อัพบทที่ ๑๐ แล้ว ฝากด้วยนะครับ บทนี้อ่านฟรี
ตอนนี้ผมอัพบทที่ ๑๐ แล้ว ฝากด้วยนะครับ บทนี้ให้อ่านฟรีครับ เป็นกำลังใจให้นักอ่านคนนี้ด้วยน้า
หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จ ดุจดาวกับกนกนุชก็พากันมานั่งเล่นตรงม้าหินอ่อนใต้ต้นจามจุรีในมหาวิทยาลัย อันเป็นที่นั่งประจำของพวกเธอ เวลาว่างเช่นนี้ทั้งสองก็จะเอาหนังสือมานั่งอ่านด้วย เรียกได้ว่าสองสาวเพื่อนรักเป็นคนที่ขยันเรียนจริงๆ เลยเชียว
ขณะที่พวกเธออ่านหนังสือกันอยู่ก็มีหญิงสาวสองคนเดินเข้ามาหา สาวสองคนนั้นก็คือภคพรกับขวัญจิรา ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกับดุจดาวและกนกนุช แล้วไม่ค่อยถูกกับทั้งสองด้วย เนื่องจากเป็นคนขี้อิจฉา อิจฉาที่ดุจดาวกับกนกนุชเป็นคนที่มีเพียบพร้อมทุกอย่าง แต่พวกเธอไม่ได้มีพร้อมเลย นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ภคพรและขวัญจิราไม่ถูกกับดุจดาวและกนกนุช เพราะพวกเธอหมั่นไส้ระคนอิจฉาทั้งสองนั่นเอง
“ขยันอ่านหนังสือจริงๆ ฉันนึกว่าหล่อนจะเอาเวลาไปยั่วผู้ชายซะอีกนะดุจดาว” ภคพรแขวะใส่ดุจดาว
คนที่ถูกแขวะรีบปิดหนังสือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเอ่ยกับอีกฝ่ายว่า
“ฉันไม่เคยยั่วผู้ชาย เธออย่ากล่าวหาฉันลอยๆ นะ ยายภัค”
“ตายจริง นี่ฉันกำลังกล่าวหาเธออยู่เหรอเนี่ย” ภคพรทำเป็นไม่สำนึกผิด ซ้ำยังหัวเราะเยาะเย้ยดุจดาวอีก โดยมีขวัญจิราหัวเราะผสมโรงด้วย
“กล่าวหาที่ไหนกันยะ ฉันกับยายภัคเคยเห็นมากับตาแล้ว ผู้ชายพากันรุมจีบหล่อน ถ้าหล่อนไม่ได้ไปยั่วผู้ชายไว้หลายคนแล้วผู้ชายพวกนั้นจะพากันมารุมจีบหล่อนเหรอ แหมๆ เห็นหงิมๆ ที่แท้ก็สนิมกินในนี่เอง ร้ายไม่เบาเลยนะยะหล่อน ไปหว่านเสน่ห์ผู้ชายไว้ซะหลายคนเลย” ขวัญจิราเอ่ยแบบกระแนะกระแหน
แล้วกนกนุชก็ลุกขึ้นพลางเอ่ยกับทั้งสองว่า
“อ๋อๆ ฉันรู้ละ ว่าที่พวกเธอมาหาเรื่องยายดาวเพราะอะไร ที่แท้ก็อิจฉายายดาวที่มีผู้ชายมารุมจีบ ส่วนตัวเองก็ไม่มีผู้ชายคนไหนสนใจเลยสักคน โถๆ น่าสงสารซะจริงๆ”
“ใครว่าไม่มีผู้ชายคนไหนสนใจพวกฉัน หล่อนพูดผิดแล้วยายนุช มันก็มีนั่นละย่ะ” ภคพรว่า
และขวัญจิราช่วยยืนยันอีกเสียง
“ใช่ๆ มีผู้ชายเยอะแยะที่มาจีบพวกฉัน แต่พวกฉันน่ะสวยเลือกได้ย่ะ เพราะฉะนั้นเวลาที่ฉันสองคนจะเลือกคบใครก็ต้องคิดไตร่ตรองให้ดีๆ ไม่เหมือนพวกหล่อนที่เลือกคบมั่วๆ คบได้แม้กระทั่งเด็กวัดกระจอกๆ”
“เด็กวัดแล้วยังไง…เป็นเด็กวัดแล้วไม่ใช่คนหรือไง” ดุจดาวเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจเป็นที่สุด
ภคพรจึงบอกว่า
“ก็เป็นคนนั่นละย่ะ แต่ว่าเป็นคนต่ำต้อย มีคนไฮโซที่ไหนกันที่ยอมลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับคนชั้นต่ำแบบนั้น รู้ถึงไหนอายถึงนั่น”
“แต่ฉันไม่อาย เพราะฉันกำลังคบเพื่อนดีๆ ไม่ใช่คบเพื่อนเลวๆ แล้วฉันก็ไม่สนใจหรอกนะ ว่าเพื่อนที่ฉันคบอยู่จะเป็นคนชั้นไหน ฉันรู้แค่ว่าเขาเป็นคนดีเท่านั้นพอ”
“ตายจริง นี่หล่อนเลือกคบกับคนดีเหรอยะ แล้วความดีกินได้หรือเปล่าล่ะ” อีกฝ่ายถาม
“มันกินไม่ได้ แต่มันสามารถทำให้ฉันมีความสุขได้ ดีกว่าคบแต่กับเพื่อนไฮโซที่ชอบสวมหน้าเข้าหากัน มีแต่ความอิจฉาริษยาให้กัน ความจริงใจก็ไม่มีเลยสักนิด เพื่อนแบบนั้นฉันไม่อยากคบด้วยหรอก ฉันสู้ลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับเด็กวัดยังจะดีกว่า”
“อ๊าย! นี่หล่อนว่าพวกฉันเหรอยะ” ขวัญจิราโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
“กินปูนร้อนท้องแท้ๆ ฉันยังไม่ได้เอ่ยชื่อใครเลย อ้อ หรือว่าเธอเป็นเพื่อนประเภทที่ฉันกำลังเอ่ยถึงอยู่ล่ะฮึ”
แล้วกนกนุชก็บอกกับเพื่อนว่า
“ไปกันเถอะยายดาว อย่ามัวเสวนากับพวกที่ชอบพาลเลย พอไม่มีผู้ชายสนใจก็เลยมาพาลใส่เธอไง หาว่าเธอยั่วผู้ชายบ้างละ หว่านเสน่ห์บ้างละ จนผู้ชายมารุมจีบเธอ ความจริงคนอย่างยายดาวไม่เห็นต้องยั่วต้องหว่านเสน่ห์อะไรเลย เพราะยายดาวสวยขนาดนี้จะไม่ให้ผู้ชายมารุมจีบได้ยังไงกัน ต่างจากพวกเธอที่หาความสวยไม่มีเลยสักนิด มีแต่…”
“นี่หล่อนว่าพวกฉันไม่สวยเหรอ หา! ฉันขอตบปากหล่อนให้เลือดออกหน่อยเถอะ” ภคพรเงื้อมือจะตบหน้าอีกฝ่าย
แต่กนกนุชชูหมัดขึ้นพร้อมสู้กลับ
“ก็มาสิ เธอตบมา ฉันก็จะต่อยกลับ เอาแบบแฟร์ๆ กันไปเลยเป็นไง”
แล้วเพื่อนๆ นักศึกษาที่นั่งอยู่แถวๆ นั้นต่างก็หันมองกนกนุชกับภคพรที่พร้อมจะปะทะกันด้วยความสนใจ
ดุจดาวเห็นสายตาหลายคู่ที่มองมาแล้วรีบลุกขึ้น และสะกิดแขนเพื่อน
“ฉันว่าเรารีบไปที่อื่นกันเถอะ เห็นมั้ย ทุกคนเขามองเธอกับยายภัคกันใหญ่แล้ว ไป!” เอ่ยจบเธอก็คว้าหนังสือเรียนของตัวเองและของกนกนุช ก่อนจะดึงลากเพื่อนออกไปจากตรงนั้นทันที เดี๋ยวจะมีเรื่องกับภคพรและขวัญจิราจนรู้ไปถึงหูอาจารย์แล้วเรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่
ภคพรมองตามหลังดุจดาวกับกนกนุชไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“พวกหล่อนอย่านึกนะว่าฉันจะยอมง่ายๆ พวกหล่อนมาว่าฉันแล้วจะเดินหนีไม่ได้นะ ฉันจะทำให้หล่อนสองคนก้มกราบขอโทษฉันให้ได้เลยคอยดู”
“พากันมองพวกฉันทำไม ไม่เคยเห็นคนหรือไง หา!” ขวัญจิราตวาดใส่กลุ่มเพื่อนนักศึกษาที่พากันมองเธอกับภคพร
ทุกคนรีบหันมองไปทางอื่นทันที
แล้วขวัญจิราก็เอ่ยกับเพื่อนว่า
“สักวันมันจะต้องโดนตบแน่นอนยายภัค โทษฐานที่มันมาว่าเราสองคนไม่สวย”
“คิดแล้วมันน่าเจ็บใจนักเชียว”
“เราไปที่อื่นกันเถอะยายภัค”
“อืม!” ภคพรพยักหน้า
จากนั้นทั้งสองสาวเพื่อนซี้ก็เดินออกไปจากใต้ต้นจามจุรีด้วยสีหน้าที่บ่งบอกได้ว่ากำลังอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
แสดงความคิดเห็น