ทำไมนักอ่านบางคนถึงได้คอมเมนต์นิยายคนอื่นแรง ทั้งที่ตัวเองก็เขียนได้ดีไม่เท่าเขา?
ตั้งกระทู้ใหม่
คือผมอ่านนิยายอยู่ 3-4 เรื่อง แล้วบังเอิญเจอกับนักอ่านบางท่านที่ตามนิยายเรื่องเดียวกับผม เขามักจะชอบไปคอมเมนต์นิยายแรงๆ อย่างทำไมพระเอกนางเอกโง่จัง ทำไมไม่เขียนให้ตัวละครฉลาดๆหน่อย ทำไมไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ เขียนแบบนี้ไม่ต้องเขียนเลยดีกว่า ประมาณนี้...
ผมเลยลองเข้าไปดูโปรไฟล์เขาเห็นว่าเขาก็เขียนนิยายเหมือนกันเลยลองอ่านดู คิดว่าเขาน่าจะเขียนดีเพราะเห็นว่าเขาชอบไปเที่ยวคอมเมนต์ตินิยายของคนอื่นอยู่บ่อยๆ แต่พออ่านแล้วไม่เลยครับ...เนื้อหางงมาก เว้นวรรคไม่มี คำผิดเต็มไปหมด ฉันเป็นชั้น ครับเป็นคร้าบ หนักสุดก็นะค่ะ...
แค่สงสัยครับว่าทำไมถึงกล้าไปคอมเมนต์ตินิยายคนอื่นเขาขนาดนั้น ตัวเองก็ไม่ได้เขียนดีออกมาเลิศอะไรขนาดนั้น เลิกเถอะครับ...บั่นทอนจิตใจนักเขียนที่เขาตั้งใจเขียนซะเปล่า ผมจะคอมเมนต์อะไรแต่ละทียังคิดแล้วคิดอีก กลัวนักเขียนเขาหมดกำลังใจแล้วเลิกเขียนกลางคัน
ก่อนหน้าที่ผมจะมาสิงเว็บเด็กดีผมสิงรี้ดอะไรท์มาก่อน เจอนิยายสนุกๆหลายเรื่องเลยสิงอยู่ยาว เคยได้ยินกิตติศัพท์มาว่านักอ่านเด็กดีปากแซ่บที่สุดในเว็บอ่านนิยาย แต่ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ครับ5555
ปล.ไม่ต้องของลิงค์นิยายที่ผมอ่านกันนะครับ แต่ให้ลองไปส่องแท็กนิยายจีนโบราณดู...
29 ความคิดเห็น
คนที่ชอบพูดเรื่องเกี่ยวกับการเขียนมากกว่าลงมือเขียนจริงมักไม่ใช่นักเขียนที่ดีครับ
อันนี้จำเขามาอีกที
ผมก็โดนเหมือนกันเพราะมีคนตำหนิไม่ดีมาว่าสแปมรั่วครับ
ก็ในเมื่อนักเขียนทุกคนมีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็นนักอ่านกันทั้งนั้น
นักอ่านส่วนใหญ่จะผันตัวไปเป็นนักเขียนควบคู่กับการเป็นนักอ่าน
แล้วทำไมนักเขียนจะเข้าไปคอมเมนต์ในนิยายของคนอื่นบ้างไม่ได้คะ
นักเขียนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเป็นนักอ่าน
นิสัยคอมเมนต์แบบแรง ๆ ของนักอ่านขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางสังคมที่อาศัยอยู่ค่ะ
ไม่ได้มาจากตัวนิยายที่พวกเขาเขียนอยู่
คุณย่าเราเคยบอกเอาไว้ว่า 'ก่อนจะไปติเตียนใคร ต้องแน่ใจก่อนว่าตัวเราเองนั้นไร้ที่ติ' ดังนั้นเราถึงไม่กล้าไปคอมเมนต์ติติงนิยายของนักเขียนท่านอื่นเลยค่ะ (ยกเว้นแต่จะเจอคำผิด กับพิมพ์ตก)
อันที่จริงการคอมเมนต์หลังจากที่อ่านมันก็เป็นสิทธิ์ของนักอ่านเขานะคะ (เว้นแต่ว่านิยายเรื่องนั้นจะปิดการคอมเมนต์เอาไว้)
และเราเองก็เคยผ่านประสบการณ์อ่านคอมเมนต์ประมาณนี้ที่คุณจขกท.ยกตัวอย่างมาในนิยายของเราค่ะ ตอนอ่านแรกๆ มันก็เป็นโซแซดอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ปลดล็อกสกิลหัวใจทองคำไปแล้วค่ะ5555
แว๊ก..กก!!!.. หาที่มาดราม่าไม่เจอ
มันมีเส้นแบ่งระหว่างอิจฉากับริษยา
อิจฉา คือเห็นคนอื่นเก่งกว่าตนแล้วรู้่สึกน้อยใจ เพื่อเก่งเทียบเท่าหรือเก่งกว่าตน ต้องเก็บเลเวลด้วยการฝึกเขียนนิยายจนดีขึ้น หรือไม่ทำอะไรเลยก็ได้
ริษยา มีความหมายใกล้เคียงกับอิจฉา แต่เลือกกดหัวคนอื่นที่เหนือกว่าตน ดิสเครดิตคนอื่นเพื่อตัวเองดูดีขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้ฝีมือการเขียนดีขึ้นเลยสักนิด พูดง่ายๆ ไม่เก็บเลเวล มัวแต่ระรานคนอื่นน่ะแหละ
ความจริงเราคงไม่รู้เหตุผล ณ ตอนนั้นของการคอมเม้นต์ของเขาหรอก เขาอาจจะมีเหตุผลร้อยแปดพันเก้าที่ทำให้กดโพสต์มันไป ไม่ว่าจะเป็น กำลังอารมณ์เสีย รู้สึกอิจฉา หรือแม้กระทั่ง อ่านแล้วรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
ในเมื่อเห็นว่ามันไม่ดี ก็ช่วย ๆ กันอย่าเอาเป็นตัวอย่างเลยดีกว่า
แต่ในมุมของ เขียนไม่ดีแต่กล้าไปเม้นต์ว่านิยายคนอื่นนี่ก็แยกเป็นประเด็นได้นะ เราคิดว่าตัวเองก็เขียนไม่ดี แต่ก็กล้าติงของคนอื่นนะ แค่ใช้ภาษาสุภาพ ไม่แตะพล็อต แล้วก็ไม่ใช้ถ้อยคำรุนแรง ที่คิดตอนนั้นก็คือ ก็เราอ่านแล้วรู้สึกว่ามันน่าจะสนุกได้อีกอะ เลยลอง ๆ บอกไปว่าเออ มันอาจจะขาดอะไรอยู่ อาจจะปรับอะไรได้บ้าง เขาจะปรับไหมก็แล้วแต่
ส่วนตัวเลยคิดว่า คนที่เม้นต์ก็ไม่จำเป็นจะต้องเขียนดี เพราะในมุมคนเสพกับคนเขียนมันต่างกันจริง ๆ ในมุมคนเขียนแล้วมันมีข้อมูลมากมายที่เรารู้มากกว่าคนอ่าน แถมบางทียังรักตัวละครเหมือนลูกด้วย ทำให้บางครั้งมองข้ามบางสิ่งไป อาจจะคิดว่าอยากเขียนประเด็นนี้ แต่กลายเป็นคนอ่านบอกไม่สนุกไปซะงั้น มันก็เป็นไปได้ และปัญหาแบบนี้ก็คือต้องฝึกฝนน่ะแหละ อย่างเราเองใช้เวลาทั้งชาติก็ไม่รู้ว่าจะเขียนดีได้หรือเปล่า 5555
แต่ในมุมของคนอ่าน เราอ่านไปเรื่อย ๆ ตามที่เขาเขียน ตามข้อมูลที่เขาให้ มันก็ได้อารมณ์แบบอื่นอะ ไม่ได้รู้เรื่องเบื้องลึกแบบนักเขียนที่วางพล็อตมา (ไม่รู้ว่านักเขียนที่เขียนรายตอนแบบไม่วางอะไรเลยจะเกิดกรณีนี้เหมือนกันหรือเปล่านะ5555)
แต่ในกรณีของจขกท. เราก้ไม่รุ้เหมือนกันว่าเข้าข่ายอันไหน 55555
มันมองได้หลายทาง
พอไม่มีเมนต์ นักเขียนบอกไร้้กำลังใจ
พอมีแต่เมนต์ขอบคุณ ส่งสติ๊กเกอร์ นักเขียนบอกเมนต์ไม่เกิดประโยชน์ นำไปปรับปรุงผลงานไม่ได้
พอเมนต์กันตรง ๆ จากตัวดีกลายเป็นตัวร้ายในพริบตา ซึ่งถ้าเขาไม่ได้หยาบคายอะไร นั่นคือความอิน และความเห็นของเขา
บางทีนักเขียนก็เอาใจยากดีแท้ ไว้ไปขุดมาให้ แค่นักอ่านวงคำผิดให้บอกว่าเขารุนแรง เขาเมนต์นิยายโดนนักเขียนด่าว่า ดกทง (หลกท่ง)
ต้องทำไงถึงจะอิ่มใจละนั่น
เกี่ยวไรกับนักเขียน เขาถามถึงนักอ่านที่มาเม้นแล้วนิยายตัวเองก็ไม่เห็นจะดีไม่ใช่?
เกี่ยวสิคะ ก็จขกท.เขาพูดถึงว่านักเขียนที่ไปเมนต์ให้นักเขียนคนอื่นนี่คะ
เราก็พูดถึงว่า จุดพอดีของการเมนต์อยู่ที่ไหน ให้นักเขียนพอใจ
แล้วคุณอ่านนิยายเราแล้วหรือคะถึงว่าไม่ดี อย่างน้อยบทความเราก็ติดท็อปมาตลอดหลายปีค่ะ // ไหว้ย่อ
ผมหมายถึงจขกท.เขามาตั้งกระทู้ถามว่านักอ่านที่มาเม้นนิยายของนักเขียนที่จขกท.เขาอ่านอยู่ นักอ่านคนนั้นก็เขียนนิยายไม่ได้ดีขนาดนั้นทำไมถึงกล้าเม้นติคนอื่นงี้
แล้วมันเกี่ยวไรกับการที่ผมจะต้องไปอ่านนิยายคุณด้วย? อ่านภาษาไทยไม่แตกแล้วหนึ่ง5555 ส่วนเรื่องบทความติดท็อปนั่น...ไม่ได้ถามครับ//ไหว้ย่อ
อวดอ้างสรรพคุณตัวเองไปหนึ่งกรุบ แต่ติดตรงไม่ได้ถามครับ ลั่นเลย5555
อ่านไทยไม่แตก1
มั่น2
เข้ามากดไลค์กระทู้เงียบๆไปหนึ่งกรุบ ส่วนใหญ่มักจะเจอคอมเมนต์ที่Toxicมาจากเว็บไซต์เด็กดีมากกว่าที่อื่น RAWนักอ่านเหมือนจะน่ารักก็จริง แต่ถ้าทำอะไรไม่โดนใจก็พาลโดนเอาไปแขวนในเอกซ์ได้ง่ายๆ อยากเข้ามาบอกว่าคอมเมนต์มีผลต่อกำลังใจของคนเขียนจริงๆ เจอคอมเมนต์แย่ๆทีหนึ่งก็พาลคิดว่า ถ้าคุณเก่งเทพขนาดนั้นก็เชิญคุณไปเขียนเองอ่านเองเถอะ เข้ามาอ่านนิยายเราทำไม๊ T_T) แต่เราสิงอยู่กับเด็กดีมาเกินสิบปีแล้ว นอกจากเขียนเองก็อ่านมาตลอด เลยเห็นว่ากลุ่มนักอ่านเปลี่ยนไปตามยุคสมัยจริงๆค่ะ สมัยก่อนสังคมนักอ่านสนุกสนาน พูดคุยเกี่ยวกับนิยายได้เป็นเพื่อนสนิทในชีวิตจริงได้ คอมเมนต์ให้กำลังใจเชิงสร้างสรรค์ เดี๋ยวนี้เจอตำหนิติเตียน ไม่พอใจเอาประโยคว่าถ้าไม่แก้ให้พอใจจะเลิกอ่านมาขู่ ปวดหัวมากจนหลังๆปล่อยจอยกับคอมเมนต์แล้วไปสนใจกับยอดขายแทน ก็ไม่วายเจอว่าสามเหรียญ(บาทครึ่ง)สั้นเกินไป อยากได้หมื่นตัวอักษร++ (ทั้งที่เราไปส่องนักเขียนคนอื่นๆ ก็ตั้ง 3 เหรียญในช่วง 4K-7K อักษร) ไหนจะเรื่องต้องระวังนักอ่านเกิดTrigger อีก รู้สึกว่านักเขียนสมัยนี้ไม่ต่างจากทาสที่คอยบำเรอนักอ่านเลย สมัยก่อนจะอ่านหนังสือซักเล่ม เราไม่รู้หรอกว่าจะเจออะไรด้านใน มันเป็นความรู้สึกลุ้นระทึกไปกับเนื้อเรื่อง มีทั้งความหลากหลาย พล็อตทวิสต์ จบแบดเอดดิ้งได้ ชวนให้หลากหลายอารมณ์ เดี๋ยวนี้พอเจอนักเขียนติดแทกเตือนที่แทบไม่ต่างจากการสปอยล์เนื้อเรื่องแล้ว ก็พาลรู้สึกไม่อยากอ่านขึ้นมา อ๊ะขอโทษที่บ่นเยอะนะคะ สงสัยอัดอั้น
ทำไมเหมือนเราจะมีปัญหาที่ไม่สามารถเคาะบรรทัดได้เนี่ย กระทู้ที่สามแล้วทั้งๆที่ตัวเองเคาะย่อหน้าแล้วนะ เด็กดีนับวันยิ่งอัพเดตยิ่งแย่อะ
คนสมัยนี้อ่อนไหวง่ายจริงค่ะ การติด TW ก็ถือว่าเป็นการสปอยล์เนื้อหาอย่างหนึ่งจริงๆ ค่ะ นึกถึงตอนเด็กเราเคยซื้อนิยายรักเล่มหนึ่งมา หน้าปกหวานแหววมาก สรุปตอนจบพระเอกตาย เราดิ่งไป3วันเลย555555
เราก้อเจอแบบนี้ค่ะ เขียนยาวแล้วนะ ตอนที่โดนเม้นว่าสั้นคือเป็นหวัดแล้วก็แต่งนิยายไปด้วย 3หน้านี่ว่าก็ไม่สั้นเด้อ
แสดงว่าเขีีียนนิยายห่วยหรือไม่ได้เขียนนิยายห้ามคอมเม้นสั่งสอน
ุุ่ถ้าเขาเขียนดีกว่าคุณ มีคนติดตามมากกว่าคุณ คุณก็จะเงียบไม่พูดอะไร
แสดงว่าไม่มีพิจารณาจากคำวิจารณ์ แต่ไปมองว่าใครเป็นคนพูด
ถ้าค่าพลังมากกว่าคุณ คุณก็ยอมแพ้
ไปมองดูที่คำวิจารณ์ครับ สมเหตุสมผล ตัวละครคุณโง่จริง ก็ยอมรับและแก้ไข
ถ้าคิดว่าไม่โง่ ฉลาดแล้ว จีเนียสสุด ก็ไม่ต้องไปสนใจ
หรือ
อะไรที่ไม่ชอบก็เขี่ยไว้ข้างจานไม่ต้องตักเข้าปากก็ได้
โค้ชกีฬาที่ดี ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นนักกีฬาเหรียญทอง
นักชิม ไม่ได้แปลว่า ต้องเป็นเชฟเท่านั้นจะชิมได้
พระทำผิด โยมก็ด่าได้ แม้ศีลไม่เท่าพระ เขียนหนังสือให้มวลชนอ่าน ก็ควรรับคำวิจารณ์ของมวลชน อย่าอ่อนไหวและอ่อนแอ มวลชนแปลว่ามีความต่างมีความหลากหลาย
ทุกคำสะท้อนไม่ว่าชอบชังหรือระบายอารมณ์ มีคุณค่าทั้งนั้น
มีเวลาที่คนเสียเวลาพิมพ์ให้คุณ
สำหรับเรา เรารับทุกคำติชม ไ่ม่งั้นงานเขียนคงติดอยู่ในวังวนความคิดของตัวเอง ไม่ได้มองผา่นความคิดคนอื่นๆเขาบ้าง
คนมีหลายประเภทคับ และคนถ่อย ก็เป็นหนึ่งในนั้น
คนถ่อย อาจเป็นนักอ่าน นักเขียน เป็นทั้งสองอย่าง หรือไม่ได้เป็นทั้งสองอย่างเลยก็ได้ เพราะคนถ่อยคือสันดานของคนคับ ไม่ใช่แค่ชนิดของคน การที่ไปด่าผลงานคนอื่นเสียๆ หายๆ ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เค้าจะเขียนเองได้ดีหรือไม่ดีหรอกคับ สันดานล้วนๆ เรื่องนี้
ส่วนการให้ความเห็นต่องานศิลปะ มันเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้วคับที่คนวิจารณ์ จะไม่จำเป็นต้องเก่งเท่าคนสร้างผลงาน เพราะทั้งสองทำคนละหน้าที่กัน ใช้ศาสตร์คนละศาสตร์ คนสร้างก็คือคนสร้าง คนวิจารณ์ก็คือคนวิจารณ์ สองฝ่ายทำงานร่วมกัน วงการก็เคลื่อนไปได้ข้างหน้าได้คับ
ง่ายๆ เลยคับ นักรีวิวหนัง นักรีวิวเกม ก็ไม่ได้สร้างหนังสร้างเกมได้เก่งเท่าผู้สร้าง หรือถ้าจะให้ชัดกว่านั้น โค้ชทีมฟุตบอล หลายทีก็ไม่ได้เก่งกว่านักฟุตบอลด้วยซ้ำ เพราะงั้นการไล่คนวิจารณ์ว่า "ทำไมไม่ไปทำเอง" หรือ "พูดงี้ทำได้เหมือนเค้าไหม" มันเลยไม่ถูกต้องคับ เพราะเราทำคนละหน้าที่กัน ตามที่อธิบายไป
ผมเป็นอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่า
คือแต่งนิยาย แต่ก็วิจารณ์คนอื่นเสีย ๆ หาย ๆ
เพียงแต่ผมไม่พิมพ์ลงในคอมเม้นใด ๆ เก็บเงียบไว้กับตัวอย่างเดียว
ไม่รู้เหมือนกันทำไมเป็นแบบนั้น อาจจะเป็นเพราะสมอง ที่ชอบหยิบผลงานดี ๆ (ของคนอื่น) คอยไปเปรียบเทียบกับนิยายเป้าหมายอยู่เสมอ เพื่อให้เห็นข้อแตกต่าง แล้วจึงนำข้อแตกต่างนั้นมาใช้กับตัว
ข้อแตกต่างที่ว่า มักออกมาในรูปแบบ บ่น ตำหนิ บางครั้งก็ด่าในใจ
แต่ต้องยอมรับว่า ข้อที่เราด่า ตำหนิ มีประโยชน์มากเลยทีเดียว
แค่อยากจะบอกนักเขียนคนที่วิจารณ์คนอื่นแรง ๆ ว่า
วิจารณ์ได้ จะแรงอย่างไรก็ได้ ขอแค่อย่าพิมพ์ หรือแสดงออกให้ใครก็ตามรับรู้ เพราะมันจะเป็นผลเสียกับตัว
ส่วนการวิจารณ์ มันได้ผลดีอยู่แล้ว จะเบา จะแรง ทำไปเถอะ
ทำกับข้าวไม่เป็น แต่ชิมอาหารแล้วก็บอกว่าไม่อร่อยได้นะ
แต่เรื่องมารยาทก็เป็นอีกส่วนนึง
แต่ก็เพราะแบบนี้ หลังๆ เลยขี้เกียจคอมเมนต์ให้นิยาย แม้จะมีความเห็นมากมายหลังอ่านก็ตาม 5555 นั่นแหละ ไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้ความเห็นจริงๆ อาจจะอยากได้แค่กำลังใจ
บางคนเขาไม่ได้อยากได้ความจริง เขาอยากได้แต่คำชม แถมถ้าคำชมไม่ได้อยู่ในชุดคำตอบที่เลือกไว้ก็โมโหอีก
จริงๆ คอมเมนต์เด็กดีสมัยก่อนแรง แต่ตรงและกระชากวิญญาณมาก 5555 ได้ดีเพราะคอมเมนต์นักอ่านหลายๆ ท่านเหมือนกัน
จากที่อยู่่ใน รอร อาจจะไม่ได้มาก แต่เป็นเชิงกำลังใจส่วนมาก ไม่ค่อยมีบทวิเคราะห์มากเท่ากับเด็กดี ซึ่งแน่นอนว่าในเด็กดีโดนแล้วแสบมากเลย ฟีลลิ่งยาแรง โดนทีซี้ดปากอยู่นาน
ของเราได้จากถนนนักเขียน ณ พันทิบก่อนย้ายมาเด็กดีค่ะ ที่นั่นสุดกว่าอีก บางคนเมนต์ได้คนละทางกับเรื่องเลย ตอนนั้นยังเด็กก็อิหยังวะอยู่เหมือนกัน พอโตมาค่อยเข้าใจว่า เกรียนมีทุกที่ค่ะ
หนูน่าจะเริ่มเขียนหลังยุคพันทิปค่ะพี่ แถวนั้นไม่เคยไปห้องนิยายเขาจริงๆ
ไม่ชอบคนที่เหมือนตัวเองมั้ง
เคยโดนเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าเจ้าตัวเหมือนมีปมในใจ
เห็นใครดีใครเด่น...ก็มาระบายใส่
"ฉันไม่ใช่ถังขยะ...ฉันไม่ใช่ถังขยะ"
ก็อย่างว่าความอ่อนไหวทางอารมณ์ของคนเรามันต่างกัน คนเมนต์อาจจะคิดว่าเมนต์แค่นี้เองทำเป็นรับไม่ได้แล้วมาเขียนนิยายทำไม? แต่กลับกันนักเขียนบางคนกว่าจะกล้าลงนิยายที่ตัวเองเขียนอาจจะใช้เวลานานนมากเลยก็ได้
การได้รับฟีคแบ็ค ได้รับคอมเมนต์มันก็ดี แต่อย่างน้อยก็ควรมี มารยาท นิดหนึ่ง ไม่ใช่สักแต่ฉอดเรียกร้องให้นิยายที่อ่านเป็นไปแบบตามใจฉัน นักเขียนเขาวางพลอตเรื่อง วางตัวละครมาแบบไหนไม่สน ตรงไหนขัดใจฉัน ฉันเมนต์ฉอดอย่างเดียวเพราะมันขัดใจฉัน
คอมเมนต์เชิงสร้างสรรค์ สร้างกำลังใจ สร้างแรงผลักดันเป็นสิ่งที่ดี แต่คอมเมนต์แรงๆมันบั่นทอนจิตใจนักเขียนจริงๆ บางคนถึงกับเลิกแต่งนิยายไปตลอดชีวิตเลยก็มี
และเท่าที่อ่านนิยายแนวจีนโบราณกับแฟนตาซีมา มันจะมีนักอ่านบางคนจริงๆที่ชอบเมนต์อะไรแบบที่จขกท.ว่ามา เท่าที่เห็นเป็นคนเดิมๆด้วยที่เมนต์อะไรแบบนั้น
โดยเฉพาะ ทำไมไม่เขียนให้พระเอกนางเอกฉลาดๆ และเก่งกว่านี้หน่อย บลาๆๆ ทั้งที่อ่านไปได้ไม่ถึงสิบตอน
โถ่ว...อนิจจัง พระเอกนางเอกในนิยายนะ ไม่ใช่พระพุทธเจ้าที่จะได้เกิดมาแล้วเดินได้เจ็ดก้าวเลย
เจ้ารู้จักพัฒนาการตัวละครบ่?
รู้จักคำว่ามารยาทในการเคารพและให้เกียรติพลอตของนักเขียนเรื่องบ่?
อนิจจัง อนิจจัง
สกิลแต่งกับสกิลปากไม่จำเป็นต้องมีแนวโน้มไปในทางเดียวกันฮะ มันก็เหมือนที่ชอบมีเมนต์ไปท้าให้คนสกิลปากตี+10ไปทำเองนั่นแหละ แต่จะทำดีหรือไม่ก็แล้วแต่ฝีมือ แต่ถึงอย่างนั้นเชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้การเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ แน่นอนว่าซอฟต์พาวเวอร์ของเด็กดีคือเรื่องสกิลความแซ่บระดับMAX รวมถึงผู้คนต่างมีชื่อเล่นในใจสำหรับเว็บนี้ต่างกัน สำหรับเราเรียกแซวว่า เด็กเ---- //ส่วนตัวก็แล้วแต่การจัดการของนข.เลย เพราะนี่ยังไม่เคยมีเมนต์อะไรทำนองนั้น (สงสัยไม่ดัง แต่ก็ดีแล้วแหละ เงียบเหงาดี55)
สงสัยคนเม้นท์จะมีปมเพราะเขียนแบบเขาไม่ได้ เลยอยากเปลี่ยนพล็อตเรื่องคนอื่นเขาให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการแทน
คอมเมนต์ตินิยาย ใครก็ติได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องเขียนนิยายเป็นก็ติได้ ไม่มีข้อห้าม ไม่อย่างนั่นนักอ่านที่เขียนนิยายไม่เป็นก็ไม่มีสิทธิ์ติงนิยายที่กำลังอ่านเหรอ มันก็ไม่ใช่ค่ะ
คนเขียนแยกให้ออกระหว่างคอมเมนต์มุ่งร้าย กับคอมเมนต์ติเพื่อก่อก็พอ
สำหรับเราสิ่งที่เจ็บที่สุด ไม่ใช่คนอ่านที่อยู่ๆ ก็มาคอมเมนต์เกรียนจากไหนก็ไม่รู้มาด่า เพราะเรายังรู้ได้ว่าเขาแค่เกรียน เราปกป้องจิตใจตัวเองได้ แต่เป็นนักอ่านที่เคยชอบผลงานเรา หรือคนที่เรารู้จักดีและเชื่อถือ เข้ามาติงข้อด้อยผลงานเราอย่างตรงประเด็นเหมือนกระสุนที่เจาะตัดขั้วหัวใจต่างหาก
แต่นั่นแหละ พอผ่านมาแล้ว เราจะเห็นว่าคำวิจารณ์ที่ช่วยให้ผลงานเราดีขึ้นได้มันมีค่าแค่ไหน ส่วนพวกเกรียน...ไม่มีค่าอะไรเลยค่ะ
เราคิดว่าการด่าตัวละครไม่ใช่เรื่องแปลก
ยกตัวอย่างละครไทย ที่นางเอกยอมให้คนอื่นโขกสับ ทำร้าย รังแก ฯลฯ หรือพระเอกที่นิสัยแย่ชอบข่มเหงนางเอก เราว่ามันธรรมดามาก ด้วยทัศนคติของสังคม การกระทำบางอย่างของตัวละครไม่ใช่สิ่งที่ควรยอมรับอยู่แล้ว
แต่จากที่คุณเล่า เราคิดว่านักอ่านที่อยากเขียนคนนั้นอาจจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการเขียนด้วยฝีมือการเขียนของตัวเองได้ เขาจึงทำได้แค่ใส่ความต้องการพร้อมกับความไม่พอใจในศักยภาพของตัวเองลงไปในนิยายของคนอื่น
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?