Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คิดไงกับนิยายประเภทนี้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เราก็ศึกษาเรื่องเขียนนิยายระดับหนึ่ง มักถูกสอนเรื่อง โครงสร้าง ต้นกลางจบ จุดไคลแมค และเรื่องธีม คำสอนในนิยาย แต่ช่วงนี้ กระแสมันสวนทางกับสิ่งที่ร่ำเรียน


เป็นประเภท ที่ ไม่มีจุดพีค ไม่มีจุดจบ และไม่มีความหมาย ดังขนาดเอาไปทำหนัง เป็นหน้าเป็นตาแก่ประเทศ

ในฐานะนักเขียน คิดอย่างไรกับเหตุการณ์นี้

แสดงความคิดเห็น

12 ความคิดเห็น

Ciel En Rose / Rosanna Tea 23 พ.ค. 67 เวลา 14:40 น. 2

หากทำตามหลักมันจะทำให้เราเรียบเรียงดีกว่าค่ะ

ทว่ามิใช่ต้องทำตามเสมอไป เพราะการสร้างสรรค์เป็นตามผู้เขียนค่ะ

แต่ส่วนตัวเคยลองเขียนแบบไม่มีพล็อตแล้ว

ไปไม่ค่อยรอดค่ะ

0
ำฟะ-ถัุภ 23 พ.ค. 67 เวลา 14:52 น. 3

นิยายคือศิลปะ ไม่มีถูกทีผิดแต่แรก ที่มักสอนกันเป็นอะไรนี้ง่าย ต่อนักอ่านจะเข้าถึง


ไม่มีจุดพีค ไม่มีจุดจบ และไม่มีความหมาย เคยได้ยินอยู่ จากความรู้ที่ผมมี ไม่รู้ว่าเหมือนกับที่ จขปท กล่าวไหม อาจเพราะ อยากอ้อมเพื่อไม่ให้โจมตีนิยายแนวนี้ มันติด 1ใน5 ของหมวดที่ยอดเข้าชมสุดปังของเด็กดีตลอด เป็นกระแสที่มาจากญี่ปุ่น หวังว่าคงจะรู้แล้วว่าแนวไหน

0
อินดี้ 23 พ.ค. 67 เวลา 16:41 น. 4

ก็เขียนอยู่ แค่ อินดี้ พึ่งรู้ว่ามีหมวดเป็นของตัวเอง แถมดังซะด้วย เด๋วย้ายหมวดไป ถ้าถูกด่าว่าผิดหมวดก็ด่ากลับได้ มีความรู้แล้ว 555

0
Monal1sm 23 พ.ค. 67 เวลา 17:06 น. 5

นิยายเป็นart ประเภทหนึ่งค่ะ ไม่มีอะไรตายตัว ในรรศิลปะเค้าก็มีสอนแหละว่าต้องวาดภาพยังไง123 แต่ถ้าทำต่างไปจากนั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิด ไม่มีผิดถูกตราบใดที่นิยายไม่ได้มีเนื้อหาโจมตีใคร หรือเผยแพร่ค่านิยมที่ไม่ถูกต้องโดยเจตนา จะเขียนยังไงก็ได้ค่ะ

0
yurinohanakotoba 23 พ.ค. 67 เวลา 19:36 น. 6

หลักการเขียนนิยายทั้งหลายรู้แล้วเข้าใจแล้ว ควรลืมให้หมด ทำให้เหมือนการเคี้ยวข้าวให้ละเอียด ไม่จำเป็นต้องอธิบายแต่ร่างกายเข้าใจแล้วไม่ต้องเขียนลำดับการเคี้ยวข้าว

งานศิลปะใช้หัวใจมากกว่า

และวิธีการเล่าเรื่องมีหลายอย่าง บางวิธีไม่บังคับให้ต้องมีจุดพีค แต่เล่าเรื่องที่น่าสนใจได้เช่นกัน อยากจะบอกว่าอย่าไปคิดว่าวิธีเล่าเรื่องมีอย่างเดียว และของฉันถูกที่สุด เรียนรู้เข้าใจและลืมมันไปดีที่สุด

1
AXIAL - Dark Animated 23 พ.ค. 67 เวลา 21:17 น. 6-1

เรียนรู้ให้เข้าใจ แล้วทิ้งลงถังขยะให้หมด ผมเคยได้ยินมานานมากไม่รู้จากที่ไหน แต่ผมใช้แนวคิดนี้ในการทำงานเหมือนกันครับ

0
คนผ่านทาง 23 พ.ค. 67 เวลา 22:09 น. 7-1

ลองค้นหากรูเกรินว่า "ไม่มีจุดพีค ไม่มีจุดจบ ไม่มีความหมาย" ค้นแบบวีดีโอก็จะเจอ อาจกำลังเมาร์กระแสแนวนี้กันอยู่

0
OChaDesu 25 พ.ค. 67 เวลา 01:36 น. 9

สิ่งที่เราเรียนรู้ในสถาบันมันคือหลักการครับ

แค่เราต้องใช้วิจารณญาณในการนำหลักการมาใช้ตอนปฏิบัติจริง

บางครั้งอาจจะต้องใช้ทั้งหมด หรือบางครั้งอาจจะต้องใช้บางส่วน

0
wanderingforever 25 พ.ค. 67 เวลา 18:11 น. 10

คิดว่าไม่แปลกนะ อะไรที่เราเอนจอย คนอื่นอาจไม่ อะไรที่คนอื่นอาจไม่ชอบ เราอาจชอบ


ตราบใดที่มีคนที่ชอบมัน แม้แค่คนเดียว มันก็เป็นนิยายที่ประสบความสำเร็จในการให้ความบันเทิง (ไม่ว่าจะในมิติไหน) ได้แล้ว 55555


คิดมากไปไย? นิยายก็คือนิยาย เป็นความบันเทิงที่อยู่ในรูปแบบจินตนาการผ่านตัวอักษรเท่านั้นเอง จำเป็นต้องมีหลักการด้วยเหรอ? ไม่เห็นจำเป็นเลย อาหารยังมีหลายสูตร ใครชอบอะไรก็ใส่ตามที่เขาชอบ มันก็ไม่แปลกหรอก


แต่คนเราชอบมองว่าอะไรที่เป็นกระแสหลัก = ถูกต้อง ปกติ

อะไรที่มีคนชอบน้อยๆ กลุ่มน้อย = ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกหลัก

ทั้งที่ที่จริงแล้วมันก็คือความร้อยพ่อพันแม่


เอาเป็นว่าอย่าไปคิดมาก 5555555555

0
ปากกาและหัวสมองไม่ว่างแล้ว 25 พ.ค. 67 เวลา 22:35 น. 11

ขอพูดในฐานะคนที่เติบโตมากับเว็บนี้แล้วกันนะคะ นิยายกระแสมันเปลี่ยนไปตามค่านิยมอยู่เรื่อยๆ สมัยแนว ชช เข้ามาใหม่ๆ สังคมนักอ่านสมัยนั้นแอนตี้หนักมาก แต่สุดท้ายก็หลุดรอดและกลายเป็นที่ยอมรับในสังคม นิยายแนวพีเรียดจีนคนอ่านน้อยเพราะบางคนบ่นว่าชื่ออ่านยากมั้ง ไม่เข้าใจนู่นนี่มั้ง สุดท้ายก็มาติดชาร์ตในเด็กดีแล้วกลบนิยายแนวพีเรียดไทยที่เคยดังในเด็กดีแบบเรียกว่ามิดเลยค่ะ


การเขียนนิยายสมัยก่อนก็ไม่ได้มีรูปแบบอะไรมากเท่าสมัยนี้ด้วย นักเขียนในสมัยนั้นส่วนใหญ่ก็มาจากการอ่านเยอะ บ้างไม่พอใจนู่นนี่นั่นก็มาเขียนเอง หรืออ่านมากเข้าก็อยากเขียนเองบ้างเพราะมีจินตนาการในหัว ไม่เคยมีใครมานั่งนิยามว่าหลักการการเขียนต้องทำยังไง


แต่มาในยุคหลัง ๆ ตลาดนิยายเริ่มเติบโตและมีการแข่งขันสูง ใคร ๆ ก็อยากสำเร็จอย่างนักเขียนติดชาร์ตคนอ่านเยอะ ๆ มีรายได้จากทางนี้แบบมั่นคง ก็เลยสร้างกฎเกณฑ์มันขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองเขียนแล้วปังแบบคนอื่นบ้าง แต่ก็อย่างว่าใช่ว่าทุกคนทำตามกฎเกณฑ์พวกนี้แล้วจะปัง และที่เห็นส่วนใหญ่ในวงการนี้มาคือใครปลุกกระแสได้ก่อน(เขียนฉีกแล้วปัง)ก็จะลอยลำและมีสิทธิ์แชร์วิธีได้ก่อน ซึ่งเอาดี ๆ แล้วบางคนอาจแค่ใช้จินตนาการก็ทำให้คนชื่นชอบได้ก็มี แต่ในมุมสว่างก็มีมุมลบ ไม่ใช่ทุกคนที่เข้ามาเห็นนิยายเราแล้วจะชอบหรือตามอ่านจนจบได้ทุกคน

0
Furinkazan 28 พ.ค. 67 เวลา 14:58 น. 12

หลักการคือกรอบ

เหมือนเรียนขับรถ ครูสอนอย่างหนึ่ง เวลาขับจริงขับอีกอย่างหนึ่ง มีเรื่องมารยาทบางอย่างที่ครูไม่ได้สอน ต้องเจอเองบนท้องถนนด้วย

แน่นอนว่าควรระวังอย่าทำผิดกฏจราจรแล้วกัน

0