งานในครัวนี่มันต้องเดือดขนาดนั้นเลยเหรอ ?

ผมไม่เคยทำงานเป็นพ่อครัว แต่เคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในโรงแรมกับร้านเหล้า มีความใกล้ชิดกับงานในครัวระดับหนึ่ง

จากประสบการณ์

งานในครัวค่อนข้างกดดันเพราะต้องทำงานแข่งกับเวลาสูง ยิ่งร้านไหนดังๆ ลูกค้าเยอะๆ จะยิ่งเครียด

ตามที่ผมเห็นจากที่ทำงานทั้งสองที่นะครับ

1. ครัวโรงแรม จากคำพูดของพ่อครัวคนหนึ่งในโรงแรมที่บอกผมจากปากเขาเอง เขาบอกว่างานนี้ต้องควบคุมอารมณ์ให้ดี ไม่งั้นเป็นไมเกรนได้ จากประสบการณ์จริงที่เคยเจอกับตัว ตอนนั้นเป็นวันจัดเลี้ยงของบริษัทหนึ่งที่มาใช้บริการโรงแรม น่าจะมากัน 100-200 คน เวลาจัดงานเลี้ยง 14.00-16.00 (แขก 200 คนเข้ามาสั่งอาหารทีเดียว) ช่วง 10 นาทีแรกนี่ออเดอร์ทุกอย่างยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยอยู่ แต่หลังจาก 30 นาทีให้หลังไปความวุ่นวายจะค่อยๆ ปรากฏเอง เพราะปัญหาในการทำงานมันจะค่อยๆ โถมมาและทำให้ขั้นตอนแต่ละขั้นตอนช้าลง การทำงานทั้งหมด ไม่ว่าจะงานไหนก็ตามมันเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นเสมอ อยู่ที่เราจะควบคุมสติและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ไหม ตอนที่ทำผิดพลาดในช่วงนาทีเร่งด่วนเป็นอะไรที่เร้าใจมาก เพราะมันวัดว่าใจใครเย็นสุด ถ้าไม่อย่างงั้นก็เละ มีรอบหนึ่งผมจะเข้าไปเอาออเดอร์ของลูกค้าที่ผมสั่งไว้ อยู่ๆ ดีเห็นกะทะลอยผ่านหน้าลงถังขยะ พร้อมกับคำด่าอากาศของพ่อครัวคนหนึ่ง 555+

งานในครัวมันเป็นงานที่ต้องแยกประสาทเยอะ ผมไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร แต่มันเป็นงานที่ต้องแบ่งสมองไปคิดหลายๆ อย่างพร้อมกัน งานประเภทนี้มันสร้างความเครียดอยู่แล้ว จินตนาการว่าลูกค้าสั่งผัดไทย แต่เราเผลอไปทำข้าวมันไก่ ทำให้ต้องทำใหม่ โดยที่ในขณะนั้นมีลูกค้า 200 คนรอคิวอยู่ หรือจะเป็นทำอาหารไปแล้วแต่เด็กเสิร์ฟดันทำจานตกแตก ทำให้ต้องทำใหม่ หรือจะเป็นลูกค้าอยากจะเอาผักบางส่วนออกจากอาหารที่สั่ง ผัดไทยจานนั้นเลยตีกลับมา ขณะที่พ่อครัวกำลังจัดการออเดอร์ 199 คนที่เหลืออยู่ มันก็จะสร้างความหนักหน่วงใจให้กับพ่อครัวเป็นธรรมดา แน่นอนว่าลูกค้าไม่ผิด อย่างที่บอก มันอยู่สติของพ่อครัว

บางคนที่ใจเย็นก็ไม่ได้หัวร้อนและดุเดือดแบบที่เห็นในรายการอาหาร TV พ่อครัวบางคนก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคน แต่มันก็เป็นความจริงที่คนจะหัวร้อนแบบนั้นมีจริงๆ เพราะปริมาณพ่อครัวกับปริมาณลูกค้าจะไม่มีทางที่เทียบเท่ากันเด็ดขาด มันเป็นสัจธรรม 5555+

2. ครัวในร้านเหล้า เกริ่นก่อนว่าร้านนี้มันใกล้เจ้ง ลูกค้าเลยค่อนข้างน้อย แต่ว่าถึงแม้จะเป็นแบบนั้น แม่ครัวที่นั่นก็ยังมือมือหมุนและแสดงปฏิกิริยาชัดเจนถึงความกดดันออกมา วันจันทร์ถึงศุกร์อาจจะนั่งเล่นชิวๆ แต่วันเสาร์อาทิตย์ที่ลูกค้ามาที 3-4 โต๊ะ มือของแม่ครัวนี่จะกระปรี่กระเปร่ามาก ใบหน้าแดงฉาน ฝีเท้าเร่งรีบ อาจจะไม่ถึงขั้นเร่งรีบแบบพ่อครัวในโรงแรมที่ผมยกตัวอย่าง เพราะแม่ครัวสองคนนี้ค่อนข้างมีสติพอสมควร แต่ผมก็มองออกว่าเวลาถึงวันเสาร์อาทิตย์แม่ครัวทุกคนจะค่อนข้างกดดันขึ้นเป็นพิเศษ

สองตัวอย่างที่ผมยกมาเป็นแค่สถานบริการระดับทั่วไป แต่แค่นี้ก็วุ่นแล้ว ผมเชื่อว่าถ้าเป็นโรงแรม 5 ดาวหรือครัวดังๆ ที่ทั้งเคร่งเรื่องคุณภาพอาหารก่อนจะปล่อยออกจากครัวหรือพวกที่มีลูกค้าเข้ามาทีเยอะๆ นี่ มันจะวุ่นกันเป็นธรรมดา ยังไงก็ตาม จะเห็นพ่อครัวอาละวาดตะโกนด่าอากาศในครัวหรือไม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับบุคลิกของพ่อครัวแต่ละคนเอง