ยุคน้ำแข็งครั้งล่าสุด ได้ทำให้ทะเลทรายซาฮาร่ากลายเป็นที่ที่แห้งแล้งอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ระหว่างยุคน้ำแข็งทั้งสองครั้งนั้น ผืนทรายอันกว้างใหญ่ก็เคยเป็นสถานที่ที่เขียวชอุ่มและชุ่มชื้นไปด้วยสายฝนเช่นกัน
ช่วงเวลาอันชุ่มฉ่ำนี้ยาวนานหลายพันปี และนานพอที่จะทำให้เหล่ามุนษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ย้ายออกจากหมู่บ้านที่แออัดริมแม่น้ำไนล์มาตั้งรกรากยังดินแดนแห่งนี้
ฝนเริ่มตกลงมาเมื่อไหร่กัน
ประมาณ 12000 ปีที่แล้ว สถานที่เดียวที่มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในทะเลทรายซาฮาร่าฝั่งตะวันออกก็คือที่ลุ่มริมแม่น้ำไนล์ และนั่นทำให้ชุมชนแห่งนี้เต็มไปด้วยความแออัด คับแคบ อันนำไปสู่ความยากในการควบคุม "คน" ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันไปทั่วดินแดนและสุดท้ายก็ต้องตัดสินกันด้วย "กำปั้น" จากบันทึกของ เจเบล ซาฮาบา (Jebel Sahaba) มีผู้คนมากมายที่ตายในการต่อสู้กันเอง
แต่ในช่วง 10,500 ปีที่แล้วเช่นกัน อยู่ๆก็มีมรสุมพัดผ่านพื้นทรายอันกว้างใหญ่ เปลี่ยนให้ที่ดินอันแห้งแล้งกลายเป็นชุ่มชื้นขึ้นมาในทันใด สิ่งนี้เปรียบเสมือนการเปิดประตูให้กับคนริมแม่น้ำไนล์ได้โยกย้ายไปอยู่ในบริเวณอื่น จากการวิจัย พบว่ามีทั้งคนและสัตว์รวมกว่า 500 ชีวิตกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ 150 ที่ทั่วทะเลทรายนี้
สเตฟาน โครเพลิน (Stefan Kroepelin) หนึ่งในทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยโคโลญจน์ ประเทศเยอรมันให้สัมภาษณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศซึ่งทำให้ทะเลทรายซาฮาร่ามีสภาพแวดล้อมแบบซาวานน่า เกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่ร้อยปี บางทีอาจจะน้อยกว่า 500 ปีด้วยซ้ำ (ไม่เห็นน้อยเลย - -")
ความเริงร่ากลางสายฝน
ทะเลทรายซาฮาร่าทางฝั่งอียิปต์มีความแห้งแล้งมาก ทำให้มีเฉพาะพวกหญ้าและต้นไม้พุ่มเตี้ยๆที่สามารถเจริญเติบโตได้ หรือหากจะมีต้นไม้ใหญ่ๆบ้าง ก็จะพบได้ตามหุบเขาหรือรอบๆแหล่งน้ำเท่านั้น การเกษตรมีอยู่น้อยมาก น้ำฝนอันน้อยนิดชักพาให้เหล่าสัตว์ทั้งหลายปรับตัวไปตามสภาพที่แห้งแล้ง เช่น ยีราฟ เป็นต้น
ในขณะที่พื้นที่ทางตอนใต้ ใกล้กับประเทศซูดาน การเกษตร ต้นไม้ใหญ่ๆรวมไปถึงทะเลสาบต่างๆ คงอยู่เป็นระยะเวลายาวนานมาก เคยมีแม้กระทั่งแม่น้ำสายใหญ่ๆเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เช่น วาดิโฮวาร์ อันเป็นแม่น้ำสายย่อยที่แยกจากไม่น้ำไนล์ไหลมาสู่ซาฮาร่า เป็นต้น
นอกจากนี้แล้ว สัตว์ป่ามากมาย รวมถึงพวก ช้าง แรด ฮิปโป จระเข้ และปลาอีกกว่า 30 สายพันธุ์ ซึ่งมีขนาดใหญ่มากสุดถึง 2 เมตร ก็สามารถพบได้ที่ซาฮาร่าแห่งนี้เช่นกัน
เส้นทางการเปลี่ยนแปลงของทะเลทรายซาฮาร่า
- 22000 ถึง 10500 ปีที่แล้ว : ทะเลทรายซาฮาร่ายังปราศจากซึ่งผู้คนนอกเหนือไปจากตรงบริเวณที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำไนล์ และมีพื้นที่ครอบคลุมไปทางใต้อีกกว่า 250 ไมล์เทียบกันพื้นที่ในปัจจุบัน
- 10500 ถึง 9000 ปีที่แล้ว : มรสุมพัดพาเอาฝนมายังทะเลทรายแห่งนี้ เปลี่ยนแปลงให้พื้นที่แห้งแล้งกลับกลายเป็นชุ่มชื้น และเป็นที่อยู่ของผู้คนที่อพยพมาจากชุมชนริมฝั่งแม่น้ำไนล์
- 9000 ถึง 7300 ปีที่แล้ว : ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง พืชพันธุ์เจริญงอกงาม สัตว์ต่างๆพากันอพยพย้ายถิ่นมาที่นี่ ซึ่งทำให้คนเข้ามาตั้งรกรากกันมากขึ้น และทำให้เริ่มมีการปศุสัตว์ เช่น การเลี้ยงแพะ แกะ ในบริเวณนี้ด้วย
- 7300 ถึง 5500 ปีที่แล้ว : การลดลงของปริมาณฝนนำไปสู่ของความแห้งแล้งทางฝั่งอียิปต์ ทำให้ผู้คนพากันอพยพไปยังที่ที่ยังคงชุ่มชื้นมากกว่า ซึ่งก็คือทะเลทรายทางฝั่งซูดาน ในที่สุดฝนก็หยุดตก และทะเลทรายที่แห้งแล้งก็กลับมาอีกครั้ง ผู้คนพากันอพยพกลับไปยังชุมชนริมฝั่งแม่น้ำไนล์ และนั่นก็เป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นของ "ฟาโรห์" ผู้ปกครองชุมชน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.livescience.com ค่ะ
11 ความคิดเห็น
เหอๆๆ สอบแล้วหัวฟู แต่ไม่ได้พึ่งปาฏิหาริย์นะค่ะ = ='' แต่ถ้ามีก็ดีจะได้ไม่ตก >/\< สาธุ
วันที่ 27 นี่ก้อจาสอบแร้วล่ะ
ไปอ่านหนังสือดีกั่ว
ใต้ดินถึงได้มีน้ำมันมากมายขนาดนั้นหน่ะ
ปล.สอบกลางภาค เดือนกันยานู่นๆ ยังไม่ฟู
O_o
เซ็งจังวันนี้
เสียดายจัง..เคยอุดมสมบูรณืขนาดนั้นแท้ - -ไม่น่าแห้ง(แล้ง)เลย
5555+++++++