Spam ตัวร้าย!!!..ตัวการใหม่ ทำให้โลกร้อน

 

 

        โอย ทำไมอากาศมันช่องร้อนอย่างนี้นะ ...น้องๆ รู้สึกแบบพี่ปอหรือเปล่าครับว่า ช่วงนี้อากาศช่างร้อนเหลือเกิน แต่จริงๆ มันก็ไม่แปลกหรอกเนอะ เพราะช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่หน้าร้อนแล้วนี่ เฮ้อ!!! อยากให้มีสงกรานต์ตลอดทั้งเดือนเมษาเลย จะได้เล่นน้ำกันแบบชุ่มกายสบายจิต ฮ่าๆ แต่คงจะป่วยกันซะก่อน

        หากลองมองกันดีๆแล้ว พี่ปอว่า นับวันอากาศยิ่งร้อนขึ้นทุกวันนะ ถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันนี้ในปีก่อน สาเหตุนั้น ไม่บอกก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว เพราะมันคือเหตุผลเดิมๆ เกิดจากโลกร้อน ที่พี่ปอพยายามรณรงค์อยู่บ่อยๆนั่นเอง ซึ่งสาเหตุของโลกร้อนที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว ได้แก่ สาร CFC ที่เรามักใช้กัน , ไม่ประหยัดไฟ, ตัดไม้ทำลายป่า เป็นต้น

        แต่ วันนี้พี่ปอขอบอกว่า พี่ปอค้นพบสาเหตุใหม่ที่ทำให้โลกร้อน ซึ่งมันค่อนข้างจะน่ากลัวทีเดียว...มันคือเจ้า Spam ทั้งหลายแหล่ ที่มักก่อกวน คอมพิวเตอร์ของเราอยู่เสมอ!!!

        ผลการศึกษาวิจัยล่าสุดระบุว่า ในแต่ละปีจะมีการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าอันเนื่องจาก "สแปม" มากถึง 33 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง หรือเทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าตามบ้านมากกว่า 2.4 ล้านครัวเรือน โดยปริมาณของพลังงานไฟฟ้าดังกล่าวถูกใช้ในการส่งอีเมล์สแปมไปทั่วโลกประมาณ 6.2 ล้านล้านฉบับนั่นเอง

 

          ทำไม Spam ถึงทำให้เกิดโลกร้อนได้ขนาดนี้???

          และผลจากการวัดปริมาณคาร์บอนไดอ็อก ไซด์(หนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้โลกร้อน)อันเนื่องจากกิจกรรมการใช้ชีวิต ประจำวันของมนุษย์ หรือที่เรียกว่า Carbon Footprint ซึ่งมีสาเหตุจากการส่งสแปมหลายล้านฉบับดังกล่าวนั้น...

          ปรากฎว่า มันทำให้เกิดการปล่อยก๊าซ CO2 ออกมาบนโลกมากกว่า 17 ล้านตันเลยทีเดียว โดยพลังงานไฟฟ้าที่สูญเสียไปกับการค้นหาอีเมล์ต้องการอ่านและลบสแปมคิดเป็น 80% ของพลังงานทั้งหมดที่ต้องเสียไป ทั้งนี้เป็นผลจากการเปิดเผยในรายงานวิจัยที่จัดทำโดย ICF International บริษัทที่ปรึกษาทางด้านลักษณะภูมิอากาศ ร่วมกับ McAfee บริษัทผู้พัฒนาโปรแกรมแอนตีไวรัส 

 

 

         ในรายงานผลวิจัยระบุว่า ผู้ใช้ในกลุ่มธุรกิจองค์กรจะผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ 131 กิโลกรัมต่อปี โดยในจำนวนนี้ 22% มาจากสแปม ทาง ICF กล่าวว่า การกรองอีเมล์สามารถลดสแปมที่ผู้ใช้ไม่ต้องการได้มากถึง 75% ซึ่งเทียบเท่ากับการเอารถที่กำลังผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากท้องถนน 2.3 ล้านคัน

         อย่างไรก็ตาม ในขณะที่การกรองสแปมจะช่วยลดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าได้ แต่การกำจัดต้นตอ(สแปม)น่าจะให้ผลระยะยาวที่ดีกว่า ในรายงานได้ยกตัวอย่างกรณีบริษัท McColo ที่ให้บริการเว็บโฮสติ้งในสหรัฐฯ แหล่งใหญ่ในการแพร่สแปที่ภายหลังมันถูกตัดขาดจากอินเทอร์เน็ตโดย ISP 2 ราย ปรากฎว่า ปริมาณสแปมที่ส่งแพร่กระจายทั่วโลกได้ลดลงไปมากถึง 70% เลยทีเดียว ทางด้าน McAfee กล่าวว่า "หากในวันที่ไม่มีสแปม เทียบได้กับเอารถยนต์ออกไปจากท้องถนน 2.2 ล้านคัน ดังนั้นการกำจัดสแปมควรเป็นหนึ่งในแคมเปญจ์ลดปริมาณกาซคาร์บอนตัวการทำโลก ร้อนด้วย"

 

          นอกจากนี้ รายงานอีกชิ้นหนึ่งจาก Symantec บริษัทผู้เชี่ยวชาญระบบรักษาความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตเปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา Spam มีการเติบโตสูงถึง 192% โดยเครือข่ายบอต(โปรแกรมหุ่นยนต์ที่กระจายอยู่ในคอมพิวเตอร์บนอินเทอร์เน็ต) เป็นตัวการส่งสแปมกว่า 90% เลยทีเดียว

          รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมเอาใจใส่ สอดส่องดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราให้รอดพ้นจาก Spam ทั้งหลายนะครับ โดยมีทางป้องกันง่ายๆคือ หมั่น สแกนไวรัสในเครื่องคอมและอัพเดทโปรแกรม antivirus ที่ใช้ ให้ใหม่อยู่เสมอ และถ้าจะให้ดีควรอัพเดทข่าวคราวเกี่ยวกับไวรัส สแปม เพื่อให้เราพร้อมสู้รบกับ Spam และไวรัสอันชั่วร้ายทั้งหลาย ตลอดเวลาเลย

          สำหรับวันนี้พี่ปอก็ขอตัวไปสู้รบกับเจ้า Spam ก่อนนะคร้าบ เพราะท่าทางมันกำลังจะมาบุกหนักเลยล่ะ ฮ่าๆ

 

         พี่ปอขอขอบคุณข้อมูล จาก www.arip.co.th

พี่ปอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

27 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
pOnd*TW Member 17 เม.ย. 52 15:17 น. 2

ดังนั้นเรามาช่วยกันปลูกต้นไม้หรือช่วยกันลดภาวะโลกร้อนกันเถอะจ้า

ครูเคยเล่าให้ฟังว่า  สหรัฐฯว่าประเทศเราว่า 

ทำให้โลกร้อนมากที่สุด
เพราะอะไรรู้มั้ย ?

เพราะเราปลูกข้าว  - -*

ฮากันหมดเลย  ทั้งๆที่ประเทศอื่นทำมากกว่าเราซะอีกเนอะ

0
กำลังโหลด
LVxScol2e Member 17 เม.ย. 52 16:32 น. 3
ทุบหัวพวกทำไวรัสเรยย
เหอๆ


แก้ไขด้วยการทุบคอมทิ้งให้โหมด เอารถไปทิ้ง

ใช้เกวียน

ใช้ตะเกียง
ทำไร่ไถนาปลูกข้าว

ถึงแม้การทำนาจะเป็นส่วนที่ทำให้โลกร้อน

แต่ "คนสมัยก่อนเขาก็ทำกันมานานแล้วนิ"


เหอๆ

ค.ห.ส่วนตัวนะคะ อย่าว่าอย่าด่า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
๑เด็กมีปัญหา$ Member 17 เม.ย. 52 19:01 น. 6

แสปมนี่ร้ายกาจจริงๆเลยนะคะ!!

เฮ้อไม่รู้ว่าจะหยุดได้หรือเปล่า TT^TT

ภาวะโลกร้อน เพราะคนส่วนมากมักจะอยู่กับกิจวัตรเดิมๆ(เช่นเรา)

แล้วโลกมันพัฒนามามากพอสมควรแล้วด้วย ถ้าให้กลับไปใช้ชีวิตย้อนยุคเกรงว่าอาจจะปรับตัวไม่ทันแล้วคนเราสบายกับเทคโนโลยีด้วยไงคะ

เหมือนเรา ติดคอมอ่ะ TT^TT ติดเว็บเด็กดี >[]<

เดี๋ยวดีไม่ได้อาจจะได้ย้ายไปอยู่ดาวอังคาร =_+  ไปปลูกต้นไม้บนดาวอังคาร
แต่ก็คงปลงซะเถอะ กว่าโลกจะปรับสภาพตัวเองได้เนี่ย ไม่รู้ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่นะคะ ตอนนี้ก็ช่วยกันอย่าทำให้โลกถูกทำร้ายมากกว่านี้ เพราะยิ่งมากก็ยิ่งแก้ยากด้วย แล้วโลกเรา น่าอยู่ที่สุด เราว่าโลกเรานี่น่าอยู่มากกว่าดาวอังคารอีก เหอะๆ =_=
 ตอนนี้ก็ช่วยๆกันรักษาโลกของเราดีกว่า ^^ เย้ๆ (ไม่ค่อยบ้า)

ทำไมมันดูนอกเรื่องมากไปแบบนี้เนี่ย เหอะๆ เอาเข้าไปแล้วเรา =[]= 
ความคิดเห็นส่วนตัวด้วยจ้า อย่าว่ากานนะคะ >[]<

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เชอะ 18 เม.ย. 52 11:53 น. 13
สแปม แกไม่มีอะไรดีเลย =[]=

ถ้าประเทศเราไม่ปลูกข้าว พวกประเทศอื่น ก็ห้ามปลูกเหมือนกัน

ไม่ว่าจะข้าวประเภทไหนก็ตาม

แล้วขนมปังที่พวกสหรัฐกินอยู่ ทำมาจากอะไรฟะ -*-

หรือต่อไปจะกินพลาสติกแปรรูป ก็ตามใจ
0
กำลังโหลด
เกลียดพวกมือคัน 18 เม.ย. 52 18:36 น. 14
เกลียดนัก พวกมือคัน ว่างนักหรือไง หรือบ้านจน ถึงได้คิดไวรัส คิด สแปม น่าจะจับตัดมือให้หมด มือเท้ามีดีๆไม่ชอบ ชอบหากินแบบผิดๆ สำนึกบ้างมั๊ย ว่า คนอื่นเค้าเดือดร้อน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
‘•’l3€€l2‘•’ Member 19 เม.ย. 52 14:36 น. 17

โห !

ขนาดสิ่งที่เป็นแค่คลื่นยังทำโรคร้อนแล้วจะเอาอะไรกับสิ่งของที่มีตัวตนและเห็นได้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
BelLBoO* 19 เม.ย. 52 23:04 น. 19
จิงๆแล้วไวรัสอ่ะ
เค้าสร้างขึ้นมาเพื่อบริษัทซอฟแวร์ได้ตังค์

แบบ จะมีคนลงวินโดว์หรืออะไรใหม่ประมาณเนี๊ย
เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกาน
พี่เราเล่ามาอีกที -*-


แต่สหรัฐไม่น่าพูดงั้นเล๊ยย
......
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด