สูตรสำเร็จนิยายแนวเกิดใหม่ที่เราเคยอ่านมานะคับ
ตั้งกระทู้ใหม่
1. การเกิดใหม่มี 3 แพ๊คเกจ
ก. แพ๊คเกจย้อนเวลา
ข. แพ๊คเกจร่างใหม่
ค. แพ๊คเกจต่างโลก
2. ไม่ว่าชีวิตตัวเอกจะเคยระฺยำบัดซบเพียงใด พอเกิดใหม่ชีวิตจะมือขึ้นยิ่งกว่าถูกหวย (ต่อให้แทบไม่ทำอะไรก็ตาม)
3. ถ้าตัวเอกเกิดในนิยายแอ๊คชั่น Plot Armor จะหนาโคตร ๆ และได้ทักษะได้อาวุธมาอย่างรวดเร็ว
4. ถ้าตัวเอกเกิดเป็นท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ เธอจะหนีการแต่งงานและได้สามีโบ้ใหม่ตั้งแต่ยังไม่ถึงกลางเรื่อง
5. สามีคนนั้นต้องรวยล้นฟ้ามีเงินตราและอำนาจแถมน่ากลัวต่อหน้าคนข้างนอก แต่เป็นโบ้เมื่ออยู่กับเมีย
6. และทำข้อตกลงว่าถ้าได้สิ่งที่ต้องการเราจะหย่ากัน
7. ไม่เห็นมันจะหย่ากันจริง ๆ สักที แถมมีลูกด้วยให้ตายสิวะ
8. ถ้าตัวเอกเกิดอีกในร่างเดิม สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าต้อง แ ก้ แ ค้ น
9. บางเรื่องคนอ่านไม่รู้จักชีวิตเก่าของตัวเอกด้วยซ้ำ อาจรู้แค่ว่าโดนรถบรรทุกชนตาย
10. ใครเคยตายในชาติที่แล้ว ชาตินี้มักรอด และเป็นเพื่อนตัวเอกที่ซื่อสัตย์ยันจบเรื่อง
11. ตัวร้ายชาติที่แล้วฉลาดแค่ไหนไม่สำคัญ แต่ชาตินี้ต้องโง่กว่าตัวเอก
12. และชาตินี้ห้ามเก่งกว่าตัวเอกด้วย
13. และกราฟชีวิตตัวร้ายจะดิ่งลงเหวสุดๆ
14. ตัวเอกบางคนไม่ได้เรียนรู้อะไรจากชาติที่แล้วด้วยซ้ำ งี่เง่ายังไงก็งี่เง่ายังงั้น
15. บางเรื่องไม่มีคำตอบให้คนอ่านว่าทำไมต้องเกิดใหม่ด้วย
16. พล๊อตแก้แค้นมักจบโดยการให้อภัย ทั้งที่ทำกับตัวร้ายซะปางตายแล้ว
17. ทุกคนตกตะลึงการเปลี่ยนไปของตัวเอก แต่หาคำตอบไม่เคยได้
18. เพราะตัวเอกมักจะอ้างความทรงจำเสื่อมบ้าง ป่วยบ้าง (จากอุบัติเหตุเจ้าของร่างเดิม)
19. มีตัวประกอบโผล่มาเป็นกระสอบทรายเสมอ
20. เริ่มต้นด้วยการเหยียดหยามดูถูกเจ้าของร่างเดิมและจะจบด้วยการโดนตัวเอกตบเกรียนสวยๆ
21. ถ้าตัวเอกเป็นผู้หญิง จะมีบ่าวหญิงที่จงรักภักดี แต่ชาติที่แล้วตุย
22. ถ้าตัวเอกผู้ชาย มักใช้ความทรงจำชาติที่แล้วหาพรรคพวกดี ๆ
23. ตัวเอกจะกลายเป็นคนโปรดของคนมีอำนาจสักคน(ที่ไม่ใช่ทั้งพระเอกทั้งนางเอก) และคนๆนั้นจะเป็นจะกลายเป็นแบกสำคัญของตัวเอก
24. พอมีแบก ตัวร้ายจะกลายเป็นพลเมืองชั้นสองทันที และไม่มีทางพลิกเกม ฟ้าลิขิตไว้แล้ว
25. ตัวร้ายมีแต่จะงงกับตัวเอก และไม่เคยตามเกมทัน
13 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะคุณTeerachai
5555 โดนผมจังๆ หลายข้อเหมือนกันแต่ข้อสามมันค่อนข้างจำเป็นเพราะถ้าตัวเอกพัฒนาช้าเกินคนอ่านจะเบื่อบวกกับ Plot Armor เกิดไม่มีขึ้นมาคงตายตั้งแต่สองตอนแรก XD
เราน่าจะเข้าแค่ข้อแรกนะ
แต่เหมา 3 แพคเลย
ย้อนเวลา ร่างใหม่ ในต่างโลก
https://writer.dek-d.com/Chihara-0/writer/view.php?id=2297186
ถ้าเบื่อกับ 25 ข้อนั้น ก็ฝากไปตามอ่านนิยายเราด้วยน้า
นั่นแค่บางส่วนที่เป็นผลกระทบจากนิยายต่างชาติ ก็นิยายจีนนั่นแหละ ส่วนนี่คือองค์ประกอบอีกส่วนที่ผมได้เจอมาเช่นกัน มาเล่าให้ฟังเฉยๆ อิๆ
โดยเนื้อหาหลักๆ จะเหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ อันนี้ไม่เจาะจงเฉพาะนิยายไทยที่แต่งเป็นนิยายจีน ผมรวมไปถึงนิยายที่คนจีนแต่งด้วย
อย่างแรกคือผู้ช่วย ถ้าเป็นนิยายเก่าๆ ย้อนกลับไปหลายปี ผู้ช่วยของตัวละครเอกก็มักจะเป็นพวก “ผีตามติดวิญญาณหลอน” ซึ่งส่วนใหญ่ผีพวกนี้มักจะมีข้อผูกมัดกับตัวละครเอกเพื่อแลกกับการช่วยเหลือและแนะนำ ไม่ว่าตัวละครเอกจะอยู่ที่ใดและไปไหน แม้กระทั่งตอนตัวละครเอกนั่งอึก็ยังอยู่ติดไม่ห่าง โดยผีพวกนี้จะอยู่ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งส่วนมากจะเจอเป็นสิงอยู่ในร่างตัวละครเอก แต่ไม่ใช่ยึดร่างกาย หรือไม่ก็สิงอยู่ในสิ่งของต่างๆ ที่ตัวละครเอกสามารถพกพาติดตัวไปด้วยได้
อย่างที่สองคือสิ่งของวิเศษต่างๆ ซึ่งของพวกนี้จะพิเศษหน่อย ไม่ต้องแนะนำอะไรให้ตัวละครเอก ตัวละครเอกก็สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าของวิเศษสอนอะไรให้และให้ประโยชน์อย่างไร
และยุคสมัยต่อมา สิ่งที่ช่วยเหลือตัวละครเอกก็พัฒนากลายเป็น “ระบบ” คราวนี้ไม่ต้องมีหลักการอะไรแล้ว โผล่มาก็มีระบบช่วยเหลือเลย ตอบโต้ได้เหมือนผีวิญญาณหลอน ที่สำคัญ ไม่ต้องมีเหตุผลอะไรมารองรับ อย่างเช่น ต้องไปเก็บของในป่ามาปรุงยา เป็นต้น แค่ทำตามที่ระบบสั่ง มันก็มอบของวิเศษให้ได้ทันที
ถ้าเป็นแนวตายแล้วกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งโดยมีความทรงจำเดิมติดมาด้วย ไม่ว่าจะเกิดใหม่หรือไปสิงร่างอื่นอยู่โดยไม่มีเหตุผล แต่ทว่าตกอยู่สภาพสัตว์เดรัจฉาน ส่วนใหญ่ก็จะมีตรรกะประหลาดๆ ให้กลายร่างเป็นมนุษย์ได้ภายหลัง โดยมีข้ออ้างคือร่างมนุษย์เหมาะสมกับการฝึกวิชามากที่สุด ไม่ก็เป็นร่างกายที่เหมาะสมทำอะไรหลายๆ อย่างที่เกี่ยวกับทำให้ตัวเองเก่งขั้นเทพ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าจะให้เป็นสัตว์ตั้งแต่แรกทำไม ในเมื่อสุดท้ายมันก็กลับไปเป็นมนุษย์เหมือนเดิม และที่ตลกที่สุดคือหลายเรื่องมักจะยกย่องให้มังกรเป็นสัตว์ขั้นเทพ มีอำนาจอยู่เหนือกว่ามนุษย์และสัตว์ทั้งปวง แต่ทว่าสุดท้ายมันก็ต้องกลายมาเป็นมนุษย์เพื่อฝึกวิชาขั้นเทพ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือตัวพระเอกนั่นแหละที่เกิดเป็นมังกรหรือพัฒนาเป็นมังกรได้ แต่ก็ไม่อยู่ร่างมังกรที่เขย่าทั้งโลกา อ๊ากนี่มันย้อนแย้งตัวมันเองนี่หว่า
การดำเนินเรื่องนั้นก็มักจะให้ตัวละครเอกเข้าไปบุกรุกสถานที่ต่างๆ เพื่อเก็บเอาของวิเศษที่ไม่อาจหาได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ฝั่งศพของบรรพบุรุษใครบางคน อดีตสนามรบที่มีพวกซากอาวุธ สถานที่ที่เป็นอดีตเมืองโบราณ สถานที่จำลองที่ถูกทำขึ้นมาให้เข้าไปแข็งขัน
อาวุธโบราณมักจะมีพลังเหนือกว่าอาวุธสมัยใหม่ เช่นว่าหยิบก้อนหินขึ้นมาปุ๊บ ก็ปาหัวคนแตกได้ทันที โอ้มันช่างเป็นอาวุธทรงพลังเหลือเกิน ขณะที่อาวุธสมัยใหม่อย่างปืนที่ยิงทีเดียวตายกลับไม่สามารถทำอะไรใครได้เลย
ตัวละครเอกมักจะชอบกินของไปทั่ว เช่นไปเจอยาโบราณในสถานที่ฝั่งศพของใครก็ไม่รู้แหละ ตัวละครเอกก็จะหยิบเอาเข้าปากทันที โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่ายาตัวนั้นทั้งถูกเก็บมายาวนานจนนับข้ามภพข้ามชาติไม่ได้แล้ว ทั้งไม่มี อย. (เครื่องหมายอาหย่อยแน่นอน) ประทับเตือนอยู่ก็ตาม และไม่มีวันเตือนที่ผลิตและหมดอายุบอก นี่มันร่างกายยอดมนุษย์ชัดๆ
เมื่อตัวละครเอกพบเจอยาที่ไหนสักแห่งหนึ่ง ตัวละครเอกมักจะรู้หมดว่าสรรพคุณยาที่พบเจอนั้นคืออะไรและช่วยเรื่องใดได้ รู้ไปหมดทุกประเภทยา เหมือนกับว่ามองเห็นฉลากเขียนไว้ข้างกล่องที่บอกสรรพคุณ
เมื่อตัวละครเอกหยิบจับสิ่งของดีอะไรได้ ก็มักจะมีท่านสุนัขสมูกดีโผล่มาทันทีทันใด แล้วสุนัขก็จะรีบมาแย่ง ทั้งที่ของดีนั้นวางอยู่กับที่ตั้งนาน แต่ก็ไม่มีใครไปหยิบ มันเหมือนกับว่าพวกตัวร้ายรอให้ตัวละครเอกไปหยิบก่อน จากนั้นค่อยไปแย่ง อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่าขี้เกียจหยิบขึ้นมาจากพื้นมั้ง
ตัวละครเอกมักจะฝึกวิชาได้โดยไม่ต้องมีใครสอนหรือชี้ทาง รู้ขั้นตอนด้วยตัวเอง หรือแม้กระทั่งรับประทานยา ก็ไม่ต้องมีใครแนะนำว่าควรกินอย่างไร กินหลังอาหาร หรือก่อนอาหาร หรือกินพร้อมอาหาร หรือกินก่อนนอน เป็นต้น
ในช่วงแข่งขันหรือท้าพนัน ตัวละครมักจะชอบสาบานต่อสวรรค์ให้ลงโทษถ้าผิดคำพูด หรือให้การเพาะปลูกเกิดความขัดข้องและไม่ราบลื่น เนื่องจากพลังของสวรรค์นั้นมีอำนาจมากที่สุด ไม่มีใครที่กล้าผิดคำสาบาน แต่ทว่าในช่วงที่ตัวละครเอกถูกใส่ร้ายและถูกเอาตัวไปที่ห้องตัดสินคดีกลับไม่เอามุกสาบานขึ้นมา โดยชี้ให้ศัตรูสาบานว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง หรือใส่ร้าย หรือแกล้งให้ยาพิษกิน
ในสำนักมักจะสั่งห้ามฆ่ากัน แต่ก็อนุญาตให้ทะเลาะกันได้เพื่อเพิ่มความสามารถและขีดจำกัด แต่ลืมไปว่าประเด็นขัดแย้งนั้นสามารถลุกลามใหญ่โตไปถึงฆ่ากันได้ ที่สำคัญ ถ้าออกนอกสำนักหรือเข้าไปในสถานที่ต่างๆ ที่ลับตาผู้ใหญ่ ก็ให้ฆ่ากันได้ทันที
ในสำนักบางเรื่องสั่งห้ามฆ่ากันเฉพาะศิษย์ชั้นนอก แต่ให้ศิษย์ชั้นในมาฆ่าศิษย์ชั้นนอกได้โดยไม่ผิดกฎ เนื่องศิษย์ชั้นในนั้นมีคุณค่ามากกว่า และที่สำคัญ ถ้าเกิดอะไรขึ้นต่อศิษย์ชั้นใน เหล่าอาจารย์ก็พร้อมจะออกมาช่วยและปกป้องทันที ซึ่งเป็นตรรกะที่แปลกประหลาด ทั้งที่รู้ว่าแม้ศิษย์ชั้นนอกยังไม่เก่งเทียบเท่าศิษชั้นในเพราะได้รับการฝึกไม่นาน แต่กลับไม่เอะใจเลยว่าลูกศิษย์ชั้นนอกคือต้นกล้าที่อาจจะเติบโตไปยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต เหมือนกับเด็กอนุบาลที่เพิ่งเข้าเรียน แตกต่างกับเด็กมัธยมที่เรียนมานานแล้วและอายุมากกว่า แต่ก็ยังให้เด็กมัธยมฆ่าเด็กอนุบาลได้โดยไม่มีความผิด โดยที่ไม่ได้เอะใจเลยว่าหนึ่งในเด็กอนุบาลทั้งหลายนั้นอาจจะเติบโตไปเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ช่วยพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหมอ ครู นักการเมือง นักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ หรือแม้กระทั่งอาจจะเติบโตไปเป็นเมียสาวในอนาคตของอาจารย์ เป็นต้น นี่มันตัดรากถอนโคนชัดๆ
เปิดเรื่องมา อันดับแรก ตัวละครเอกมักจะต่อยตีกับคนในครอบครัวก่อน ไม่ก็ในสำนัก จากนั้นก็ขยายวงกว้างออกไป เช่นว่าทะเลาะกับคนในระดับบ้านก่อน จากนั้นขยายออกไปในหมู่บ้าน จากนั้นขยายออกไปเป็นระดับเมือง จากนั้นขยายออกไปเป็นระดับอาณาจักร จากนั้นขยายออกไปเป็นระดับจักรวรรดิ จากนั้นขยายออกไปเป็นระดับโลก แล้วเมื่อเป็นใหญ่บนโลกแล้ว ตัวละครเอกก็พุ่งขึ้นไปบนฟ้าเพื่อเป็นใหญ่นอกโลกต่อ จากนั้นก็มามุกวัฏจักรเดิม ตัวละครเอกมีพลังต่ำเตี้ย แล้วค่อยๆ ยิ่งใหญ่ขึ้นไป แล้วสุดท้ายก็เป็นใหญ่ระดับจักรวาล แล้วก็จบ ซึ่งส่วนใหญ่ที่อ่านมาก็มักจะจบแบบห้วนๆ ไม่สมกับที่เขียนมาเป็นพันกว่าตอน
เนื้อหาดำเนินเรื่องส่วนใหญ่มักจะมาจากความขัดแย้ง ที่ตัวละครเอกถูกพวกลูกน้องของลูกคนใหญ่คนโตมากลั่นแกล้ง แต่สุดท้ายตัวละครเอกก็ชนะ พวกลูกน้องก็วิ่งไปฟ้องลูกคนใหญ่คนโต ลูกคนใหญ่คนโตก็จะมาจัดการเองเพื่อแก้แค้นให้ แต่สุดท้ายลูกคนใหญ่คนโตก็พ่ายแพ้ ลูกคนใหญ่คนโตจึงวิ่งไปฟ้องพ่อแม่ จากนั้นพ่อแม่ก็มาแทน แต่สุดท้ายพ่อแม่ก็พ่ายแพ้ พ่อแม่จึงไปฟ้องปู่ย่าตายาย จากนั้นปู่ย่าตายายก็มาจัดการแทนให้ แต่สุดท้ายปู่ย่าตายายก็พ่ายแพ้ ปู่ย่าตายายก็ไปฟ้องทวดหรือชวด จากนั้นก็ตามเดิมที่พ่ายแพ้ แล้วทวดหรือชวดก็ไปฟ้อง... เอาเป็นว่าไปฟ้องสุดยอดบรรพบุรุษให้มาแก้แค้นให้ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้เหมือนเดิม จึงกลับมาที่ตระกูลเพื่อเอาสุดยอดอาวุธไปแก้แค้นแทนต่อ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้อีก ซึ่งคราวนี้พ่ายแพ้แล้วจริง ไม่มีอะไรไปต่อกรได้อีก ส่วนใหญ่ก็มักจะตายยกตระกูล ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดคนจีนมักจะมีลูกเยอะ นี่คือคำอธิบาย เพราะว่ามักจะตายทีเดียวยกรังเหมือนผึ้ง ดังนั้นต้องมีลูกเยอะๆ แล้วส่งออกไปอยู่ที่อื่น เพื่อให้ดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไป
ตัวร้ายบางกลุ่มมักจะไม่ฉลาด มักจะเอาหายนะใส่ตัวเอง โดยหลักๆ มาจากเห็นพระเอกเก่งมีความสามารถ จึงชัดชวนเข้าพวกของตัวเอง แต่ถ้าพระเอกไม่ยอมมาเป็นพวกด้วย ก็มักจะเลือกฆ่าพระเอก ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากให้ใครได้พระเอกไป หรือให้พระเอกเก่งเกินหน้าเกินตา แต่สุดท้ายตัวร้ายพวกนี้ก็ถูกพระเอกกำจัด ทั้งที่ความเป็นจริงมันอยู่เฉยๆ ก็ไม่มีใครทำอะไรพวกมัน
ตัวละครเอกมักจะมีความสามารถสารพัดครอบจักรวาล
ตัวละครเอกมักจะชอบเอาของไปโรงประมูลโดยปกปิดตัวตน เพราะกลัวว่าจะถูกจับไปรีดไถเอาความลับว่าไปหาของนี้มาจากไหน หรือไม่ก็ขายของได้ราคาดีแต่กลัวถูกปล้น สรุปคือตัวละครเอกระแวงไปหมดและระมัดระวังตัวอย่างยิ่ง แต่กลับไม่ระแวงโรงประมูลเลย แถมเชื่อโรงประมูลอีกว่าจะช่วยปกปิดความลับลูกค้าให้ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองมีเพียงตัวคนเดียว ไม่มีผู้ยิ่งใหญ่หนุนหลังเพื่อรับรองความปลอดภัย ที่สำคัญ เรื่องเงินทองนั้นไว้ใจใครได้ที่ไหน แต่ตัวละครเอกกลับไปไว้ใจโรงประมูล แต่ถ้าเจ้าของโรงประมูลเป็นพ่อแม่ของตัวละครเอกก็ว่าไปอย่าง เออนี่ก็ตรรกะประหลาดๆ
เมื่อตัวละครเอกไปประมูลสินค้าในโรงประมูล ตัวละครเอกมักจะชอบสู้ราคากับพวกขาใหญ่ ไม่ก็กลั่นแกล้งพวกขาใหญ่โดยปั่นราคาให้สูงขึ้น โดยที่ตัวละครเอกนั้นไม่เกรงกลัวจะถูกสั่งเก็บเลย
พวกขาใหญ่ที่มาประมูลสินค้ามักจะชอบประกาศลั่นในโรงประมูลว่า “ข้าเบ่งอำนาจแล้ว สินค้านี้ข้าจองแล้ว อย่ามาประมูลแข่ง” แต่ถ้ามีตัวละครเอกหรือใครก็ตามมายุ่งกับสินค้า เหล่าขาใหญ่ก็จะแก้แค้นทันที ไม่ก็ไปแก้แค้นภายนอกโรงประมูลแทน เนื่องจากเกรงกลัวโรงประมูลจะไม่ให้เข้ามาประมูลสินค้าอีกหรือไม่ก็เกรงกลัวผู้จัดการที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ประจำโรงประมูลแห่งนี้ แต่อ่าวเฮ้ย พวกเอ็งกลัวกฎของโรงประมูลและกลัวผู้จัดการแบบนี้ แต่พวกเอ็งกลับกล้าเบ่งไม่ให้ใครมาประมูลสินค้าต่อ พวกเอ็งสติอยู่ครบหรือเปล่าเนี่ย
เรื่องแปลกในโรงประมูล เมื่อมีขาใหญ่เข้ามาประมูลแล้วเบ่งอำนาจเพื่อไม่ให้ใครมาประมูลแข่งเพิ่มราคา ผู้จัดการประจำโรงประมูลก็จะไม่ทำอะไรมาก อย่างมากก็ดุและยิ้มแหย มันทำเหมือนกับว่ารู้จักกันมานานแล้ว ส่วนนี่ก็แค่โชว์ปา-่ให้ตัวละครเอกฮึดสู้ราคา เฮ้ยแบบนี้พวกเอ็งไปตกลงกันหลังม่านไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ ไม่ต้องเอาของออกมาประมูล เพราะถึงยังไงขาใหญ่ก็ได้ของไปอยู่ดี
เรื่องแปลกของโรงประมูลอีกอย่าง ทั้งที่ประกาศให้รู้แล้วว่าเป็นโรงประมูลที่มีความยิ่งใหญ่สะท้านปฐพี แต่ทว่าดันไม่มีกำลังไปตื้บพวกขาใหญ่ที่ชอบมาจองสินค้าโดยกดราคาให้ต่ำกว่าที่ควรได้รับ
โรงประมูลมักจะเอาของดีๆ มาขาย โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลท้องถิ่นอันยิ่งใหญ่ที่รายล้อมมากมาย ไม่กลัวว่าจะถูกปล้น ไม่กลัวว่าจะถูกกดราคา ไม่กลัวว่าจะถูกทั้งทวีปรุมกินโต๊ะจีน แตกต่างกับพวกผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองทั้งเมืองหรือทั้งทวีปมานาน ที่มักจะเก็บของดีไว้กับตัวเอง ไม่ยอมให้ใคร ไม่ยอมขาย เก็บไว้เพื่อตระกูลของตนเท่านั้น
ถ้าตัวละครเอกไปประมูลแล้วได้ของดีกลับมา ตัวละครเอกจะถูกรุมกินโต๊ะจีนทันใด โดยที่โรงประมูลหรือมือปราบประจำเมืองนั้นไม่มาช่วย อ่าวเฮ้ย พวกเอ็งไม่กลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อโรงประมูลหรือไง ซื้อของปุ๊บ โดนไล่ฆ่าทันใด เป็นแบบนี้ต่อไปใครมันจะกล้ามาประมูลของ แต่อันที่จริง มันก็มีคนเสียสติกล้ามาประมูลของจริงนั่นแหละวุ้ย ทั้งที่รู้ว่าเมื่อประมูลแล้วจะต้องถูกฆ่าหรือถูกแย่งแน่นอน
หลังจากตัวละครเอกประมูลของดีจากโรงประมูลได้แล้วหรือไปเก็บของดีจากที่ใดที่หนึ่งมา พวกขาใหญ่จะส่งลูกน้องมาแย่งชิง โดยลูกน้องเหล่านั้นจะมีความเก่งเหนือชั้นกว่าตัวละครเอกประมาณหนึ่งถึงสองขั้น เช่นว่า ตัวละครเอกอยู่อนุบาลปีที่หนึ่ง พวกขาใหญ่ก็จะส่งลูกน้องที่อยู่อนุบาลปีที่สองมาไล่ฆ่าและแย่งชิง แต่สุดท้ายลูกน้องเหล่านั้นก็ตายเรียบ แต่ขาใหญ่ก็ยังคงส่งมาลักษณะนี้เรื่อย ทั้งที่พวกขาใหญ่ก็รู้อยู่แล้วว่าเมื่อส่งใครไปก็ตายหมด แต่ก็ยังไม่ฉลาด ส่งแต่พวกคนที่มีระดับเหนือกว่าเล็กน้อยไป ทั้งที่ความเป็นจริงพวกขาใหญ่ก็มีลูกน้องที่อยู่ชั้นมัธยมเยอะแยะ แต่ไม่ส่งไปเพื่อกำจัดให้เด็ดขาดทีเดียว จะส่งไปแบบนกขี้ทีละนิด
ทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่าใครอยู่ระดับใดเพียงแค่มองเท่านั้น เหมือนกับเห็นตัวเลขบอกชั้นการศึกษานักเรียนที่หน้าอกเสื้อ
ตัวละครเอกมักจะเป็นเด็กโข่ง โตกว่าเด็กทั่วไปในชั้นเดียวกัน เช่นว่า ตัวละครเอกอยู่ชั้นประถมปีที่หนึ่ง มีความสูงหนึ่งร้อยห้าสิบเซนติเมตร ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นสูงแค่หนึ่งร้อยเซนติเมตร แต่ทว่าคนทั้งโรงเรียนมักจะตาถั่ว มองเห็นเพียงแค่ตัวเลขบอกชั้นประถมปีที่หนึ่งที่ปักอยู่ที่หน้าอกเสื้อนักเรียน แต่อันที่จริง มันก็รวมไปถึงทุกคนเลยที่มองเห็นเฉพาะตัวเลขที่หน้าอกเสื้อนักเรียน
ตัวร้ายทั้งหลายจะอยู่ชั้นที่สูงกว่าไปเล็กน้อย เช่นว่า ตัวร้ายอยู่ประถมปี่ที่สอง ขณะที่ตัวละครเอกอยู่ประถมปีที่หนึ่ง แต่ทว่าตัวละครเอกนั้นเป็นเด็กโข่งที่ตัวใหญ่กว่าหลายเท่าเหมือนอยู่ชั้นประถมปีที่สาม เมื่อพวกตัวร้ายเห็นตัวละครเอกที่อยู่ชั้นต่ำกว่า (หมายถึงเห็นตัวเลขบอกชั้นที่ถูกปักอยู่ที่หน้าอกเสื้อนักเรียนของตัวละครเอก) พวกตัวร้ายก็จะมาเบ่ง โดยไม่สนใจเลยว่าตัวละครเอกนั้นโตกว่าหลายเท่า
ถ้าเป็นนิยายเก่าๆ ที่ย้อนกลับไปหลายปีก่อนหน้านี้ เหล่าตัวละครในเรื่องก็จะถูกแบ่งความสามารถจากวิชาหรือสำนักที่เรียนมา เช่นว่า ข้าได้เรียนวิชามาจากสำนักเสือ ข้าจะมีพลังน่ากลัวเหมือนกับเสือ ไม่มีใครเอาชนะได้ทั้งสิ้นทั้งปถพี เจ้าพวกสำนักไก่ย่าง เตรียมโดนพวกข้ากินเสียเถอะ แต่ทว่าหารู้ไม่ ตัวละครเอกที่อยู่ในสำนักไก่ย่าง เขาได้บังเอิญไปเจอสุดยอดวิชาที่เรียกว่า “กินดีเสือ” เท่านั้นแหละ คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากว่าสำนักเสือจะสูญพันธุ์หรือไม่
ถ้าเป็นนิยายสมัยใหม่ ไม่ต้องมีวิชาหรือสำนักที่เรียนมาตัดสินแบ่งแยกแล้ว ทุกอย่างตัดสินจากระดับตัวเลข ตั้งแต่หนึ่งถึงสิบ เมื่อไต่ระดับไปถึงสิบ ก็จะวกกลับมาไต่ระดับใหม่ โดยใช้ชื่อเรียกสวยหรูตั้งเป็นนำหน้าเพื่อแบ่งแยก เช่นว่า ข้าอยู่ระดับลูกเจี๊ยบระดับหนึ่ง แต่อีกไม่นาน ข้าจะไต่ระดับไปอยู่ระดับไก่ระดับหนึ่ง นี่ผมก็ไม่เข้าใจอย่างหนึ่ง ทำไมนักเขียนไม่ให้ไต่ระดับตั้งแต่หนึ่งไปถึงหลักร้อยแทน จะวกกลับมาอยู่ที่หนึ่งถึงสิบอีกทำไม มันจำยากมาก
ถ้าเป็นแนวฮาเร็มสไตล์จีน ส่วนใหญ่คุณพระเอกจะฟาดหญิงรุ่นพี่ในสำนักหรือโรงเรียน จากนั้นก็จะถูกคนที่เป็นแฟนคลับของพี่หญิงมาไล่ตื้บ และไม่ว่าพระเอกจะไปที่ไหน ก็จะเจอผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ เขาก็จะฟาดไม่เรียบ แม้กระทั่งศัตรูที่เป็นผู้หญิง มันก็ไม่เว้น แต่ถ้าเป็นหญิงแก่หรือผู้ชาย พระเอกตบหัวดิ้นเลยจ้า แต่ถ้าเป็นฮาเร็มสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะฟาดผู้หญิงที่เป็นสารพัดสัตว์โลก ตั้งแต่หมา แมว ลิง หรือไก่ เอาเป็นว่ามันเอาทุกอย่างที่เป็นเพศเมีย แล้วที่สำคัญ พวกเธอเหล่านั้นจะต้องกลายเป็นมนุษย์ได้ แต่ก็มีอวัยวะบางส่วนโผล่มาให้เห็นว่าเป็นสัตว์อยู่ เช่นว่าหูแหลมๆ หรือหาง เป็นต้น สงสัยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนอินุยาฉะ ที่คุณหญิงคาโงเมะคลั่งหูจิ้งจอกของพระเอก หรือไม่... ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระอภัยมณีของไทยเรา
ต่อไปนี้คือข้อเสียของนิยายที่เกิดจากฝีมือคนจีนแต่ง(เฉพาะบางส่วน) ถ้าเป็นนิยายร่วมสมัยหรือนิยายที่กล่าวอ้างถึงอนาคต ทางพี่จีนก็มักจะกระแหนะกระแหนประเทศอื่น ไม่ก็หยิบเอาข้อเสียของประเทศอื่นขึ้นมาแฉ หรืออย่างเลวร้ายสุดคือโยนทุกหายนะไปที่ประเทศนั้น โดยเฉพาะประเทศอเมริกา ส่วนประเทศของตัวเองนั้น หยิบชูสุดฤทธิ์ว่าดีงาม ไม่เคยกระทำเรื่องเลวร้ายใดๆ ทั้งสิ้น ไร้มนทินเรื่องไม่ดีต่างๆ ทั้งสิ้น (แต่ทั้งเรื่องมีทั้งฉากฆ่ายกตระกูลในประเทศตัวเองและฉากตระกูลใหญ่ไล่ล่าตัวละครเอกเพียงคนเดียวเหมือนหมาหมู่) หรือไม่ก็เป็นประเทศที่ได้รับความโชคดีมากที่สุดเหมือนเทพมาช่วยเหลือ หรือไม่ก็มีอะไรที่อยู่เหนือกว่าประเทศอื่น และมักจระเอาประเทศของตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ประมาณว่า มนุษย์ต่างดาวบุกโลก ยอดมนุษย์พี่จีนก็จะพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ลอยอยู่กลางอากาศ เผชิญหน้ากับกองทัพมนุษย์ต่างดาว โดยมีกล้องหมุนรอบตัวพี่แก อวดให้รู้ว่าพี่แกยิ่งใหญ่ แล้วก็จะมีคำพูดหรือไม่ก็ความคิดของพี่แกว่า “โอ้เราจะปกป้องประเทศจีนได้ไหม” หรือไม่ก็ “ข้าจะปกป้องประเทศจีนเอง เพราะข้าคือความหวังของชาวจีน” แต่พี่แกไม่สนใจประเทศอื่น ตาแค่ชำเลืองมองประเทศอื่นที่ถูกมนุษย์ต่างดาวถลมแล้ว โดยเฉพาะอเมริกา แถมพี่แกมียิมสะใจด้วยนะบางครั้ง
ยาวโครต
ผมคิดจะทำรีวิวนิยายจีนครับ เลยก็เขียนอะไรบางอย่างที่พบเจอบ่อยลงไปเป็นเนื้อหาองค์ประกอบด้วย สรุปคือเนื้อหาทั้งหมดนั้นก๊อปปี้มาจากไฟล์ที่เขียนเอาไว้ แต่นี่เป็นส่วนใหญ่ของนิยายพวกเน้นกำลังภายในต่อสู้ ส่วนแนวเอาใจผู้หญิง... (หมายถึงย้อนกลับไปหาผู้ชายเป็นสามี) ผมยังไม่ได้เขียน ไม่งั้นป่านนี้คงได้อ่านยาวกว่านี้แน่นอน อิๆ
เอิ่ม ถ้าจะรีวิว ถ้าแบบว่างๆฝากรีวิวนิยายผมด้วยจิคับ แต่ไม่ใช่นิยายจีนนะ กำลังอยากพัฒนาฝีมืออยู่ แหะๆ
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=2350942
เท่าที่อ่านน่ะจริงๆนะ ดังนั้นตอนผมแต่งนิยายแนวจีนจอมยุทธผมจะข้ามตรรกะแบบแปลกๆไปเลย อันนี้เห็นด้วยมากที่ในสำนักให้ศิษย์ฆ่ากันเอง ใส่ร้าย แย่งชิงกดขี่ เฮ้ยยยยแล้วแบบนี้สำนักมันจะอยู่รอดได้ยังไง คือเป็นระบบที่ไม่สนดีเลว ถูกผิด สนแค่ใครเก่ง โลกแบบนี้ผมว่ามันอุบาทว์ มันไม่ให้อะไรกับนักอ่านเลย ไม่ให้ข้อคิด คือเหมือนเป็นการสร้างตรรกะใหญ่ชนะทุกอย่างเป็นค่านิยม มันเป็นค่านิยมแบบจีนแหละมั้ง ผมโครตเกลียด กับ-ตัวเอกกากๆได้ร่างใหม่แล้วไปกร่างหาเรื่องแล้วก็ถ้าพนันจะสู้กันในอีก 1 เดือน ทั้งๆที่ถ้าเขาฆ่าตัวเองก็ตอนนี้ก็ตายทิ้ง ซ่าทั้งๆที่ไม่ควร อดทนโดนดูถูกได้มาตลอดชีวิต ได้พลังปั๊บกร่างเลย... แน่นอนตัวเอกมันต้องรอดเพราะนักเขียนสร้างรูทให้ตัวร้ายโง่ มันมีหลายอย่างในนิยายกำลังภายในจีนที่ย้อนแย้ง เรื่องภายในสำนัก ปัญหาคือคนไทยไปอ่านแล้วแต่งมาแบบเรียนแบบตรรกะก็อบปี้กันมาเลย ไม่ค่อยมีเอกลักษณ์
ตอบ 4.3 ต้องขอเวลานิดนึงเพื่ออ่านก่อนและต้องบอกก่อนล่วงหน้าว่าผมรีวิวในฐานะนักอ่านทั่วไปคนนึงเท่านั้น ความหมายก็คือไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญนั่นแหละครับ แต่ถ้าเขียนรีวิวเสร็จแล้ว จะลองเอามาให้ดูก่อน ถ้าไม่ชอบ ผมก็จะไม่เผยแพร่ให้คนอื่น แต่ถ้าชอบ ผมก็จะเผยแพร่ให้คนอื่นมาอ่านดูครับ
ตอบ 4.4 มันคือความจริงอันน่าเจ็บปวด แต่อย่างน้อยผมว่าก็อ่านฆ่าเวลาได้อยู่นะครับ อิๆ
โอ้ ขอบคุณมากๆเลยครับผม คำรีวิวสำหรับนักเขียนใหม่มีค่ามากๆ เพราะจะได้กลับไปแก้ได้
ขอคำอธิบายสูตรสำเร็จของนิยายแนวทะลุมิติ จีนโบราณ...มีตัวละครหญิงเป็นผู้ดำเนินเนื้อเรื่อง ทั้งแบบของเวอร์ชันจีน และเวอร์ชันคนไทยแต่งด้วยครับ
แถม +
พอเกิดใหม่ ถ้าไม่เจอครอบครัวเลวบัดซบ ก็เจอครอบครัวดีมากๆ ยกตัวอย่างแนวทำสวน ส่วนมากแต่งงานแล้วครอบครัวสามีแย่ สามีเกลียด ตัวร้ายอันดับหนึ่งต้องแม่ผัว สูตรสำเร็จ ส่วนตัวเอกชายแนวเกิดใหม่แก้แค้นนี่แนวขยะตระกูลโดนรังเกียจ ละก็โชตบหน้าๆวนไป เหมือนเอาเวลสูงมาตบเวลน้อย ดูจนเบื่อ
ตัวเอกเกิดใหม่บางคนก็บอกฉันหาทางรอด แต่บางวิธีการก็ไม่ต่างจากตัวร้าย อาทิ แย่งพระเอกจากนางเอก แย่งโชคชะตาคนอื่น แย่งบท+ของวิเศษบลาๆ ยังกะลาสบอสเลย
สูตรสำเร็จต้องหาทางแยกบ้าน
เหมือนว่าจะเคยอ่านในกลุ่มนักเขียนแล้ว
ยังยืนยันคำเดิมว่าทั้งหมดคือความสนุกของนิยายประเภทนี้5555
ก็ตรงกับหัวข้อกระทู้เขานั่นแหละ
เป็นสูตรสำเร็จที่ที่ชงกับอะไรก็อร่อย
นิยายของผมน่าจะโดนแค่ข้อ 3 ข้อเดียวครับ เพราะพระเอกได้มีโอกาสไปเรียนรู้วิชาจากสุดยอดอาจารย์ทั้ง 5 (สิ่งนี้พระเอกไม่ได้ขอ แต่ท่านยมราชจัดให้เป็นการชดเชย) ก่อนที่จะต้องออกไปปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ
ฝากนิยายเรื่องแรกของผมด้วยนะครับกับ "ย้อนเวลาพลิกฟ้าคว่ำดิน"
https://writer.dek-d.com/siamlorlong/writer/view.php?id=2095436
ขอบคุณมากครับ
แม่นเหมือนอ่านเรื่องเดียวกัน!!!
นิยายผมมาถึงก็จัดfull packageไปละ ฮา โอเคแต่ค่อยข้างจะเป็นเกิดใหม่แหวกแนวสักหน่อยครับ เนื้อหาที่วางพล็อตไว้หากนับแค่ปมเดิดใหม่พระเอกนี่ก็สเกลระดับมัลติเวิร์ส ฮา ขายความโม้แบบเต็มอัตราเนื้อหาแน่นๆ ใครสนใจก็ลองเข้ามาติดตามอ่านได้ครับไหนๆก็เข้ามาละฝากไว้หน่อยละกัน ฮา
https://writer.dek-d.com/RealBigblackcat/writer/view.php?id=2345260
ปล.ช่วงนี้ภาคแรก(ย้อนปูหลังวัยเด็กพระเอก) กำลังรีไรท์ครับ ถ้าใครอดใจรอเวอร์ชั่นใหม่ไม่ไหวกดข้ามไปภาค2ก่อนเลยได้ครับถือว่าเข้าสู่พระเอกดำเนินเรื่องพอดี
โดยรวมที่กล่าวมา มันสนุกนะ55555555
ของเรามาเกิดใหม่ แต่ค่อย ๆ ใส่รายละเอียดชีวิตเก่าไปทีละนิด ๆ จนจะเฉลยบู้มว่าทำไมต้องมาเกิดใหม่ค่ะ แล้วก็นอกจากมาเกิดใหม่ต่างโลกแล้วที่เหลือไม่เข้าสักข้อ 55555+ ชีวิตต่างโลกบัดซบจนคนอ่านบอกให้ตัวเอกตายแล้วกลับโลกเดิมไปเถอะ55555+
แนวเกิดใหม่ช่วงนี้ฮิตมากพอกับแนวระบบเลยครับ สิ่งที่กล่าวมานั้นน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของความสนุกที่ผู้อ่านต้องการเสพ 55+ ขำตรงรถบรรทุกชนตายเนี่ยแหละ ขอบคุณสำหรับ 25 ข้อครับ ผมจะนำไปเขียนนิยายฉบับทดลองหน่อยครับ แต่ตอนนี้ผมสนุกกับการเขียนนิยายสำหรับเด็กและเยาวชนอยู่ครับ
กรณีของเราเข้าแพ็กเกจ ไปต่างโลก...
ตัวละครนั้นถูกปูขึ้นมาให้เป็นตัวละครแบบ OP ชนิดที่ว่าแทบจะเคลียร์อุปสรรคทุกอย่างในต่างโลกได้ด้วยตัวคนเดียว มีองค์ความรู้แทบจะทุกอย่างอยู่ในสมอง มีพลังวิเศษสุดยอดที่พระเจ้ามอบให้
ทว่าทิศทางการดำเนินเรื่องนั้นเราจะเห็นพระเอกใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง ปลูกผัก ทำฟาร์ม ใช้พลังที่พระเจ้าให้มาพัฒนาบ้านของตนเองจนกลายเป็นสุดยอดป้อมปราการ... หากว่าน่าเบื่อล่ะก็เราจะเพิ่มแพ็กเกจผู้ติดตามสุดแสบแสนน่ารักอย่าง [กระต่ายขาว] ที่มาพร้อมกับโชคอันมหาศาลชนิดที่เรียก TEEN มาให้พระเอกอยู่เสมอ เวลาว่างก็จะแอบเข้าไปขโมยแครอท เล่นซุกซนหาเรื่องปวดหัวมาให้ และ เด็กหญิงเอลฟ์ที่เป็นอัจฉริยะพูดน้อยคำ...
มันกลายเป็นการดำเนินเนื้อเรื่องแบบชีวิตประจำวันของครอบครัวเล็ก ๆ การแก้ปัญหาและการผลักดันอนาคตให้กับเด็ก ๆ พร้อมกับเนื้อเรื่องสไตล์แอคชั่นที่ราวกับอยู่กันคนละเส้นเรื่อง เพราะพระเอกเราเป็นสุดยอด [นักฆ่า] โดยมีภารกิจเสริมเป็นการคุ้มกัน [ลูกรักของพระเจ้า] และช่วยเป็นลูกมือว่าที่นางเอกในการพัฒนาดินแดนแห้งแล้งให้กลายเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่
ถ้าพระเอกมันเก่งเกินไป...ขอแนะนำให้รู้จัก สุดยอดตัวละครสาย OP อีกหนึ่งคน...
ผู้อำนวยการโลลิผู้มีสถานะเป็นตัวตนระดับ OP ที่แข็งแกร่งที่สุดในเรื่อง ระดับที่พระเอกไม่มีทางเอาชนะได้เลย
...
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?