Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ว่าด้วยเรื่อง E-book

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ทำไมซื้อ E-book ห้ามแชร์ ห้ามหาร ผิดกฎหมาย นักอ่านไม่มีสิทธิจะทำอะไรกับนิยายที่ตัวเองซื้อมาทั้งนั้น นอกจากอ่าน(คนเดียว) แต่ซื้อหนังสือเป็นเล่มสามารถปล่อยเช่าได้ ทั้งๆที่ราคา E-book แพงมาก นักเขียนหลายคนขาย E-book ราคาเท่าหรือเกือบเท่าหนังสือเล่มด้วยซ้ำ งง

แสดงความคิดเห็น

>

12 ความคิดเห็น

Miran/Licht 20 ม.ค. 67 เวลา 18:44 น. 1

ซื่อหนังสือเล่มก็ไม่มีใครว่านะคะ ปล่อยต่อก็ได้ด้วย


แต่อนาถกว่าการซื้ออีบุ๊กคือ การซื้อรายตอนค่ะ ถ้าคุณเป็นคนอ่านครั้งเดียวพอซื้อรายตอนถูกกว่าเยอะ แต่ถ้าต้องการอ่านซ้ำแบบสิบปีข้างหน้าก็จะกลับมาอ่านขอแนะนำให้ซื้ออีบุ๊กค่ะ เพราะถ้าเป็นนิยายแปล พอหมดลิขสิทธิ์ ผู้เผยแพร่ต้องลบที่ลงรายตอนออกอ่านไม่ได้อีก แต่อีบุ๊กยังสามารถอ่านได้ตลอดค่ะ


ข้อเท็จจริง: ถ้าอ่านหน้าลิขสิทธิ์ บางสำนักพิมพ์มีการระบุว่าห้ามปล่อยเช่าด้วยในยุคร้านเช่าเฟื่องฟู แต่โดนดราม่าเลยต้องตัดออกค่ะ

11
Why 20 ม.ค. 67 เวลา 18:53 น. 1-1

พึ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เอง ถ้ารู้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีทางซื้อแบบ E-book หรอก ราคาแพงเท่าหนังสือเล่ม แต่แชร์ไม่ได้ ปล่อยเช่าไม่ได้ ขายต่อก็ไม่ได้ เสียเปรียบมาก

0
Miran/Licht 20 ม.ค. 67 เวลา 18:56 น. 1-2

นอกจากนี้ โปรดรับรู้ว่านักเขียน โดนหักค่าฝากวางอีกบุ๊กไปเยอะจากราคาปกนะคะ ยิ่งคนซื้อกดจาก iOS ทุกอย่างมีต้นทุนแฝงหมดแหละค่ะ


แต่ถ้าคุณอายุมากขึ้นซื้อหนังสือไปสะสมไปสัก 10 ปี ไม่ได้มีบ้านเนื้อที่เป็นไร่ คุณจะเข้าใจว่า ทำไมคนถึงซื้ออีบุ๊กมากกว่าค่ะ

0
Miran/Licht 20 ม.ค. 67 เวลา 19:11 น. 1-3

นอกจากนี้ตอนสมัครแอปอีบุ๊กเขามีข้อตกลงในอ่านนะคะ แต่คนส่วนใหญ่ไม่อ่านเอง

ข้อสำคัญของกฎหมายคือ คุณไม่สามารถอ้างว่าคุณไม่รู้ไม่ได้



บางเรื่องทำแต่หนังสือเล่ม แต่คนเรียกร้องให้ทำอีบุ๊กเพราะอะไรทราบไหมคะ?

เพราะเล่มใหญ่หนักที่จะถือ นอกจากนี้พอมีอาการสายตายาว การอ่านอีกบุ๊กสามารถปรับขยายตัวหนังสือได้ ไม่ต้องใส่แว่นสายตาค่ะ

0
Why 20 ม.ค. 67 เวลา 19:11 น. 1-4

หนังสือเล่มก็มีค่าเชลฟ์วางขายในร้าน ค่าหมึกพิมพ์ไหม ยังไงก็มองว่ามันไม่ควรราคาเท่ากันอะ E-book ควรจะราคาถูกกว่าหนังสือเล่ม เพราะนักอ่านไม่ได้ครอบครอง ไม่มีสิทธิในนิยายอย่างเต็มที่

0
Miran/Licht 20 ม.ค. 67 เวลา 19:14 น. 1-5

มองว่าถ้าเป็นนิยายทำมือไม่ฝากวาง ไม่ผ่านสายส่ง ราคาหนังสือ 100 บาท นักเขียนได้ 100 บาท ไม่รวมส่งนะคะ

แต่อีบุ๊ก โดนหักค่าฝากวางไปไงล่ะ

0
Why 20 ม.ค. 67 เวลา 19:23 น. 1-6

ข้อดีของ E-book มันก็มี แต่คิดว่ายังไงข้อเสียก็เยอะกว่า ตามที่บอกไป แล้วอีกอย่างนึงที่สงสัยคือ อีบุคมันให้อ่านในแพลตฟอร์มเท่านั้น ถ้าเกิดวันนึงแพลตฟอร์มปิดตัวลง เลิกทำขึ้นมา นักอ่านจะทำยังไง? มองแบบไหนผู้บริโภคก็เสียเปรียบทุกทางอยู่ดี

0
22 ม.ค. 67 เวลา 11:50 น. 1-7

มีเคสที่แอปหนึ่งปิดตัว แบบปิดถาวรไปเลย ทางนั้นมีแผนรองรับผู้ใช้บริการด้วยการแบ็กอัปข้อมูล e-book ของลูกค้าไปให้เจ้าใหญ่ที่ให้บริการแบบเดียวกันอีกเจ้าดูแลแทน ซึ่งข้อมูลก็ไม่ได้หายไปไหนนะ


ส่วนเรื่องเอาเปรียบทุกทาง นักเขียนก็โดนเอาเปรียบด้วยเปล่า? ถ้าข้อมูล E-book หายไปเพราะแอปปิดให้บริการ เขาก็เสียช่องทางการขาย แถมค่าวางแพลตฟอร์มก็ไม่ได้คืน ข้อมูลคอมเมนต์หรือสิทธิประโยชน์ที่เขาเคยได้ก็หายไปเหมือนกัน


สรุปเหยื่อเหมือนกันทั้งคู่ มองไม่ออกจริงเหรอ?

0
☀Jan K.D. January☀ 22 ม.ค. 67 เวลา 13:47 น. 1-8

ถึงจะซื้อแบบเล่มก็ใช่ว่าจะไม่เสียประโยชน์นะ น้ำท่วมมา เชื้อราเข้า ไหนจะเก็บจนลืม ปลวกกิน วันดีคืนดีอยากจะบริจาค ขายต่อก็ไม่มีทางได้กลับมาเหมือนกัน


นี่ ebook ยังดีนะที่แพลตฟอร์มเขาดูแลอ่ะ

0
Why 22 ม.ค. 67 เวลา 15:55 น. 1-9

แล้วประโยคไหนที่บอกว่านักเขียนไม่โดนเอาเปรียบ? ที่พิมพ์มาทั้งหมดพูดถึงเรื่องสิทธิในการครอบครอง เป็นเจ้าของนิยายที่คนอ่านเสียเงินซื้อจ้า ถ้าได้สิทธิไม่เท่ากัน ก็ไม่ควรเสียเงินเท่ากัน อย่าหลงประเด็นมั่วเละ

0
Why 22 ม.ค. 67 เวลา 16:09 น. 1-10

กรณีน้ำท่วม/ไฟไหม้/ภัยพิบัติ มันมีโอกาสเกิดขึ้นกี่%

หนังสือดีๆ ใครจะโง่เก็บให้ปลวกกิน

แล้ว E-book มันขายต่อหรือบริจาคได้กี่โมง ที่พิมพ์มานี่ได้ใช้สมองคิดแล้วเหรอ?

0
☀Jan K.D. January☀ 23 ม.ค. 67 เวลา 08:57 น. 1-11

แล้วเปอร์เซ็นต์ที่แพลตฟอร์มจะปิดมันมีกี่เปอร์เซ็นต์อ่อ มากเท่าน้ำท่วมป่าว

น้ำท่วมทุกปีไหมประเทศไทย บ้านใครสูงก็โชคดี บ้านใครพื้นที่ลุ่มก็ท่วมเป็นประจำอ่ะ

ปลวกมาบางทีก็ห้ามไม่ทันอ่าาา

ก็ขายต่อไม่ได้ไง ที่บอกขายได้บริจาคได้คือเล่ม มะกี้พูดถึงเล่มอยู่นา

0
yurinohanakotoba 20 ม.ค. 67 เวลา 19:51 น. 3

บริการ E-Book มันไม่ใช่การซื้อสินค้า แต่เป็นการซื้อบริการ นึกภาพว่าร้านอาหาร คิดบริการรายหัว แต่คุณสลับเพื่อนมากินด้วยมันก็ไม่ถูกใช่ไหม หนังสือที่ซื้อ ๆ ใน E-book ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของ เราแค่ซื้อสิทธิ์เข้าถึงเท่านั้น ถ้่าธุระกิจเขาไปไม่รอดมันก็หายไป

1
Why 20 ม.ค. 67 เวลา 22:49 น. 3-1

ถ้า ซื้อ E-book = ซื้อบริการ งั้นก็ไม่ควรราคาเท่ากับซื้อสินค้าเป็นหนังสือเล่มไหม?

0
20 ม.ค. 67 เวลา 19:56 น. 4

ก่อนเราจะตอบอะไร หวังอย่างเดียวว่า จขกท.และนักอ่านอีกหลายๆ คนจะพร้อมเปิดใจรับนะ


ข้อแรก E-book ไม่ได้อยู่ในขอบเขตของกฎหมายที่นักอ่านจะมีสิทธิ์ขาดเหมือนหนังสือเล่ม ดังนั้นจึงไม่สามารถหารกันซื้อได้


ข้อสอง ตามข้อกำหนดของแพลตฟอร์ม ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า 1 ID สามารถซื้อและเป็นเจ้าของ e-book ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น


ข้อสาม E-book เป็นลักษณะของการเช่าซื้อ คือ คุณจะสามารถอ่านนิยายได้เฉพาะในเว็บ/แอปที่คุณซื้อเท่านั้น ซึ่งจะอ่านได้ตราบจนเท่าที่แพลตฟอร์มยังเปิดให้บริการ หรือนักเขียน/สำนักพิมพ์ยังคงไฟล์เอาไว้ในแอป (ถ้าเอาออกก็คือ อดอ่าน เว้นแต่ผู้ให้บริการกำเนิดไว้เป็นอย่างอื่น) ซึ่งตรงส่วนนี้ นอ.ไม่มีสิทธิ์ขาด และมีไม่ได้ด้วย เพราะมันจะกลายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์


ที่นี้ถามว่าทำไมหนังสือเล่มจึงสามารถปล่อยเช่าหรือขายต่อได้ มันก็เพราะว่าผู้ซื้อมีสิทธิ์ในโพรดักต์ (หนังสือ aka สิทธิ์ขาดในน้ำหมึกที่ใช้ตีพิมพ์ กระดาษที่พิมพ์ รวมถึงอุปกรณ์ใดๆ ก็ตามที่ใช้เข้าเล่มหนังสือนั้นๆ **ไม่ใช่เนื้อหาของนิยาย**) ดังนั้นผู้ซื้อจึงสามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับหนังสือเล่มนั้น จะปล่อยเช่า จะขายทำได้หมด แต่ e-book ทำไม่ได้


ต่อมาถามว่า e-book สามารถเช่าได้ไหม (ตั้งสติอ่านดีๆ นะ เรากำลังพูดถึงเรื่องเช่า ไม่ใช่หาร แชร์ หรืออื่นๆ ที่เป็นการละเมิดกฎหมาย) คำตอบคือ ทำได้ และมีการทำมาหลายปีแล้วด้วย โดยเป็นลักษณะของ "การเช่าอ่านในชั่วระยะเวลาหนึ่ง"


ยกตัวอย่างเช่น แอป TK read (และแอปเช่าอ่านนิยายฟรีอื่นๆ ที่เปิดบริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย) จะมีไฟล์ e-book จำนวนหนึ่งที่เปิดให้คนอ่านสามารถเช่าได้ ผู้เช่าจะต้องเข้าคิวเพื่อรออ่าน เมื่อถึงคิวของตัวเอง ไฟล์ e-book จะปรากฏในระบบแอปของคุณ ซึ่งคุณจะได้อ่านตามระยะเวลาที่ทางแอปกำหนดไว้ หลังจากนั้นไฟล์ก็จะหายไป ถ้าอยากอ่านซ้ำคุณต้องกลับไปต่อคิว


สุดท้ายถามว่าทำไม e-book จึงแพงมาก คำตอบคือ...เพราะต้นทุนมันแพง ทุนสำหรับการฝากวางในแพลตฟอร์มนั้น แทบจะเทียบเท่ากับค่าฝากวางสินค้าในร้านหนังสือปกติ (ซึ่งหักกัน 30-50%) เรียกได้ว่ามันแทบจะมาแทนต้นทุนในส่วนของการจัดพิมพ์เล่มแบบ print on demand ด้วยซ้ำ


อะ...เผื่อนึกภาพไม่ออกนะ ในการจัดพิมพ์นิยาย 1 เรื่อง กรณีนักเขียนขั้นตอนบรรณาธิการเอง (ปรู๊ฟ/จัดหน้า/บ.ก.) ทุนที่ต้องใช้จะมี ค่าพิมพ์ ค่าส่งจัดส่ง ค่าแพ็กเกจ ค่าฝากวางในร้าน (กรณีฝากวางในร้าน)


แต่ในการทำ e-book นั้น แม้จะไม่มีเล่ม แต่ค่าฝากวางในแพลตฟอร์ม ค่าตัวกลางชำระเงินของแอปเปิล ค่าธรรมเนียม และค่าอื่นๆ อีกจิปาถะ มันจะมาแทนตรงส่วนของ ค่าจัดส่ง ค่าแพ็กเกจ ค่าฝากวางในร้าน ฯลฯ


นี่ยังไม่รวมต้นทุนของหน้าปกนิยายด้วย ภาพประกอบ อาร์ตในเล่ม ฯลฯ พวกอาร์ตอะไรเนี่ย มันก็ต้องจ้างในสัญญาครอบคลุมเชิงพาณิชย์ (ซึ่งบางเจ้าก็แบ่งยิบแบ่งย่อยออกไปอีก ปกราคาหนึ่ง ถ้าเอาไปทำที่คั่น/โปสต์การ์ดด้วยก็บวกเพิ่ม หรือเอาไปทำพรี่เมียมอื่นๆ ก็จะมีการคิดราคาเพิ่มตามแต่ละชนิดของสินค้าที่ทำไปอีก) เพราะนักวาดเองก็ไม่มีใครอยากกดค่าแรงตัวเองเหมือนกัน


แถมปกยิ่งสวย ราคาก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว


ไหนจะค่าแรงของนักเขียน (เชื่อว่านักอ่านหลายคนไม่ได้มองตรงจุดนี้เลย แต่อย่าลืม นข.ที่ขายงานก็คือ นข.ที่ทำงาน (เขียนนิยาย) แลกเงินเหมือนกัน) ค่าไฟ ค่ายาตอนเจ็บป่วยจากการเขียนนิยาย ฯลฯ


แล้วลองนึกภาพต่อว่า ถ้านักเขียนคนนั้นไม่ได้ชำนาญด้านกระบวนการบรรณาธิการเลย เขาต้องไปจ้างปรู๊ฟรีดเดอร์มาพิสูจน์อักษร จ้างช่างอาร์ตมาจัดหน้ากระดาษ จ้างเบต้ารี้ดมาหาช่องโหว่ในนิยายของตัวเอง ต้นทุนในการทำนิยายแต่ละเรื่องแต่ละเล่มของ นข. ถ้าตัดค่าพิมพ์ออกไป มันก็แทบจะเทียบกับทุนต่อเล่มของ สนพ.เลยนะ มองไปแล้วนักเขียนก็แทบไม่ต่างจากแม่ค้าขายของตามตลาดนัดที่ทุกอย่างที่ทำลงไปมันคือทุนของเขา


เพราะอย่างนั้น e-book จึงมีราคาสูงไม่แพ้เล่ม โดยที่ตัวนักเขียนเองก็ไม่ได้อยาก...ไม่ได้ต้องการให้มันสูงขนาดนั้นเหมือนกัน แต่ในเมื่อนายทุนเขายังคงไม่ปรับเปลี่ยนอะไร มีแต่จะต้องหาทางหักรีดส่วนที่นักเขียนควรจะได้มากขึ้นในทุกๆ ปี ราคา e-book มันก็จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นธรรมดา

2
Why 20 ม.ค. 67 เวลา 22:50 น. 4-1

สรุปคือคนอ่านรับจบ เสียเปรียบทุกทาง เยี่ยมมาก

0
เคย์เซย์ 21 ม.ค. 67 เวลา 02:22 น. 4-2

คนอ่านรับจบคนเดียวเสียที่ไหน คนเขียนก็ร่วมแบกกับพวกคุณด้วยนี่แหละ


คุณคิดว่านิยายที่ออกๆ มากันเนี่ยจะขายได้หลักร้อยกันทุกเรื่องหรือ!?


ไม่นะ ไม่ใช่ทุกเรื่อง นักเขียนหลายคนขาดทุนยับๆ บางคนตั้งราคานักอ่านซื้อได้สบายๆ ยังขายได้ไม่กี่เล่ม ทั้งที่ทำปกสวย เนื้อหาดี จ้างปรู๊ฟรี้ดมาพิสูจน์อักษร ขายราคาย่อมๆ กะเอาดีมานด์เข้าสู้ แต่ยังไม่ไหวเลย


การขายรายตอนเองก็ใช่ว่าจะขายได้ตลอดกาล ลงนิยายจบไปสักพัก มันก็ขายไม่ออกแล้ว คนไปอ่านเรื่องใหม่ๆ กันหมด ซึ่งบางทีคนเขียนยังไม่ได้ทุนกลับมาเลย ยิ่งคนไหนวางไม่แมส แทบจะกัดก้อนเกลือกิน


พูดก็พูดเถอะ เราไม่โอเคกับนักอ่่านที่มีตรรกะว่านักอ่านเป็นเหยื่อแบบคุณเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้งนักเขียนและนักอ่านล้วนคือเหยื่อของระบบทั้งนั้น


ต่างกันเพียง นักอ่านอย่างพวกคุณมีสิทธิ์เลือกคือ ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ จะหาเงินจากที่ไหนมาซื้อความสุขจากการอ่าน


แต่นักเขียนที่เป็นผู้ผลิตนั้นกลับต้องแบกรับความกดดันทางการเงินมากกว่า ถ้าไม่ใช่ นข.ที่แมส หรือ นข.การงานมั่นคง หรือ นข.ที่ครอบครัวซัพพอร์ตทางการเงิน การเดินบนเส้นทางนี้ไม่ง่ายเลย


เหนืออื่นใด สำหรับมนุษย์ วรรณกรรมเป็นสิ่งฟุ่มเฟื่อย เมื่อ ศก.แย่ วรรณกรรมจะโดนตัดออกจากลิสต์เป็นอันดับต้นๆ เสมอ


โปรดเห็นใจพวกเราคนสร้างวรรณกรรมบ้าง...พวกเราก็ทำงานแลกเงินเหมือนคนอ่านทีี่ทำงานเพื่อซื้อความสุขจากการอ่าน นิยาย 1 เรื่องก็เหมือนเรากรีดเลือดเถื้อเนื้อถอดกระดูกออกมาเขียน ไม่ได้เสกสร้างมาจากมนตร์วิเศษ


อย่าเบลมหรือกดดันให้นักเขียนเข้าใจพวกคุณอย่างเดียว เพราะก่อนจะเป็นนักเขียน พวกเราเกือบทุกคนเคยเป็นนักอ่าน และเป็นไปตลอดกาลที่เป็นนักเขียน ทำไมเราจะไม่เข้าใจ พวกเราแค่อยากขอให้นักอ่านอย่างพวกคุณมาช่วยกันเรียกร้องให้นายทุนขยับเขยื้อนเพืื่ิอพวกเรา (นักเขียนและนักอ่าน) กันบ้าง อย่าปล่อยให้นักเขียนเคลื่อนไหวฝั่งเดียวโดยปราศจากแรงสนับสนุน


อย่าใจร้ายกับพวกเรานักเลย

0
Why 20 ม.ค. 67 เวลา 23:13 น. 5

สรุป ต่อไปนี้จะซื้อนิยายที่เป็นเล่มเท่านั้น จะไม่ซื้อ E-book อีกเด็ดขาด เพราะเสียเปรียบคนที่ซื้อเล่มทุกอย่าง ไม่มีสิทธิขาดในนิยายที่เสียเงินซื้อ ให้เพื่อนยืมอ่านไม่ได้ ปล่อยเช่าไม่ได้ ขายต่อไม่ได้ ไม่มีสิทธิทำอะไรทั้งนั้น นอกจากอ่านอย่างเดียว แถมไม่รู้แพลตฟอร์มจะปิดตัวเมื่อไหร่ เผลอๆอาจเสียเงินฟรีไปเปล่าๆ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาตอบ

7
เคย์เซย์ 21 ม.ค. 67 เวลา 02:05 น. 5-1

อย่างน้อยๆ เรียงร้องให้มีระบบเช่า e-book ที่เป็นรูปธรรมก็ได้ ขนาด TK read กับแอป eread ยังทำได้เลย แพลตฟอร์มอื่นๆ ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ ไม่ใช่เอาแต่โหยหาการหารไฟล์ แชร์ไฟล์ ปล่อยเช่า หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เหมือนหนังสือเล่มซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายและละเมิดลิขสิทธิ์ของนักเขียนอย่างเดียว

0
Why 21 ม.ค. 67 เวลา 10:14 น. 5-2

ถ้างั้น E-book กับเล่มมันก็ไม่ควรขายราคาเดียวกัน ทำไมผู้บริโภคต้องมาจ่ายเงินเท่ากัน ทั้งๆที่ได้สิทธิในสินค้าที่ซื้อไม่เท่ากัน???


มาเรียกร้องให้เห็นใจนักเขียน แล้วสิทธิของคนอ่านล่ะ ช่างแม่ง? ซื้อนิยายก็เพื่อสนองความสุขของตัวเอง ไม่ใช่มาทำบุญทำทาน


ตรรกะเอาแต่ได้ ไม่สนสิทธิประโยชน์ใดๆของผู้บริโภค ขอให้ขายดีละกัน

0
yurinohanakotoba 21 ม.ค. 67 เวลา 11:29 น. 5-3

ต้องหัดคิดให้ถี่ถ้วนขึ้นนะครับ Critical Thinking skill ก็สอนกันไม่ได้ด้วยสิ

เขย่าปอมปอมเอาใจช่วย

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-big-13.png

0
21 ม.ค. 67 เวลา 11:42 น. 5-4

ก่อนจะอวยพรเรา โปรดกลับไปอ่านสิ่งที่เราคอมเมนต์ก่อนนะ แล้วทำความเข้าใจดีๆ ด้วย ทุกคอมเมนต์ของเราจะยิ่งดีมาก


เราเป็นนักเขียน แต่เราก็เป็นนักอ่าน เราเองก็ซื้อสินค้าแบบเดียวกับนักอ่านเหมือนกัน เผลอๆ เราจ่ายมากกว่านักอ่านอย่างพวกคุณด้วย เพราะการเขียนนิยาย เราก็ต้องอ่านนิยายและข้อมูลอ้าวอิงอื่นๆ เพื่อเก็บเกี่ยวข้อมูลเหมือนกัน


สิ่งที่เราเรียกร้องจากนักอ่าน นอกจากความเข้าใจต่อนักเขียนแล้ว (ซึ่งคุณจะยังไม่เข้าใจเหมือนตอนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่...) ช่วยมองเราเป็นเหยื่อของระบบด้วยค่ะ ย้ำว่า นักเขียนและนักอ่านเป็นเหยื่อของระบบ (นายทุน) ด้วยกันทั้งสองฝ่าย


แต่นายทุนฟังเสียงของนักอ่านมากกว่านักเขียน ยืนยันได้จากการที่นักเขียนในวงการจำนวนมากรวมตัวไฝว้กับนายทุนมาตลอด แต่พวกเราขยับเขาไม่ได้ เขาไม่สนใจพวกเรา (ขณะเดียวกันก็เบียดบังส่วนที่นักเขียนต้องได้) เขาสนใจแต่ยูสเซอร์ (คนอ่าน) ที่มีจำนวนมากกว่านักเขียนถึง 10 เท่า


เพราะอย่างนั้นช่วยพวกเราหน่อย ก่อนเบลมนักเขียนตั้งราคาแพง ก่อนเบลมนักเขียนว่าเอาเปรียบ ช่วยกันกดดันนายทุนกันหน่อย เผื่อเขาจะมีอะไรมารองรับบ้าง


เฮ้อ...บางทีก็เหนื่อยนะ ขนาดแม่ค้าตามสั่งยังไม่โดนกดดันเท่าพวกเราเลย เหมือนโดนเบลมอยู่ฝ่ายเดียวทั้งที่ระบบบีบให้นักเขียนอย่างพวกเราทำ (ซึ่ง นข.หลายคนก็ไม่ได้ขาย e-book เท่าราคาเล่ม บางคนใส่ราคาเล่มทั้งที่ไม่ได้ขายเล่ม (อันนี้ก็ความผิดเขาที่ไม่ทำอะไรให้เคลียร์ๆ) บางทีหักทุนกำไรก็ได้น้อยกว่าเล่มด้วยซ้ำ)

0
Why 21 ม.ค. 67 เวลา 11:57 น. 5-5

@yuri เสร่อจ้า ขอบคุณที่กล้าสั่งสอนหนู หัดสอนตัวเองก่อนเถอะ คอมเมนท์ข้างบนไม่มีปัญญาตอบ มาแซะด่าข้างล่าง ใครอยากสนับสนุนนักเขียนปากแบบนี้ เรียนเชิญ นี่ไม่ล่ะ อุ

0
Fellow 26 ม.ค. 67 เวลา 18:48 น. 5-7

แชร์ ID ให้เพื่อนอ่านเงียบๆ ก็ไม่เป็นไรมั้ง ปล่อยเช่านี่ต้องเอาIDให้คนอื่นนะ ไม่กลัวหายไปทั้งaccountหรอ

0
มัณทนา 21 ม.ค. 67 เวลา 14:58 น. 6

นักอ่านมีสิทธิ์ทำอะไรกับหนังสือเล่มที่ตัวเองซื้อได้นะ

-เอาไปบริจาคห้องสมุด

-เอาไปขายต่อที่ร้านขายหนังสือเก่า ร้านขายหนังสือมือสอง

ขายให้กับคนที่รักในการอ่านจริง ๆ ที่ต้องการจะสะสมหนังสือ

และขายมือสองใน Shopee กับ Lazada

ราคาที่เป็นหนังสือมือสองกับหนังสือเก่าถูกกว่าราคาจริงที่เป็นมือหนึ่ง

เราหาพวกหนังสือเก่า ๆ หายากที่ไม่มีการตีพิมพ์ใหม่มานานมากแล้วเจอจากใน Shopee


หนังสือที่เราซื้อจะมีบางเล่มที่มีทั้งหนังสือเล่มและ E-Book

ใน SE-ED กับร้านนายอินทร์จะมีแค่บางเล่มที่มีแต่ E-Book อย่างเดียว

เพราะเป็นหนังสือเก่าหายาก ไม่มีวางขายในร้านแล้ว และไม่มีการตีพิมพ์ใหม่แล้ว

หนังสือเล่มบางเล่มมีขายเฉพาะในเว็บอย่างเดียว

หนังสือที่ขายใน SE-ED กับร้านนายอินทร์ ราคาของ E-Book จะถูกกว่าหนังสือเล่ม

0
สตาร์ดัสท์ 22 ม.ค. 67 เวลา 09:25 น. 7

หารผิดกฎหมายเหรอคะ ขึ้นกับว่าทางแพลตฟอร์มให้ล็อกอินได้กี่เครื่องด้วยหรือเปล่า แต่ยังไง อีบุ๊กมีตัวอย่างให้อ่านและตัดสินใจ กับมีแบบบุฟเฟ่ต์ ถ้าเรื่องนั้นลงบุฟเฟ่ต์นะคะ

1
22 ม.ค. 67 เวลา 11:47 น. 7-1

หารผิดกฎหมาย ไม่มีกฎหมายรองรับ แถมละเมิดกฎแพลตฟอร์มด้วย ตอนนี้ยังไม่มีแพลตฟอร์มไหนทำ 1 ไอดีล็อกอินได้กี่เครื่องซะด้วย เลยมีคนลักไก่เอามาหารจนเกิดความเสียหายแก่นักเขียน/สนพ.

0
☀Jan K.D. January☀ 22 ม.ค. 67 เวลา 11:32 น. 8

ที่ จขกท บ่นมา มันมี 2 ประเด็น จะตอบแยกละกัน


ประเด็น 1 ราคาแพง

สมัยนี้ราคา ebook แพงขึ้นจริงๆ แหละ (แต่ส่วนใหญ่ก็ยังถูกกว่าแถมลดราคาเยอะกว่าตัวเล่ม)

แต่ จขกท ต้องเข้าใจกลไกการตลาดด้วย สมัยก่อนที่มันถูกมากๆ เพราะ มันเป็นของใหม่ ลูกค้ายังมีน้อย และส่วนมากยังติดพฤติกรรมการอ่านจากเล่ม

การตั้งราคาถูกจึงเป็นการดึงลูกค้าให้มาอ่าน ebook แทน และเปลี่ยนพฤติกรรมการอ่านของลูกค้าไปในตัว ไหนจะมีข้อดีที่ไม่ต้องเปลืองพื้นที่จัดเก็บหนังสือ

โดยในช่วงนั้นในฐานะนักอ่านก็ดีใจที่ราคาถูก แต่หารู้ไม่ว่า แพลตฟอร์มและนักเขียนได้กำไรบ้างรึป่าว? ก็ไม่ได้สนใจใช่มั้ยล่ะคะ

พอ ebook เติบโตขึ้น มีฐานลูกค้าที่มั่นคงแข็งแรง ก็ถูกแล้วที่เขาจะขึ้นราคาเพื่อเอากำไรคืน

ทีนี้ในฐานะนักอ่านก็ต้องชั่งใจเอาเองว่าอยากซื้อแบบไหน

.

.

ประเด็น 2 ห้ามหาร ห้ามแชร์ นักอ่านไม่มีสิทธิจะทำอะไรกับนิยายที่ตัวเองซื้อมาทั้งนั้น นอกจากอ่าน(คนเดียว)

ถามว่าตอนที่มันเป็นเล่ม นักอ่านเอาไปปล่อยเช่าโดยที่ตัวเองไม่ใช่ร้านเช่าที่จดทะเบียนถูกต้องได้เหรอ? ก็ไม่ได้ป่าว เพราะมันมีกฎหมายลิขสิทธิ์ซึ่งถ้าอ่านก็น่าจะรู้ "ห้ามดัดแปลง ห้ามจำหน่าย" ไม่ใช่แค่หนังสือ แผ่นซีดีที่ซื้อมาก็เอาไว้ดูคนเดียว นอกจากเปิดทีวีแล้วที่บ้านดูด้วย

กับ ebook ถ้าอยากแบ่ง ก็เอาแอคเคาน์ให้เพื่อนยืมอ่านก็ได้ ถ้ามั่นใจว่าเพื่อนจะไม่เอาไปทำอะไรต่อ

.

.

ก็สำหรับกระทู้นี้ที่ตอนแรกอาจจะแค่บ่นเอามันส์ หวังว่าจะให้ได้ความรู้กลับไปนะ จะได้ลองคิดถึงหัวอกนักเขียนและแพลตฟอร์มมั่ง เพราะไม่ว่าจะซื้อแบบไหนมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียหมดแหละ


ถ้าจะถามว่าผิดที่ไหน ก็คงผิดที่เศรษฐกิจบ้านเราที่ทำให้คนมีกำลังซื้อหนังสือลดลง นั่นแหละ ตังกินข้าวก็แทบไม่มี ซื้อหนังสือเดือนละเล่มก็หมดตัวแล้ว พูดแล้วเศร้า


2
Why 22 ม.ค. 67 เวลา 16:20 น. 8-1

ใครบ่นเอามันส์? บ่นให้หมามันมาเห่าต่างหาก

0
ทำได้นี่ 22 ม.ค. 67 เวลา 16:29 น. 9

ก็ลิกขสิทธิ์ไง อะไรที่มันละเมิดมันก็ผิดลิกขสิทธิ์ ที่เค้าทำได้เพราะไม่มีใครดูและ แต่อันที่มีคนดูแลมันก็ต้องทำตาม อยากทำได้อิสระก็ต้องเขียนอีบุ๊คเองแล้วปล่อยขายถูกๆ ถูกกว่าท้องตลาด

0
01-246877 23 ม.ค. 67 เวลา 10:10 น. 11

เหมือนคนตั้งกระทู้จะไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย ที่คนอื่นอธิบายมันคือค่าผลิตสื่อebook ซึ่งนับได้ว่าเป็นสื่อบันเทิง ผู้บริโภคจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงสื่อนั้นๆ ซื้อebook ก็คือจ่ายเงินอ่านเนื้อเรื่องในนิยายนั้นๆ เหมือนกับที่ไปดูภาพยนตร์ คุณก็ได้แค่ดู จ่ายเงินเพื่อซื้่อความบันเทิง แต่คุณครอบครองไม่ได้ เอามือถือไปถ่ายคลิปมาทำสำเนาเผยแเพร่ก็ไม่ได้ เพลง/ดนตรี ก็เช่นกัน หรือจะซื้อเป็นแผ่นCD แล้วมาขายต่อเป็นสินค้ามือสองก็ทำไม่ได้ ผิดกฏหมายเพราะกฏหมายเค้าระบุมาว่าสื่อที่คุณซื้อมานั้นไม่สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์(ขาย)ได้ ถ้าจะทำอย่างนั้นต้องขออนุญาตเจ้าของผู้ผลิตสื่อก่อน

0
birdmydog 24 ม.ค. 67 เวลา 19:51 น. 12

น่าทำอีบุ๊คและพิมพ์เป็นเล่มแถมให้ไปเลยดีไหม ขายให้นักอ่าน ไปอ่านให้สบายใจ #SS NC # Dek D https://image.dek-d.com/28/0428/6247/134094715

0