Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ในฐานะมือใหม่หัดเขียน จะพัฒนาผลงานอย่างไรได้บ้าง?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ตามหัวข้อกระทู้ เราเพิ่งลงนิยายเรื่องแรกในเว็บเมื่อวันที่ 3 มกราคมนี้เอง และได้เห็นมุมมองที่นักอ่านบางกลุ่มมีต่อนิยายไทย   จึงทำให้เราเป็นกังวลว่านิยายของมือใหม่อย่างเราจะไม่ดีพอ จนส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้อ่านด้วยหรือเปล่า?

สรุปปัญหาที่รู้มาจากมุมมองของกลุ่มผู้อ่านนิยายไทย
1.คำผิดเยอะ สำนวนการเขียนไม่สละสลวย
2.พล็อตซ้ำซากจำเจ   ไม่มีความแปลกใหม่   
3.แต่งไม่จบ  ขาดความต่อเนื่อง
เราอยากฟังคำแนะนำจากทุกท่านว่าจะสามารถเรียนรู้พัฒนางานเขียนนิยายอย่างไรได้บ้าง?   เพื่อที่จะปรับปรุงข้อเสียดังกล่าวนั้น  
และจะขอขอบพระคุณล่วงหน้าเป็นอย่างสูง หากมีผู้ใดที่สละเวลามาอ่านนิยายเรื่องแรกของเรา   และมีคำติชมต่อผลงานของเราโดยตรง   ต้องขอขอบคุณมา   ณ   ที่นี้ด้วย
-ผู้เขียน :   ยามี้ลตี้ 

แสดงความคิดเห็น

>

12 ความคิดเห็น

LesserPANDA 26 ม.ค. 67 เวลา 10:32 น. 1

1. ถ้าไม่ดีพอ ก็เปิดเรื่องใหม่ที่ดีกว่า กลุ่มผู้อ่านก็มาใหม่ได้ ถ้านิยายไม่ดีพอคนก็อาจจะไม่อ่าน หรือมีคนอ่านถ้ารู้สึกถูกจริต

2.สามปัญหาที่คุณพูดถึง เราคิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาของคุณ และสามปัญหานั้น เป็นปัญหาที่คอมม่อนมากขนาดหาบทความอ่านได้ทั่วไป

3.การพัฒนางานเขียนนิยายที่ไม่ใช่งานเขียนวิชาการ จะต้องพัฒนาทักษะหลายอย่างไปพร้อม ๆ กัน นอกจากการเขียน ยังมีการอ่าน การจับใจความ การสังเกต การวิเคราะห์ ความเข้าใจโลก มนุษย์ ความรู้สึกต่าง ๆ การค้นหาข้อมูล ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ทั้งหมดล้วนใช้เวลา 


แต่เดี๋ยวนี้เห็นมีวิธีลัดมีจำนวนมาก หาดูได้ตามยูทูปหรือบทความสอนเขียนนิยาย อย่างไรก็ตาม มันขึ้นกับกระบวนการเรียนรู้ของแต่ละคนที่อาจแตกต่างกัน บางคนเรียนรู้จากการอ่านนิยายคนอื่น บางคนเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตตัวเองหรือคนรู้จัก บางคนเรียนรู้จากการไปเข้าคอร์ส ฯลฯ 


แต่สุดท้าย คุณก็ต้องลงมือเขียน และอย่าหยุดหากต้องการพัฒนาบนเส้นทางนี้ และเมื่อไรที่คุณกลับมาอ่านเรื่องแรกของตัวเองแล้วรู้ว่ามันแย่ยังไง และจะแก้ได้ยังไง นั่นจะทำให้คุณยืนยันกับตัวเองได้ว่า โอ ฉันพัฒนาไปจากเดิมแล้ว

6
Sambaboy 26 ม.ค. 67 เวลา 10:58 น. 1-1

นาน ๆ จะเจอคนที่ตอบตรงประเด็นแบบโช้ะ ๆๆ โดนใจทุกดอกแบบนี้ ต้องรีบเข้ามากดไลค์ให้เลย


เกือบไม่รู้จะตอบอะไร จขกท.แล้ว ขอเสริมอย่างละหน่อย

-แต่งเสร็จแล้วอย่าเพิ่งอัป อ่านของตัวเองที่เพิ่งแต่งไปด้วยครับ

-สำนวนการแต่ง เขียนบ่อย ๆ มันจะค่อย ๆ เกิดขึ้นมาเอง

-พล็อต ซ้ำได้แต่อย่าลอกครับ พยายามบิดให้เป็นรูปแบบใหม่ ๆ ให้ได้ ยิ่งคุณอ่านมาเยอะ โอกาสบิดได้มีสูง

-เรื่องแต่งให้จบนี่พูดยาก เอาเป็นว่าแต่งเรื่องที่ตัวเองอยากแต่งจริง ๆ โอกาสแต่งจบมีเยอะกว่า

0
Yamilty 26 ม.ค. 67 เวลา 17:38 น. 1-2

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

นับตั้งแต่เริ่มมาเขียนนิยาย ก็รู้สึกได้ว่าทักษะการเขียนเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ หลังจากนี้จะพยายามไปค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมครับ

0
LesserPANDA 29 ม.ค. 67 เวลา 12:51 น. 1-3

ตอนแรกไม่มีเวลาเลยไม่ได้เพิ่มเติมอะไร ที่บอกว่า 3 ปัญหานั้นไม่ใช่ปัญหาของจขกท. เพราะคิดว่านิยายของท่านมีปัญหาอื่น


และปัญหาของท่าน ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ว่า "เรื่องนี้ไม่ใช่นิยายกระแสคนจึงไม่อ่าน" แต่มันคือ "นิยายเรื่องนี้มันมีอะไรที่น่าอ่านแม้จะไม่ใช่แนวกระแส?" ต่างหาก


ตามที่คุณ Yurinohanakotoba ได้กล่าว ข้าพเจ้าเองอ่านตอนแรกของท่านไม่รู้เรื่อง ในที่นี้ไม่ใช่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจะอ่านทำไม เรื่องนี้จะนำเสนออะไรกันแน่ ท่านอาจจะอยากนำเสนอความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ท่านก็อย่าหลงประเด็น นิยายเป็นศิลปะ และนิยายไม่ใช่สารคดี หลัก ๆ ผู้อ่านมักจะใฝ่หาความเจริญทางด้านจิตใจหรือแนวคิดมากกว่าความรู้ทางด้านเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว


ทั้งนี้ จากเนื้อหาที่ได้กวาดคร่าว ๆ คิดว่าเรื่องของท่านเป็นแฟนตาซีมากกว่า มีการหยิบยืมวิทยาศาสตร์มาบ้างเล็กน้อย ซึ่งมันไม่ได้ถูกต้องตามกฎเคมีฟิสิกส์ของโลกปกติ และข้าพเจ้าก็ชักสับสน ว่าสิ่งไหนที่ท่านอยากให้เหมือนโลกปกติ หรือสิ่งไหนที่ท่านอยากให้เป็นแฟนตาซี (อย่างน้อย ออกซิเจนในโลกปกติก็เป็น diatomic molecule ซึ่งเขียนด้วย O2 และฟรีออกซิเจนอะตอม หรือ O เดี่ยวแทบจะไม่มีในโลก) แล้วคนอ่านเล่า จะต้องมีมายเซ็ตอย่างไรถึงจะอยากอ่านเรื่องแบบนี้ ในเมื่อความรู้ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ ไม่พอยังมีแต่สิ่งที่จำยากพร้อมหลักการสมมติที่ไม่รู้จะจำไปทำไม


ไม่รู้ว่าท่านจะเห็นชัดขึ้นไหม ว่าถ้าแบ็คกราวน์เรื่องมันไล่นักอ่าน "ตัวละคร" ของท่านก็ควรมีอะไรบางอย่างให้คนอ่านติดหนึบ แต่ต่อมาก็ถามว่าตัวละครของท่านล่ะ มีอะไร? น่าสนใจตรงไหน? เป็นเด็กสาวที่มีนิสัยทั่ว ๆ ไปหาได้ตามอนิเมะและไลท์โนเวลมากมาย บทสนทนาก็ยังไม่เป็นธรรมชาติและดูฝืน ๆ ส่วนการเล่าเรื่องก็เป็นเส้นตรง ละเอียดทุกขั้นตอนตั้งแต่นางเอกตื่นนอนไปข้างหน้าเรื่อย ๆ สุดยอดเดลี่ไลฟ์ ถ้านักอ่านไม่ได้ชอบนางเอกมากขนาดอยากรู้ทุกเรื่องในชีวิตของเธอ สุดท้ายแล้วมันจะเหลืออะไรให้นักอ่านตามอีกหรือ?


ข้าพเจ้าชื่นชมความหลงใหลในศาสตร์ของท่าน ความตั้งใจจะเขียนเรื่องที่ตัวเองถนัดเป็นเรื่องแรกนั้นดี รวมทั้งท่านก็สามารถเขียนออกมาได้ดีมากแล้วในฐานะนิยายเรื่องแรก


ข้าพเจ้าเชื่อว่าหลังจากนี้ท่านคงหนักแน่นมากขึ้นว่าที่เขียนออกมาเนี่ย มันเรียกว่า นิยาย แน่หรือเปล่า ถ้าหากท่านจะก้าวเข้าสู่การเขียนนิยาย บางครั้งอาจจะต้องทำใจยอมรับว่านิยายไม่ใช่เขียนอะไรก็ได้แล้วคนจะอ่าน ท่านอาจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบการเล่าเรื่อง หรือฝืนทำอะไรที่ท่านไม่ได้หลงใหล


ข้าพเจ้าเองเป็นเด็กวิทย์ กดอ่านตอนหลัง ๆ ที่มีสูตรเคมีของท่าน ก็ยอมรับว่าปวดหัว ถ้าท่านคิดจะพัฒนาในแนวนี้ต่อ ท่านควรอ่านหรือดูซีรี่ไซไฟแฟนตาซี ยิ่งซีรี่หรือนิยายตะวันตกยิ่งต้องศึกษา เพราะผลงานเหล่านั้นมักทำออกมาได้ดี อย่างน้อยถึงเขาจะใส่อะไรที่ไม่มีในโลกจริง แต่เขาก็สามารถทำให้ผู้เสพเชื่อได้ว่ามันมีจริง ๆ และนิยายของท่านขาดสิ่งนี้เป็นอย่างมาก


การพัฒนาเพื่อให้คนอื่นอ่านอาจจะออกไปในแนวนี้ แต่ถ้าหากท่านอยากจะพัฒนาการเขียนเพื่อให้ตัวเองอ่านล่ะก็ ก็จงฝึกในแนวทางความเชื่อของท่าน


ข้าพเจ้าไม่อยากให้นักเขียนที่มีนักอ่านน้อยมากคิดว่าเพราะไม่ใช่แนวกระแสเลยนะ ถ้าอยากจะพัฒนาจริง ๆ ล่ะก็ จงเดินออกมาจากกรอบความคิดนี้เสีย ได้โปรด

0
Yamilty 29 ม.ค. 67 เวลา 16:50 น. 1-4

ในฐานะเด็กสายศิลป์อังกฤษที่เพิ่งเรียนจบมาปีที่แล้ว ขอน้อมรับคำเหล่านั้นไว้ทั้งหมด และจะขอรับผิดชอบต่องานเขียนที่ไม่นับว่าเป็นนิยายนั่นครับ กระผมรู้สึกผิดเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถเขียนนิยายให้เป็นนิยายได้ และเป็นความอับอายต่อวงการ กระผมจะกลับตัวกลับใจ แล้วจะปรับปรุงตนเองใหม่ครับ

0
LesserPANDA 29 ม.ค. 67 เวลา 17:05 น. 1-5

ความจริงก็เป็นนิยายแล้ว ท่านต้องหนักแน่นว่ามันเป็นนิยายสิ และจะทำให้มันเป็นมากยิ่งขึ้น ข้าพหมายถึงต่อไปภายภาคหน้าท่านจะพัฒนาแล้วมั่นใจมากขึ้นว่าท่านมีของ และมันดี 5555

0
Yamilty 29 ม.ค. 67 เวลา 17:28 น. 1-6

กระผมเข้าใจผิดไปบ้าง แต่จะเขียนต่อไป และเรียนรู้พัฒนาไปเรื่อยๆ ครับ เพราะไม่ว่าจะวงการที่ออกมาแล้วหรือวงการนักเขียนในปัจจุบัน กระผมก็มีอุดมการณ์ที่อยากจะมอบสิ่งที่ดีให้กับผู้ชมและผู้อ่านมาโดยตลอด หลังจากนี้ก็จะพัฒนาตัวเองยิ่งขึ้นครับ ขอบคุณครับ

0
yurinohanakotoba 26 ม.ค. 67 เวลา 13:30 น. 3

สามข้อที่คุณถามอย่างน้อยข้อ 1 กับ 2 ไม่ใช่ปัญหาของคุณ

คำผิดเยอะ ก็พยายามแก้วน ๆ ไป บางคนมีปัญหา มีสภาวะ Learning disability ก็อาจจะลำบาก แต่ก็ต้องแก้วน ๆ ไป


พล็อตซ้ำซากได้มันไม่ผิดหรอก แต่อย่าเป็นผลงานที่ผลิดซ้ำ ใส่ไอเดีย ใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไปมันก็งานของเราเอง ถ้าไม่ใช่อัจฉริยะงานแรกหวังให้ดีเลยคงไม่ได้หรอก จะพัฒนาอยู่ที่ว่ายืนระยะได้ยาวขนาดไหน งานเขียนต้องสะสมเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาก ถ้าได้อ่านงานดี ๆ พร้อมกับได้หัดเขียนหัดวิเคราะห์ก็จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ว่าคน ๆ หนึ่งต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ขนาดไหนถึงจะเขียนงานดี ๆ ออกมาได้


นิยายของคุณผมคิดว่ามีปัญหาการเล่าเรื่อง

เริ่มตั้งตัวนาเรเตอร์ หมายถึงผู้บรรยายหรือผู้เล่าเรื่องมี Voice ของเด็กวิทย์ พูดคุยกับเด็กวิทย์

ผมอธิบายคำว่า Voice หน่อยแล้วกัน อย่างตัวละครครูก็จะไม่พูดจาแบบนักธุระกิิจ เราจะเรียกว่าตัวละครสองตัวนี้มี Voice ที่ต่างกัน ไม่ใช่หมายถึงเสียงพูด แต่เป็นเนื้อหาการพูด วิธีการพูด


ผู้บรรยายของคุณ เป็นเด็กวิทย์ที่สื่อสารกับเด็กวิทย์ด้วยกัน ลองลดโทนว่าคนตรงหน้าไม่ใช่เด็กวิทย์แต่เป็นคนทั่ว ๆ ไป ที่มีระดับความรู้ไม่ลึกมาก โทนการเล่าเรื่องก็จะเป็นมิตรมากขึ้น


แล้วลองทำความเข้าใจวิธีการเล่าเรื่องแบบ 5W1H Who? What? When? Where? Why? How?


Who : ตัวละครคือใคร คนที่เกี่ยวข้องมีความสัมพันธ์กันอย่างไร

What : เหตุการณ์หลักในนิยายคืออะไร ตัวละครมีเป้าหมายอะไร

When : เหตุการณ์ในนิยายเกิดขึ้นเมื่อไร ห้วงเวลาของเหตุการณ์ เส้นตาย

Where : เหตุการณ์ในนิยายเกิดขึ้นที่ไหน ความสำคัญของสถานที่เกิดเหตุ

Why : ทำไมเหตุการณ์เหล่านี้จึงเกิดขึ้น อะไรคือแรงจูงใจของตัวละคร

How : เหตุการณ์ในนิยายเกิดขึ้นได้อย่างไร วิธีการที่ตัวละครใช้เพื่อทำเป้าหมายให้สำเร็จ


นิยายที่ให้ข้อมูลหกอย่างนี้แก่ผู้อ่านครบถ้วนจะทำให้ผู้อ่านเกาะติดกับเรื่องราวได้ง่าย รู้ว่ากำลังอ่านอะไร อ่านเรื่องของใคร มองทิศทางของเรื่องออก


ปัญหาที่ผมเห็นตอนนี้คือไม่รู้ว่าอ่านเรื่องราวของอะไรและทิศทางของเรื่องมันควรจะทางไหน ถ้าทิศทางของเรื่องมันน่าสนใจ คนอ่านก็จะตามต่อ ถ้าไม่รู้ว่าเกาะรถแล้วมันจะไปส่งเราที่ไหน เราก็จะไม่แน่ใจว่าจะตามไปดีไหม

1
Yamilty 26 ม.ค. 67 เวลา 18:00 น. 3-1

ตอนที่เรากลับไปตรวจคำผิดและอ่านซ้ำไปด้วย ก็พบว่าเราไม่ได้พาผู้อ่านเข้าประเด็นหลักที่เป็น 5W1H ตั้งแต่ตอนแรก กว่าจะถึงก็ตอนที่ 4 ไปแล้ว เพราะมัวแต่ปูเซ็ตติ้งโลกอยู่ เป็นตามที่คุณบอกมาจริงๆ ดังนั้นเราจึงกลับไปคิดหาวิธีนำเสนอทิศทางของเรื่องให้ผู้อ่านรู้ตั้งแต่หน้าแรกให้ได้ ด้วยการใช้ปรากฏการณ์ MMG ภายในเรื่องเอง ทำให้นางเอกได้ยินเสียงแว่วจากความทรงจำในอนาคต โดยที่มีเพียงผู้อ่านซึ่งอ่านประโยคเหล่านั้นได้ชัดเจน แต่นางเอกจะฟังเสียงนั้นไม่ได้ศัพท์ และไม่กระทบการดำเนินเรื่อง


ในส่วนของนาเรเตอร์ที่มี Voice เป็นเด็กวิทย์ เราจะปรับด้วยการตัดเนื้อหาส่วนที่อธิบายเชิงวิทย์ออกเท่าที่ตัดได้ เหลือเพียงกลไกการทำงานของมันที่ตัวละครจะเอาไปใช้งานจริงในเรื่อง และหาจุดเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันซึ่งเห็นภาพได้ง่าย แต่เราเขียนอธิบายไปเยอะมากด้วยความคลั่งไคล้ส่วนตัวต่อภูมิปัญญา มีการอธิบายยาวเหยียดแบบนั้นเกือบตลอดทั้งเรื่อง ดังนั้นเราจึงคิดว่าจะรอรีไรท์หลังจากเขียนจบทีเดียว เพราะเขียนใกล้จบแล้ว


เคยเห็นคุณคอมเม้นท์ในกระทู้ต่างๆ บ่อยมาก รู้สึกยินดีที่ได้รับคอมเม้นท์โดยตรงจากคุณจริงๆ ครับ ขอขอบคุณมากเลยนะครับ

0
Black C. Yaguna 26 ม.ค. 67 เวลา 14:26 น. 4

อันดับแรก...อ่านเยอะ ๆ เสพงานเยอะ ๆ นิยายไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง วรรณกรรม ไลค์โนเวล อ่านเข้าไปอ่าน อ่าน อ่าน และอ่านนนนนนนนนนนนนน


สิ่งที่ได้รับ

รู้ว่าคำไหนเขียนถูกเขียนผิด เรียนรู้สำนวนสวย ๆ

เกิดไอเดียใหม่ ๆ ที่จะเอามาใช้ต่อยอดได้

พล็อตอาจจะซ้ำ ไม่มีความแปลกใหม่ ก็ไม่เห็นเป็นไร ไม่ได้ไปลอกนิยายใครเข้ามา...

แต่งไม่จบ เพราะขี้เกียจ อันนี้อยู่ที่วินัย

ขาดความต่อเนื่องเพราะตัน เดินเรื่องต่อไม่ได้..เกิดจาก 2 ปัญหา

ก่อนเขียนไม่ได้ลิสว่า จะใส่อะไรลงไปบ้าง

ขาดไอเดียใหม่ ๆ หมดไฟที่จะเดินเรื่องต่อ เพราะงั้นอาจจะต้องพักเพื่อไปดูหนังฟังเพลงเล่นเกมอ่านนิยายต่อ เพื่อเอาไอเดียกลับมาเขียนต่อ...

2
Yamilty 26 ม.ค. 67 เวลา 18:15 น. 4-1

ที่ผ่านมาเราอ่านแต่เฉพาะไลท์โนเวล พอรู้ว่าสำนวนการเขียนมันมีแบบอื่นๆ ด้วย ก็เพิ่งมาลองปรับได้ไม่นานและยังไม่ค่อยชิน เลยคิดว่าจะไปหางานเขียนประเภทอื่นมาอ่านดูบ้าง

0
Black C. Yaguna 26 ม.ค. 67 เวลา 18:33 น. 4-2

นั้นแหละครับ อ่านแบบอื่นด้วย แล้วลองจดสำนวน จดการบรรยายที่ชอบมาประยุกต์ใช้ อยากเป็นนักเขียนที่เก่ง ต้องเป็นนักอ่านที่เก่งด้วย สตีเฟนคิง เคยบอกไว้

0
Miran/Licht 26 ม.ค. 67 เวลา 14:53 น. 5

เรื่องความกังวลมันเป็นกันทุกคน ปัญหาที่คุณว่ามา 3 ข้อ ข้อ 1 และ 3 ไม่ได้เป็นกันทุกคน


อย่างข้อแรก เป็นสกิลที่ทุกคนสามารถฝึกฝนกันได้ถ้าไม่ใช่พวกน้ำเต็มแก้วละนะ

นอกจากนี้ปัญหาเรื่องนี้เราก็พบว่า มันเกิดจากอะไร เคยเขียนยาว ๆ ไปในนี้



เหตุเพราะพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไป ส่งผลต่อการเรียนรู้ และการพัฒนาความสามารถ

https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/viewlongc.php?id=1860018&chapter=40


ซึ่งถ้าเจ้าตัวรู้และรีบปรับมันก็พอได้แต่ถ้าไม่คิดจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขาไป เบื่อเขาก็คงไปทำอย่างอื่นเอง


ข้อ 3 คนเรามีภาระหน้าที่ต่างกัน รวมถึงบางคนก็อาจจะป่วย ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตไปแล้วก็ได้ใครจะไปรู้


ข้อ 2 มันขึ้นกับผู้เขียน พล็อตหลัก ๆ ก็มีไม่กี่พล็อต แต่ขึ้นกับว่าจะบิดพล็อต จะเล่าเรื่อง จะหาส่วนเติมแต่งอย่างไรให้คนอ่านทัช


เวลาเขียนถ้ามีไฟก็พยายามเขียนต่อเนื่องให้จบไปเลย ถ้าเขียน ๆ หยุด ๆ บางทีต่อยาก อารมณ์ไปไม่ถึงก็มี ถ้าเขียนจนจบให้พักไว้อย่างน้อย 2 อาทิตย์ไปเขียนเรื่องใหม่ อ่านนิยายคนอื่นมาก ๆ แล้วย้อนกลับมาหาข้อตินิยายตัวเองดู อย่างเวลามีกระทู้ขอคำวิจารณ์ในบอร์ดซึ่งมีตลอด ลองเข้าไปอ่านของวิจารณืข้อแนะนำดูแล้วมาย้อนดูนิยายตัวเอง บางจุดคนเรามักจะมองข้าม



การอ่านนิยายมาก ๆ ช่วยสะสมอะไรหลาย ๆ อย่างแต่ต้องอ่านแบบคิดวิเคราะห์อย่าอ่านแต่ อ่านให้จบ

3
Yamilty 26 ม.ค. 67 เวลา 18:39 น. 5-1

เป็นบทความที่ทำให้เห็นมุมมองใหม่ๆ เยอะเลยครับ

โรงเรียนมัธยมของเราไม่ให้นำโทรศัพท์มือถือไป ให้ฝากไว้ ดังนั้นเราน่าจะโชคดีมากๆ ที่ได้ทำกิจกรรมอย่างอื่นนอกหน้าจอ

ตอนนี้เพิ่งจบมาได้ไม่ถึงปี แต่รู้สึกตัวจากการเตือนของคุณแล้ว ว่าเราเองก็เริ่มจะมองหน้าจอเยอะเกินไป แล้วไม่ค่อยได้เขียนด้วยมือแบบแต่ก่อน จากนี้จะเริ่มไปเขียนไดอารี่ลงสมุดที่ซื้อมาดองไว้ช่วงปลายปีที่แล้ว ยังไงก็ขอขอบคุณมากเลยนะครับ

0
A.L. Lee 29 ม.ค. 67 เวลา 10:00 น. 5-2

นึกถึงสมัยประถม สอบสะกดคำ คำไหนเขียนผิดต้องสะกดแก้คำละ 9 รอบ (บรรทัดละ 3 คำ 3 บรรทัด ต่อหนึ่งคำที่สะกดผิด) ไม่รู้สมัยนี้การเรียนภาษาไทยมันเป็นยังไง แต่เรารู้สึกขอบคุณหลักสูตรและครูสอนภาษาไทยที่เราได้เรียนด้วยมาก เพราะมันทำให้เราแม่นภาษาไทยในระดับที่น่าพอใจเลยค่ะ แม้จะเป็นเด็กสายวิทย์ก็ตาม ผันวรรณยุกต์ก็ได้ คำที่สะกดไม่ถูกนี่ค่อนข้างน้อยเลยเทียบกับรุ่นหลัง ๆ

ที่สำคัญคือผิดแล้วต้องฝึกซ้ำๆ จนกว่าจะถูก แต่นักเขียนบางคน แค่โดนติงเรื่องสะกดผิดก็ไม่พอใจซะแล้ว อันนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่เขาไม่อยากพัฒนางานตัวเองมันก็ช่วยไม่ได้แหละนะ

0
Miran/Licht 29 ม.ค. 67 เวลา 15:27 น. 5-3

เจอนักเขียนเว้นวรรคผิดพอเตือน คนที่ผ่านมากอ่านกลับมาบอกว่าทำไมพูดแบบนี้ นักเขียนหน้าใหม่ใจบาง...อ้าว ผิดอีก?

บางทีเขียนภาษาไทยยังไม่เป็นภาษา บอกว่าให้ทบทวนหลักภาษาใหม่ บางคนบอกแบบนี้ = ไล่ให้กลับไปเรียนภาษาไทยใหม่...หยาบคาย!!! ก็ถ้าไม่รู้หลักภาษา ไวยากรณ์ เขียนผิด ๆ ถูก ๆ ยังจะเป็นนักเขียนแบบใดละ? กลุ้มใจ

0
corgiman 26 ม.ค. 67 เวลา 15:33 น. 6

1.คำผิดเยอะ สำนวนการเขียนไม่สละสลวย

ถ้านิยายสนุกก็มีบางคนยอมครับ บางทีมีด่า...แต่ก็เสียเงินซื้อ

ดังนั้นผมว่ามันไม่สำคัญ (แต่เป็นไปได้ก็ทำให้มันดีๆไปเถอะ)


2.พล็อตซ้ำซากจำเจ ไม่มีความแปลกใหม่

คนบ่นไม่ซื้อ คนซื้อไม่ได้บ่น เก็บ ref ให้ถูกคนถูกพวกครับ นิยายท็อปส่วนใหญ่มาทางนี้กันทั้งนั้น ถ้ามันไม่เป็นที่ต้องการจริงๆ คงไม่โผล่มาเป็นประเด็นให้บ่น ดังนั้นเรื่องนี้ผมว่าไม่เกี่ยว (ถ้าเจาะลึกดีๆ มันมีสิ่งที่ทำให้เรายังขายได้โดยที่แก่นหลักไม่ซ้ำ)


3.แต่งไม่จบ ขาดความต่อเนื่อง

อันนี้สำคัญมากๆ ลงช้าลงไม่ต่อเนื่อง ต่อให้เก็บงานละเอียดก็ช่วยอะไรไม่ได้ครับ เป็นไปได้ควรลงวันละ 1 ตอน มีตอนเยอะๆยิ่งดี เป็นการโปรโมทอย่างหนึ่งเลย


ถ้าอยากพัฒนางานเขียน คนส่วนใหญ่มักแนะนำให้ไปอ่านหนังสือเล่ม แต่สำหรับผมเป็นการเดินหมากที่ผิดพลาดมากๆ เพราะครั้งหนึ่งเคยเขียน NC ขายในแพล็ตฟอร์มหนึ่ง โดยอิงแนวทางการเขียนจากนิยายรุ่นครูที่เคยผลิตเป็นภาพยนตร์มาแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือ 0 บาท!


ผมแก้มือด้วยการเติมเหรียญซื้อนิยายติดท็อปแนว NC อ่าน 2-3 เรื่อง (ความรู้สึกคือคุณภาพมันไม่ได้เท่านิยายเล่ม) แต่หลังจากใช้แนวทางการเขียนแบบนิยายท็อปเหล่านั้นดู ผลลัพธ์คือนิยาย 5,000 กว่าคำ ติดเหรียญขายตอนเดียวคือตอนที่ 4 เป็นจำนวน 1,700 คำ ขายไปได้พันกว่าบาท(ถ้าเดือนหนึ่งว่างมากพอลง 10 เรื่องก็ได้หลักหมื่นละ)

*ดังนั้นถ้าอยากพัฒนางานเขียน แนะนำให้ดูตลาดแพล็ตฟอร์มนั้นๆเลยครับ เป็นตัวบ่งชี้ทุกอย่าง ทั้งสำนวน พล็อต เนื้อเรื่อง และวิธีการเล่า มันบอกว่าลูกค้าของเราชอบอะไรได้มากที่สุดเลย

2
LesserPANDA 26 ม.ค. 67 เวลา 16:08 น. 6-1

ฝากถึงจขกท. การเดินหมากที่ถูก คือการรู้ว่าต้องเดินหมาก "ตัวไหน" "ไปตำแหน่งไหน" และ "เพื่ออะไร"

0
Yamilty 26 ม.ค. 67 เวลา 18:49 น. 6-2

ในนิยายเรื่องที่เรากำลังเขียนอยู่ก็ใช้แก่นเรื่องที่ว่า "ความผิดพลาดคือการเรียนรู้"

เราจึงมองว่าทุกตาหมากที่เดินพลาดไป 1 ครั้ง จะทำให้เราเรียนรู้มากขึ้น 1 อย่าง

แต่คนเราสามารถเรียนรู้ได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินหมากพลาดเองเสมอไป อย่างเช่นที่คุณได้เล่าประสบการณ์นั้นให้เราฟัง ส่วนเรื่องการขาย จนกว่าเราจะมีความมั่นใจต่อคุณภาพงานของตนเองในระดับหนึ่ง ก็ยังไม่กล้าขาย เพราะมันเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบต่อผู้อ่านด้วย

0
ᴅᴀʏʟɪɢʜ&#7451 26 ม.ค. 67 เวลา 16:15 น. 7

แนะนำให้อ่านเยอะๆ ค่ะ ถ้าเราเสพคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ ก็จะเห็นข้อแตกต่างได้ชัดขึ้นค่ะ


1. ประเด็นคำผิดและสำนวนภาษา

เราแนะนำให้อ่านนิยายที่ผ่านสำนักพิมพ์ หรือจากนักเขียนที่มีชื่อหรือผลงานตีพิมพ์มาบ้างจะช่วยได้ประมาณนึง เพราะอย่างน้อยก็ผ่านกองบ.ก.และพิสูจน์อักษรมืออาชีพมาแล้ว (อันนี้ไม่ได้หมายถึงนิยายรายตอนไม่ดีนะคะ แต่กำลังพูดเรื่องการกรองผลงานและเรื่องการใช้คำค่ะ)


2. การแต่งให้จบและความต่อเนื่องของเรื่อง

การอ่านเป็นเล่มหรืออีบุ๊ค = เขาแต่งมาจบแล้ว เราจะเห็นภาพรวมทั้งเรื่องด้วย น่าจะมีประโยชน์กับนักเขียนมือใหม่นะคะ ส่วนในมุมของการเขียนเอง เราแนะนำให้วางทรีตเมนต์ก่อนค่ะ การด้นสดของมือใหม่จะออกทะเลง่ายมาก วางโครงให้เรียบร้อยก่อนจะช่วยคุมทิศทางได้ประมาณนึงเลย


3. พล็อตซ้ำซาก ไม่แปลกใหม่

อันนี้อยู่ที่แนวเรื่อง (Genre) ค่ะ บางแนวมันมีความคลิเช่อยู่ เช่น นิยายรักมีพล็อตซ้ำเยอะเลย แต่ความสนุกของเรื่องอยู่ที่ฉากชวนใจเต้นและเคมีตัวละครค่ะ ลองถามตัวเองว่าต้องการความแปลกใหม่ขนาดไหน จุดขายของเรื่องคืออะไร อะไรที่จะทำให้คนอ่านอยาหติดตามเรื่องของคุณต่อดีกว่า

3
ᴅᴀʏʟɪɢʜ&#7451 26 ม.ค. 67 เวลา 16:21 น. 7-1

เพิ่มเติมค่ะ การวิเคราะห์หนังหรือนิยายด้วยกันกับเพื่อนก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจค่ะ เพราะพอเราย้ายตัวเองมาอยู่หมวดวิจารณ์แทน มันจะเห็นภาพอีกมุมนึงเลย


ส่วนตัวเวลาดูหนังหรือซีรีส์กับเพื่อนจบ เราชอบมาเม้าท์กันต่อค่ะ 555 ไม่ได้เม้าท์แค่สนุกมั้ย แต่เม้าท์ซีนที่ชอบ/ไม่ชอบเลย รวมถึงตัวละครในเรื่องด้วย เราได้มุมมองที่ดีจากเพื่อนมาเยอะเลย เอามาปรับกับเรื่องของเราได้ด้วยนะคะ

0
Yamilty 26 ม.ค. 67 เวลา 19:11 น. 7-2

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ


เรามักจะไปเดินดูหนังสือสำนักพิมพ์ตามร้านอยู่บ่อยๆ แต่ก็จะได้ซื้อมาอ่านตอนมีงบเหลือเก็บหลังจากจ่ายค่าเทอมของมหาลัยน่ะครับ


โครงเรื่องของนิยายเรื่องแรกที่เขียนนี้ค่อนข้างทุลักทุเลมากเลยครับ ใช้เวลาคิดอยู่หน้าหนังสือไปสองวันเต็มๆ พลางเขียนไปทีละนิด แต่พอเขียนจริงก็ดันมีกิ่งก้านเพิ่มจากการด้นสดอยู่ดี บางฉากก็คิดว่าน่าสนุกจนอดใจไม่ไหวและเขียนเพิ่ม บางฉากก็เป็นเพราะเรากำหนดประเด็นของแต่ละฉากอย่างกว้างๆ จนต้องมาคอยตามอุดพล็อตโฮลทีหลังด้วย


เราเป็นเด็กเก็บตัวที่ไม่ค่อยได้เม้าท์กับเพื่อน แต่คุณแม่ก็มาเม้าท์เรื่องซีรีส์อยู่บ้าง ว่าตรงนั้นตรงนี้เขาวางประเด็นต่างๆ ในเรื่องยังไงบ้าง ทำให้เราได้รับมุมมองใหม่ๆ

0
ᴅᴀʏʟɪɢʜ&#7451 29 ม.ค. 67 เวลา 14:34 น. 7-3

เข้าใจเลยค่ะ เดี๋ยวนี้หนังสือดูเป็นของแพงไปเลยถ้าเทียบกับเมื่อก่อน ; ; งั้นเราแนะนำเป็นเวบเช่าอีบุ๊กแทนนะคะ จำนวนเรื่องอาจมีไม่เยอะ แต่เช่าได้ฟรี มีหนังสือน่าอ่านทั้งนั้นเลยค่ะ


https://read.tkpark.or.th/

ลองๆ เข้าไปจิ้มเล่นดูน้า หลังจากกดจองแล้ว ต้องรอคิวหน่อยค่ะ บางเรื่องก็เป็นเดือน แต่เขาจะมีเมลแจ้งมาถ้าถึงคิวเราแล้วค่ะ

0
CometSighted 26 ม.ค. 67 เวลา 17:52 น. 8

1. คำผิดเยอะ อันนี้แก้ได้ด้วยการเปิดพจนานุกรม ซึ่งตอนนี้มันมีเป็นเว็บแล้ว ท่านสามารถถามมันได้เลยครับเมื่อไม่แน่ใจ

ส่วนสำนวน อันนี้สามารถเรียนรู้ได้จากการอ่านงานเขียนคนอื่นครับ โดยส่วนตัวแล้ว ตรงนี้ผมว่าค่อยเป็นค่อยไปได้ สิ่งที่ควรมาก่อนสำนวนคือการสื่อสาร ว่าคนอ่านเข้าใจสิ่งที่เราจะสื่อหรือเปล่า


2. พล็อตซ้ำซาก จำเจ ไม่มีความแปลกใหม่ ... "nihil novi sub sole" - "ไม่มีอะไรใหม่ทั้งนั้น ภายใต้ดวงตะวัน" - Ecclesiastes 1:9 - มันไม่มีอะไรใหม่เอี่ยม 100% แบบว่าไม่เคยมีใครในภพนี้เคยทำมาก่อน มันต้องมีซ้ำบ้าง อะไรบ้าง ... คำถามคือ ท่านจะเอาเรื่องซ้ำนั้นมาเล่ายังไง ให้เป็นสไตล์ท่าน ให้เป็นตัวตนของท่าน ให้มันเป็น Signature ของท่านเอง

ที่สำคัญสุดคืออย่าลอกแล้วแค่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนสถานที่เล็กๆ น้อยๆ แบบว่า แวบเดียวรู้ทันทีว่ามาจากเรื่องอะไร


3. แต่งไม่จบ ขาดความต่อเนื่อง ... อันนี้ มันแล้วแต่คนเลย เวลาชีวิตคนเราไม่เท่ากัน แต่ว่า มันขึ้นอยู่กับว่า คนเรามีความตั้งใจกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ไหม? จะไปต่อให้สุดทางไหม? จะนำพาผู้อ่านไปให้ถึงปลายทางด้วยกันไหม? มันแล้วแต่เลยครับ สุดท้ายแล้ว ท่านคือผู้ตัดสินใจและท่านคือผู้ลงมือ แล้วผู้อ่านจะคิดเองว่าจะติดตามท่านต่อไปไหม? อย่างน้อย ท่านแต่งไม่จบ แต่ท่านยังลงต่อ ก็ยังดีกว่าเปิดค้างไว้แล้วไปเปิดเรื่องใหม่แล้วปล่อยเรื่องเก่าไว้

ถ้าจะให้ตอบแบบเชิงยุทธศาสตร์ ผมแนะนำว่า แต่งไปก่อนสักระยะ แต่งให้มันจบไปส่วนหนึ่ง แล้วค่อยๆ ทยอยลง มันอาจจะสร้างความต่อเนื่องได้ แม้ว่าเราจะสะดุดในช่วงการเขียนล่าสุดก็ตาม

0
OChaDesu 28 ม.ค. 67 เวลา 00:09 น. 9

1.คำผิดเยอะ

-อันนี้แก้ด้วยการอ่านวนซ้ำๆครับควบรวมกับใช้AIตรวจคำผิดของWord หรือของเด็กดีช่วยไปด้วย พอแก้คำผิดได้แล้วก็จำเอาไว้ว่าคำไหนผิดบ่อยๆครับ ของผมจะเป็นคำว่า เห้น เป้น นั่น นั้น จะมาบ่อย

-สำนวน คงต้องเริ่มจากการอ่านหนังสืบหลายๆแนวแล้วเลือกของ นักเขียนที่ชอบสักคนมาเป็นหลักก่อน แล้วลองเขียนเองดูว่า เราโอเคไหม บางที เราชอบสำนวนนักเขียนคนนี้แต่เขียนเองไม่ได้ก็มี

2.พล็อตซ้ำ ไม่แปลกใหม่

-ต้องถามก่อนว่า แปลกใหม่คืออะไรครับ อย่างเพจที่ผมสิงอยู่ นักเขียนหน้าใหม่ชอบมาบอกว่า นี่คือแนวใหม่ พอผมเข้าไปอ่าน ใหม่ตรงไหน?

คำว่าใหม่เก่า มันขึ้นอยู่กับว่า เคยอ่านมาเยอะแค่ไหน คุณอ่านLNเยอะใช่ไหมครับ อย่างSAO หลายคนบอกว่าเป็นแนวใหม่ ติดอยู่ในเกม

-ผมก็สงสัยเลย คงไม่เคยดู Monster Rancher กันสินะ

หรือแนวต่างโลกงี้ Magicnight Rayearth ของป้า CLAMP ก็เขียนมาแล้ว

เพราะอย่างนั้น เรื่องนี้ไม่ต้องคิดมากครับ ผมว่าสิ่งสำคัญคือแนวทางการเล่ามากกว่า

3. อันนี้ผมขอแยกว่า แต่งไม่จบ กับ ขาดความต่อเนื่องมันคนละเรื่อง

-ขาดความต่อเนื่องแก้ได้แค่ว่า เขียนทิ้งเอาไว้ พอจบแล้วค่อยทะยอยลง ยกเว้นว่าคุณคืออัจฉริยาด้านการเล่าเรื่อง ด้นสดออกมาโดยไม่ต้องกับไปแก้เนื้อเรื่อง

-ส่วนแต่งไม่จบนี่ ตอบได้แค่ว่า อิทธิบาท4 เท่านั้น

0
PIRATES 28 ม.ค. 67 เวลา 15:02 น. 10

เราก็นักเขียนใหม่ ที่เขียนมานานแต่ก็ยังนับว่าใหม่นะ เลยแนะสไตล์เราก็แล้วกัน555

1. ถ้ากลัวตรงไหนผิดกูเกิ้ลช่วยท่านได้

2.ไม่ต้องสนเรามาเสนอในแบบของเรา แหวกไปคนก็ไม่อ่าน คนสนก็อ่าน แบบนิยายเรา (ดูยอดวิวนิยายเราสิไม่ได้เพิ่มเลยยังจะมาแนะเขาอีก)555

3.แต่งเรื่อยๆ แค่อย่าทิ้งมันถ้าไม่ไหวก็หาทางตัดจบปลายเปิดเอา

2
Yamilty 28 ม.ค. 67 เวลา 19:31 น. 10-1

เวลาเจอคำที่เราไม่มั่นใจว่าเขียนแบบไหนถึงจะถูก เราก็จะเข้ากูเกิ้ลไปพิมพ์หาคำนั้นๆ ดูน่ะ


ไม่ได้จะตัดสินที่ตัวเลขนะ แต่ผลงานของคุณมียอดวิวแตะถึงหลักพัน เรียกได้ว่าเก่งกว่าเราไปอีกขั้นนึงเลย เพราะงั้นมั่นใจในตัวเองเข้าไว้ แม้คอมเม้นท์อาจจะน้อย แต่ก็เป็นคอมเม้นท์ชื่นชมนะ แล้วยังมีบอกว่านิยายของคุณสนุกดี เพียงแค่ไม่ค่อยถูกเห็นเพราะปัจจัยภายนอก


ส่วนแนวเรื่อง เราค่อนข้างแหวกแนวมากเกินไปจริงๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ วางแผนการรบ มันไม่ใช่แนวตลาดล่ะนะ แต่มันเป็นแนวของเรา ดังนั้นต่อให้ยอดคนอ่านจะน้อยแค่ไหน ก็ยังใช้แพชชั่นพลักมันให้เขียนไปจนจบได้ เราคิดว่าเรื่องแรกก็ควรจะเป็นแบบนั้น เพราะถ้าเขียนเรื่องแรกด้วยแนวตลาดแต่ผลลัพธ์ดันไม่มีคนอ่านขึ้นมา เราจะหมดไฟเอา ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าคนอ่านจะน้อยจริงๆ


พยายามเข้าล่ะ เราเป็นกำลังใจให้นะ

0
Miran/Licht 29 ม.ค. 67 เวลา 15:31 น. 10-2

@คุณ PIRATES ทุกวันนี้เขียนตามใจตัวเองจนเลิกสนคนอ่านไปแล้ว เอาเป็นว่า หากโชคดีไปโดนใจใครก็มีคนอ่านเพิ่ม ถ้าไม่โดยใจใครก็ถูกใจคนอยากเขียนก็แล้วกันค่ะ



เอาเป็นว่าอินดี้เขียนเองอ่านเอง อ่านทุกรอบอินเองทุกรอบ https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png

0
Furinkazan 29 ม.ค. 67 เวลา 16:30 น. 11

คิดว่าท่านอื่นน่าจะแนะนำกันไปพอควรแล้ว

ขอเป็นกำลังใจให้แล้วกันครับ

การกล้าที่จะก้าวลงผลงานให้คนอ่านเป็นก้าวสำคัญ ยิ่งการลงในบอร์ดให้คนวิจารณ์ยิ่งต้องใช้ความกล้าประมาณหนึ่งเลยล่ะ

ขอให้สำเร็จในงานเขียนนะครับ


ขอแนะนำนิดหนึ่ง เรื่องแรกไม่ปังยังมีเรื่องสองสามรอเราอยู่ ถือว่าฝึกฝีมือครับ สู้ ๆ

0