มือกำผลแอปเปิลจนเกือบแตก ถ้านั้นเป็นหัวใจน้อยๆ ของเขาคงแตกสลายคามือเธอ เขาเองก็รู้ดีว่าควรห่างจากเธอไว้ นางฟ้าที่เขาคิดกลายเป็นนางมารได้อย่างไรกัน แต่ทำไมเขารู้สึกดีด้วยซ้ำเมื่อเห็นแววโกรธเกรี้ยวในดวงตาสีฟ้าของเธอ
“อา...แอป...ปา...เปิล..นั้น...ขะ...ข้า...ให้...จะ...เจ้า” เขาพูดติดอ่างแต่ทว่าวาจานั้นไม่ต่างอะไรจากน้ำมัน
“มันจะมากเกินไปแล้ว” เด็กหญิงแผดเสียงราวกับไฟเผาผลาญ เมื่อคำพูดเหมือนไฟอยู่ใกล้น้ำมัน จุดระเบิดก็เกิดขึ้นทันที
เด็กชายแลบลิ้นแล้ววิ่งหนีพลางยิ้มและหัวเราะอย่างคนมีชัยเหนือกว่า ทำเอาดวงตาของเด็กหญิงวาวโรจน์ด้วยไฟโกรธจัดอัดแน่นจนถึงขีดสุดดั่งภูเขาไฟระเบิด เธอเขวี้ยงแอปเปิลพร้อมดาลโทสะใส่เขา แต่เขาหลบได้ มือน้อยของเธอสัมผัสอาวุธบางอย่างในผ้าคลุม หวังจะใช้เพื่อสั่งสอนเจ้าคนป่าเถื่อนที่กำลังเคลื่อนตัวห่างจากเธอ ในขณะนั้นก็มีเสียงหวานนุ่มราวกับสายน้ำเรียกหาของใครสักคนดังขึ้นมาแต่ไกลจนเธอต้องชะงัก
“เจ้าหญิงอาเมอร์ธาเพคะ ประทับอยู่แถวนี่รึเปล่า องค์ราชินีตามหาอยู่เพคะ เจ้าหญิงเพคะ เจ้าหญิง ให้เสียงหม่อมฉันหน่อยค่ะ--”
เสียงร้องเรียกหาเจ้าหญิงไม่มีทางหยุด ต่อให้เสียงนั้นเหมือนสายน้ำ แต่มันไม่มากพอจะดับไฟพิโรธในใจของเธอได้ แม้ในความคิดของเธอนั้น ใจหนึ่งอยากไปหาคนเรียกหา อีกใจก็อยากจะตามไปสั่งสอนคนวิ่งหนี หากช่างน้ำหนักแล้ว เจ้าหญิงน้อยเลือกจะกัดฟันแล้ววิ่งตามเจ้าเด็กชายผู้หยิ่งผยองนั้นไป ชาตินี้ถ้าไม่ได้ตัดลิ้นเจ้าบ้าที่หมิ่นเกียรติเธอแล้วละก็ คงเสื่อมเสียคนในสายเลือดเชื้อกษัตริย์เป็นแน่แท้
ทว่าในความไร้เดียงสาของเจ้าหญิงตัวน้อยที่มุ่งหมายแสวงหาการแก้แค้น ก็กลับนำพาร่างน้อยอันปวกเปียก ไร้เรี่ยวแรง และบอกบางของตนเองหลงเข้าไปในป่าเอเดนโดยไม่รู้ตัว…
ในป่าต้องห้าม
ดินแดนแห่งพงไพร
ผู้คนเล่าขาน
เมื่อตะวันหลับใหล
ป่ากินคน
วิญญาณถูกกักขัง
สิงอยู่ในพฤกษา
ไร้ซึ่งหนทางออก
กลายเป็นสุสาน
ชั่วนิรันดร์กาล
....
หกปีต่อมา...
แสดงความคิดเห็น