เขียนนิยายเเล้วเหมือนตัวละครพูดกับตัวเอง
ตั้งกระทู้ใหม่
ตามหัวข้อกระทู้เลยครับ มีใครที่เคยเป็นหรือกำลังเป็นบ้างครับ พวกคุณจัดการปัญหานี้ยังไง ผมเวลาเขียนนิยายมา มีตัวละครดำเนินเรื่องในฉากนั้น เเต่มันเหมือนมีตัวละครเเค่ตัวเดียว เเล้วมันกำลังคุยกับตัวเอง เหมือนมันคิดบทพูดไว้หมดเเล้วว่าคนอื่นต้องพูดตามนี้นะ
มันทำให้ผมรู้เซ็งหงุดหงิดกับตัวเองนิดหน่อย ที่เหมือนตัวละครอื่นไม่มีความคิดเป็นความตัวเอง
7 ความคิดเห็น
การเขียนแบบมุมมองพระเจ้า และ POV3 เราย่อมรู้ดีว่า เราจะกำหนดให้ตัวละครแต่ละตัวพูดอะไร รู้สึกอะไรและต้องทำอะไร แต่พอถึงบทพูดของตัวละครตัวนั้น เราต้องสวมบทบาทของตัวละครนั้นด้วย มองในมุมมองของตัวละคร กำลังคิดอะไร ทำอะไร ทำแบบนั้นจะเข้าถึงอินเนอร์ของตัวละคร ตั้งสติดีๆอย่าคิดฟุ้งซ่านมากเกินไป เวลาเขียนนิยายเราควรมีสมาธิ
ไม่รู้จะเป็นคำตอบที่ใช่หรือเปล่านะ
กรณึยิ่งเขียนยิ่งเหมือนคุยกับตัวเอง อันนั้นจะหนักหน่อยเหมือนไม่สามารถแยกแยะอารมณ์ของตัวละครแต่ละตัว และไม่สามารถแยกลักษณะนิสัยของตัวละครแต่ละตัวที่แตกต่างกันออกจากกันได้ เหมือนเขียนด้วยความรู้สึกเดียว และอารมณ์เดียวกันทั้งหมด ถ้าเขียนแบบนั้นนิยายจะเขียนเล่าตรงๆ ไม่มีลูกเล่น อารมณ์การเล่าเรื่อง หรือบทพูดก็จะทื่อๆ น่าเบื่อไม่น่าสนใจ
ตัวละครแย่งบรรยายของนักเขียน แต่เล่า POV3 ต้องรีไรท์ใหม่เลย ไม่ควรใช้สรรพนามพูดถึงตัวคนเล่า พยายามแยกแยกความคิดของตัวละครว่ามีใครเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย
แต่ถ้าเล่า POV1 โดยตัวละครเป็นคนเล่า หรือตัวละครไม่ได้แย่งเล่าเรื่อง ผมว่ามีเคสนึง ตัวละครน่าจะมีนิสัย "ย้ำคิดย้ำทำ" เป็นนิสัยส่วนหนึ่งของการเก็บตัวหรือเก็บกด ก่อนจะทำอะไรก็จะคิดในหัวหรือพูดกับตัวเอง กังวลว่าทำไปแล้วผลลัพธ์จะไม่สมหวัง จนกลายเป็นคิดได้แต่ไม่กล้าแสดงออก เหมือนเขียนนิยายกลัวคนอ่านจะผิดหวังในตัวคนเขียน เลยกังวลเรื่องการเขียนยังไงมัดใจคนอ่านไม่หนีไปไหน ถ้ามาทางนี้ เก็บนิสัยย้ำคิดย้ำทำให้ตัวละครแค่คนเดียวพอ ตัวที่เหลือไม่ต้องซ้ำนิสัยกับมัน แค่นี้ก็เอกลักษณ์พอแล้ว
ว่าไงดีครับ คือเวลาผมบรรยายเรื่องราวในนิยายจะเป็นในมุมมอง POV3 ผสม POV1 คือทุกตัวละครสามารถที่จะคิดเอาเองได้ โดยมีทั้งบทพูดเเละคิดในหัว เเต่พอเขียนไปมันกลายเป็นว่า เหมือนตัวละครทุกตัวมันไม่มีความคิดเป็นของตัวเองซะอย่างงั้น เหมือนผมที่เป็นพระเจ้าต้องมอบความคิดให้มัน เหมือนบทพูดถูกกำหนดสำเร็จรูปมาเเล้ว เเอบหงุดหงิดกับตัวเองเหมือนกัน มีตัวละคร 3 ตัวในฉากพูดคุยกัน เเต่กับกลายเป็นว่ารู้สึกเหมือนมีเเค่ตัวละครเดียวพูดกับตัวเอง
ผมว่ามันขึ้นอยู่กับผู้เขียนแล้วละ คุยกับเพื่อนบ่อยมั้ย หรือแค่คุยในสิ่งที่ตัวเองอยากคุย อยากรู้ ส่วนเรื่ิองอื่นๆ ก็ไม่ใส่ใจ
พอเวลาเขียนนิยายคุณจะนึกภาพไม่ออก เหมือนเอาหุ่นมาตั้งแล้วแจกชื่อให้พวกมัน หรือไม่ได้ใส่ความรู้สึกลงไปในงานเขียน
แนะนำให้อ่านนิยายแนวที่คุณชอบ แล้วสังเกตวิธีการโต้ตอบของตัวละครในนิยาย
ไม่แน่ใจว่าเข้าใจกระทู้ถูกไหมนะคะ ถ้าไม่ถูกก็ขอโทษทีค่ะ
คือเราเคยเจอปัญหานี้ตอนไปวิจารณ์นิยายเรื่องหนึ่ง ตัวละครในฉากเขามีห้าตัว สลับกันพูด แต่อ่านออกมาแล้วแยกไม่ออกเลยว่าใครพูดกันแน่ถ้าไม่ใส่ชื่อไว้ข้างหลัง
สรุปคือ มันเกิดจากเอกลักษณ์และความมีชีวิตของตัวละครทั้งหมดมีไม่เพียงพอค่ะ อย่างแรกที่นักเขียนต้องทำก่อนคือ แยกพวกเขาให้ออก สร้างพวกเขาให้แตกต่างกัน ใส่เอกลักษณ์ให้มากขึ้น ให้แต่ละคน (ตัวละคร) มี will ของตัวเอง ไม่ใช่ทุกคนยืนตรงหน้าเสาธงแล้วใครว่างไม่มีบทก็ให้พูดค่ะ
วิธีการซ้อม หรือแก้ไขเลยก็ไม่ยาก แต่อาจจะขึ้นกับความถนัดของคุณนักเขียนนะคะ ก็คือ -เขียน profile ของแต่ละตัวละครออกมาให้ชัดโดยเฉพาะ ชอบอะไร เกลียดอะไร ปูมหลังเป็นยังไง ครอบครัว เพื่อน สังคม โตมาในสภาพแวดล้อมแบบไหน เพื่อปูพื้นฐานทางความคิดให้เขาแตกต่างจากตัวละครอื่น
-เพิ่มเอกลักษณ์พิเศษ เช่นคำสร้อยต่อท้ายประโยคของเขา สิ่งที่เขา/เธอชอบพูดบ่อย ๆ ท่าทางพิเศษ เช่น เขินแล้วจะถูมือ หรือออกท่าแรง กำมือตบมือขยิบตา ฯลฯ
ส่วนตัวไม่ค่อยใช้วิธีข้างบนเพราะขี้เกียจ 555 แต่ที่ชอบใช้คือ เอาแต่ละตัวมาโรลค่ะ
กำหนดสถานการณ์ แล้วจับพวกมันมาเข้าฉากทีละคน หรือทีละสองคน เพื่อดูรีแอ็คชั่นว่าในสถานการณ์เดียวกัน พวกเขาตอบสนองต่างกันอย่างไร ทำจนกว่าทุกอย่างจะอัตโนมัติ ถ้าได้แล้วปัญหาบทพูดเหมือนกันทุกตััวละครจะหายไปทันทีค่ะ
สมมติเช่น ถ้าน้ำป่าไหลมาอย่างฉุกละหุก ตัวละคร A B C D จะทำอย่างไร ตัวนึงอาจจะวิ่งขึ้นชั้นสอง ตัวนึงอาจจะวิ่งไปขนตู้เยน ตัวนึงอาจจะตะโกนว่าตายแน่ อีกตัวอาจจะยืนเฉย ๆ แล้วบอกว่า อา...ถึงเวลาแก้แค้นของธรรมชาติแล้ว เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดต้องขึ้นกับปูมหลังและความคิดของแต่ละตัว ไม่ใช่การกำหนดจากนักเขียน ประมาณนั้นค่ะ
แก้ไข เพิ่ม: ป.ล.ค่อย ๆ ลองทำดูทีละน้อยก็ได้ เพราะการให้ตัวละครมีชีิวิต พล็อตเรื่องเลยควรถูกสร้างด้วยตัวละครมากกว่าจะสร้างด้วยตัวนักเขียน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องไม่ไปตามที่นักเขียนอยากจะให้ไปตามมาน่ะค่ะ แล้วพล็อตก็เลยอาจจะใหญ่่ตามไปด้วย ยกเว้นว่าจะฟอลตัวเอกตััวเดียว แล้วคนอื่นไก่กามากจริง ๆ...
อาจเป็นเพราะตัวละครทุกตัวเหมือนกันเกินไปละมั้ง ส่วนตัวเรามองว่าเป็นเรื่องปกตินะก็เราเป็นนักเขียนนิ แต่คิดในอีกแง่หนึ่งเราก็เขียนๆอยู่แล้วตัวละครนั้นพูดในสิ่งที่เป็นตัวเราเองก็คงไม่พูดออกไป เรียกว่าตัวละครมีชีวิตละมั้ง
บางทีคุณอาจจะต้องทำให้ตัวละครนั้นมีความเป็นตัวของพวกเขาเองเยอะๆหน่อย วิธีก็อาจจะเป็นตัวคุณเอง กำลังคุยกับตัวละครตัวนั้นเอง (ทำบ่อย เหงาแหละ) เราลองคุยกับตัวละครของตัวเองสามตัว แต่ละคนจะตอบไม่เหมือนกันเลยเพราะว่าพวกเขาต่างกัน และ คำตอบของพวกเขาก็ไม่เหมือนพวกเขากำลังคุยคนเดียวด้วย
หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะตัวละครของคุณพูดในสิ่งที่ต่อเนื่องกันเกินไปก็ได้นะ
ตัวอย่าง พระเอกบอกว่าจะทำแผนการต่อไปยังไงแล้วตัวละครอื่นก็ตอบแผนการของพระเอกได้ต่อไปเรื่อยๆ
แต่ใดๆทั้งหมดเราก็ไม่รู้ว่านี้ใช่สิ่งที่คุณเจออยู่ไหม แต่สู้ๆค่า
"-บ้าเอ๊ย จะหาเรื่องกันงั้นเหรอ?"
"นายคิดมากไปเองน่า"
"ทั้งสองคนอย่าทะเลาะกันสิครับ"
"ฆ่ากันให้ตายเลย ฮ่า ๆ ๆ"
"หุบปากไป-คนสมองกล้าม!!!"...
ทายสิว่ามีตัวละครกี่คน
สี่คน มั้งนะ 555
แต่ประโหยคสุดท้ายนี้ไม่แน่ใจอาจเป็นคนที่ห้าก็ได้นะ
ทายว่า 4 คนเหมือนกันกับ คห6-1เลยค่าา
มีหลายทีครับ คือเราวางบลทไว้แล้ว ตัวละครก็ควรพูดตามนั้น
หรือบางทีมีรประโยคเด็ดๆที่เราอยากใส่ แล้วก็จับยัดใส่ปากตัวละคร
แต่พออ่านจริงมันกลับรู้สึกฝืนๆ ไม่เป็นธรรมชาติ ก็จะเกิดอาการเซ็งตัวเองครับ
วิธีแก้ของผมคือ ทำความรู้จักตัวละครให้มากขึ้น
เขียนร่ายรายละเอียดมาเลยว่าตัวละครคนนี้เป็นคนยังไง รู้สึกยังไง ชอบไม่ชอบอะไร
บางทีก็ยกสถานการณ์ขึ้นมา แล้วสมมุติไ่ปว่าถ้าเป็นเขาจะตอบสนองยังไง
มันก็ทำให้รู้จักตัวละครนั้นมากขึ้น ชัดเจนขึ้นมาก
แล้วพอเขียน มันจะรู้เองเลยว่า เฮ้ย ประโยคนี้คนนี้ไม่มีทางพูดแน่นอน
เหมือนเพื่อนเราน่ะ เราจะรู้ว่าเพื่อนคนนี้พูดแบบนี้ อีกคนไม่มีทางพูดแบบนี้
เมื่อเรารู้จักเขาดีมากๆ แล้ว มันจะออกมาไหลลื่นเป็นธรรมชาติเองครับ
ปล่อยให้เขาพูดจากปากเขาเอง ถ้าฉากนี้ยังคิดไม่ออกก็ให้เวลาหน่อย ไปเขียนฉากอื่นก่อน
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?