การเขียนนิยาย ตอนเขียนครั้งแรก กับ ตอนนี้
ตั้งกระทู้ใหม่
ผมอยากทราบความรู้สึกของนักเขียนที่เขียนครั้งแรก กับ การเขียนในตอนนี้ มีความรู้สึกต่างยังไงบ้างค่รับ
13 ความคิดเห็น
เริ่มแรกมุมมองค่อนข้างตื้นเขิน หากเทียบกับตอนนี้มุมมองในการเขียนดีขึ้นมาก การเรียบเรียงถ้อยคำ ไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย มีความกระชับ อ่านเข้าใจง่าย
ข้อเสีย ชอบดองงาน มีงานอย่างอื่นมาแทรกตลอด ทำให้มีเวลาว่างเขียนนิยายน้อยลงกว่าแต่ก่อน
ขอบคุณครับ
ในช่วงแรกถือเป็นช่วงที่ฟอร์มผมดีที่สุดแล้วครับ 555+ หลังๆ มางานเขียนไม่เคยดีเท่า มันเป็นเรื่องของมุมมองโลกที่เปลี่ยนไปด้วยแหละ
ขอบคุณครับ
ครั้งแรกที่เขียนนิยายคิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์ เหมือนเป็นเทพอักษรลงมาจุติ
ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองห่วยแตกเหมือนโดนสาปเขียนเท่าไรก็ไม่ได้ดังใจ
ครับผม
เหมือนเรามีเหมืองทอง ที่ผ่านมาขุดมาใช้ทุกวัน ตอนนี้เขียนไปเกือบ 40 เรื่อง
ทองในเหมืองร่อยหลอลงจนจะหมดแล้ว
คนงานที่ขุด แรกๆก็มีกำลังดี เดี๋ยวนี้ คนงานเบื่อละ5555
ขอบคุณครับ
เรื่องแรกที่เขียนใส่บทกลอนยาว เป็นแฟนตาซีเวทมนตร์และมีแมว ภาษาก็พอไปได้ แต่เมื่อเทียบกับเรื่องปัจจุบัน แฟนตาซีเวทมนตร์โรงเรียนสืบสวน คือเรื่อง WildRose Court ใส่แทบทุกสิ่งที่เป็นเรา
ขอบคุณครับ
ครั้งแรกที่เขียนคิดว่าจะเขียนเรื่องยาวให้มีตอนน้อยๆหน่อยจบเร็วๆ แต่มาตอนนี้เขียนไปหลายสิบตอนยังไม่ใกล้จุดจบเลยครับ ยังไม่ถึงครึ่งทางด้วยซ้ำ ขยายตอนจบออกไปเรื่อยๆ 5555555
ของผมยังไม่ได้เริ่มเขียนเลยครับ 555
แรกๆลำบากเพราะการใช้คำศัพท์ยังไม่คล่อง แต่เมื่อเขียนไปเรื่อยๆ เราจะบรรยาดีขึ้นมาเอง บางช่วงจังหวะมันก็ไหลลื่นเพราะทำจนชิน แต่ก็ยังต้องอ่านหนังสือนิยายเพื่อให้เราพัฒนาวิธีการเขียนที่ดูสวยขึ้นและเห็นภาพมากขึ้นอยู่ดี
ส่วนเรื่องมุมมองการเขียน ที่เปลี่ยนไป อาจจะเป็นการพัฒนาพล็อตแต่ละช่วงดีมากขึ้น เราเขียนตอนยาวมากๆ หาพล็อตย่อยๆที่ทำให้คนอ่านไม่เบื่อจึงสำคัญมาก ยิ่งบรรยาสนุกขึ้นด้วยแล้ว นักอ่านก็เพลิน ไม่บนที่ตอนยาว เพราะมันอ่านได้เรื่อยๆ
เราว่ายิ่งเขียนยิ่งพัฒนานะ จริงๆทักษะการเขียนไม่ต่างจากทักษะด้านอื่นทีี่ต้องฝึกบ่อยๆ
ขอบคุณครับ
ตื่นเต้นสนุกเขียนแล้วรู้สึกสนุกเหมือนตอนอ่าน ตอนนี้เฉยมากอยากกลับไปรู้สึกเหมือนตอนแรกๆ
ครับผม
เริ่มแรกไม่คาดหวัง แต่งด้วยแพชชันล้วนๆไม่สนอะไร
ตอนนี้คาดหวังขึ้นมา สุดท้ายผิดหวังเรื่อยๆ อยากกลับไปเป็นแบบตอนนั้นเหมือนกัน หรือไม่ต้องเริ่มเลยก็ดี
ความผิดหวัง เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเรา และชีวิตเหมือนหนังเรื่องยาว สู้ๆนะครับ
ความสดใหม่ของไอเดียหายไป
แทนที่ด้วยเหตุและผล ตรรกะ ซึ่งหลายครั้งก็จำกัดกรอบโดยไม่รู้ตัว
ครับผม
ครั้งแรก ตามใจตัวเอง กระแสไม่สน จินตนาการพาไปไหน ไปถึงนั้น พิมพ์ได้ทั้งวันโดยไม่มีโครงพล็อตใด ๆ เลย
ตอนนี้ ผ่านโลกมากขึ้น เริ่มทำอะไรหวังผลมากขึ้น มีการวางแผน มีการศึกษาตลาด ข้อสังเกตต่าง ๆ มากมาย จากหลาย ๆ สื่อ รู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี
การเขียนนิยายปัจจุบัน แม้จะเครียดกว่าครั้งแรก ดูเป็นงานมากกว่ากิจกรรมที่ทำเอาสนุก แต่ผลตอบรับดีกว่าเห็น ๆ แถมเพราะวางแผนเป็น ทำให้สามารถเขียนนิยายได้หลากหลายแนวมากขึ้น
ขอบคุณครับ
เริ่มแรกจินตนาการโลดแล่นมากค่ะ แม้เรื่องจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลหรือบางทีหาจุดเชื่อมโยงไม่ได้แต่ก็เขียนสนุกมากค่ะ แต่ตอนหลังด้วยวุฒิภาวะที่เพิ่มขึ้นผนวกกับการที่มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบมากกว่าเดิมเลยทำให้การเขียนติดขัดค่ะ เรื่องเวลาว่างน้อยก็ส่วนหนึ่ง แต่ปัญหาหลักคือการที่เราเอาเหตุผลไปจับจนความสร้างสรรค์ถูกจำกัด แต่สิ่งที่พัฒนาอย่างได้ชัดคือการใช้คำ การเรียบเรียง และความลื่นไหลและสมเหตุสมผลค่ะ
ขอบคุณครับ
เรื่องแรกมีปัญหาเปิดเรื่องกับความต่อเนื่อง
สำนวนและคำศัพท์ที่เลือกใช้คิดว่าดี ความจริงยังดีไม่พอ ยิ่งกลับมาอ่านยิ่งเห็นข้อผิดพลาด ทว่าสิ่งเหล่านี้ก็เหมือนการบดอัด การสร้างถนนต้องให้ฐานแน่นไม่งั้นใช้ไป ถนนยุบเป็นหลุมบ่อ
ไม่กล้าอวดตัวว่าเขียนดีขึ้น สำนวนลื่นไหลขึ้น เนื้อเรื่องสนุกขึ้น
รู้อย่างเดียวว่าไม่ห่วยเหมือนตอนแรกแล้วล่ะ
ขอบคุณครับ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?