ถามเกี่ยวกับเรื่องการสืบทอดมรดกหน่อยค่ะ
ตั้งกระทู้ใหม่
ถ้าเกิดว่า ตัวละครชื่อ เบลล่า มีปู่เป็นเจ้าของบ้านกลางกรุงเทพ แล้วปู่ของเธอให้เพื่อนของเขาเช่าอยู่ ทีนี้เพื่อนของเขาทรยศแล้วฟ้องศาล อ้างว่าเขาอาศัยมา 10 ปีแล้ว ปู่ของเบลล่าก็เป็นคนดีเกินไป เลยปิดบังเรื่องที่เพื่อนของเขาเช่ากับศาล ทำให้แพ้คดีไป แล้วศาลตัดสินให้บ้านหลังนั้นเป็นของเพื่อนทรยศแทน เวลาผ่านไป 60 ปี ทั้งปู่ของเบลล่า แล้วก็เพื่อนทรยศของเขาก็ตายไปแล้ว แต่เบลล่าเพิ่งมาค้นพบว่า ปู่ของเธอโดนโกง เบลล่าสามารถเปิดฟื้นคดีขึ้นมาใหม่กับเจ้าของบ้านคนปัจจุบันก็คือลูกของคนทรยศได้รึเปล่าคะ? แล้วจะมีโอกาสสู้ได้แค่ไหน?
8 ความคิดเห็น
ฟ้องไม่ได้ เจ้าของใหม่ตายไปแล้วไม่มีญาติพี่น้องเบลล่าก็ไปปลูกบ้านล้อมรั้วอาศัยอยู่ 10 ปีเอาหลักฐานไปยื่นต่อศาล ก็ได้สิทธิ์บนที่ดินนั้นเหมือนกัน
มาตรา 1382 อสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา 10 ผู้ครอบครองย่อมได้กรรมสิทธิ์
กรณีที่เขียนไว้ตรงกับ ครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ แย่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้อื่น ต้องมีเจตนาเป็นเจ้าของที่ดินนั้นอยู่ด้วย หากเป็นเพียงการดูแลแทน หรือเช่าที่ดิน ก็ไม่อาจอ้างครอบครองปรปักษ์ได้แม้จะครบกำหนดเวลาตามกฎหมายก็ตาม
สรุป ผู้หวังแย่ง ต้องไม่มีสัญญาเช่าอยู่ ต้องประกาศให้โลกรู้ว่าเป็นเจ้าของร่วม10ปี และไม่มีผู้ใดคัดค้าน จึงจะแย่งได้
ความคิดเห็น ถ้าไม่สนที่ดินขนาดทิ้งไว้ขนาดนี้ ก็ควรปล่อยให้มันเกิดประโยชน์ เพราะแบบนี้กฎหมายจึงเปิดช่องให้ทำได้ การกระทำของเบลล่าที่พยายามทวงคืนจึงแทบไม่มีหวัง แต่ถ้าเกิดการปรับเปลี่ยนความคิดข้างต้น รัฐสภายอมจนแก้กฏหมายก็เป็นไปได้
แต่เขาเช่าที่ดินอยู่นะคะ แค่ศาลไม่รู้เฉยๆ
มันไม่ใช่หน้าที่ของศาลนี่คะที่ต้องรู้ แต่เป็นหน้าที่ของคุณปู่ไงคะที่ต้องยกเรื่องเช่าขึ้นมา ในเมื่อคุณปู่ไม่ยกเรื่องนี้มาต่อสู้ ศาลท่านจึงตัดสินไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
หมายถึง เบลล่า เจอสัญญาเช่าจึงอยากสู้คดีใหม่ซินะ ก็เป็นไปได้ยาก เพราะผู้เสียหาย(คุณปู่) ได้เสียไปแล้ว และเวลาผ่านไป60ปี หมดอายุความไปนานมากแล้ว
อย่างไรเสียนี้คือนิยาย โลกนี้เป็นของนักเขียน ใช้จิตนาการณ์ ให้สมจริง ตัวอย่าง ทำให้รัฐสภาแก้กฏหมาย ทำให้ศาลคล้อยตาม มีผู้เสียหายจำนวนมาก เพื่อนทรยศเป็นฆาตกร ที่ดินฝังสมบัติร้อยล้าน พบเจอการจ่ายใต้โต๊ะ ฯลฯ ก็ตกแต่งให้น่าสนใจ
ถ้ากฏหมายไม่ใช่ประเด็นหลัก ก็โยนๆมันไปบ้าง เพียงทำให้รู้สึกสมจริงก็พอ
พูดไปก็คิดพล๊อตวาย ระหว่างปู่กับเพื่อนได้เลย 555
อุ้ย นึกว่ามีแค่เราคิดคนเดียว แม้เราจะไม่ใช่สายวายก็ตาม XD
สรุปแอบชอบคนที่แฮ๊ปที่ไปสินะ เลยยกให้เขาแต่ลืมกระซิบบอกลูกบอกหลาน
กลายเป็นเข้าข่ายให้โดยเสน่หา เบลล่าต้องตัดใจจากบ้าน 300% โถถถถถถ...
ลูกหลานเพื่อนปู่ต้องการปรับพื้น แต่กลับทำลายความทรงจำ ของปู่กับเพื่อนชายที่แอบรักกัน นำความรู้สึกดีๆฝั่งลงดิน เบลล่าสาววายรับที่ทราบเรื่องราวโดยบังเอิญ จึงต้องทวงคืนพื้นที่แห่งรัก โรเมริตไปอีก
เราเขียนรักไม่เป็น ใครสนใจเอาไปใช้ได้เลย อยากอ่าน อิอิ
แหม่! การโอนให้โดยเสน่หาต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอน 2%ตามราคาประเมินที่ดินซึ่ง ไม่ใช่น้อย ๆ ค่ะ เคยเสียค่าโอนทีก็ลากเลือดอยู่นะคะ
คำโปรย เบลล่าค้นพบ-งำ เอ๊ย เงื่อนงำว่าที่ดินผินนั้นของเจ้าคุณปู่ ถูกเปลี่ยนมือไปโดยปราศจากสัญยาเช่าหรือแม้กระทั่งสัญญาซื้อขาย ในเบื้องลึกนั้นกลับซ่อนเร้นบางสิ่งซึ่งเธอไม่เคยล่วงรู้มาก่อน โปรดติดตามใน ซ่อนเร้นสิเน่หา ลงตอนแรกวันที่ 30 กุมภาพันธ์ 2567
ราคาประเมิน 60 ปีก่อน เพื่อนปู่น่าจะจ่ายไหวแหละ มีปัญญาฟ้องศาลละนี่
ถ้ามีสัญญาเช่า และทำต่อเนื่อง ใช้เป็นหลักฐานได้ แต่ถ้าผ่านไป 60 ปีเจ้าของเก่าเสียชีวิตมีการโอนเปลี่ยนมือผู้ถือครอง และผู้ถือครองไม่คัดค้านคงเสียสิทธิ์ในฐานนะครองครองปรปักษ์ไปแล้วค่ะ
ถ้าจะทำเรื่องซับซ้อนปรึกษาทนายดูค่ะ
เป็นผู้เช่า ไม่สามารถอ้างครอบครองปรปักษ์ 10 ปี ได้ค่ะ
เราขอเพิ่มเติมในคดีแรกนะคะ คือ ศาลไม่มีทางตัดสินให้เพื่อนคุณปู่ชนะคดีค่ะ เพราะการครอบครองปรปักษ์มีองค์ประกอบการแสดงตัวเป็นเจ้าของ แต่ในเมื่อเพื่อนคุณปู่เช่าบ้านคุณปู่ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ศาลจะตัดสินให้ชนะ
ทำให้เรื่องเบลล่าเป็นอันตกไปค่ะ คงต้องเปลี่ยนค่ะ
คุณปู่นางเป็นคนดีเกิ้นและปิดบังเรื่องเช่าไงคะ ^^“ ศาลท่านไม่รู้เรื่องเช่า เลยตัดสินไปแบบนั้นอ่ะถูกแล้ว แต่ถ้าเขียนแนวนี้ ถ้าอุทธรณ์น่าจะง่ายกว่าเนอะคะ แหม ทิ้งเรื่องไป 60 ปี นอกจากอุทธรณ์ไม่ทัน ศาลท่านน่าจะตุยไปแล้วด้วย
เย้ย! อ่านไม่หมดค่ะ555+
ขอบคุณที่ชี้จุดให้ค่ะ
เข้าใจแล้วว่า คุณปู่ปกปิดกับศาล เลยแพ้คดี
ต้องดูก่อนว่ามีหลักฐานการเช่าหรือเปล่า
ในเรื่องนี้ปู่ของเบลล่าน่าจะเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์ไปแล้ว
การจะรื้อฟื้นคดีได้ต้องมีหลักฐานบอกว่าอีกฝ่ายได้ที่ดินมาโดยไม่สุจริต
แต่ปัญหาคือ 60 ปีผ่านมา พยาน หลักฐาน รวมทั้งอายุความขาดไปหรือยัง?
อันนี้จขกท.ลองหาข้อมูลดูนะครับ
แล้วเอาจริงๆ การนำสืบพยานเกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์ มันไม่ได้มีแค่เจ้าของที่ดินปกปิดเรื่องเช่าที่อย่างเดียว มันยังมีองค์ประกอบพยานหลักฐานอื่นๆ ด้วย ควรหาทางเล่นปมนี้ในแนวทางอื่นจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นรัดคอตัวเอง (นักเขียน) ตายแน่นอน
แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าไม่มีทางสู้ สู้ได้แหละ ถ้ามันยังอยู่ในอายุความ เพราะมันฟ้องเท็จมาแต่แรกแล้ว แต่มันอาจจะไปต่อไม่ได้เพราะปู่ใจดีนี่แหละ ไปหาเหตุผลอื่นมาใส่ จะโดนหลอกให้หลงเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจแล้วยอมความให้จำเลยหรืออะไรก็ว่าไป แล้วเบลล่ามีหลักฐานว่าเพื่อนปู่ไม่ทำตามนั้นก็ยื่นฟ้องพร้อมหลักฐานใหม่ที่ชี้ว่าเพื่อนปู่ฟ้องเท็จเพราะต้องการครอบครองบ้านโดยทุจริต ไม่อย่างนั้นเบลล่าก็ตัดใจจากบ้านนี้ไปเหอะ
ปล.นข.เอ๊ย อย่าเขียนอะไรซับซ้อน ถ้าตัวเองไม่เข้าใจบริบทและกระบวนการของมัน โดยเฉพาะอีเรื่องกฎหมายเนี่ย ซับซ้อนเห้ๆ มันจะรัดคอตัวเองหนา
ในความคิดผม ว่าไม่น่าได้แล้ว เพราะต่อให้มีสัญญาเช่าที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างปู่และเพื่อนจริงๆ มันก็ไม่มีประโยชน์ละ เพราะปู่ไม่ยอดเบิกหลักฐานมาค้านเอง ณ เวลานั้น นั่นแปลว่าปู่เต็มใจ (หรือจะอะไรก็แล้วแต่) ที่จะสละสิทธิในบ้านหลังนี้ให้เพื่อนไปแล้ว ลูกหลานจะมาเรียกร้องอะไรแทนไม่ได้แล้วคับต่อให้อยู่ต่อหน้าบัลลังก์ตอนนั้นด้วยเลยก็ตาม
ศาล ท่านตัดสินตามหลักฐาน และที่สำคัญคือจากสิ่งที่ทั้งโจทย์และจำเลยพูด/ทำ ให้ศาลดูด้วยคับ เชื่อคับว่าศาลท่านถามปู่แน่คับว่า "ปู่ เนี่ยเพื่อนปู่เค้าจะเคลมของปู่แล้วนะ ปู่มีอะไรจะคัดค้านอะไรไหม" อะไรแถวๆ นี้ ถ้าปู่ตอบว่า "ไม่" ก็คือจบคับ บ้านหลังนั้นเป็นของปู่ ที่ดินนั้นเป็นของปู่ ปู่จะทำอะไรก็ได้ ต่อให้มีหลักฐานอะไรในมือก็ตาม เพราะปู่ไม่รักษาสิทธิเอง ก็ต้องว่าไปตามนั้นคับ (ยิ่งตอนนั้นไม่มีคนอื่นๆ คัดค้านด้วยอีก)
ที่ต้องเป็นแบบนี้เพราะไม่งั้นโลกเรามันจะอยู่ด้วยกันไม่ได้คับ สมมุติแมวที่บ้านผมแอบจิ๊กขนมผมกินทุกวันๆ ซึ่งผมก็รู้แต่แค่ไม่ได้ทำอะไร แต่หมาที่บ้านผมไม่ยอมเลยไปฟ้องศาลบอกแมวที่บ้านแย่งขนมพ่อกิน ศาลท่านจะว่ายังไงดีในเมื่อผมเป็นคนยอมให้แมวที่บ้านแย่งขนมไปกินเอง ตอนถามผมก็บอกเองว่าผมยอมเองล่ะ ผมไม่เอาหลักฐานในกล้องวงจรปิดออกมาแสดงด้วย ศาลก็ต้องว่าไปตามนั้นคับ อันนี้แค่ยกตัวอย่างนะคับ
ปู่ไม่เอาเรื่องแล้วหลานไปยุ่งอะไรคะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?