เด็กกินอาหารขยะอาจทำให้สมองไม่พัฒนาได้

 

     เป็นที่รู้กันดีว่าอาหารประเภท "จั๊งค์ฟู้ด" หรือ อาหารขยะ เป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักบริโภคทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ โดยเฉพาะในปัจจุบันมีอาหารจั๊งค์ฟู้ดให้ผู้บริโภคเลือกมากมาย ทำให้อาหารประเภทนี้กลายมาเป็นอาหารยอดนิยมที่ใครๆ หลายๆ คนต่างก็ลงความเห็นว่า สะดวกและอร่อยถูกปาก ...

     แต่น้องๆ Dek-D รู้รึเปล่าคะว่า อาหารจั๊งค์ฟู้ดนั้นมีผลเสียต่อเด็กเล็กๆ มากเลยทีเดียวล่ะค่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีผลการวิจัยพบว่า เด็กที่กินมันฝรั่งทอด พิซซา และอาหารขยะอื่นๆ ก่อนอายุ 3 ขวบ แนวโน้มเมื่อโตขึ้นจะมีไอคิวต่ำกว่าที่ควรจะเป็น

     โดยผลวิจัยชิ้นนี้เป็นการศึกษาที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างโภชนาการของเด็กเล็กและพลังสมองเมื่อโตขึ้น โดยผลการวิจัยได้ระบุไว้ชัดเจนว่า เด็กที่กินอาหารขยะอาจมีระดับไอคิวต่ำกว่าเด็กที่กินอาหารที่อุดมด้วยผักผลไม้และเด็กที่กินอาหารปรุงเองตามบ้าน ถึง 5 จุด และที่สำคัญถึงแม้ว่าจะมีการปรับปรุงดูแลด้านโภชนาการในภายหลังแต่ก็อาจสายเกินแก้และทำให้เกิดผลเสียยืนยาวไปตลอดชีวิต

        คณะนักวิจัยระบุว่า โภชนาการที่ดีในช่วง 3 ขวบปีแรกมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงที่สมองเติบโตเร็วที่สุด ขณะที่โภชนาการในช่วงอายุ 4 หรือ 7 ปีไม่มีผลต่อระดับไอคิวของเด็กมากขนาดนั้น สำหรับเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ขวบ หากกินอาหารที่เต็มไปด้วย ไขมัน น้ำตาลและอาหารแปรรูป จะได้รับวิตามินต่างๆ และสารอาหารน้อยเกินไป ส่งผลให้สมองไม่สามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่

       สำหรับการศึกษาในครั้งนี้ คณะผู้วิจัยได้ข้อสรุปมาจากการติดตามกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็ก ที่มีชื่อว่า เอวอน ลองจิตูดินัล สตัดดี ออฟ พาเรนท์ส แอนด์ ชิลเดรน ซึ่งเป็นการศึกษาและเฝ้าติดตามสุขภาพและสุขภาวะของเด็กๆ 14,000 คนที่เกิดในภาคตะวันตกของอังกฤษในช่วงต้นทศวรรษ 1990 

     คณะผู้วิจัยได้ให้พ่อแม่เด็กเหล่านี้จะทำแบบสอบถามเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มที่ลูกกินในช่วงอายุ 3, 4, 7 และ 8 ขวบ ซึ่งทำให้สามารถจำแนกอาหารที่เด็กเหล่านี้กินได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ อาหารแปรรูปที่มีไขมันและน้ำตาลสูง อาหารปกติที่ประกอบด้วยเนื้อสัตว์และผัก และอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น สลัด ผักผลไม้ ข้าว และพาสตา

     ดร. พอลลีน เอมเม็ตต์ และดร.เคต นอร์ธสโตน คณะผู้ทำการวิจัย ได้ให้ความรู้ในเรื่องเภชนาการที่มีผลต่อการพัฒนาของสมองว่า อาหารคุณค่าทางโภชนาการต่ำสามารถส่งผลต่อพัฒนาการของสมอง โดยเป็นผลซึ่งอาจยืนยาวตลอดชีวิต และถึงแม้มีการปรับเปลี่ยนมากินอาหารที่เป็นประโยชน์มากขึ้นในภายหลังก็จะไม่สามารถทำให้สมองพัฒนาได้มากไปกว่าเดิม

     และจากการศึกษาได้มีการวัดระดับไอคิวเมื่อเด็กอายุ 8 ขวบ ปรากฏว่า เด็ก 20% ที่กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการต่ำสุดเมื่ออายุ 3 ขวบ มีไอคิวเฉลี่ยต่ำกว่าเด็กที่กินอาหารที่มีประโยชน์มากที่สุด 5 จุด (101 ต่อ 106)

     ซึ่งจากผลการศึกษาที่ได้มานั้น แม้ระดับความแตกต่างไม่มากมายนัก แต่ก็มากพอที่จะทำให้เด็กที่มีไอคิวต่ำกว่าสามารถเรียนรู้และจัดการกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้น้อยกว่า 

     ได้อ่านผลการวิจัยชิ้นนี้แล้ว พี่เหมี่ยวคิดว่าบางครั้งเราอาจจะต้องมีการรณรงค์กันอย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องของโภชนาการและผลเสียที่เด็กๆ อาจจะได้รับจากการบริโภคอาหารจั๊งค์ฟู้ด เพราะถ้าปล่อยให้กระแสการบริโภคอาหารประเภทนี้เป็นไปตามกลไกการตลาดมากเกินไป คงจะไม่เป็นผลดีกับเด็กๆ แน่ๆ เลยล่ะค่ะ 

 

 

 

ข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ : http://www.dailymail.co.uk

พี่เหมี่ยว
พี่เหมี่ยว - Columnist คอลัมนิสต์ประจำคอลัมน์ผู้หญิง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

JaMiE Member 16 มี.ค. 54 15:53 น. 1
มันสะดวกนะคะ เวลาที่เรากำลังเร่งรีบ

แต่นึกถึงโทษของมันแล้วไม่อยากกินขึ้นมาเลยแฮะ

ปล. อาหารในถังขยะ... ไม่ท้องเสียเหรอคะนั่น = = "


แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 16 มีนาคม 2554 / 15:49
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด