ท้อแท้กับการเขียนนิยาย
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมรู้สึกท้อแท้กับการเขียนนิยายมากเลยครับ ยิ่งเขียนก็ยิ่งรู้สึกเละเทะ ทั้งๆ ที่วางพล็อตไว้เสียดิบดี และทั้งๆ ที่ชอบแนวนี้ อ่านนิยายแนวนี้ก็เยอะ ดูละครแนวนี้ก็เยอะ แต่ทำไม...ทำไมถึงยิ่งเขียนก็ยิ่งเละเทะ ควรไปต่อหรือพอแค่นี้(ถามใจตัวเอง)
7 ความคิดเห็น
พักจากการสร้าง ไปเสพดูครับ ถ้าใจร้อนผมแนะนำ เสพเรื่องสั้นครับ มันกระชับมีต้น มีกลาง มีท้าย สามารถจับจุดได้ง่าย ปรับเอามาใช้ได้ง่าย
เรื่องสั้นของขายหัวเราะก็ได้ครับ (ตามyoutubeก็มีให้ฟัง ) เติมพลัง ได้ความคิดอะไรใหม่ๆ ก็ค่อยกลับมาลุยต่อ
ครับผม
ใครเป็นนักเขียนที่คุณเอาเป็นต้นแบบหรือนักเขียนที่คุณชอบเป็นพิเศษครับ
เทพิตาครับ
ขอถามว่ามือใหม่ไหมคะ คือสิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกได้ว่า เป็นการพัฒนาในการเขียนเรื่องยาว คือ การหัดเขียนเรื่องสั้นค่ะ
พล็อตหลักพล็อตเดียว ตัวละครไม่เยอะ มันเป็นการฝึกทักษะการเขียนได้ดีค่ะ นอกจากนั้นการอ่านจะช่วยได้มากเลยค่ะ
อันนี้เรื่องที่ 3 ครับ
เรื่องที่สามแล้ว น่าจะเก่งระดับนึงแล้วค่ะ คิดว่าหากพล็อตยังไม่เข้าที่ ทำทรีทเม้นท์เพิ่มเข้าไปด้วยค่ะ ไม่ต้องท้อค่ะหากยังรู้สึกสนุกกับงานเขียน แต่ถ้าหมดไฟมาก ๆ ก็พักผ่อนก่อนค่ะ เมื่อมีไฟแล้วค่อยกลับมาเขียนใหม่
ส่วนตัวผม ถ้าเขียนอีก 10 เรื่อง ผมก็จะนับตัวเองเป็นมือใหม่อยู่แหละ เพราะถ้าคิดว่าตัวเองเจ๋ง ผมจะไม่ได้อะไรจากคำแนะนำของใครเลย ขนาดคิดว่าตัวเองอ่านมาเยอะ แต่พอเจอคนที่หนังสือเต็มบ้าน -ที่เรามั่นใจว่าอ่านมาเยอะ ก็กลายเป็นเด็กน้อยไปเลย
อะไรที่เราว่าดี มันอาจจะห่วยในสายตาคนอื่นก็ได้ เขียนบรรยายเรื่องเดียวกัน ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตั้งหลายรูปแบบ บรรยายช้า บรรยายเร็ว บรรยายกระชับ บรรยายเกินจริง ฯ ไม่ค่อยอยากพิมพ์อะไรยาวๆอะครับ หน้าจอมือถือไม่อำนวย ขอตัวไปดูคลิปสอนเขียนพล็อตอีกที ช่วงนี้กำลังตัน
สำหรับเราก็พูดเต็มปากว่า นักเขียนฝึกหัดเหมือนกันค่ะ
ผมมือใหม่ของแท้เลยครับ ขนาดเขียนคำบรรยายยังทำให้คนอ่านรู้สึกอินตามไม่ได้
นายยังจดจ่อไม่มากพอ
นายติดเวบบอร์ดมากเกินไป
นายมีข้อมูลน้อยเกินไป
นายยึดติดมากเกินไป
นายขาดความมั่นใจเกินไป
นายตั้งความหวังเอาไว้สูงเกินไป
นายเขียนนิยายจนจบไปได้แล้ว 1 เรื่อง
นายก็แค่จดจ่อกับสิ่งที่อยู่ในหัว เขียนเล่าความคิดออกมา สือสารในแบบของนาย ให้มันจบไป
ถ้านายคิดว่ามันยังไม่ดีก็แค่เขียนเรื่องใหม่ หลังจากนายเล่าเรื่องเก่าจบแล้ว
ผมเห็นนายอะไรนิด อะไรหน่อยก็ถาม พอมีคนตอบนายก็เอาไปคิด แล้วก็มาถามอีก นายจะจดจ่อกับจินตนาการที่อยู่ในหัวได้ไง
หลายคนก็บอกนายไปหลายครั้งแล้วว่ามันไม่มีทางลัด นายต้องอ่านให้มาก เขียนให้เยอะ จินตนาการบ่อยๆ จดจ่อกับสิ่งที่อยากจะทำมากกว่านี้
ผมรู้สึกว่าช่างนายไม่มีสมาธิ กับการเขียนนิยายของนายเอาเสียเลย
ถ้านายเหนื่อยก็พัก ถ้านายชอบแชท ก็ลองไปแต่งนิยายแชทดู
สรุป นายเหมือนเหงาอะ 555+
ตรงใจทุกข้อ
ท้อแท้กับการเขียนนิยาย
ผมรู้สึกท้อแท้กับการเขียนนิยายมากเลยครับ ยิ่งเขียนก็ยิ่งรู้สึกเละเทะ ทั้งๆ ที่วางพล็อตไว้เสียดิบดี และทั้งๆ ที่ชอบแนวนี้ อ่านนิยายแนวนี้ก็เยอะ ดูละครแนวนี้ก็เยอะ แต่ทำไม...ทำไมถึงยิ่งเขียนก็ยิ่งเละเทะ ควรไปต่อหรือพอแค่นี้(ถามใจตัวเอง)
สวัสดีค่ะ
คุณเจ้าของกระทู้ แม้คุณจะบอกว่าคุณรู้สึกท้อแท้ แต่รายมือ หรือรายพิมพ์ของคุณนะคะ มันไม่ได้แสดงให้เห็นอาการได้ตามที่คุณกล่าวมาด้วยค่ะ
คือดูการใช้คำ การใช้ประโยคที่ดี เป็นระเบียบ มีช่องไฟเสมอดี ถูกต้อง ในข้อความที่คุณสื่อเข้ามาเพียงการบอกเล่านี้ ก็ดูคล้ายคุณมีอารมร์สงบ นิ่ง มีอารมณ์สุขุม เยือกเย็น จดจ่อ นุ่มนวล ราวกับคุณมีอารมณ์สุนทรีย์ คล้ายคุณมีอารมณ์ดี ๆ และพร้อมที่จะเขียนเรื่องราวดี ๆ สนุก ๆ ได้ในทุกเมื่อ
คือรู้สึกได้ผ่านคำ ประโยคที่คุณใช้ค่ะ จริงนะคะ
คือเจ้าของเม้นต์อ่านคำบอกเล่าของคุณแล้วนะ รู้สึกได้ผ่านตัวอักษรเช่นนั้นค่ะ หากคุณไม่เชื่อนะคะ คุณลองขึ้นไปอ่านประโยคบอกเล่าของคุณเองอีกครั้งนะคะ
หากแต่ก็นะ เมื่อคุณบอกเล่าเข้ามาด้วยตัวคุณเองมีอาการ ผมรู้สึกท้อแท้กับการเขียนนิยายมากเลยครับ ยิ่งเขียนก็ยิ่งรู้สึกเละเทะ ทั้งๆ ที่วางพล็อตไว้เสียดิบดี
หากความจริงเป็นเช่นนั้น(ซึ่งคุณเองที่รู้ตัว รู้ใจคุณเองได้ดีกว่าใคร ๆ นะคะ) แบบนี้แล้วคุณก็คงต้องพักไปก่อนค่ะ
เพราะการเขียนนิยายนะคะ ต้องมีอารมณ์ที่จะเขียน ต้องมีแรงบันดาลใจอันดี และต้องชัดเจน ต้องมีพลัง นิยายที่เขียนออกมาจึงจะสนุกได้ จริงด้วยสิเนาะ
คุณไปพักผ่อน ไปชาร์ทแบ็ต ไปเติมพลังก่อน ไปทำในสิ่งที่คุณรู้สึกว่าอยากทำ ทำอะไรก็ได้ที่คุณชอบ ที่เป็นเรื่องสนุกสนาน ซึ่งไม่ใช่งานเขียน อีกไม่นานคุณจะมีพลัง และมีแรงบันดาลใจที่ดี ๆ และคุณจะสามารถกลับมาเขียนได้ดี และชัดเจนต่อไปอย่างแน่นอนค่ะ
เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ
รู้สึกเหมือน คห นี้เลยค่ะ ดูเหมือนบอกเล่าเฉยๆ อาจจะเป็นความรู้สึกท้อเฉียบพลันจากการที่ตั้งความหวังสูง จากกระทู้ที่แล้วของคนๆ นี้ ที่บอกว่ามีความสุข ซักพักก็คงจะดีขึ้นเองค่ะ
ผมเคยตกอยู่ห่วงอารมณ์ท้อแท้เช่นกัน ยิ่งเขียนยิ่งรู้สึกนิ้วที่กดลงแป้นพิมพ์ยิ่งหนักราวกับมีหินมาถ่วงน้ำหนักจนแทบไม่ขยับ ให้ตายเถอะ เปิดดูหนัง ซีรีส์ การ์ตูน ก็เขียนนิยายตัวเองต่อไม่ได้ ผมเริ่มหายใจลึก ๆ อยู่นิ่งพักใหญ่ ๆ มองหาความเป็นไปได้ทุกอย่างที่จะทำให้ผมเขียนต่อไปได้ จนได้ค้นพบวิธีเขียนนิยายที่เหมาะกับผมเอง ซึ่งอาจใช้ได้กับผมคนเดียว นั่นคือ เริ่มแรก "คิดตัวละครก่อนเลย" สอง "เขียนบทพูดก่อน บรรยายค่อยตามมาที่หลัง" (ช่วยเพิ่มความสนุกมากขึ้น รู้อารมณ์ตัวละครนั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว)
สาม "เขียนบรรยายลงไปให้กระชับ ไม่น้อยเกิน ไม่มากเกิน"
พอถึงตอนสุดท้าย "เลิกสนใจยอด เลิกเขียนในฐานะนักเขียน แต่ให้ตัวละครเป็นคนเขียนเอง แล้วเรามีหน้าที่แอบฟัง"
เราต้องคิดเสมอว่าเราเขียนเพื่อเก็บเป็นพอร์ตโฟลิโอก็ได้ครับ งานเขียนของเราดีนะ มันไม่ปูด ไม่เน่า ไม่เสีย และมันสนุกจริง ๆ ครับ ปล. เริ่มจากเขียนวันละ 1000 คำพอ แล้วค่อย ๆ ขยับเป็น 1200 2000 เมื่อถึงตอนนั้น นิ้วเราก็จะเริ่มเบาเหมือนขนนกขยับไปเองเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่ทันได้รู้ตัว
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
พัก...แล้วอ่านคอมเม้นที่เค้าแนะนำพร้อมกับคิดทบทวนดูคะ...เรายังเอาไปใช้เลย ส่วนตัวท้อก็มีบ้าง แต่ขอให้สนุกกับมัน เขียนเมื่อไหรก็ได้ นี่เขียนจบไป10เรื่อง มียอดวิวนิดเดียวเอง เขียนสนุกๆขำๆผ่อนคลายเถอะคะ//แต่ถ้าขายยึดเป็นอาชีพก็ว่าไปคะ//
ตอนนี้ผมรีไรท์แล้วครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?